เรือนไทย

สืบเนื่องมาจากรูปปลา oar ที่คล้ายๆพญานาค   ในกระทู้ นาคกะมังกร
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=89.msg63655;topicseen#msg63655
ชอบว่าคุณเพ็ญชมพู  ท่าทางจะรู้จักสัตว์หายากอย่างดี      เลยขอแยกมาตั้งกระทู้ใหม่  ตั้งใจจะรวบรวมสัตว์แปลกๆ ทั้งที่มีจริงและมนุษย์เราสร้างขึ้นมาหลอกชาวบ้าน ให้อ่านกันเล่น

ขอไปหารูปก่อนนะคะ

ประเดิมด้วยสัตว์ประหลาดที่สื่อตั้งชื่อว่า  Montauk Monster
เป็นตัวอะไรไม่รู้   มาตายเกยหาดที่อีสต์แฮมป์ตัน  เมื่อปลายเดือน กรกฎาคม ปี 2008  คือ 3 ปีมาแล้ว
http://nymag.com/daily/intel/2008/07/the_monster_of_montauk.html

รูปนี้ มีคนขยายภาพแมลงวันที่เกาะซากอยู่  เปรียบเทียบแล้วจะเห็นขนาดแท้จริงของสัตว์ประหลาด ว่าประมาณสุนัขเท่านั้น
ก็ยังไม่ได้ติดตามว่าเป็นตัวอะไรกันแน่   หรือว่าเป็นผลงานหลอกประชาชนของใครสักคนหรือเปล่า

ได้มาจากเวปนี้ครับ มันเป็นตัวอะไรครับ
http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=27304

http://www.sakon-nakhon.com/forum/index.php?topic=1097.0
เป็น จิ้งเหลนเรียวลาย  เหมือนงูเลยนะครับ

รูปภาพ สัตว์ประหลาด จากพิพิธภัณฑ์ของแปลก ญี่ปุ่น

รูปภาพ สัตว์ประหลาด จากพิพิธภัณฑ์ของแปลก ญี่ปุ่น  มีต่ออีกครับ

อ่านพบว่าชื่อ AXOLOTYL ค่ะ   เป็นตัวอะไรก็ไม่รู้   แต่มันน่ารักดี เหมือนตุ๊กตา

        ตัวนี้ก็น่ารักมากครับ Dumbo Octopus

       อาศัยอยู่ในน้ำลึก ๕๐๐ - ๕,๐๐๐ เมตรแถบขั้วโลก ได้ชื่อ dumbo จากลักษณะของครีบ
ที่เหมือนหูทั้งสองข้าง
 

หนูหูใหญ่ เรียกว่าตัว jerboa  อยู่ในตระกูลไหนไม่รู้    แต่หน้าตามันน่าจะอยู่ในหนังการ์ตูนของดิสนีย์

ตัวนี้น่าจะออกงานวัดของไทยสมัยก่อน   เต่าสองหัว

เต่าสองหัวนี่มันจะกัดกันเองหรือเปล่าครับ

ไม่ทราบคุณเทาชมพูเคยมีโอกาสไปเที่ยวปราสาทตาพรมที่เขมรบ้างหรือไม่

แผนที่ปราสาทหินเขมร  หมายเลข ๑๗ คือปราสาทตาพรม

ที่นั่นมีสัตว์ประหลาดอยู่ตัวหนึ่งรอให้ชาวเรือนไทยวิเคราะห์และถกเถียงกันว่า

มันคือตัวอะไรกันแน่

หมูป่า หรือ แรด หรือ ไดโนเสาร์ !


จุดที่สัตว์ประหลาดแฝงกายอยู่

 8)

เดินเข้ามาดูใกล้ ๆ

สัตว์ตัวนี้คล้าย Stegosaurus (บน) ผสมกับ Triceratops (ล่าง)

ไดโนเสาร์เคยมีชีวิตอยู่จนถึงสมัยสร้างปราสาทหินของขอม

จริงหรือ ?

เป็นหนูหรือจิงโจ้ ครับ

ปลหมึก หรือเปล่าครับ

ตัวอะไรก็ไม่รู้ เหมือนตะพาบไม่มีกระดองครับ

เรียกกันว่า ปลาหมึกดัมโบ้

โปรดนึกเปรียบเทียบกับช้างน้อยดัมโบ้ของวอลท์ ดิสนีย์

;)

http://dek-d.com/board/view.php?id=1733119

ชอบStegosaurus  ที่ปราสาทตาพรมมากค่ะ
ความเป็นไปได้
๑   เป็นภาพที่ซ่อมแซมใหม่ภายหลัง  ไม่นานมานี้     ช่างสลักไดโนเสาร์ตัวนี้ลงไป
๒   สัตว์ในจินตนาการ ที่บังเอิญมาคล้าย  Stegosaurus เพราะมีครีบหลัง 
ถ้าเอาครีบออก หน้าตามันไม่เหมือนตัวอะไรเลยที่รู้จักกัน

ไก่ดำ (black chicken or Silkie chicken) ขนขาว แต่หนัง เนื้อและกระดูก เป็นสีดำ

มีฝรั่งบอกว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผลประมาณครึ่งโหล

  ;D

The idea that the carving may have been added recently is simply not possible for at least a half-dozen reasons.

1. Patina is still obvious in the recesses.

2. The depth of relief on the carvings that cover every square inch of this column, is more than half an inch. Removing the imagined "original" carving would have left a recessed surface. Then, carving the stegosaur on the recessed surface would require still deeper recesses. The above photograph clearly demonstrates that the carving is not recessed. It is flush with the other carvings. Since the plates on the back of the stegosaur protrude from the recessed background at least half an inch, it would not be possible to add them to the background by subsequent carving. The plates are an integral part of the rock surrounded by a recessed, patina covered background.

3. There is approximately 40 feet of overburden that would have been displaced in order to replace the entire block.

4. The blocks are held together, not with mortar, but with iron "staples" in the shape of a capital "I" typically about 8 inches long, 1.5 inches wide and 3/8 of an inch thick. An inset in the shape of the staple was carved into the surface of two adjoining blocks, across the abutment, one end in one block and the other end in the other. With the staple in the shaped recess, the next tier of blocks holds the staple in place. They are used horizontally and vertically.

5. It may sound presumptuous, but I am trained in petrology. I know rocks. If someone had altered this rock, years after the original carvings, I would see it immediately. It would also be obvious to other experts who have carefully examined this carving (documented below). I can tell you without the slightest doubt, this carving is not modern, it is contemporary with the other carvings of Ta Prohm.

6. It should also be mentioned that the mind-set in Cambodia is very different form ours. The people are still greatly intimidated by governmental authorities. The brutal execution millions for almost any excuse, is vivid in the memory of virtually all adults in this country. Some of the same government officials responsible for the slaughter of perhaps 1/4 of the population are still in power today in this communist dictatorship. Consider this in connection of the fact that dozens of federal police with AK 47's patrol the ruins day and night, daring anyone to deface or take "souvenirs." It is simply not credible to imagine pranksters, defacing and re-carving these "sacred" temples, which are still actively used today for Hindu and Buddhist idol worship.

จากเรื่อง Dinosaurs in ancient Cambodian temple
Amazing evidence that dinosaurs and humans coexisted.

http://www.bible.ca/tracks/tracks-cambodia.htm

ถ้าเอาครีบหลังออก มันก็คือ "แรด" ธรรมดาตัวหนึ่งนี่เอง

 ;)

นานๆมีโอกาสเถียงคุณเพ็ญชมพูสักที   รู้สึกเป็นเกียรติ ;D

เอารูปมาเทียบกันให้เห็นชัดๆ   ว่า สัตว์ประหลาดไม่ใช่แรด แม้จะเอาครีบหลังออกก็ตาม
๑   สัตว์ประหลาด หูใหญ่ ยาว  ปลายหูเป็นตุ่ม     แรดหูเล็ก แหลม
๒   สัตว์ประหลาด ไม่มีนอ   อันเป็นเอกลักษณ์ของแรด
๓   สัตว์ประหลาดหางใหญ่ยาว  แรดหางเล็กสั้น

ทีแรกนึกว่าตัว lama  ที่ไหนได้ ชื่อ Alpaca
อาจจะเป็นญาติกันละมังคะ

มีนิทานเขมรโบราณซึ่งเกี่ยวกับแรดอยู่เรื่องหนึ่ง เรื่องกำเนิดของบึงทุมแลง

เนื้อเรื่องโดยย่อกล่าวว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีพระราชาพระองค์หนึ่ง วันหนึ่งพระองค์ประทับบนแรดซึ่งเป็นพระราชพาหนะ ไปกับคนเลี้ยงแรดชื่อนายทุม เมื่อพระองค์เสด็จไปหาความสำราญกับนางมุขราห์ จึงลงจากหลังแรดและให้นายทุมนำแรดไปผูกใต้ต้นมะสังต้นหนึ่ง แรดเกิดขัดใจขึ้นมาอะไรสักอย่างจึงกระโดดหนีจนเชือกขาด นายทุมวิ่งตามไปทันคว้าหางแรดไว้ได้แต่แรดไม่ยอมหยุด พระราชาทรงบอกนายทุมให้ปล่อยแรดไป และพระองค์ทรงโกรธมาก ได้สาปแช่งแรดว่า ต้องกินแต่หนามเป็นอาหาร และกินแต่น้ำขุ่น ๆ สถานที่ที่นายทุมคว้าหางแรดและยืนกางขาเอาเท้ายันพื้นไว้ จึงกลายเป็นบึงขนาดใหญ่ เรียกว่า บึงทุมแลง

มีผู้วิจารณ์สัตว์ประหลาดภาพนี้ว่าเป็นการตีความจากนิทานเรื่องนี้ ที่แรดโดนสาปให้กินหนามเป็นอาหารจึงมีหนามงอกออกมาที่หลังเป็นครีบ

ที่เคยบอกว่า ภาพนี้เป็น "แรดธรรมดา" ตัวหนึ่ง เห็นทีต้องเปลี่ยนเป็น "แรดไม่ธรรมดา" ตัวหนึ่ง  ;)

ประติมากรรมหินทรายรูปแรด พบที่ปราสาทเขาพนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ จินตนาการของช่างสลักบางทีตกแต่งเสียจนเกินจริง

"ชาวพื้นเมืองต่อสู้กับแรด"

ภาพลายเส้นของ Henri Mouhot นักสำรวจชาวฝรั่งเศส ผู้เปิดเผยความยิ่งใหญ่ของนครวัดสู่ชาวโลก

ต่อไปนี้รับรองว่าเป็นสัตว์ประหลาดจริง ๆ

ฮิปปู - ปลาแมว - แกงกวิน

 ;D

 http://jackkydorson.igetweb.com/index.php?page=2&mo=3&art=284387



 


 

สัตว์ประหลาดในโลกทัศน์คนไทยสมัยรัชกาลที่ 4-5

คาดว่าทั้งสองตัวคงเป็นจิงโจ้หรือนกอีมู ส่วนตัวนี้ดูไม่ออก เป็นขนๆ ดำๆ จะว่าหมี แรด หรือสมเสร็จก็ไม่ทราบครับ

วัดไหนคะคุณกุรุฯ  อยากไปดูของจริง   
เกิดคำถามว่า จิงโจ้ กับนกอีมู เข้ามาในสยามด้วยเหตุอะไร   ตอนนั้นเรามีสวนสัตว์ดุสิตแล้วหรือ?
ตัวอยู่ในกรง เดาว่าเป็นหมี

ยังติดใจเพ็ญโนซอรัส @ ปราสาทตาพรม อยู่    อ่านจากที่ฝรั่งเขียนแล้วเกิดความคิดอะไรนิดหน่อย
ขอให้ทำงานเสร็จก่อนนะคะ   แล้วจะมาคุยกับคุณเพ็ญชมพูต่อ

Pennosaurus !

เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่่คุณเทานำชื่อมาตั้งเป็นชื่อ Dinosaur(?)@Taphrom

รอฟังความเห็นคุณเทาด้วยใจระทึก

 ;)

จิงใจ้น่ะใช่

แต่อีก ๒ ตัวน่าจะเป็นห่านคู่มากกว่า ต่างกันตรงขานิดเดียว

 ;D

นกอีมูของแท้

ดูจากรูปจิงโจ้   ชาวสยามกำลังชี้ชวนให้ดูสัตว์ประหลาด    ถ้านกคู่นั้นคือห่าน  ก็น่าถามว่าในสมัยรัชกาลที่ ๔ และ ๕  เรายังไม่รู้จักห่านกันงั้นหรือคะ   
เพราะถ้าห่านเป็นสัตว์ธรรมดา   ก็ไม่น่าจะได้รับเกียรติเข้าประกบคู่กับจิงโจ้     
นี่ยังไม่รวมว่า กลายมาเป็นโลโก้ของเสื้อยืดห่านคู่อีกด้วยนะ 

กลับมาที่ Pennosaurus   ตามคำเรียกร้อง
ใช้เวลาแกะภาษาโบราณคดีของฝรั่งอยู่นานพอควร    สรุปได้ว่าฝรั่งแกมีสมมุติฐานว่า  ถ้าใครมาลบภาพสลักของเก่าแล้วอุตริใส่ของใหม่ลงไป  จะต้องแซะของเก่าทิ้งไปก่อน เหลือร่องรอยการแซะให้เห็น   และถ้ายกเสาใหม่เข้ามาตั้งทั้งเสา  ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เพราะมันยึดกับปราสาทมาแต่แรก
ทีนี้  มีสมมุติฐานใหม่  ว่าภาพสลักและเสาหิน มีมาแต่เดิม     แต่ภาพสลักเดิมมีแต่ตัวแรดไม่ธรรมดา   ปราศจากครีบ  มีช่างเติมครีบเข้าไปบนที่ว่างหลังตัวแรดได้ไหม
ปราสาทนี้ ผ่านการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง    ล่วงมาจนตอนต้นศตวรรษที่ ๒๐  ก็เป็นเพียงท่อนหินปรักหักพังกระจัดกระจาย  ฝรั่งเข้ามายกให้เป็นรูปเป็นร่าง  ก่อนยูเนสโกเข้ามา     ในระหว่างการบูรณะครั้งใดครั้งหนึ่ง อาจจะมีการเพิ่มเติมดัดแปลง(จะด้วยความอุตริหรืออะไรก็ตามที)สลักครีบลงไป
นานเข้า มันก็กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะเนื้อหินไม่ได้ถูกแซะออก เพียงแต่เติมรอยสลักลงไปบนเนื้อเปล่า

คำถามต่อมาคือครีบนั้นเป็นส่วนประกอบของลาย  หรือส่วนประกอบของสัตว์
คำตอบคือเป็นส่วนประกอบของสันหลังตัวสัตว์     เพราะถ้าเป็นส่วนประกอบของลาย มันจะต้องยึดความโค้งของเส้นรอบวงเป็นหลัก     แต่นี่เห็นชัดว่าครีบเรียงไปตามสันหลังสัตว์   ลักษณะครีบก็ไม่เท่ากัน  และหน้าตาไม่เหมือนกันในแต่ละครีบ
จะว่าเป็นแผงขนบนสันหลังอย่างหมูป่าก็ไม่ใช่  ครีบแต่ละอัน แยกเป็นเอกเทศกัน   

เมื่อเอากล้องส่องขยายดู จะเห็นว่าเส้นฐานล่างของครีบ ไม่ได้สลักเชื่อมกับหลังสัตว์   แต่มีร่องระหว่างครีบและเส้นหลัง     เหมือนกับสลักกันคนละครั้ง  คือสลักตัวสัตว์ก่อน แล้วมาสลักครีบทีหลัง  เติมลงไปบนเสันสันหลัง
เลยตั้งคำถามว่า ครีบคือส่วนที่สลักภายหลัง  ได้ไหม? 
ทำให้แรดไม่ธรรมดา กลายเป็น pennosaurus ขึ้นมา  แต่จะทำเพื่ออะไร นอกเหนือจากเป็นสัตว์ในจินตนาการ   ข้อนี้ยังหาคำตอบไม่ได้ค่ะ

ปลาดุกยักษ์?   ที่ทะเลสาบใน Texas ค่ะ

ปลาพวกนี้เรียกรวม ๆ กันว่า ปลาแมว (catfish) ลักษณะสำคัญคือเป็นปลาหนัง (ไม่มีเกล็ด) และมีหนวดเหมือนแมว

ปลาบึกก็เป็น ปลาแมว เหมือนกัน เรียกกันว่า ปลาแมวยักษ์แห่งแม่น้ำโขง  Mekong giant catfish หนวดสั้นมาก ไม่สังเกตก็ไม่เห็น ถือเป็นปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โตเต็มที่เห็นทีจะใหญ่กว่า  Texas catfish ของคุณเทาชมพูเสียอีก

 8)

มีข้อมูลจากเว็บผู้จัดการว่าอินเดียเพิ่งสนใจมาช่วยบูรณะเมื่อ ๔ ปีมานี้เอง
     
กรุงเทพฯ- หลังจากประสบความสำเร็จในโครงการบูรณะองค์ปราสาทนครวัดในประเทศกัมพูชา สถาบันสำรวจทางโบราณคดีประเทศอินเดีย (ASI) ได้เตรียมดำเนินการที่จะทำการบูรณะปราสาทสำคัญอีกหลังหนึ่ง ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ ๑๒ ในเขตปราสาทเมืองพระนครและพระนครใหญ่ (นครวัด-นครธม) แห่งนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากเนื่องจากมีต้นไม้ใหญ่น้อยกว่า ๑๐๐ ต้นขึ้นปกคลุมไปทั่ว
     
ปราสาทตาพรม สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ เพื่ออุทิศถวายแด่พระมารดา และยังสร้างขึ้นเพื่อเป็นพระอารามหลวงในศาสนาพุทธ ปราสาทแห่งนี้มีความโดดเด่นตรงที่มีต้นไม้ขนาดยักษ์ หรือต้นสะปง ขึ้นปกคลุมทั่วปราสาท ไม่ว่าจะเป็นผนัง หลังคา หรือยอดปรางค์ของตัวปราสาทก็ตาม ทำให้โครงสร้างของปราสาทยังคงรูปร่างอยู่
     
กระบวนการในการศึกษาของสถาบัน ASI ในโครงการบูรณะที่ท้าทายนี้ ได้เปิดเผยขึ้นในวันจันทร์ (๑๗ ก.ค.๔๙) ที่ผ่านมา ในระหว่างการรับประทานอาหารกลางวันของการประชุม ที่จัดขึ้นโดยรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและวัฒนธรรม นางอำพิกา สุนี (Ambika Soni) ให้กับรัฐมนตรีท่องเที่ยวกัมพูชาลาย โปรฮาส (Lay Prohas)

รมว.กระทรวงท่องเที่ยวได้ย้ำถึงความจำเป็นในการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างทั้ง ๒ ประเทศ และยังได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาเป็นอีกประเทศปลายทางของการท่องเที่ยวของอินเดียด้วย รัฐมนตรีกัมพูชายังได้แสดงความปรารถนาที่จะดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนของอินเดียเข้ากัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยว
     
ทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียราว ๓,๐๐๐ คน เดินทางไปเที่ยวชมประเทศกัมพูชา ในขณะที่ชาวกัมพูชาประมาณ ๖๐๐ คน เดินทางไปเที่ยวยังประเทศอินเดีย
     
โครงการบูรณะปราสาทตาพรมนี้ มีหน่วยงานเฉพาะหลายหน่วยงานได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือสถาบัน ASI ในการปฏิบัติงานศึกษาการบูรณะเบื้องต้น
     
"งานบูรณะปราสาทตาพรม นับว่าเป็นงานที่ท้าทายอยู่มากเหมือนกัน เนื่องจากต้นไม้ขนาดใหญ่กว่า ๑๕๐ ต้นที่ขึ้นอยู่รอบบริเวณตัวปราสาทนี้ รวมทั้งต้นที่เติบโตครอบคลุมโครงสร้างปราสาทด้วย รากของต้นไม้ได้แทรกผ่านเข้าไปตามตัวปราสาท และผนัง หลังคาโค้ง และปรางค์ ทำให้การบูรณะจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและละเอียดรอบคอบอย่างมาก" กระทรวงการท่องเที่ยวระบุในเอกสารฉบับหนึ่ง.

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9490000092132

เพิ่งรู้นี่เองว่าปลาดุก อยู่ในตระกูลปลาแมว     ปลาบึกก็ตระกูลปลาแมวเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเพิ่มเติมเรื่องการบูรณะปราสาทตาพรม   นอกจากว่าเพ็ญโนซอรัสเพิ่งจะถูกเพิ่มครีบเข้าไปจากช่างอินเดีย

สัตว์ประหลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก   Nessie , Loch Ness Monster  ทำรายได้มหาศาลให้สกอตแลนด์  ถิ่นกำเนิด
แม้ว่าไม่มีตัวจริงก็ตาม

อ่านบันทึกของเนสซี่ได้ที่นี่ค่ะ
http://www.thefrasers.com/nessie/nessie.html
ถ้าอยากดูจากยูทูป  ก็ดูที่นี่
http://www.youtube.com/watch?v=aB_c2RwpbXU

ถ้าคุณเทาชมพูอ่านเพิ่มเติมในลิ้งก์ที่ให้ไว้ใน # ๒๒ จะพบว่ามีหนังสืออย่างน้อย ๒ เล่มเขียนโดย Claude Jacques นักอ่านจารึกโบราณชาวฝรั่งเศส ที่กล่าวถึงเพ็ญโนซอรัสที่ปราสาทตาพรมก่อนที่ช่างอินเดียจะเข้าไปบูรณะ

เล่มแรกคือ Angkor, Cities And Temples พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๐ (ค.ศ. ๑๙๙๗) ลงภาพเพ็ญโนซอรัสในหน้า ๒๑๓ ครึ่งหน้า พร้อมบรรยายว่า "an animal which bears a striking resemblance to a stegosaurus."

เล่มที่สองคือ Ancient Angkor พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๒ (ค.ศ. ๑๙๙๙) ลงภาพเล็ก ๆ ในส่วนล่างของหน้า ๑๔๓ และบรรยายในหน้า ๑๔๔ ว่า "Along the vertical strip of roundels in the angle between the south wall of the porch and the east wall of the main body of the gopura there is even a very convincing representation of a stegosaur."

เนสซี่เพื่อนรัก

     อากาศที่สก๊อตแลนด์เป็นอย่างไรบ้าง มีคนรบกวนบ้างไหม เราอยู่เสียมเรียบสบายดี

                                       คิดถึง

                                  เพ็ญโนซอรัส

ป.ล. ที่นี่ มีบางคนเขาว่าเธอไม่มีตัวจริงน่ะ

 ;D

Dear Penny Lad,
We're facing the same problem.Some weird scientists started rumor that I do not exist. So people stopped visiting the loch.  I'm thinking of moving  elsewhere. How about spending a vacation with you? Being together , we can make more money  than staying seperately.

Miss ya,
Nessie
P.S. Remember me in this photo?

แหะ  ไม่ได้อ่านในลิ้งค์ค่ะ
ถ้างั้นถอนคำพูดว่า พี่บังช่างสลักท่านใดท่านหนึ่งไปแถมเพ็ญโนซอรัสไว้คราวบูรณะ     แต่อาจจะเป็นช่างในศตวรรษก่อน
ยังไงก็ยืนยันว่า เพ็ญโนซอรัส@ตาพรม  มีตัวจริงอยู่เฉพาะในเรือนไทยเท่านั้น

เอา "สิงโจ้" มาฝากผู้แวะเยี่ยมกระทู้นี้   ตัวนี้เข้าชุดกับค.ห. 28

เนสซี่เพื่อนรัก

     อยากจะให้เพื่อนมาเยี่ยมใจจะขาด เอาน้องม้าน้ำ (water horse) มาด้วยนะ รายนั้นเขาเป็นดาราดัง เด็ก ๆ แถวนี้ชอบน้องม้าน้ำในหนังมาก จะเตรียมสระน้ำหน้านครวัดไว้รับรองเพื่อน
                                                                         คิดถึงเสมอ
                                                                           เพ็นนี     

Aye, Penny Lad.
cute, isn't he?

Dear frein Penny,
Later pic. of mine. I'm kinda lonely.
Miss ya,
Nessie

ใครอยากเห็นเพื่อน(และญาติ)ของเพ็ญโนซอรัส  เข้าไปดูในยูทูปได้ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=yolVq_41VFY&NR=1

จิงโจ้นั้นมาจากวัดโสมนัสครับ น่าจะเขียนในรัชกาลที่ 5

เห็นในกลอนไดอารีซึมทราบของรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับละครสัตว์ที่เข้ามาแสดงในไทย ตรงทุ่งพระเมรุครับ


วันเสาร์ เดือน ๑๒ แรม ๖ ค่ำ

เวลาค่ำวันนี้มีรับสั่ง                      ให้เล่นละคอนฝาหรั่งเหมือนดัง ว่า
ประทานมันพันเหลียนเปนราคา      มากนักหนาจะระนีก็ดีใจ
ให้เป่าร้องหาเจ้านายข้างฝ่ายหน้า      ทั้งข้าราช่การภู น้อยภูใหญ่
พระอํงเจ้าท้าวนางพวกข้างใน      ปลูกแต๊นใหญ่ทุ่งพระเมนเห นพี่ลึก
ดูใหญ่โตระโหถานเหมือนบ้านช่อง      ยังอีกสองหลังกระไร ใหญ่เท่าตึก
หลังน่าที่ไว้สัดดูอัดคึก             เดินเข้าไปใจทึกทึกนึกกลัว ตาย
หมู่ลิงเทาลิงดำทำโครกคราก      บ้างอ้าปากเหลือกตาน่าใจ หาย
ทั้งเสือดำเสือดาวต่างพราวพราย      ทั้งเสือลายตลับมีรวม สี่ตัว
กรํงถัดไปในนั้นเขาใส่หมี             โตเตมทีสูงเยี่ยมเทียมค่า หัว
เลกลงไปในนั้นอีกสองตัว            หลุดมาแล้วไม่ชั่วหนังหัวเปิง
ถัดเข้าไปในกรํงมีเสือสาม               ล้วนเสือโคร่งคำรามแหงนน่า เบิ่ง
ไม่ไว้ใจเข้าไปใกล้กลัวเสียเชิง      แล้วเดินเหลืงเหลียว น่ามาขวามือ
มีกรํงเสือฝาหรั่งตั้งอยู่ต้น             บางคนว่าสิงโตเขานับถือ
ผมเปนเชิงชอบกํนคำรํนฮือ             น่าดุดื้อดังจะโผนโจนจับคน
ถัดไปในคอกเขาขังม้า              เลกหนักเลกหนาน่าฉงํน
แลไปใจหมายว่าม้ากํน               เขาติดยํนไยไว้ให้คนดู
เหนไม่ดุเดินเข้าไปใกล้คอกขัง       ต้องยืนตั้งตามเขม้น อยู่เปนครู่
เหนมันก้มกินย่าน่าเอนดู              อ้วนเปนหมูไม่เคยเหนเลยเช่น นี้
อีกตัวหนึ่งเขาว่าลาดูน่าเคอะ      เหมซึมเซอะยืนอยู่ทำหู ลี่
ต่อออกไปไว้นางกิรินี                      ล่ามแหล่งมีสองตัวน่ากลัวจริง

มีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่อยากจะแนะนำอยู่ที่วัดโพธิ์นี่เอง

แน่ใจว่าคุณ Kurukula และคุณเทาชมพูต้องรู้จักแน่ ๆ

 ;)

จิงโจ้เอย   มาโล้สำเภา หมาไนไล่เห่า จิงโจ้ตกน้ำ หมาไนไล่ซ้ำ, จิงโจ้ดำหนี
ได้กล้วยสองหวี, ทำขวัญจิงโจ้
เคยไปดูของจริง    ดูเหมือนจะเคยเขียนบทความไว้แล้วด้วยค่ะ

ขออธิบายว่านี่คือจิงโจ้ พันธุ์ Macropus Pennosus  เดิมอยู่ในจินตนาการของช่างเขียนไทย   (ซึ่งคงไม่รู้ว่าตัวจิงโจ้ในเพลงกล่อมเด็ก  จริงๆหน้าตาเป็นยังไง)  ทำนองเดียวกับเพ็ญโนซอรัสในจินตนาการของช่างสลักเขมร
จิงโจ้พิเศษ มาโครพัส  เพ็ญโนซัส  หาได้ในเรือนไทยเช่นกัน

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายถึงรูปนี้ไว้ว่า

การที่เอาคำเด็กร้องเล่นมาเขียนเป็นรูปภาพที่วัดพระเชตุพน คงเป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นแน่ และเมื่อเขียนรูปภาพแล้วคงได้ทอดพระเนตร มิใช่รูปเขียนตามอำเภอใจช่าง ที่ช่างเขียนรูปจิงโจ้หน้าเป็นมนุษย์ ตีนเป็นนกนั้น ต้องมีอะไรเป็นหลักฐานว่ารูปร่างจิงโจ้ เป็นเช่นนั้น

ส.พลายน้อยเขียนเกี่ยวกับเรื่องจิงโจ้ไว้ในหนังสือ "ร้อยแปดเรื่องไทย" ว่า

ความจริงในสมัยโบราณ คงมี นกชนิดหนึ่งชื่อ จิงโจ้ เพราะมีกลอนว่า

"กะลุมพู จับกะล้อพ้อ จิงโจ้ จับจิงจ้อ แล้วส่งเสียง"

ช่างเขียนคงนึกรูปร่างจิงโจ้ไม่ออก แต่เมื่อมาโย้สำเภาก็ต้องมีมือแบบคนแต่ชื่อเป็นนกจิงโจ้ จึงทำตีนเป็นนก

จิงโจ้ในภาพนี้มาจากชื่อนกแน่หรือ

มีสัตว์ประหลาดอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า "อรหัน"

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ความหมายว่า

อรหัน [ออระ] น. ชื่อสัตว์ในนิยาย มี ๒ เท้า มีปีกคล้ายนก หัวคล้ายหัวคน; ผู้วิเศษ.

ลักษณะอรหันที่บรรยายไว้ในพจนานุกรมตรงกับภาพข้างบนเปี๊ยบเลย

ขอสรุปว่า

อรหันน่าจะมีอีกชื่อหนึ่งคือ จิงโจ้ ดังภาพที่แสดงไว้นั้นแล

 8)

แล้วทำไม ช่างเขียนถึงคิดว่า "จิงโจ้" น่าจะเป็นตัวเดียวกับ "อรหัน" ล่ะคะ
การโล้เรือสำเภา เป็นกิจกรรมประจำของอรหันงั้นหรือ      ความจริง เรือก็น่าจะเกี่ยวกับปลา  น้ำ สัตว์ทะเลอื่นๆ
ถ้าอรหันเป็นครึ่งคนครึ่งปลา  ช่างเลยจับมาโล้เรือก็พอเข้าเค้า
บทกล่อมเด็ก  บอกว่าจิงโจ้ตกน้ำแล้วยังดำน้ำหนีได้ด้วย    คนครึ่งนกในรูปไม่น่าจะดำน้ำ  น่าจะเหาะหนีมากกว่า

เอาเถอะ  ถือว่าคุยเรื่อยเปื่อย

คุณเอนก  นาวิกมูล  สรุปไว้ในหนังสือ  “แกะรอยเรื่องเก่า” ว่า

คำว่า “จิงโจ้”  มีอยู่ ๗ ความหมาย คือ

๑.  หมายถึง สัตว์ประหลาดที่มีหัวและร่างเป็นคน แต่มีปีกเป็นนก บางท่านเรียกว่า ตัวอรหัน มีพบตามภาพจิตรกรรมฝาผนังต่าง ๆ  เช่น  ภาพวาดที่วัดสุทัศนฯ  ภาพลายรดน้ำตามตู้พระธรรม  เป็นต้น

๒.  หมายถึง นกชนิดหนึ่งที่ร้องเสียง จี...โจะ  มีพบในภาคอีสาน  วรรณคดี  เรื่องอิเหนา  สมัยรัชกาลที่ ๑ ก็กล่าวถึงนกชนิดนี้

๓.  หมายถึง สัตว์สี่เท้าที่ฝรั่งเรียกว่า  แกงการู  (Kangaroo)

๔.  หมายถึง  แมงมุมน้ำชนิดหนึ่งที่วิ่งอยู่บนน้ำ  มีขายาว ๆ

๕.  หมายถึง  เครื่องห้อยเปลให้เด็กดูเล่น ทำด้วยไม้ไผ่จักเข้าใจว่าเลียนแบบมาจากตัวแมงมุมน้ำอีกที

๖.  หมายถึง  เครื่องป้องกันใบจักรเรือไม่ให้สวะเข้าไปปะและกันกระทบ  กับช่วยไม่ให้เพลาแกว่ง

๗.  หมายถึง  ทหารหญิงรักษาพระองค์สมัยรัชกาลที่  ๔  ได้แก่  โขลนที่แต่งตัวเป็นทหารในงานแห่โสกันต์ฝ่ายใน  หรือเจ้านายผู้หญิงที่แต่งชุดทหารตามเสด็จรัชกาลที่  ๔  เวลาบอกวันทยาวุธ  ทหารพวกนี้ร้องว่า จิงโจ้กัด ถ้าเรียบอาวุธ ก็ร้องว่าจิงโจ้นอน ถ้าแบกอาวุธ ก็ร้องว่า จิงโจ้หยุด   ทหารหญิงจิงโจ้แต่งกายคล้ายทหารสก็อต  สวมหมวก เสื้อแขนยาว นุ่งกระโปรง ถุงเท้าลาย และรองเท้าหนัง

ดูจากภาพแล้วทำใจลำบาก หากคิดว่าจิงโจ้ในภาพคือนกชนิดหนึ่งหรือแมงมุมน้ำ

 ;)

ถ้าช่างเขียนนึกถึงนกชนิดนี้ แล้วมาดัดแปลงเป็นจิงโจ้ครึ่งคนครึ่งนก  ก็พอเข้าเค้าค่ะ

อรหันที่วัดหน่อพุทธางกูร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

http://www.oknation.net/blog/phaen/2009/06/16/entry-1

รู้สึกจะชอบเล่นน้ำเสียด้วยนะ

 ;D

ขออนุญาต กลับไปที่สัตว์ประหลาด "ที่เขาว่ามี" ที่scot นิดหนึ่งได้ไหมครับ นานมากแล้วเคยอ่านเจอว่ามีทีมนักวิทยฯของญี่ปุ่นมา scan ในทะเลสาบนั้น แล้วพบ ลำตัว ขา และบาทา ของสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่รูปที่ผมเห็นนั้นถ่ายติดลำตัวแค่นิดเดียว ลำตัวดูลักษณะคล้ายว่าจะยาว ขาและบาทา คล้ายเป็ด หรือจิ้งจก เขาเอามาลงแค่รูปเดียว (ถ่ายติดแค่รูปเดียวมั้ง)จนกระทั่งเลิกกลับญี่ปุ่นไป มีใครอ่านเจอผลของทีมญี่ปุ่นนั้นมากกว่านี้ไหมครับผม
มานิต

คุณเพ็ญคงจะคุ้นเคยกับตัวอรหัน เป็นอย่างดี   จะเอาชื่ออีกสักชื่อไหมคะ?

ตัวที่คุณมานิตถามถึงคงจะเป็นภาพสัตว์ประหลาดตัวนี้
มีทีมงานมาค้นหาเนสซี่ที่ล็อคเนสกันมากมาย    ถ่ายรูปกันมาได้ก็แยะ  แต่ลงท้ายก็เงียบหายไป  ไม่มีอะไรยืนยันได้มากกว่านั้น    รูปถ่ายก็ยืนยันไม่ได้ค่ะ

รูปนี้เขาว่าเป็นครีบของเนสซี่  ถ่ายจากกล้องใต้น้ำ   แต่ภาพแบบนี้มันแต่งกันขึ้นมาได้

เอาอรหันมาโชว์อีกตัวอีกว่า

จิตรกรรมสมัยใหม่ -นกอรหัน ฝีมือ ช่วง มูลพินิจ

บินอยู่เหนือคงคา           ร่อนถลาท้าแดดฝน
ชีวิตไม่อับจน               สุขเหลือล้นถ้าพอเพียง

เพ็นนี

 :D

http://www.skn.ac.th/skl/project/animal/h9.htm
อรหัน ฝีมือประสงค์ ปัทมานุช

ภาพนี้เป็นซากของสัตว์ทะเลมหึมา  ที่เรียกกันว่า New Nessie   จนบัดนี้ก็ยังเถียงกันว่าเป็นตัวอะไรกันแน่
เรือหาปลาของญี่ปุ่นจับมันได้เมื่อปี 1977    กัปตันดันปล่อยซากทิ้งลงทะเลไปเพราะกลัวว่าเน่าแล้วจะทำให้ปลาที่จับได้เต็มเรือพลอยเน่าไปด้วย    แต่มีลูกเรือถ่ายรูปเอาไว้
จากนั้นก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ไปทั่วญี่ปุ่น   และเป็นข่าวไปทั่วโลก     ว่านี่แหละคือไดโนเสาร์ที่หลงเหลืออยู่ในน้ำลึก
อย่างไรก็ตาม  นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งก็ตัดบทว่าเป็นปลาฉลามชนิดหนึ่ง เรียกว่า basking shark   ส่วนนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นยังแคลงใจอยู่

เขาเรียกว่า Giant Isopod  ค่ะ    เป็นสัตว์ทะเลน้ำลึก

จินตนาการนี่มันสุดที่จะคาดได้จริงๆนะครับ ยิ่งถ้าอยู่ในที่ๆสภาวะแวดล้อมอำนวยด้วยไปได้ไกลมาก หลายท่านคงจะเคยไปนั่งที่ริมทะเลสาบที่scot อากาศเย็นๆ ฟ้าครึ้มๆ มองไปยังผืนน้ำที่เวิ้งว้าง เต็มไปด้วยหลืบเขาที่สลับซับซ้อน ไม่ทราบว่าลึกลงไปอีกเท่าไร จึงจะถึงพื้น มันก็น่าจะนึกไปได้ อาจมีอะไรในอดีตหลงเหลืออยู่ได้นะครับ ผมเห็นรูปถ่ายเจ้าตัวที่ว่าในทะเลสาบหลายรูปแต่ก็อย่างที่ท่านว่าแหละครับ รับทราบด้วยความกังขา ครับผม
มานิต

ขออนุญาตต่อกลอนไดเอรีซึมทราบเรื่องละครสัตว์ต่อจากคุณ  Kurukula ให้จบ

นำมาจากหนังสือ

http://library.tu.ac.th/rarebook/rt0124/01กลอนไดอารี่ซึมทราบกับตามเสด็จไทรโยค.pdf (http://library.tu.ac.th/rarebook/rt0124/01กลอนไดอารี่ซึมทราบกับตามเสด็จไทรโยค.pdf)

วันเสาร์ เดือน ๑๒ แรม ๖ ค่ำ

ต่อ

"ประทานมันพันเหลียนเปนราคา      มากนักหนาจะระนีก็ดีใจ"

ละครสัตว์คณะนี้เป็นของ Giuseppe Chiarini ชาวอิตาเลียน มาแสดงเมื่อ "อันปีนี้ชวดสำริดทิสก ไม่ปกปิดสักราชประกาดไข  พันสองร้อยห้าสิบแสดงไว้"

จ.ศ. ๑๒๕๐ = พ.ศ. ๒๔๓๑ = ค.ศ. ๑๘๘๘

สองปีก่อนหน้านั้น ละครสัตว์ของ Chiarini ไปเปิดการแสดงที่โตเกียว ญี่ปุ่น

โปสเตอร์โฆษณาใบนี้คงช่วยให้เราเห็นบรรยากาศของละครสัตว์คณะเดียวกันนี้ที่กรุงเทพฯได้

http://ccdl.libraries.claremont.edu/cdm4/item_viewer.php?CISOROOT=/cyw&CISOPTR=62

 :D

ในโปสเตอร์ไม่มีภาพของ

"ม้าแคระ"

"สัตว์ประหลาด" อันน่า "เอนดู" ของรัชกาลที่ห้า

"ถัดไปในคอกเขาขังม้า                เลกหนักเลกหนาน่าฉงํน
แลไปใจหมายว่าม้ากํน                 เขาติดยํนไยไว้ให้คนดู
เหนไม่ดุเดินเข้าไปใกล้คอกขัง         ต้องยืนตั้งตามเขม้นอยู่เปนครู่
เหนมันก้มกินย่าน่าเอนดู               อ้วนเปนหมูไม่เคยเหนเลยเช่นนี้"

พระองค์ทอดพระเนตรการแสดงของสัตว์อื่นก็ไม่พอพระทัยเท่า

"ม้าตัวเล็กดอกเอนดูมันรู้ครัน           วิ่งสังเวียนเหียนหันได้เรียบร้อย
อีกทั้งยืนสองเท้าก้าวจังหวะ            เอาไม้วางวิ่งปะทะก็กลับถอย
เดินหลังได้ดิบดีทีละน้อย               แล้ววิ่งร่อยเลยลับกลับเข้าเตน"

หน้าตาม้าแคระที่พระองค์ทอดพระเนตร คงเหมือนเจ้าตัวนี้

ม้าตัวเล็กดอกเอ็นดูมันรู้ครัน 

 ;)

อ่าน file PDF ลำบากเรื่องตัวสะกดนิดหน่อยค่ะ   
มีเครื่องหมายเป็นเม็ดกลมอยู่เหนือตัวอักษรบางตัว   จำชื่อไม่ได้แล้วว่าอะไร แต่ดูเหมือนจะแปลว่าน้ำค้าง
อยากถามคุณหลวงเล็ก เผื่อแวะเข้ามา   ว่าเขามีเอาไว้ทำอะไร  และออกเสียงเป็นอะไร   เพราะเท่าที่อ่านก็เหมือนจะไม่ได้ทำให้ออกเสียงเปลี่ยนไปจากไม่มีเครื่องหมาย

ม้าของคุณเพ็ญ หน้าตาเหมือนตุ๊กตาม้า   ตอนอ่าน นึกไปถึง Shetland pony  อย่างเดียวกันหรือเปล่าคะ

เข้ามาเยี่ยมครับ พาเจ้านี่มาด้วย

มองแทบไม่ออกว่า "ม้า" หรือ "หมา"

 ;D

ตอบคุณเทาชมพู

ม้าแคระ ไม่ใช่ Pony แต่คือ Miniature Horse

ผู้รู้อธิบายไว้ดังนี้

ม้าแคระหรือที่คนใจใช้ศัพท์เรียกมานานว่า Pony  แต่จริง ๆ แล้วเป็นการเข้าใจผิด เพราะคำว่าม้าแคระที่ตรง ๆ น่าจะใช้คำว่า Miniature Horse

ม้าโพนี่จริง ๆ แล้วมีส่วนสูงได้ถึง ๑๔๐ -๑๔๕ ซ.ม. หรือในระดับที่ผู้ชายมาตรฐานเอเชียขี่ได้สบาย ๆ และม้าที่เรียกว่าโพนี่นั้น เหมาะที่จะใช้สำหรับขี่เล่น หรือเลี้ยงไว้เพื่อความเพลิดเพลิน

การที่จะบอกว่าม้าแคระจริงหรือไม่ก็ต้องดูที่ส่วนสูง โดยเขาจะกำหนดให้มีความสูงไม่เกิน ๘๒ -๙๑ ซ.ม. คือหากจะว่าโดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดเล็กกว่าม้าไทยเสียอีก เพราะว่าม้าไทยตัวเมียโดยเฉลี่ยจะสูงประมาณ ๑๑๕ -๑๒๐ ซ.ม. และตัวผู้จะสูงประมาณ ๑๒๐ - ๑๓๐ ซ.ม.

http://www.thaipony.net/content-ม้าสายพันธุ์หลักของโลก-4-5559-1.html (http://www.thaipony.net/content-ม้าสายพันธุ์หลักของโลก-4-5559-1.html)

อ้าว  ไม่ใช่ shetland pony จริงด้วย

ไม่เคยได้ยินใครเรียก shetland pony ว่า shetland horse  ก็เลยเชื่อว่า pony ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า pony แต่แปลว่า horse ค่ะ

              ในคห. ๖๒

        คุณเพ็นโน ครับ คิดว่าเป็นงานเขียนด้วยแท่งถ่าน (Charcoal) หรือเกรยอง
ของท่านอังคาร แบบภาพนี้ ครับ

ขอบพระคุณคุณศิลา สำหรับคำชี้แนะอันมีค่า

ขออภัยในความผิด       หวังญาติมิตรคงสงสาร
ดูภาพไม่ชำนาญ          ท่านอังคารคงอภัย

ภาพผู้หญิงของท่านอังคารมาแนวเดียวกันตลอด

 ;D

ละครสัตว์ มีเสือบั้งก้าหล่า มาแสดงด้วย    ไปหารูปดู  มันคือเสือโคร่งหรือลายพาดกลอนนี่เอง    แต่ไม่รู้ว่าพันธุ์เดียวกัน หรือแตกต่างกันตรงไหน
ท่าทางดุอย่างนี้นี่เอง 

เสือบั้งก้าหล่าก็คือ http://th.wikipedia.org/wiki/เสือโคร่งเบงกอล (http://th.wikipedia.org/wiki/เสือโคร่งเบงกอล) นั่นเอง เป็นเสือโคร่งพันธุ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก http://th.wikipedia.org/wiki/เสือโคร่งไซบีเรีย (http://th.wikipedia.org/wiki/เสือโคร่งไซบีเรีย)

คุณเทาชมพูหาดูเสือพันธุ์นี้ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/สวนเสือศรีราชา (http://th.wikipedia.org/wiki/สวนเสือศรีราชา) เขาคุยว่ามีมากกว่า ๒๐๐ ตัว

อ่านเพิ่มเติม

http://www.verdantplanet.org/catsoftheworld/cat_tiger.php

"เขาเข้าไปให้มันทำเหมือนคราวก่อน    เคี่ยนร่ำไปไม่หยุดหย่อนเสือก็หาน
ขึ้นยืนเกาะกรงเผ่นเหนท่ยาน             กลัวละลานแล้วเขาให้ลอดบ่วงไฟ
เอากระดาดชุบกอฮอห่อบ่วงจุด          เสือลุกผลุดไปมาหาขัดไม่"

การแสดงของเสือโคร่งลอดบ่วงไฟที่สวนเสือศรีราชา

แม้ต่างสีต่างพันธุ์กันไปบ้าง            ไม่ราร้างสัมพันธ์ฉันสหาย
เสือกับหมูอยู่กันมั่นไม่่คลาย           ช่างน่าอายคนไยไม่รักกัน

ความสัมพันธ์ต่างสายพันธุ์ที่สวนเสือศรีราชา

http://www.youtube.com/watch?v=p5B4fH56IMs&feature=related

ชอบหมูลายเสือ   น่ารักน่าเอ็นดูทั้งเสือและหมู    เห็นเล่นกันอยู่สนุกสนาน ไม่มีท่าทีว่าเจ้าเสือจู่ๆก็อาจจะเคี้ยวหมูเล่นเป็นดินเนอร์
เคยได้ยินมาว่า สัตว์ป่าที่เกิดในสวนสัตว์  โตมากับคน เลี้ยงแบบสัตว์เลี้ยง ส่วนใหญ่จะสูญสิ้นสัญชาตญาณของสัตว์ป่า  ปล่อยเข้าป่าก็หากินเองไม่ได้แล้ว 

ลูกสาวไป workshop อยู่ที่ประเทศ Pretoria ในแอฟริกา   โทรมาเล่าให้แม่ฟังว่าเพิ่งไปซาฟารีมา   ช้างป่าที่นั่นมีชื่อทุกตัว เหมือนคน    ไกด์ตะโกนทัก ช้างก็ร้องทักตอบ   มีพี่เลี้ยงสองคนคอยเดินตามประคบประหงมหาอาหารให้กิน    ไปถ่ายรูป ลูกช้างยังโพสท่าให้ถ่ายเสียด้วย แสดงว่าคุ้นเคยกันดี   เก็บภาพหนักๆเข้าช้างชักทำท่ารำคาญคนถ่ายก็มี
ไกด์บอกว่าสัตว์ป่าในซาฟารีล่าเหยื่อเองไม่เป็น   ต้องมีคนให้อาหารค่ะ

กลับมาที่พระราชนิพนธ์   ถึงละครสัตว์

มีกรงเสือฝาหรั่งตั้งอยู่ต้น                บางคนว่าสิงโตเขานับถือ
ผมเป็นเซิงชอบกนคำรนฮือ              น่าดุดื้อดังจะโผนโจนจับคน

สิงโตที่คนไทยรู้จัก คงเป็นสิงโตจีน   ในพระอภัยมณี  สิงโตที่สินสมุทรไปจับมาเป็นพาหนะ  อ่านจากคำบรรยายก็รู้ว่าเป็นสิงโตจีน  ไม่ใช่สิงโตแอฟริกา     
สิงโตในละครสัตว์น่าจะเป็นของใหม่สำหรับชาวสยามในรัชกาลที่ ๕   

พูดถึงสิงโต  ไม่มีตัวไหนที่ทำให้จับใจเท่า Christian the Lion  คนรักสัตว์ดูคลิปวิดีโอนี้ ถ้าไม่ร้องไห้แสดงว่าใจแข็งมาก
http://www.youtube.com/watch?v=btuxO-C2IzE

ถ้าชอบคลิปวิดีโอ ข้างบนนี้   ต้องดูรายละเอียดในตอนนี้ด้วยค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=i5vRPKIS5UM&feature=related

ไปหาสัตว์ประหลาด  จะให้เป็นเพื่อนเพ็ญโนซอรัส   
เจอตัวนี้ ไม่รู้ว่าเป็นปลาดุกเผือกหรืออะไร    ตั้งชื่อเสียโก้ว่า Dragon's son found in Thailand
แต่เสียงที่พูดกันในวิดีโอ ไม่ใช่ภาษาไทย
http://www.youtube.com/watch?v=U63CeYDKyrQ&feature=related

ปลาฉลามพันธุ์หายาก ฟังไม่ทันว่าชื่ออะไร  พบในทะเลญี่ปุ่นค่ะ
ถ้าหากว่าย้ายไปไว้ที่ล็อคเนส  ก็คงจะกลายเป็นเนสซี่ไปได้ไม่ยาก
http://www.youtube.com/watch?v=koPu1PYVHDE&feature=related

เ่คยมีคนถามปัญหาว่า

อะไรเอ่ย โสติง โสติง  ตั้งอยู่ โหนดบ้า

บางคนว่าโสติงจีนหน้าตาออกทางหมาจู แ่ต่่จริง ๆ แล้วหมาจูนั้นแหละมาจากโสติง

มีเรื่องเล่ากันว่าสุนัขพันธุ์ปักกิ่งซึ่งแต่เดิมเลี้ยงแต่ในวังของจักรพรรดิจีนนั้น เดิมทีพระนางซูสีไทเฮาทรงมีบัญชาให้คัดพันธุ์สุนัขให้ออกมามีรูปร่างเหมือนสิงโต ซึ่งเป็นสัตว์ซึ่งชาวจีนถือว่าเป็นสัตว์ที่ให้โชคลาภ เป็นสิริมงคลแก่ผู้พบเห็น

พระราชวังแห่งปักกิ่งถูกฝรั่งบุกเข้ายึดครองเมื่อปี ค.ศ. ๑๘๖๐ ก่อนการสูญเสียมีคำสั่งว่าให้สุนัขตายไปเสียดีกว่าจะให้ตกอยู่ในมือของคนต่างชาติ แ่ต่ในที่สุดสุนัขปักกิ่งก็ตกอยู่ในมือฝรั่งต่างชาติจนได้ โดยควีนวิคตอเรียนับเป็นฝรั่งคนแรกที่ได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้

สิงโต - ราชสีห์ - lion แต่เดิมนั้น มีความหมายไม่เหมือนกันทีเดียว

 ;)


ศ. ดร. กาญจนา นาคสกุล  เล่าไว้ในนิตยสารสกุลไทย ฉบับที่ ๒๕๗๔ ปีที่  ๕๐ ประจำวัน  อังคาร ที่  ๑๗ กุมภาพันธ์  ๒๕๔๗  เกี่ยวกับราชสีห์ดังนี้

ราชสีห์   เป็นสัตว์หิมพานต์พวกหนึ่ง มี ๔ จำพวก

พวกที่ ๑ คือ เกสรสีหะ หรือไกรสรราชสีห์ คือราชสีห์ที่มีขนสร้อยคอ (น่าจะเป็น สิงโต) เป็นราชสีห์เผือก สีกายขาวดังสีสังข์ปากและปลายเท้าทั้ง ๔ เป็นสีแดงสดใส ขนสร้อยคอสีแดงดั่งผ้ารัตกัมพล ซึ่งมีคำเปรียบว่า “ดังท่านเอาน้ำครั่งละลายด้วยน้ำชาดหรคุณทา” ทั้งปากและท้องก็แดงเช่นนั้น ไกรสรราชสีห์ มีท่วงท่าที่งามสง่าน่าเกรงขาม มีพละกำลังมาก และสามารถเหาะเหินได้ ไกรสรราชสีห์มีเสียงคำรามที่ดังกึกก้องไปได้หลายโยชน์เป็นที่เกรงกลัวของบรรดาสัตว์ทั้งป่า เป็นสัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหาร

พวกที่ ๒ คือ ติณสีหะ ติณสิงหะ หรือ ติณราชสีห์ คือราชสีห์ที่กินหญ้า (น่าจะเป็นวัวกระทิง) มีสีกาย “หม่นมอ” ทศกัณฐ์มักจะใช้ติณราชสีห์เทียมรถศึกเมื่อออกรบ

พวกที่ ๓ คือ บัณฑุสีหะ บัณฑระสิงหะ หรือ บัณฑูรราชสีห์ คือ ราชสีห์สีเหลือง (น่าจะเป็น เสือ) กินเนื้อเป็นอาหาร

พวกที่ ๔ คือ กาลสีหะ กาละสีหะ หรือ กาลราชสีห์ คือ ราชสีห์สีดำ “เป็นมันหมึกมืด”  (น่าจะเป็น หมี) กินเนื้อเป็นอาหาร

สรุปว่า ราชสีห์ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์หิมพานต์ ไม่ได้หมายความถึง สัตว์ประเภท lion อย่างเดียว แต่หมายรวมถึงสัตว์ประเภทวัวกระทิง, เสือ และหมี ด้วย

คุณเพ็ญช่างคิด    เรื่องราชสีห์ประเภทต่างๆ   เข้าเค้าทีเดียว
เอารูปไกรสรราชสีห์กับติณราชสีห์ มาลงให้เห็นกันค่ะ

อ๋อ (Oar) เพื่อนรัก

     เราว่าคลิปข้างบนเป็นเด็ก ๆ พวกของนายนั่นเอง ระวังตัวไว้มาก ๆ หน่อยนะ หมู่นี้รู้สึกว่าพวกนายถูกจับขึ้นมาโชว์มากเหลือเกิน
                 
                                                                                ด้วยความเป็นห่วง
                                                                                    เ็ีพ็นโน

ป.ล. ข้างล่างนี้ หวังว่าคงไม่ใช่เป็นตัวนายเองหรอกนะ

http://www.youtube.com/watch?v=gUaL6hHluZ8

อ้าว  น้องอ๋อญาติห่างๆของเนสซี่นี่เอง 
เนสซี่ ญาติของเพ็ญโนฯ ไปโชว์ตัวที่ญี่ป่นด้วยนะคะ 

http://www.youtube.com/watch?v=c0TpDxLfjHc

ใครชอบดูสัตว์ประหลาด  คลิปนี้มีให้ดูจนอิ่ม
http://www.youtube.com/watch?v=qpZt8nKjEN8&NR=1

นึกหรือว่านางเงือกไม่มีจริง

http://www.youtube.com/watch?v=sHMUyYQue5Y&feature=related

น้องอ๋อกลายเป็นพญานาคได้ฉันใด

คุณพะยูนก็กลายเป็นนางเงือกได้ฉันนั้น

รับฝากมาค่ะ :)

ตลกร้ายของเหล่านางเงือก

ร้ายมากค่ะ  เพ็นโน  คิดก็สยองแล้ว

กลับมาเรื่องนางเงือก
บันทึกเรื่องนางเงือก ที่เรียกได้ว่าเป็นทางการ และจริงจังที่สุดในประวัติของมนุษย์และเงือก   ก็คือบันทึกของนักสำรวจชาวอังกฤษชื่อเฮนรี่ ฮัดสัน (๑๕๖๕-๑๖๑๑)  
คุณฮัดสันไม่ใช่นักเดินเรือธรรมดา   เขาเดินทางมาสำรวจอเมริกาเหนือ  สำรวจถึงสถานที่ที่เป็นที่ตั้งของนิวยอร์คตอนนี้   ชื่อแม่น้ำฮัดสันก็ดี อ่าวฮัดสันก็ดี  ล้วนแต่ตั้งตามชื่อเขาทั้งนั้น
ฮัดสันมีบันทึก  เมื่อก่อนเรียกว่าปูมเดินเรือ  บันทึกเหตุการณ์ประจำวันว่าเจออะไรบ้าง  ในวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๑๖๐๘  เมื่อเดินเรือไปทางเหนือของรัสเซีย ใกล้เกาะโนวายา เซมลยา (ขอโทษ  ไม่รู้ว่ารัสเซียออกเสียงอย่างไร  ใครรู้กรุณาแก้ให้ด้วย)เขาบันทึกไว้ว่า ลูกเรือสองคนมองเห็นสัตว์ประหลาดอย่างหนึ่งในทะเล  ก็เลยร้องเรียกกันมาให้ดู
สัตว์ตัวนั้น มีลักษณะแบบนี้
From the navel upward, her back and breasts were like a woman's... her body as big as one of us; her skin very white; and long hair hanging down behind, of color black; in her going down they saw her tail, which was like the tail of a porpoise,and speckled like a mackerel."

ต้องถามคุณเพ็นโนว่าเหมือนพะยูนหรือเปล่าคะ?

New York Times ลงเรื่องนี้ด้วยในสองศตวรรษต่อมา  ปี 1888

เท่้าที่คุณฮัดสันบรรยายมาเข้าเค้าพะยูนมาก ต่างกันที่พะยูนไม่มีผม :o

สิ่งที่่คุณฮัดสันและลูกน้องเห็นที่เกาะ Novaya Zemlya ตอนเหนือของรัสเซีย มีความเป็นไปได้อยู่ ๓ อย่างคือ

๑. สัตว์ปกติ  สัตว์ที่อยู่ในเกณฑ์พิจารณามีอยู่ ๒ ชนิดคือ พะยูน (dugong) และ manatee - ไม่มีชื่อไทยเพราะในไทยไม่มี

รุูปร่างของ dugong และ manatee มีส่วนสำคัญที่ต่างกันคือที่หาง คือ dugong หางเหมือนปลา แต่ manatee หางเป็นแผ่นเหมือนแมวน้ำ อีกทั้งแหล่งอยู่อาศัยก็ต่างกัน dugong อยู่แถว ๆ บ้านเราคือมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิคตอนใต้  ส่วน manatee อยู่แถว ๆ ทะเลคาริบเบียน  ลุ่มแม่น้ำอเมซอน และแอฟริกาตะวันตก

ในปี ๑๔๙๓ ขณะที่โคลัมบัสแล่นเรืออยู่แถว ๆ เกาะเฮติ  เขาบรรยายว่า้เห็นนางเงือกอยู่ ๓ ตัว "not as pretty as they are depicted, for somehow in the face they look like men.”

นางเงือกของโคลัมบัสคือ manatee เป็นแน่แท้

แต่นางเงือกของ ฮัดสัน แม้นจะเข้าเค้า dugong แต่มันไปทำอะไรแถวรัสเซีย ข้อนี้ยังฉงนอยู่

Hudson's mermaid ไม่น่าจะใช่ทั้ง dugong และ manatee



ข้างล่างเป็นภาพ manatee ทั้ง ๓ พันธุ์ และ dugong  Steller's sea cow ตัวใหญ่ล่างสุดสูญพันธุ์ไปแล้ว


 

๒. คนประหลาด คุณเทาชมพูคงยังจำได้เมื่อปีที่แล้วนี้เอง ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมีเด็กพม่าคนหนึ่งเกิดมามีขาติดกัน ลักษณะผิดปรกตินี้เรียกว่า Mermaid syndrome (Sirenomelia)

http://www.tddf.or.th/tddf/newsroom/detail.php?id=0006452

่เงือกที่คุณฮัดสันเห็นอาจจะผิดปรกติลักษณะนี้ก็ได้ สมัยนั้นความก้าวหน้าเรื่องการผ่าตัดคงยังไม่มีหรอกน่า แล้วสาวเจ้าก็เจริญเติบโตในลักษณะนั้น ไปทำอะไรแถว ๆ เรือตาฮัดสันก็ไม่รู้


ข้างล่างนี่เป็นเด็กเปรูอาการเดียวกัน

http://www.forangelsonly.org/article/health-and-beauty/six-year-old-real-mermaid-from-peru

รอข้อ ๓ ด้วยใจจดใจจ่อ
เตรียมชวนคุณเพ็นโนและผู้ที่แวะเข้ามา  ไปตามล่าหานางเงือกที่  Novaya Zemlya  กันค่ะ

๓. สัตว์ประหลาด เงือกเป็นสัตว์ในนิยายที่คนรู้จักกันทุกถิ่น เกือบค่อนโลก

ชื่ออันดับ (order) ของทั้ง dugong และ manatee คือ Sirenia  

siren ก็คือนางเงือกนี่แหละ บางตัวมีถึง ๒ หางอย่างใน logo ของร้านกาแฟชื่อดัง

http://www.deadprogrammer.com/starbucks-logo-mermaid

เป็นไปได้ไหมว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้มีอยู่จริง อาจเคยมีอยู่ในอดีต สูญพันธุ์ไปแล้ว หรือยังมีแต่หลบหน้าหลบตาผู้คนได้ดีจนไม่มีคนพบเห็นอีก หรือมีอยู่ในอีกมิติหนึ่งอย่างที่คุณแก้วเก้าอธิบายไว้ในเรื่องเรือนมยุรา หรืออยู่ในอีกมิติหนึ่งซึ่งเีรียกว่ามิติคู่ขนานอย่างในหนังฝรั่งหลายเรื่องพูดถึง

สิ่งที่เราไม่่เคยเห็น ไม่ใช่ว่าไม่มีจริง

 ;)

ก่อนอื่น ขอชวนคุณเพ็นโนและท่านที่เข้ามาอ่าน ไปเที่ยว Novaya Zemlya  กัน

ขึ้นชื่อว่าอยู่ทางเหนือของรัสเซีย  เราก็นึกภาพออกแล้วว่า ไม่ว่าจะเกาะไหน อ่าวไหน มันย่อมหนาวจัดทั้งนั้น
เพราะเขยิบขึ้นไปนิดเดียวก็ก้าวเข้าสู่อาร์คติค
ตอนที่คุณฮัดสันแกเดินเรือไปสำรวจ ตามที่บริษัทรัสเซียว่าจ้าง    แกต้องฝ่าภูเขาน้ำแข็งไปตลอดทาง   พาเรือหลบหลีกก้อนน้ำแข็งไปอย่างยากเย็น
 ทีนี้  คุณเพ็นโน บอกว่า
dugong อยู่แถว ๆ บ้านเราคือมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิคตอนใต้  ส่วน manatee อยู่แถว ๆ ทะเลคาริบเบียน  ลุ่มแม่น้ำอเมซอน และแอฟริกาตะวันตก
สรุปแล้ว แม่พะยูนกับแม่มะน่าตีนี่เธออยู่ในเขตร้อน    ทะเลที่เธอว่ายอยู่ก็ต้องอุ่นพอสมควร     เธอจะพลัดถิ่นขึ้นไปถึงทะเลน้ำแข็ง   จะดำผุดดำว่ายอยู่ไหวหรือ
เหมือนเราเองก็เถอะ ว่ายอยู่แถวๆอ่าวไทยจนชิน   จะไปว่ายอยู่ใกล้ๆขั้วโลก  ใครจะทำได้?

เอาแผนที่มาให้ดูค่ะว่าเกาะอยู่ไหน

ลอกบันทึกของคุณฮัดสันมาให้อ่านอีกที   เขาระบุชื่อพยานคือกลาสีเรือไว้ด้วย   บอกองศาของจุดที่เจอนางเงือกไว้ชัดเจน
ฮัดสันมองเห็นรูปพรรณสันฐานของนางเงือกว่า  หางเหมือนปลาโลมา และมีจุดเหมือนปลาแมคเคอเรล
เธอกำลังจ้องเป๋งมาที่เหล่ามนุษย์บนเรือที่เฮโลกันมาเกาะกราบเรือมองเธอเป็นตาเดียวกัน
แปลว่าเงือกก็ทึ่งที่เห็นคน พอๆกับคนทึ่งที่เห็นเงือก
สัตว์มันจะโผล่เหนือน้ำดูคนอยู่นานๆยังงี้หรือคะ?

June 15: Two crew members - Thomas Hilles and Robert Rayner - sighted a mermaid at 75  7' N, and shouted at the rest of the crew to come and look. Hudson recorded it in his log as having a "tail of a porpoise and speckled like a mackerel." She was "looking earnestly on the men" who gathered on the side to see her. The description Hudson wrote says she had very white skin, "speckled like a macrell" (mackerel), long black hair, white skin and a woman's breasts - with the tail of a porpoise. By the matter-of-fact record, it seems obvious Hudson believed in mermaids.  
รูปพรรณสันฐานของนางเงือก คือมีผิวขาวมาก  ผมยาวดำ  มีหน้าอกเหมือนผู้หญิง

วิเคราะห์จากบันทึกนี้  
๑  เงือกต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผิวทนทานต่อความเย็นจัดของน้ำ  ยิ่งดำลึกลงไปยิ่งเย็นขนาดไหนไม่ต้องบอก   ผิวกายที่ขาวมาก หมายถึงไม่ชินกับแสงแดด   คงจะอยู่ใต้น้ำตลอด
๒  ไม่เคยเห็นคนมาก่อน  จึงทึ่งที่ได้เห็น  แสดงว่ามีสมองที่มีการรับรู้แบบสัตว์ชั้นสูง
๓  ไม่กลัวคน  เพราะอยู่ใกล้จนกระทั่งคนเห็นรายละเอียดของร่างกายได้   แต่เมื่อใกล้มากเข้าเธอก็ดำน้ำหายไป  ฮัดสันจึงเห็นปลายหางว่าเป็นจุดเหมือนปลา
๔   การชูร่างกายขึ้นเหนือน้ำจนเห็นท่อนบนได้ถนัด แสดงว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ร่างกายตั้งตรงได้  ไม่ใช่ขนานไปกับเส้นระนาบอย่างปลาทั่วไป  
เมื่อดำน้ำ  แทนที่จะจมตัวลงไปเฉยๆ เธอดำแบบมนุษย์กบ  จึงเห็นปลายหางโผล่ขึ้นมาให้สังเกตได้ว่าเหมือนหางปลาโลมา  ไม่ใช่แบบแมวน้ำ

คำถามคือพะยูนหรือตัวมานาตี  อาศัยอยู่ในน้ำเย็นจัดใกล้ขั้วโลกได้หรือเปล่า  
ส่วนที่ว่าเป็นคน   ตัดปัญหาไปเลยว่าแม่เงือกน้อยเป็นสาวชาวเกาะที่เกิดมาพร้อมกับขาเมอร์เมดซินโดรม  ว่างๆก็มาว่ายน้ำเล่นให้ชาวเรือเห็น     เพราะหนาวขนาดนั้น เสื้อก็ไม่ใส่  น่าจะปอดบวมตายเสียที่ชายหาด

คิดว่าข้อ ๓ น่าจะเข้าท่าที่สุด    แม้แก้วเก้ายังนึกไม่ออกว่าจะใส่ไว้ในนิยายเรื่องอะไรดีก็ตาม
เรื่องของเอกภพคู่ขนาน เขียนไว้ใน "แดนดาว" เป็นนิยายวิทยาศาสตร์หนึ่งใน ๘๘ เล่มที่ควรอ่านด้วยนะคะ

ที่จริง อาจจะเป็นตัวนี้ และอยู่ในท่านี้เอง เมื่อโผล่ขึ้นเหนือคลื่น   หนังท่อนท้องของมันสีขาวอยู่แล้ว
ถ้าหากว่าพะยูนอาศัยในทะเลใกล้ขั้วโลกเหนือได้นะคะ

สงสัยตอนนี้พวกภูติแดงจาก "แดนดาว" คงข้ามมิติมาป่วนที่กรุงเทพฯปัจจุบัน
 
;)

โอ๊ะ  คุณเพ็นโนเคยอ่านด้วย   :o

อาจจะคว้าน้ำเหลวเรื่องนางเงือก แต่ไม่เสียเที่ยว  ขากลับเจอฝาแฝดของเนสซี่เข้าแล้ว  ชื่อ "แชมป์" อยู่ที่ Lake Champlain

http://www.youtube.com/watch?v=_dMi_xqnMas&feature=player_embedded#!

ส่วนตัวนี้ไม่รู้ว่าญาติสายไหนของเนสซี่

http://www.youtube.com/watch?v=GtFyv8vAhtY&feature=related

สำหรับคห.109 ภาพนี้เคยเห็น มีการวิจารณ์กันว่า มิใช่ภาพจริง เป็นการแต่งภาพ ครับผม ผมชอบคำว่า สิ่งที่มองไม่เห็น มิใช่ว่าไม่มี ผมเคยอวดเก่ง มีคนรู้จักยิงตัวตาย ตอนสวดศพวันแรก ผมก็ไปนั่งที่ตรงกับหัวศพ ตั้งจิตภาวนาขอให้เขาไปดี ปรากฏว่ามีอะไรไม่ทราบ(เป็นก้อนอากาศมั้ง) 2 ก้อนมากระแทกผมที่นั่งขัดสมาธิจนเซ ลูกชายถามว่าคุณพ่อเป็นอะไร  ผมก็เล่าให้ฟัง เลยต้องแผ่เมตตาก่อนแล้วจึงตั้งจิตภาวนาใหม่ ฮิ ฮิ
มานิต

เมื่อดูเจ้าแชมป์แห่งทะเลสาปเป็นครั้งแรก   จำได้ว่ารูปถ่ายท่าสัตว์ประหลาดเอี้ยวคอแบบนี้   น้องเนสซี่ของคุณเพ็นโนเคยโพสต์ท่าถ่ายมาก่อน    เขามาจับผิดกันทีหลังว่าภาพปลอม
แต่ใจยกประโยชน์ให้พยานค่ะ    ว่าอาจจะเป็นงูเหลือมอนาคอนดามาว่ายน้ำเล่น    ตั้งแต่ดูหนังอนาคอนดาที่เจนโลเล่น     ใจมักจะนึกไปถึงตัวนี้ร่ำไป  เวลาเห็นภาพสัตว์ประหลาด
อย่างไรก็ตาม  เรื่องราวก็เงียบหายไป    ถ้ามีจริง เจ้าแชมป์คงย้ายขึ้นฝั่งไปอยู่ที่อื่นแล้ว  คนไปกวนมันเหลือเกิน    อาจจะเดินทางไปถึงปราสาทตาพรมแล้วก็เป็นได้

คุณเทาชมพูพาไปทัวร์สัตว์ประหลาดถึงอังกฤษ (เนสซี่), อเมริกา (แชมปี้) ในบ้านเราเองแถวแม่น้ำโขงก็มีสัตว์ประเภทนี้อยู่ให้ฮือฮาอยู่บ่อย ๆ

ชาวบ้านแถวนั้นเชื่อนักเชื่อหนาว่าคือ "พญานาค"

http://www.youtube.com/watch?v=vd27qwVNAeQ&feature=related

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มุกดาหาร เดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้เอง

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000014286

แว่วว่ามีรอยเลื้อยของท่านพญานาค เป็นรอยเกล็ดครูดไปตามป่าด้วย นะ ครับ
มานิต

เรียนท่านมานิต

บนรถยนต์ก็ยังมี พร้อมของเซ่นไหว้ตามความเชื่อ   :D

เพ็นโน

นอกจากความลึกลับเรื่อง "รอยพญานาค" แล้ว สิ่งลึกลับอีกอย่างหนึ่งซึ่งปรากฏขึ้นทุกปีในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ คือ "บั้งไฟพญานาค"

ในภาพยนตร์เรื่อง "๑๕ ค่ำ เืดือน ๑๑" ของ จิระ มะลิกุล  แม้จะบรรยายเรื่องว่าบั้งไฟพญานาคเกิดจากฝีมือคนทำ แต่ตอนท้ายของเรื่องยังทิ้งให้คนดูคิดว่า แม้ไร้กลุ่มคนที่ทำเรื่องนี้ บั้งไฟพญานาคก็ยังเกิดขึ้นได้อีก

บั้งไฟพญานาค คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร

ทุกวันนี้ยังถกเถียงกันอยู่ มิรู้จบ

 ???

http://www.youtube.com/watch?v=-OETDOH-3kE

เรื่องพญานาค ไม่ขอออกความเห็น เพราะเป็นความเชื่อและศรัทธาของคน
ถามคุณเพ็ญว่า น้องอ๋อ(oar) เธอเป็นปลาทะเลหรือปลาน้ำจืด  หรืออยู่ได้ทั้ง ๒ แห่งคะ

ก่อนจะว่าถึงน้องอ๋อ

ขอนำภาพที่น้องอ๋อเป็นนางเอกในบทของพญานาคมาฉายซ้ำให้ญาติมิตรชมอีกสักครั้ง

คำบรรยายบอกว่า รูปนี้ถ่ายเมื่อ วันที่ ๒๗ มิ.ย. ๒๕๑๖ เมื่อทหารอเมริกันที่ตั้งฐานทัพอยู่ในประเทศลาว จับปลาชนิดหนึ่งได้ในแม่น้ำโขง ชาวลาวเรียกกันว่า "นางพยานาค"  วัดความยาวได้ ประมาณ ๗.๘๐ เมตร

เบื้องหลังภาพนี้มีความจริงว่า

น้องอ๋อเป็นชาวทะเลลึกโดยกำเนิด ปกติอยู่ในทะเลลึกถึง ๑,๐๐๐ เมตร ชื่อ อ๋อ มาจาก oar ซึ่งแปลว่า ใบพาย ตามลักษณะตัวของน้องเขา ซึ่งมีลำตัวแบนเหมือนใบพาย ตัวที่เคยจับได้มีความยาวสูงสุดถึง ๑๗ เมตร

เรื่องราวของน้องอ๋อ คุณวิกกี้ได้เล่าไว้โดยละเอียดแล้ว

http://en.wikipedia.org/wiki/Oarfish

 ;D

เอารูปน้องอ๋อแหวกว่ายใต้ผิวน้ำมาให้ดูกันค่ะ

ฉลามยักษ์ megalodon  เพื่อนร่วมรุ่นของเพ็นโนซอรัส และเนสซี่   ถ้ายังอยู่มาจนเดี๋ยวนี้( ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามันอาจจะยังเหลือเผ่าพันธุ์อยู่จริง ในทะเลลึกมากๆ)ก็จะเป็นเหมือนในคลิปวิดีโอนี้

http://www.youtube.com/watch?v=00AUOO7BgBU&feature=player_embedded#!

ตำนานของสแกนดิเนเวียน เล่าถึงสัตว์ประหลาดในทะเลลึก ชื่อ kraken  ซึ่งฉุดเรือทั้งลำลงไปใต้น้ำได้
จากคำบรรยาย ก็คือปลาหมึกยักษ์นั่นเอง

http://www.youtube.com/watch?v=V3hq82HOKhs

Kraken ดังแค่ไหนย่อมพิสูจน์ได้จากหนังเรื่องนี้   ได้ประกบบทบาทกับจอห์นนี่ เด็ปป์ ทีเดียว

http://www.youtube.com/watch?v=RTVWlMuQeZs&feature=related

คุณเทาชมพูคงรู้จักอาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชีวิตในทะเล และนักเขียน

อาจารย์ธรณ์เคยเขียนเรื่อง "MEGALODON" ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "เปรียว" ฉบับที่ ๕๓๔ ปักษ์แรกตุลาคม ๒๕๔๗ ก่อนเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ "สึนามิ" เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ เพียง ๒ เดือน

นอกจากเรื่องคลื่นยักษ์ในจินตนาการแล้ว อาจารย์ธรณ์ยังกล่าวถึง Megalodon ฉลามยักษ์ซึ่งเชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปกว่าหลายล้านปีแล้วนั้น จะมีอยู่จริงหรือไม่  

เรื่องนี้พิมพ์เป็นหนังสือชื่อ "MEGALODON เขี้ยวมหึ...สึนามิ" เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๘

เมื่อเหตุการณ์สึนามิเป็นจริงขึ้นมาแล้ว

ไฉนเลย MEGALODON จะปรากฏกายขึ้นมาให้โลกเห็นไม่ได้

Megalodon แปลตามตัวอักษรว่า เขี้ยวยักษ์ (Mega – ใหญ่ยักษ์,  Odon – เขี้ยว) หรือ เขี้ยวมหึ ตามที่อาจารย์ธรณ์เรียก

Carcharodon megalodon เป็นฉลามใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโลก เชื่อว่าอาศัยอยู่ในยุค Miocene และ Pliocene (๑๖ – ๑.๖ ล้านปีก่อน) หนังสือบางเล่มให้ข้อมูลว่า ฉลามชนิดนี้อยู่เรื่อยมาจนถึงเมื่อ ๑๒,๐๐๐ ปีก่อน ญาติสนิทของ Megalodon ที่หลงเหลือในปัจจุบันคือ “ฉลามขาว” (Great White Shark : อาศัยในน้ำเย็น ไม่พบในประเทศไทย)

ขนาดของฉลามยักษ์ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เมื่อค.ศ. ๑๙๐๙ American Museum of Nature History จัดทำปากจำลอง ก่อนคาดว่าฉลามอาจมีความยาวถึง ๔๕ เมตร นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่บอกในภายหลังว่า น่าจะเป็นขนาดที่ใหญ่เกินไป แต่ยังไม่มีใครสามารถระบุได้แน่ชัด ปัจจุบัน เราเชื่อว่า Megalodon ยาว ๒๐ - ๒๕ เมตร น้ำหนัก ๒๐ – ๔๕ ตัน ปากอ้าได้กว้างประมาณ ๓ เมตร

ฉลามชนิดนี้กินวาฬและสัตว์ใหญ่เป็นอาหาร อาศัยอยู่ทั่วโลก โดยมีการค้นพบซากฟอสซิลทั้งในยุโรป แอฟริกา อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย) นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า Megalodon สูญพันธุ์เพราะภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง วาฬย้ายถิ่นหาอาหาร จากทะเลเขตร้อนเข้าสู่เขตหนาวใกล้ขั้วโลก ทำให้ฉลามยักษ์ไม่มีอาหารกิน หลายคนไม่ยอมรับข้อสันนิษฐานดังกล่าว เพราะยังมีวาฬหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในเขตร้อน เช่น วาฬบรูด้า หรือแม้แต่ญาติของ Megalodon ปลาใหญ่สุดในโลกยุคปัจจุบัน - ฉลามวาฬ – บางคนเชื่อว่าคุณเขี้ยวยักษ์นี้ยังคงมีชีวิตอยู่ ณ ที่หนึ่งในโลกสีคราม เพียงแต่เรายังไม่ค้นพบพวกเขา เหมือนกับที่เราคิดว่าปลาซีลาคานธ์สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ ๕๐ ล้านปีก่อน หรือฉลามกอบลินสูญพันธุ์เมื่อ ๑๐๐ ล้านปีก่อน แต่ท้ายสุด...สัตว์เหล่านั้นยังดำรงอยู่ จนกลายเป็นที่มาของคำว่า Living Fossil

ข้อมูลจาก  MEGALODON : เมื่อนิยายกลับกลายเป็นจริง โดย ดร.ธรณ์  ธำรงนาวสวัสดิ์

http://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=cartoon103&board=9&id=14&c=1&order=lastpost

รู้จักดร.ธรณ์ ค่ะ    ขอลอกข้อเขียนของดร.ธรณ์ มาลงไว้ให้อ่านทั่วกัน
มันเหมือนจริงจนขนลุก

MEGALODON : เมื่อนิยายกลับกลายเป็นจริง ดร. ธรณ์

เมื่อประมาณหนึ่งปีเศษ ผมมีความคิดแหวกแนว หลังจากเขียนบทความและสารคดีมานาน เกิดอาการเบื่ออย่างบอกไม่ถูก ผมอยากจะมีผลงานแนวใหม่บ้าง โดยเฉพาะการเขียนนิยาย เพราะผมชอบอ่านหนังสือแนวนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อคิดได้เช่นนั้น ผมจึงตระเวนถามนิตยสารต่าง ๆ คุณคร้าบสนใจนิยายสไตล์ใหม่จากนักเขียนที่เกิดมาไม่เคยเขียนนิยายบ้างไหมครับ ผลลัพท์ที่ได้ดุจหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง ไม่สนค่ะ อาจารย์เขียนเรื่องท่องเที่ยวให้เราดีกว่า แต่โชคชะตาลอยเวียนวนอยู่ในอากาศ หากเราไม่เลิกพยายาม สักวันย่อมเจอะเจอโชคชะตา ต้นปี 2547 ผมพบนายโชคชะตา เมื่อทีมงานจากนิตยสาร “เปรียว” บอกว่าสนใจค่ะ

การเขียนนิยายแบ่งเป็น 2 ส่วน อย่างแรกคือ “เขียนเรื่องอะไร” คำถามข้อนี้ตอบง่าย ผมฝันใฝ่มานานอยากเขียนถึงสัตว์ประหลาด เพราะชอบจริงจังภาพยนต์หรือหนังสือเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตพิลึกกึกกือ เคยแอบแต่งเรื่องให้ตัวเองฟังในห้องน้ำเป็นประจำ จนแน่ใจว่านิยายเรื่องแรกของข้าพเจ้าต้องเป็นการผจญภัยของหนุ่มสาวกับตัวประหลาดเพียงเท่านั้น

มาถึงส่วนสำคัญ “เขียนอย่างไร” บางคนให้ความสำคัญกับตัวละคร ก่อนปล่อยให้พระเอกนางเอกและตัวประกอบนำเนื้อหาให้ดำเนินไป เช่น ครูมาลัย ชูพินิจ แต่ผมไม่ถนัดเรื่องทำนองนั้น เนื่องจากตัวเองเป็นคนความรู้สึกด้าน ไม่มีอารมณ์ศิลป์ เรายังเป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่นักอักษรศาสตร์ ขืนใช้ภาษาเป็นตัวนำมีหวังนำไปเจ๊ง สิ่งเดียวที่ผมถนัดคือหลักการและเหตุผล

การเริ่มต้นของผมคือหาสัตว์ประหลาดสักตัวที่มีอยู่ในโลกความเป็นจริง ไม่ใช่เอาหมีขาวกับแมวเหมียวมาตัดต่อ DNA ได้หมีเหมียว เนื่องจากเราเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล สัตว์ของผมจึงควรอยู่ในทะเล เนื้อเรื่องจะได้วนเวียนในโลกที่เราถนัด ด้วยเหตุประการนี้ ผลที่ได้มีหนึ่งเดียวคือ Megalodon (Mega – ใหญ่ยักษ์ Odon – เขี้ยว)

Carcharodon megalodon คือฉลามใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโลก เชื่อว่าอาศัยอยู่ในยุค Miocene และ Pliocene (16 – 1.6 ล้านปีก่อน) หนังสือบางเล่มให้ข้อมูลว่า ฉลามชนิดนี้อยู่เรื่อยมาจนถึงเมื่อ 12,000 ปีก่อน ญาติสนิทของ Megalodon ที่หลงเหลือในปัจจุบันคือ “ฉลามขาว” (Great White Shark : อาศัยในน้ำเย็น ไม่พบในประเทศไทย)

ขนาดของฉลามยักษ์ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เมื่อค.ศ.1909 American Museum of Nature History จัดทำปากจำลอง ก่อนคาดว่าฉลามอาจมีความยาวถึง 45 เมตร นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่บอกในภายหลังว่า น่าจะเป็นขนาดที่ใหญ่เกินไป แต่ยังไม่มีใครสามารถระบุได้แน่ชัด ปัจจุบัน เราเชื่อว่า Megalodon ยาว 20 - 25 เมตร น้ำหนัก 20 – 45 ตัน ปากอ้าได้กว้างประมาณ 3 เมตร

ฉลามชนิดนี้กินวาฬและสัตว์ใหญ่เป็นอาหาร อาศัยอยู่ทั่วโลก โดยมีการค้นพบซากฟอสซิลทั้งในยุโรป แอฟริกา อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย) นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า Megalodon สูญพันธุ์เพราะภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง วาฬย้ายถิ่นหาอาหาร จากทะเลเขตร้อนเข้าสู่เขตหนาวใกล้ขั้วโลก ทำให้ฉลามยักษ์ไม่มีอาหารกิน หลายคนไม่ยอมรับข้อสัณนิษฐานดังกล่าว เพราะยังมีวาฬหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในเขตร้อน เช่น วาฬบรูด้า หรือแม้แต่ญาติของ Megalodon ปลาใหญ่สุดในโลกยุคปัจจุบัน - ฉลามวาฬ – บางคนเชื่อว่าโคตรเขี้ยวยังคงมีชีวิตอยู่ ณ ที่หนึ่งในโลกสีคราม เพียงแต่เรายังไม่ค้นพบพวกเขา เหมือนกับที่เราคิดว่าปลาซีลาคานธ์สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 50 ล้านปีก่อน หรือฉลามกอปลินสูญพันธุ์เมื่อ 100 ล้านปีก่อน แต่ท้ายสุด...สัตว์เหล่านั้นยังดำรงอยู่ จนกลายเป็นที่มาของคำว่า Living Fossil

ตัวประหลาดมีแล้ว ถึงเวลาสร้างฉาก ผมนิยมใช้ฉากของจริง จึงเลือกหมู่เกาะสุรินทร์ทะเลสุดรักเป็นฉากหลักของเรื่อง เสริมด้วยพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทะเลอันดามัน แต่ก่อนฉลามโผล่ ต้องมีการโหมโรง จู่ ๆ จะให้ฉลามกินยาบ้าแล้วว่ายน้ำคลุ้มคลั่งจากทะเลลึกเข้ามาชายฝั่งเพื่อไล่งับมนุษย์ อูย...ทนไม่ได้ ผมจึงเลือกปรากฏการณ์ธรรมชาติฉับพลันขั้นพลิกฟ้าสะเทือนทะเล เหตุการณ์ที่ว่ามีเพียง 2 อย่าง หนึ่งคือไต้ฝุ่น เมืองไทยเคยมีตั้ง 2 ครั้ง ผู้คนชินชา ผมจึงเลือกอีกหนึ่งคือ “สึนามิ”

ผมค้นข้อมูลอ้างอิง จนแน่ใจว่าสึนามิมีโอกาสเกิดในเมืองไทย เพราะร่องลึกชวาหรือ Java Trench อยู่ห่างจากบ้านเราไปนิดเดียว ตรงนั้นเป็นรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชี่ยนของเรา กับแผ่นเปลือกโลกอินเดียและออสเตรเลี่ยน เป็นจุดเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง เมื่อปี 2541 ก็เคยเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์พุ่งเข้าใส่เกาะนิวกินี ยิ่งเปิดดูแผนที่ยิ่งเห็นความเป็นไปได้

Megalodon จึงเริ่มต้นที่การเคลื่อนของแผ่นเปลือกโลก แผ่นดินไหวใต้ทะเล ก่อนส่งผลทำให้เกิดสึนามิพุ่งเข้าฝั่งทะเลอันดามัน ผมลองวัดทิศทางกับความเร็วของคลื่น ดูลักษณะชายฝั่ง ก่อนระบุจุดที่ได้รับความเสียหาย โดยเน้นเฉพาะอันดามันเหนือ ปล่อยให้อันดามันใต้หรือกระบี่ ตรัง และสตูล หลุดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้

คลื่นยักษ์เป็นเรื่องในจินตนาการ แต่ยิ่งเขียนยิ่งสนุก ผมเลยติดลมเขียนเกี่ยวกับสึนามิหลายตอน ตั้งแต่น้ำลดครั้งใหญ่ คลื่นพุ่งเข้าใส่ชายฝั่งอันดามัน ใครต่อใครหนีคลื่นยังไง สุดท้ายมีเพียงไม่กี่คนรอด พระเอกนางเอกเป็นนิสิตวิทยาศาสตร์ทางทะเล ติดอยู่บนเกาะสุรินทร์ ขณะที่ฉลามยักษ์เกิดความงุนงงหลงเข้าเขตชายฝั่ง ช่วงแรกก็มีซากให้กิน แต่ตอนหลังซากเน่าหมด ฉลามยักษ์หาทางกลับบ้านไม่ได้ เขากำลังหิว...

ฉลามกับมนุษย์สองสามคนสู้กันจะไปสนุกอะไร ผมต่อเรื่องให้คู่พระคู่นางอีกหนึ่งคู่เป็นข้าราชการกับอาจารย์ ก่อนดึงระบบราชการของไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งการป้องกันภัยพิบัติ การฟื้นฟูหลังคลื่นยักษ์ ต่อเนื่องถึงการประมงและการท่องเที่ยวดำน้ำสกูบ้า เมื่อเรือทัวร์ถูกฉลามยักษ์จู่โจม ยิ่งเขียนยิ่งสนุกครับ เรื่องจึงยาวกว่าที่เคยคิดไว้

Megalodon ตีพิมพ์ในนิตยสาร “เปรียว” ตั้งแต่เดือนตุลาคม ผมเขียนและส่งต้นฉบับล่วงหน้าเกือบหมด เพราะไม่มีปัญญามานั่งเขียนทีละตอน พอถึงปลายเดือนธันวาคม เนื้อเรื่องในนิยายกลับกลายเป็นจริง ผมพังข่าวด้วยความตกใจ ทีแรกยังใจชื้นว่าคลื่นของจริงคงทำความเสียหายไม่เท่าในนิยาย แต่เมื่อข้อมูลเริ่มแน่ชัด ผลคือคลื่นจริงรุนแรงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะหมู่เกาะสุรินทร์ ระหว่างเขียนผมนั่งจินตนาการ คลื่นมาทางไหน โรงอาหารพังยังไง ห้องน้ำเป็นอย่างไร พอของจริงเข้ามาแล้วผ่านไป ผมเดินทางลงใต้ไปเกาะ ได้แต่ยืนอึ้งอยู่หน้าซากโรงอาหารและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มันเหมือน...เหมือนจนน่าแปลก

คุณผู้อ่าน “เปรียว” กรุณานำเรื่องนี้ไปบอกต่อ จนท้ายสุดมีทีวีมาสัมภาษณ์ อาจารย์รู้ล่วงหน้าได้อย่างไร ? บอกช่วงเวลาคลื่นเข้าและสถานที่เสียหายถูกเป๊ะ ๆ อาจารย์เป็นหมอดูเหรอ ? ผมบอกซื่อ ๆ ว่าไม่รู้ครับ ผมแต่งนิยายโดยใช้วิทยาศาสตร์เป็นรากฐาน อะไรที่เขียนไปก็คิดด้วยเหตุและผล หากมีนักวิทยาศาสตร์มาเขียนเรื่องอย่างนี้สักคน ก็คงได้เนื้อหาเหมือนที่ผมเขียนมา ไม่ได้เก่งหรือมีซิกส์เซนต์รู้อนาคตล่วงหน้า

ตั้งแต่เริ่มเขียน ผมตั้งใจว่าไง ๆ ต้องทำ Megalodon เป็นพ๊อกเก็ตบุ๊ก ถึงขั้นติดต่อสำนักพิมพ์ไว้แล้ว ลงทุนไปซื้อฟอสซิลฟันของ Megalodon มาจากพิพิธภัณฑ์ในเมืองนอก กะว่าจะนำมาใช้ในวันเปิดตัวหนังสือ มาถึงตอนนี้ได้ใช้สมใจ เมื่อภาคแรกของนิยายเกิดขึ้นโดยสำนักพิมพ์ “ปราชญ์เปรียว” เพื่อให้เนื้อหาครบถ้วนยิ่งขึ้น ผมเขียนเรื่อง “สึนามิ” เพิ่มเติม รวมทั้งนำภาพถ่ายจากทะเลอันดามันมาประกอบ โดยเฉพาะจุดที่มีเนื้อหาในนิยาย เช่น ป่าตอง เขาหลัก ทับละมุ ฯลฯ คุณสมิทธ ธรรมสโรช ยังช่วยกรุณาเขียนคำนิยมให้ โดยบอกว่าเป็นนิยายที่อ้างอิงวิทยาศาสตร์ได้ดีมาก ผมอ่านแล้วแทบตัวลอย ขอบคุณท่านครับ

ต่อจากนี้ไป เป็นบางส่วนจาก Megalodon ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุการณ์สึนามิ

“เขาหลักหรือแหล่งท่องเที่ยวที่เจริญจนสุดกู่ในช่วงหนึ่งทศตวรรษที่ผ่านมา โรงแรมนับร้อยผุดขึ้นในแทบทุกหาด เอกยังจำได้ถึงโรงแรมหนึ่ง ที่เขากับเพื่อนสาวรู้ใจ พากันมานอนทอดกายชมวิวชายทะเลอันดามัน บัดนี้ โรงแรมนั้นอยู่ตรงไหน ชายหนุ่มบอกไม่ได้ จากมุมมองเบื้องบน เขาเห็นแต่เศษไม้เกลื่อนหาด เกลื่อนแผ่นดิน เกลื่อนถนน ขนาดรีสอร์ตที่เป็นตึกยังพังทลาย”

“บางส่วนของคลื่นไหลอ้อมเนินเขา พุ่งเข้าชนโรงอาหาร เรือนไม้สูงเกือบเท่าตึกสามชั้นหายไปในพริบตา”

“ประตูห้องส้วมพังกระจุย มวลน้ำทับถมทุกชีวิตไว้ในนั้น โม่เห็นร่างรุ่นน้องที่เข้าไปแอบกับโถส้วม ลอยคว้างผ่านไป คงเพราะเขาไม่ได้ยึดไว้ให้แน่นพอ ร่างนิสิตหนุ่มรายนั้นถูกดูดออกไปทางหลังคา”

อาจารย์ธรณ์พูดถึงปลาสองชนิดที่คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่กลับปรากฏตัวขึ้นมาให้โลกประจักษ์ คือ ปลาซีลาคานธ์ (Coelacanth) และ ฉลามกอบลิน (Goblin shark)



ปลาซีลาคานธ์ (Coelacanth)
http://creatures.igetweb.com/index.php?mo=3&art=161551

http://www.youtube.com/watch?v=rYOf2wIoxgo&feature=player_embedded

ฉลามกอบลิน (Goblin shark)
http://en.wikipedia.org/wiki/Goblin_shark

http://www.youtube.com/watch?v=vMGk6ohitgM&feature=player_embedded

ขอบคุณด้วยภาพนี้ค่ะ

เห็นฉลามหน้าตาประหลาดๆที่ชื่อก๊อปลิ่นแล้ว ก็แปลกใจว่าไม่น่าเชื่อว่าเจ้าฉลามพันธ์นี้จะมีถิ่นที่อยู่อันเป็นแหล่งอนุบาลอยู่ตรงปากน้ำ เมือง โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงความสะอาดของแหล่งน้ำประเทศเขาจริง
แล้วปากน้ำเมืองไทยจะมีปลาอะไรให้เห็นบ้างไหมเอ๋ย  ;D   

ส่วนภาพหน้ารถทำให้ชวนนึกไปถึงวันที่ได้คุยกับพี่ที่รู้จัก

พี่ : นี้เธอรู้ไหมรถที่บ้านพี่เคยลงหน้า ๑ หนังสือพิมพ์แล้วนะ
ธี : หรอพี่ทำไมได้ลงละ
พี่ : หน้ารถพี่มันมีรอยเหมือนพญานาค
ธี : โฮ๋จริงอะพี่ รอยพญานาคเลยหรอ  :o
พี่ : รอยน่ะเป็นรอยจริง แต่ว่ามันไม่ใช่พญานาค แต่เป็นนกกระทุง มันถูกพายุพัดมาตกหน้ารถพี่ 55555555 +
ธี :  ??? ?????? :(

ปล. จากเรื่องจริง ณ  กทม 555+ พญานาคคคคคคคคคค

คิดว่าในท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็อาจจะมีสัตว์ประหลาดซ่อนอยู่มากมาย ในอ่าวไทยเองก็เถอะ หากมีการสำรวจอย่างจริงจังก็อาจจะเจอสัตว์ประหลาดตัวใหม่ให้เราทัศนาได้เหมือนกัน

ที่ทะเลญี่ปุ่น นอกจากฉลามกอบลินตัวนี้ซึ่งค้นพบเมื่อ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๐  ก่อนหน้านั้นเพียง ๔ วันก็ได้ค้นพบฉลามโบราณอีกพันธุ์หนึ่งคือ frilled shark (Chlamydoselachus anguineus) ตัวเป็น ๆ

คุณเทาชมพูเคยนำมาแสดงไว้แล้ว


http://en.wikipedia.org/wiki/Frilled_shark

เรื่อง "รอยพญานาค"

มีรอยหนึ่งซึ่งคล้ายรอยพญานาคมาก แต่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นรอยสัตว์อื่น

คุณธีร์คิดว่า รอยข้างล่างเป็นรอยอะไร

คำเฉลยอยู่ในลิ้งก์  ;D

http://www.thaiblades.com/forums/showthread.php?t=143

เคยอ่านข่าวรอยพญานาค บนกระโปรงรถและริมน้ำ    ตอนนี้รู้คำตอบแล้ว
สัตว์ที่เอามาโชว์ในค.ห.นี้  เป็นตัวจริง  ไม่ใช่รูปตัดต่อ  ชื่อ Colossal  squid  ปลาหมึกยักษ์คนละแบบกับที่เล่นหนัง The Pirates of the Caribbean
 

ปลาตัวนี้ก็ของจริง   รูปนี้ไม่ได้แต่งด้วยโฟโต้ช็อปนะคะ 
เรียกว่า  ocean sunfish หรือ  common mola

เวลานึกถึงสัตว์ประหลาด มักจะนึกถึงใต้น้ำมากกว่าบนอากาศ     อย่างที่คุณเพ็ญว่า ใต้ทะเลลึกน่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่เราไม่คุ้นเคย มากกว่าจะไปหาได้จากยอดเขา
ตัวนี้ชื่อ coffin fish  ดูประหลาดราวกับภาพตัดต่อ

ตัวนี้  ถึงไม่ประหลาดนัก  แต่เจ้าของบ้านโผล่มาเห็นก็วิ่งกระเจิงลูกเดียว

เก็บรูปจากอีเมล์รูปนี้ไว้นานแล้วค่ะ  ชอบคำบรรยายว่า "มีใครอยู่บ้านมั้ยครับ?"

ว่าแล้วเชียวต้องเป็นรอยเต่าทะเล แต่ว่าชอบใจปลาหมึกยักษ์จังเลยครับ เห็นตัวแดงๆแล้วนึกถึงปลาหมึกกราบที่ใส่เย็นตาโฟ  ;D ไม่รู้ว่าต้องใช้ขี้เถ้าสักเท่าไรถึงจะพอ(โบราณไปไหมใช้ขี้เถ้า เพราะเดียวนี้ใช้โซดาไฟ)
ส่วนน้องปลาที่แวกว่ายไม่นึกว่าจะใหญ่ได้ขนาดนี้เคยเห็นแต่ตัวเล็กๆ ตัวโต๊โต
ส่วนญาติวรนุชน้องชาระวันนี้เป็นไปได้ไม่ต้องมาหาที่บ้านก็ได้ทางนี้สบายดีไม่ต้องเป็นห่วง  ;)

คำรำพันของน้อง Varanus

 ;D

อย่าน้อยใจนะจ๊ะ   วรานุช  แต่เห็นเธอแล้วขนลุก

กลับสู่ใต้ทะเลลึก

เืมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว คณะนักวิจัยสัตว์ใต้ทะเลลึก มหาวิทยาลัยหลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา รายงานว่า พบสัตว์หน้าตาแปลกประหลาด ประมาณ ๑๗,๖๕๐ สายพันธุ์อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก  ซึ่งเป็นจุดที่แสงแดดส่องลงไปไม่ถึง สัตว์เหล่านี้มีลักษณะแปลกประหลาด พิลึกพิลั่นสุดที่จะจินตนาการ

http://www.physorg.com/news178118759.html

ตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ จาก ๑๗,๖๕๐ สายพันธุ์

http://www.youtube.com/watch?v=MY3iGcH6wPk

http://www.youtube.com/watch?v=f_xI8W-xgh8&NR=1

สัตว์ประหลาดบนฟ้า เห็นจะแพ้ใต้ทะเลลึก       เท่าที่หาได้ก็นกยักษ์   
อย่างตัวนี้ คือแร้ง Lammergeier หรือ giant bearded vulture (Gypaetus barbatus)  อยู่ในธิเบต
วัดจากปลายปีกหนึ่งไปถึงอีกปลายปีกหนึ่ง ๑๐ ฟุต 

สุจิตต์ วงษ์เทศ จินตนาการไปไกลถึงว่าต้นแบบครุฑ คือ แร้ง

http://www.sujitwongthes.com/2009/04/siam200409/

คุณเทาชมพูว่า แร้งหิมาลัย http://en.wikipedia.org/wiki/Himalayan_Vulture ตัวนี้ พอจะเหมือน ครุฑ บ้างไหม

 ;D

พอเห็นเค้า เหมือนเพ็นโนซอรัส กับไดโนเสาร์  :)

คุณเพ็ญเคยได้ยินคำว่า แร้งพระนารายณ์  ควายพระอิศวร บ้างไหมคะ
ก็คือเอาพาหนะพระเจ้าทั้งสองมาโยงเข้ากับสัตว์จริงๆในโลกมนุษย์
ถ้าแร้งแถวหิมาลัยมี     พราหมณ์ผู้รจนาเรื่องราวของเทพเจ้า อาจจะได้แรงบันดาลใจมาบ้างก็ได้
อะไรๆในจินตนาการก็มาจากความจริง   แล้วแต่งเติมเอา  แต่จะให้ฟันธงอย่างคุณสุจิตต์ฟัน  ดิฉันยังไม่ถึงขั้นนั้น

นกยักษ์ที่เห็นกันในคลิปวิดีโอ น่าจะเป็นครุฑของคุณสุจิตต์นี่แหละ

http://www.youtube.com/watch?v=XRnE-gCPGsI

ที่เขาเห็นอาจเป็นเจ้าตัวนี้ได้หรือเปล่า

Pterodactyl - ไดโนเสาร์บิน

http://www.youtube.com/watch?v=wM4wn_xXavc&feature=player_embedded#at=45


(http://powerpointparadise.com/blog/wp-content/uploads/2010/03/civilwarpterosaur.jpg)


This seems to be a genuine photo of a Pteradactyl, shot down by Confederate soldiers during the Civil war.  A film crew shooting a movie in the south took a similar picture in an effort to recreate a famous photo, that was believed to have been lost. The picture above seems to be the original.  

http://dinosliving.webs.com/kongomatoandtheropen.htm

ARE DINOSAURS STILL ALIVE ?

 ???

ลองคิดกันเล่นๆนะครับว่า ตอนที่อากาศมืดมิด และหนาวเย็น เนื่องจากการชนของลูกอุกาบาตนั้น สว่นที่อยู่ในน้ำลึกที่ไม่ต้องการแสงจะโดนผลกระทบทางด้านอุณหภูมิมากแค่ไหน ถ้าน้อยผมเชื่อว่าน่าจะมีอะไรที่เรายังลงไปสำรวจไม่ถึงเหลืออยู่นะครับ แต่ก็ยังงงว่าไดโนฯแบบนก อยู่ได้ยังไง แอบอยู่ที่ไหน(ในถ้ำหรือ)
มานิต

น่าคิดมาก  ว่าถ้านกไดโนเสาร์พันธุ์นี้ยังเหลือรอดมาได้  มันก็ต้องมีมากกว่า ๑ ตัว     ถ้าอย่างนั้นมันหลบเร้นจากสายตาคนอยู่ได้ยังไง
ต่อให้ทำรังอยู่บนยอดเขาลี้ลับ    มันก็ต้องหากินจากพืช หรือสัตว์บนพื้นดิน   พืชผลต่างๆก็ล้วนแต่มนุษย์ปลูกกันเกือบทั้งนั้น   ก็ต้องมีชาวไร่ชาวนาเห็นมันบ้างละค่ะ
ผิดกับสัตว์ที่อยู่ใต้ทะเลลึก มีอาหารอยู่ใต้ทะเลลึกเช่นกัน  ไม่ได้ขึ้นมาบนผิวน้ำ  จึงรอดจากการรู้เห็นอยู่ได้ 

กลับมาถามคุณเพ็ญชมพู จากค.ห. 147  ว่า เป็นไปได้หรือว่านกไดโนเสาร์ยังมีชีวิต เป็นกลุ่ม(แน่นอน เพราะถ้ามีตัวเดียวคงแก่ตายไปนานแล้ว)  อยู่บนที่สูงที่ใดที่หนึ่งในโลก    หากินได้   โดยไม่มีมนุษย์มองเห็นเขตที่อยู่ที่อาศัยของมัน   นอกจากหลายๆปี หรือร้อยกว่าปี เห็นที
ป.ล. รูปทหารหาญเหยียบซากนก นั่นมันรูปจำลองนี่คะ   รูปจริงเขาว่าหายสาบสูญไปแล้ว :-\

เคยพูดถึงเรื่องสัตว์ประหลาดทั้งหลายซึ่งมาปรากฏกายให้เราเห็นที่โน้นบ้างที่นี่บ้าง อาจจะเป็นเช่นเดียวกับในกรณีของนางเงือก


ซึ่งคุณเทาชมพูให้ความเห็นว่า


เอกภาพคู่ขนาน "แดนดาว" ของคุณแก้วเก้าน่าจะเป็นคำตอบทางเลือกหนึ่งสำหรับเรื่องนี้

ลองมาตั้งโจทย์ว่า ถ้าในเอกภาพคู่ขนานของโลกปัจจุับันเมื่อ ๖๕ ล้านปีก่อนไม่มีลูกอุกกาบาตของท่านมานิตหล่นลงมาถล่มจนมีผลให้เหล่าไดโนเสาร์พากันสูญพันธุ์ไปเสียแล้ว  ในเอกภพนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างไร เหล่าไดโนเสาร์บางส่วนคงวิวัฒนาการเป็นไดโนเสาร์ผู้ทรงภูมิปัญญาเฉกเช่นมนุษย์เรากระมัง และบางส่วนน่าจะยังคงสภาพเป็นสัตว์ป่าเช่นเดิม เหมือนดังวิวัฒนาการของมนุษย์และลิง

เนสซี่ แชมปี้ เพ็นโน เทอโร เหล่านี้อาจจะหลุดรอดประตูมิติมาสู่่มิติที่เราอยู่เป็นครั้งคราวหรือถาวร

ไม่มีใครอาจทราบได้

อย่าลืมว่าเรื่องนี้เป็นเพียงคำตอบทางเลือกหนึ่งเท่านั้น

ป.ล. รูปที่ว่านั้นคำบรรยายเขาว่าเป็น  original นะ มีอีกรูปหนึ่งซึ่งเขาว่าเป็นรูปทำเทียมเลียนแบบ  

(http://www.cryptomundo.com/wp-content/uploads/thunderbird_01.jpg)

http://powerpointparadise.com/blog/2010/03/the-civil-war-pterosaur-shot-no-one-must-see/

คุณเพ็ญเล่นสะกัดเสียด้วยเอกภพคู่ขนาน    ใครจะเถียงอะไรได้     
ยังไม่มีใครเคยเดินเข้าไปในเอกภพคู่ขนานกันสักคน  พอจะบอกได้ว่าเพ็นโนกับเนสซี่อยู่ในนั้นจริงหรือเปล่า  :)

กลับไปอ่านเรื่องรูปอีกครั้ง   สับสนจริงๆด้วยค่ะ  เพราะเขาบอกว่ารูปแรก  seems to be... อะไรที่ seems to be  มันดูเหมือนจะใช่ (แต่ไม่ใช่)   อีกอย่าง ทรงผมของทหารยุค Civil War ก็ทันสมัยเชียว

Parallel universe  ตามที่ดร.อรรถกฤต ฉัตรภูติ  อธิบายไว้

ในปัจจุบันมีทฤษฎีทางฟิสิกส์หลายทฤษฎีที่บอกถึงความเป็นไปได้ที่จะมี โลกคู่ขนาน หรือ เอกภพคู่ขนาน (Parallel Universe) โดยในแต่ละทฤษฎีก็จะทีมาที่ไป และความหมายของคำว่าเอกภพคู่ขนานแตกต่างกันไป ซึ่งพอจะจำแนกทฤษฎีเหล่านี้ออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ Quantum parallel universe, Inflation multi-universes และ String theory multi-universes

1. Quantum parallel universe

ซึ่งเสนอขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957 โดยนักฟิสิกส์ชาวอเมริกันชื่อ Hugh Everett เพื่อที่จะแก้ปัญหาในทฤษฎีควอนตัม ซึ่งพัฒนาต่อมาโดยนักฟิสิกส์ Bryce DeWitt, David Deutsch และอีกหลายๆท่าน
Hugh Everett ผู้คิดค้น Many-worlds interpretation of Quantum Mechanics
     แนวคิดของ Everett นี้รู้จักกันในชื่อ Many-worlds interpretation of Quantum Mechanics ซึ่งกล่าวว่าอาจจะมีเอกภพอื่นๆ ซึ่งมี กฎทางฟิสิกส์ และ ค่าคงที่ต่างๆเหมือนกับเอกภพที่เราอยู่ทุกประการ แต่อาจจะอยู่ในสถานะที่ต่างกัน และ เอกภพคู่ขนานเหล่านี้ไม่สามารถที่จะติดต่อกันได้ ในโลกของควอนตัมซึ่งเป็นโลกของความน่าจะเป็น สถานะที่ต่างกันออกไป ในแต่ละเอกภพจะสัมพันธกัน โดยกระบวนการทางควอนตัมที่เรียกว่า Quantum superposition และ ความสัมพันธ์นี้จะสิ้นสุดลง เมื่อมีการเลือกทางใดทางหนึ่งของความน่าจะเป็นนั้น ซึ่งหลังจากที่มีการเลือกเกิดขึ้นแล้ว เอกภพคู่ขนานทั้งสองจะไม่สัมพันธ์กันอีกเลย

ตัวอย่างของเอกภพคู่ขนานควอนตัมอาจจะอธิบายได้โดย สมมุติว่าเราซื้อฉลากรัฐบาล ก่อนที่จะประกาศผลรางวัล มีความเป็นไปได้อยู่ 2 ทางคือ หนึ่งเราถูกรางวัล และ สองเราถูกกิน ความน่าจะเป็นทั้งสองคือโลกที่แตกต่างกัน ในโลกหนึ่งถ้าเราถูกรางวัลที่หนึ่ง เราก็จะร่ำรวย แต่ในอีกโลกหนึ่งเราถูกหวยกินยากจนลงทุกวันๆ ในขณะที่หวยยังไม่ออก สถานะของความร่ำรวยและความยากจน ยังผสมกันอยู่เรายังบอกไม่ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อใดก็ตามที่กองฉลากประกาศผลรางวัล เราก็จะทราบอนาคต เมื่อนั้นโลกคู่ขนานทั้งสองก็จะไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป เช่น ถ้าผลออกมาเราไม่ถูกรางวัล เราก็จะอยู่ในโลกของเราซึ่งไม่ถูกรางวัล อาจจะเลิกเล่นหวยแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ซึ่งเราจะไม่มีทางรับรู้ถึงเอกภพคู่ขนานอีกอันหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกที่เราถูกหวย เอกภพคู่ขนานทั้งสองตัดขาดจากกันโดยสิ้นเชิง    ไม่มีทางที่เราจะเดินทางไปยังโลกที่เราถูกหวยรางวัลที่หนึ่งได้  

This parallel universe theory is interesting. Tell me more.

 ;D

ขอตอบด้วยภาพนี้

ทฤษฏีที่สองและสาม พร้อมกับปัญหาของทฤษฎีเอกภพคู่ขนาน

http://www.vcharkarn.com/varticle/313

ชอบใจตรงที่อาจารย์อรรถกฤต สรุปไว้ว่า

สิ่งหนึ่งที่ควรจะคิดไว้เสนอคือ ฟิสิกส์เป็นศาสตร์ที่ศึกษาธรรมชาติ และอธิบายธรรมชาติโดยอาศัยภาษาคณิตศาสตร์ ทฤษฎีทางฟิสิกส์เป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ที่สร้างมาเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ไม่ได้หมายความว่าธรรมชาติเป็นจริงเช่นนั้น ทฤษฎีหนึ่งอาจจะอธิบายเรื่องหนึ่ง ๆได้ดี แต่อีกเรื่องหนึ่งอาจจะใช้ไม่ได้เลยก็ได้ เพราะฉะนั้นการที่จะนำทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่ง ไปอธิบายปรากฏการณ์ใด ๆ จึงควรจะทำความเข้าใจตัวทฤษฎีให้ถ่องแท้เสียก่อน

เราไม่ควรปักใจเชื่อว่าธรรมชาติเป็นจริงตามทฤษฎี เพราะธรรมชาตินั้นซับซ้อนกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจมากนัก

 ;)

จากใต้ทะเลลึกสูห้วงอวกาศ สู้ต่อไปอุนตราแมน  ???  ;D ;)

ติดตามการปฏิบัติภารกิจ เอ๋ย อ่านอยู่นะครับอาจารย์

พวกนี้คงอยู่ในเอกภพคู่ขนาน

หามิได้ ยอดมนุษย์เหล่านี้มาจากสุโขทัยของเรานี้เอง

คุณสมโพธิ  แสงเดือนฉาย เป็นผู้ออกแบบรูปลักษณ์ของยอดมนุษย์ตัวแรกโดยนำแบบมาจากพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย

เขาเล่าถึงเบื้องหลังของเรื่องนี้ว่า

"ชื่อยอดมนุษย์นี่ผมเป็นคนตั้งเอง คือจริง ๆ แล้วพระพุทธเจ้าท่านก็เป็นมนุษย์ แต่ท่านสั่งสมความดีจนสามารถ ตรัสรู้ธรรม ท่านจึงเป็นยอดแห่งมนุษย์ แรงบันดาลใจเกิด จากตรงนี้ ผมจึงนำภาพถ่ายพระพุทธรูป ๓ องค์ ไปให้อาจารย์เอยิดู ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยและอยู่ในจังหวัดสุโขทัยทั้ง ๓ องค์ คือพระปางลีลา จากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระปางห้ามญาติ วัดสะพานหิน และพระอัฏฐารส ปางเปิดโลก ซึ่งอาจารย์เห็นแล้วชอบมาก ท่านจึงให้นำพระพุทธรูปดังกล่าวมาเป็นต้นแบบในการร่างคาแร็กเตอร์ของยอดมนุษย์ โดยมีโทรุ นาริตะ เป็นผู้เขียน แบบตามที่ผมบอก

นอกจากนั้นอาจารย์เออิยังสังเกตเห็นว่าพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์มีท่าทางไม่เหมือนกัน ผมก็อธิบายว่านี่คือปางต่าง ๆ ของพระพุทธรูป เช่น ปางห้ามญาติ ปางเปิดโลก แต่ละปาง ก็มีพุทธานุภาพไม่เหมือนกัน อาจารย์ก็รู้สึกทึ่ง และบอกว่า น่าจะนำท่าทางเหล่านี้มาดีไซน์เป็นท่าไม้ตายในการปราบสัตว์ประหลาด จนสุดท้ายก็ออกมาเป็นท่าปล่อยแสง

เหตุที่ผมนำพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยมาเป็นต้นแบบก็เพราะพระพุทธรูปในสมัยนี้ท่านมีใบหน้าที่ยิ้ม ดูมีเมตตา คืออุลตร้าแมนเป็นพระเอกก็ควรจะดูใจดี ซึ่งจุดที่เรานำมาเป็นจุดเด่นของอุลตร้าแมนก็คือใบหน้าเรียวมน ปากยิ้ม ตาเรียวคล้ายกับตาพระพุทธรูปที่หลุบตามองต่ำ และรูปร่างเพรียว ที่สำคัญอุลตร้าแมนเป็นยอดมนุษย์ที่ไม่มีอาวุธ แต่จะปราบสัตว์ประหลาดโดยการปล่อยแสงออกจากร่างกาย ซึ่งแสงนี้ก็เปรียบเสมือนพลังแห่งความดีที่มีอยู่ในตัว"

http://social.eduzones.com/kikii/2374

 :o :o :o :o :o :o
ถ้าไม่มีคำให้สัมภาษณ์ จะไม่เชื่อเลยว่าเป็นไปได้
****************
กำลังหาสัตว์ประหลาดจากเอกภพคู่ขนานมาให้คุณเพ็ญ     ใต้น้ำ บนอากาศก็หามาจนหมดแล้ว   เลยต้องไปหาถิ่นเก่าที่สัตว์ประหลาดเยอะแยะที่สุด
ได้ตัวนี้มา  ไม่รู้สปีชีส์ไหน  อาศัยอยู่ในบึงค่ะ  คงจะพันธุ์น้ำจืด   นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้  เรียกกันแต่ว่า  Creature from the Black Lagoon   
ปรากฎตัวให้เห็นครั้งแรกเมื่อค.ศ. ๑๙๕๔
ต่อมาเห็นกันอีกใน ๑๙๕๕   แล้วหายเงียบไปจน ๒๐๐๙  ถึงมาปรากฏอีก   และได้ข่าวว่าคงจะได้เห็นกันอีกครั้งในปี ๒๐๑๑
http://www.youtube.com/watch?v=s0gLAuY0Z44&feature=related

เจ้ามนุษย์เหงือก (gill-man) ตัวนี้เห็นทีจะมีอยู่ในภาพยนตร์อย่างเดียวกระมัง ข้อมูลจากคุณวิกกี้ http://en.wikipedia.org/wiki/Gill-man เขาว่า เจ้ามนุษย์เหงือกนี้เป็นมนุษย์ต่างดาวไม่ใช่หรือ


เรื่องไดโนเสาร์ผู้ทรงภูมิปัญญานี้  มีคนคิดเรื่องนี้อยู่และให้ชื่อว่า dinosauroid  [Russell, D. A. and Sequin, R. "Reconstruction of the small Cretaceous theropod Stenonychosaurus inequalis and a hypothetical dinosauroid," Syllogeous, 37, 1 (1982).] และไดโนเสาร์ตัวเลือกที่พอมีศักยภาพที่จะไปเป็น dinosauroid ได้น่าจะเป็น Troodon (Stenonychosaurus unequalis)  http://en.wikipedia.org/wiki/Troodon

เอาบทวิเคราะห์เรื่อง Dinosauroid มาให้คุณเทาชมพูอ่านเล่น

Troodon sapiens?: Thoughts on the "Dinosauroid"

http://scienceblogs.com/laelaps/2007/10/troodon_sapiens_thoughts_on_th.php

http://www.youtube.com/watch?v=UiEmem2rFOY&feature=player_embedded

From the BBC's Horizon program, "My Pet Dinosaur."

งงอีกแล้ว(ตามประสาคนสมองเริ่มเสื่อม) คือตาม คห.158 เขาเดาได้ยังไงหนาว่าจะเห็นอีกครั้งในปี 2011
มานิต

เขากำลังสร้างตอนใหม่ จะออกฉายปีหน้าค่ะ

เอามาฝากเพ็นโน  จากเพื่อนๆ

ชวนชาวเรือนไทยไปดูยักษ์กันดีกว่า
http://www.biblebelievers.org.au/giants.htm

เพ็นโน-เนสซี่ เมื่อน้ำท่วมโลก

กูเกิ้ลเอิร์ธพบภาพโครงกระดูกขนาดยักษ์
http://www.youtube.com/watch?v=bmp68Er0ZVc&feature=related

เห็นรอยเท้ายักษ์ที่คุณเทาชมพูเอามาลง แล้วแปลกดีครับ ไม่เหมือนรอยเท้าคนเพราะว่าคนเรา ถ้าเหยียบลงไปจะราบหรือไม่ก็จะเป็นเสี้ยวเพราะมีเท้าไม่เต็มแต่นี้กลางเท้าในภาพเป็นรอยนูนขึ้น เหมือนเป็นรอยทำขึ้นมากกว่า
 
จริงๆในเมืองไทยมีรอยเท้ามนุษย์โบราณให้ดูเยอะไปนะครับ ก็รอยพระพุทธบาทตามจังหวัดต่างๆ ไงครับ ;)

รอยเท้ายักษ์ของไทยใหญ่กว่าของฝรั่งเสียอีกต่างหาก

ในรูปที่คุณเทาชมพูนำมาแสดง ยาวเพียง ๔๕ ซ.ม. แ่ต่รอยเท้ายักษ์ที่อุบลฯ บ้านเราใหญ่กว่าเกือบ ๓ เท่า

รอยเท้านี้อยู่ที่วัดบ้านท่าล้ง (ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อ เป็นวัดภูวง อันเนื่องมาจาก ภูมิประเทศมีภูเขาล้อมรอบเป็นวง) บ้านท่าล้ง ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี  ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นรอยเท้าของท้าวอมร ซึ่งเป็นพญายักษ์ ลักษณะเหมือนรอยเท้ามนุษย์ มีนิ้วเท้า ๕ นิ้ว เป็นรอยเท้าข้างขวา วัดความยาวได้ประมาณ ๙๗ ซ.ม. กว้างประมาณ ๔๐ ซ.ม. เป็นรอยลึกลงไปใน หินทราย โดยเฉลี่ย ๐.๕ - ๐.๘ ซ.ม. ช่วงกว้างของนิ้วเท้า ประมาณ ๕ - ๘ ซ.ม. ความยาวของนิ้วเท้า ประมาณ ๑๑ - ๒๐ ซ.ม. จากขนาดของรอยเท้า ยักษ์ตนนี้จะสูงประมาณ ๘ - ๑๒ เมตร เทียบความสูงก็ประมาณตึก ๓ - ๔ ชั้น  หนึ่งก้าวปกติของจะ ประมาณ ๒๐ - ๓๐ เมตร ถ้ากระโดดจะได้ระยะทางไกลประมาณเกือบ ๒๐๐ เมตร  

(http://www.vcharkarn.com/uploads/169/169687.jpg)

เส้นสีแดง แสดงลักษณะรูปเท้ายักษ์ข้างขวาซึ่งบิดไปทางซ้าย ต่างจากเท้าคนในภาพเล็กที่บิดไปทางด้านขวา

http://www.vcharkarn.com/vblog/52015

มีบางท่านสงสัยว่ารอยเท้านี้น่าจะเป็น ลิงเอปไร้หาง ขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า ไจแกนโทพิเธคัส (Gigantopithecus)

(http://www.vcharkarn.com/uploads/170/171128.jpg)

ภาพหุ่นจำลองไจแกนโทพิเธคคัส ขณะยืนเปรียบเทียบกับมนุษย์ปัจจุบัน

แต่จากข้อมูลของไจแกนโทพิเธคคัส ลักษณะนิ้วเท้าจะมีลักษณะค่อนข้างยาวและคล้ายคลึงกับเท้าลิง จะแตกต่างจากเท้ามนุษย์ซึ่งจะมีลักษณะนิ้วเท้าสั้น  เมื่อพิจารณาลักษณะรอยเท้ายักษ์ที่บ้านท่าล้งแล้ว จะพบว่ามีลักษณะเหมือนรอยเท้าของมนุษย์มากกว่าเพราะนิ้วหัวแม่เท้าอยู่ในระดับเดียวกับนิ้วทั้งสี่  จึงไม่น่าจะเป็นลิงเอป ไจแกนโทพิเธคคัส  

อีกประการหนึ่ง  ขนาดรอยเท้าของไจแกนโทพิเธคคัสที่พบในจีน จะอยู่ประมาณ ๔๐ - ๕๐ ซ.ม. แต่รอยเท้ายักษ์ที่บ้านท่าล้งมีขนาดเกือบ ๑ เมตร ซึ่งต่างจากไจแกนโทพิเธคคัสที่พบในจีนเป็นอย่างมาก  

http://www.vcharkarn.com/vblog/52015/2

ขอร้องเรียนว่า คุณเพ็ญกำลังเกทับ
เอายักษ์มาให้เห็นชัดๆ อีกรูปค่ะ  (จริงเท็จไม่ว่ากัน)
ขอถามหน่อยค่ะ  รอยเท้าจริงๆของสิ่งมีชีวิต ประทับลึกลงในหินได้ยังไง   ไม่ใช่ฟอสซิลนี่คะ
หรือประทับตั้งแต่หินยังเป็นแค่ดิน

สำนวนที่ว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ปัจจุบันเห็นทีจะใช้ไม่ได้เสียแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือแม้แต่ภาพเคลื่อนไหว สามารถทำเทียมขึ้นมาได้ง่าย ๆ

ภาพนี้ของคุณเทาชมพูก็เช่นเดียวกัน

ขอให้คุณสังเกตภาพข้างล่างนี้

(http://www.rationalistinternational.net/article/images/skeleton.jpg)

เป็นภาพการขุดค้นเมื่อ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๓ นอกเมืองไฮด์ปาร์ค (ชื่อเดียวกับสวนสาธารณะที่อังกฤษเลยนะ) นิวยอร์ค โครงกระดูกที่เห็นก็เป็นของช้างโบราณพวก mastodon และ mammoth

เปรียบเทียบกับภาพของคุณเทาชมพู

(http://wtf.microsiervos.com/images/esqueletogigante.jpg)

ภาพเขื่อนกั้นดินและคนที่ยืนอยู่ทางด้านซ้าย อยู่ในตำแหน่งเดียวกันเป๊ะเลย

 ;)

http://www.rationalistinternational.net/article/20041001_en.html

ภาพประเภทนี้มีอีกเยอะ

http://www.youtube.com/watch?v=3JLg-J_iyuU

(http://www.hoax-slayer.com/images/giant-skeleton-2.jpg)

(http://www.hoax-slayer.com/images/giant-skeleton3.jpg)

(http://www.hoax-slayer.com/images/giant-skeleton4.jpg)


โครงกระดูกนางเงือกยังทำได้เลย

คุณเพ็นโนไม่ยอมร่วมมือด้วยเลย  ;D
หาหมายักษ์มาฝากค่ะ

หมายักษ์ของคุณเทาชมพูฤๅจะสู้เจ้าตัวนี้ (จริงเท็จไม่ว่ากันนะ)  ;D

ตัวนี้น่าจะมีที่นั่งบนหลัง กว้างกว่านะคะ :)

เจ้าตัวนี้ก็มีที่นั่งบนหลังกว้างเหมือนกันนะ   ;)

เดิมน่ะได้ความรู้ แต่ตอนนี้ได้ความสนุกบวกความงงงวย เพิ่มเข้ามาด้วย มีอะไรจะเล่าให้ฟังครับ หลานสาว(ตอนนี้อยู่ ป.2 )ตอนเขาอยู่อนุบาล3 ทุกเย็นเขาจะขอให้ปู่เล่าเรื่อง"สัตว์ประหลาด" ปูก็ต้องคิดสรรหาเรื่องมาให้เข้าฟังเพราะเขาจะชอบมาก ฟังอย่างมีความสุข จินตนาการตามที่ปู่เล่า ซักไซ้ไล่เลียง ตอนนี้ให้เขาอ่านจากที่ท่านทั้งหลายแสดงไว้นี่ คำถามของเขาคือ"จริงหรือปล่าวปู่" เมื่อวานต้องอธิบายอยู่นาน เพราะฉะนั้นกรุณาเฉลยไว้(ให้ปู่ทราบ)ด้วยนะครับผม
มานิต

อย่างที่เคยว่าไว้


ม้ายักษ์ # ๑๗๔ ตอนนี้ตัวเล็กแค่นี้เอง
  
(http://images.icnetwork.co.uk/upl/nejournal/feb2009/7/9/651FF80D-D535-FBD9-6714328109998E70.jpg)

ตัวจริงใหญ่ยักษ์อย่างในรูปยังไม่ได้ลงมือสร้าง

สนามที่เห็นก็ยังว่างเปล่า

(http://images.mirror.co.uk/upl/m4/feb2009/0/8/614BF1FF-F306-1479-C9B6D59B4A003262.jpg)

http://en.wikipedia.org/wiki/The_White_Horse_at_Ebbsfleet

ฝรั่ง (อังกฤษ) เขาก็ชอบสร้างอะไรใหญ่ ๆ ประเภทนี้เหมือนกันเนอะ

 ;D

ภาพสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ทั้งหลายที่โพสโดยคุณเพ็ญชมพูและดิฉัน   ขอให้คุณมานิตอธิบายให้หลานสาวฟัง ว่าเป็นภาพตัดต่อทั้งนั้นค่ะ   
ถ้าเป็นภาพจริงจะมีคำอธิบายประกอบ  ให้รู้ว่าเป็นภาพของจริง
เอากระต่ายยักษ์ มาฝากหนึ่งตัว

เช้านี้ดูรายการข่าวของคุณสรยุทธ์เห็นพูดถึงแมลงหน้าคนที่พบที่ลำปาง

(http://2.bp.blogspot.com/_dkTqO8pKLuU/SQpxs2ni3kI/AAAAAAAACyY/GeNJbePOiUI/s1600/bug.jpg)

รายละเอียดของข่าว

http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=97265

เห็นคุณสรยุทธ์ถามว่า มันคืออะไร

ขอตอบในเรือนไทยก่อน เผื่อหลานคุณปู่มานิตจะได้อ่านด้วย

แมลงชนิดนี้มีกระจายอยู่ทั่วไปในจังหวัดทางภาคเหนือ อีสาน และภาคตะวันออก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Catacanthus incarnatus (Drury) ใน พิพิธภัณฑ์แมลง กรมวิชาการเกษตร มีแมลงชนิดนี้อยู่ ๒๓ ตัว ตัวแรกจับในกรุงเทพมหานครนี้เองเมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๔๗๕

http://www.dnp.go.th/FOREMIC/WEB%20SITE2/insect2/news5.php

เคยเอารูปมาเป็นแบบในแสตมป์แล้วเสียด้วยซ้ำ

(http://www.bloggang.com/data/embracingislam/picture/1171806075.jpg)

ภาพแมลงตัวนี้อยู่ในแสตมป์ราคา ๒ บาท

ยังมีแมลงหน้าคนอยู่อีกหลายชนิด

(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb53.webshots.com-42036-2912595530104237032S600x600Q85.preview.jpg)

(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb06.webshots.com-21445-2373022790104237032S600x600Q85.preview.jpg)

(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb17.webshots.com-19600-2824274570104237032S600x600Q85.preview.jpg)

http://www.environmentalgraffiti.com/featured/7-man-faced-bugs/3236

ธรรมชาติมักมีอะไรแปลก ๆ ให้เราดูอยู่เสมอ

 ;D





 

เช้านี้มีข่าวสัตว์ประหลาดถึง ๒ ข่าว

อีกข่าวหนึ่ง จาก ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/region/88023

เมื่อวันที่ ๗ มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านเลขที่ ๑๘ หมู่ ๘ บ้านวังสามหาบ ต.เทพคีรี อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู หลังจากที่มีข่าวลือว่าพบสัตว์ประหลาดที่ตกใส่หลังคาชาวบ้านเมื่อเดินทางไปถึงพบชาวบ้านนับร้อยคนกำลังมุงดูซากสัตว์ ที่มีลักษณะเหมือนค้างคาว ลำตัวขนาดเท่าลูกแมว ไม่มีขนไม่มีปีก ใบหูตั้งกาง มีเขี้ยวแหลม มีสี่ขา มีหาง อุ้งเท้า และขาหมือนสุนัข โดยนางฉวีวรรณ อัฒสุวรรณ อายุ ๕๑ ปี ได้นำซากสัตว์ไปวางไว้ในถาดพลาสติกสีส้ม ปูผ้ารอง วางอยู่บนแคร่ ชาวบ้านที่พากันมามุงดูต่างนำดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้ขอหวยกันเต็มลานบ้าน

นายไวพจน์ หิมารัตน์ ปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภูดู โดยนายไวพจน์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ไปเห็นด้วยตา และจากภาพคาดว่าน่าจะเป็นสุนัขตัวเล็กแบบกระเป๋าที่คนชอบเลี้ยง และอาจจะปืนขึ้นบนหลังคาบ้านแล้วถูกฝนพายุที่ตกหนักผลัดตกลงมาเลยอาจทำให้เสียชีวิตก็เป็นไปได้ แต่ทั้งนี้เท่าที่สอบถามข้อมูลเบื้องต้นยังไม่มีใครแสดงตนเป็นเจ้าของสัตว์ประหลาดดังกล่าว ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

คุณเทาชมพู คุณมานิต และคุณหลาน คิดว่ามันคืออะไร

สุนัข หรือ สัตว์ประหลาด

 ;)

ตั้งกระทู้สัตว์ประหลาดเข้ากระทู้เดียว   คุณเพ็ญชมพูเห็นดิฉันเป็นผู้ชันสูตรสัตว์ประหลาดไปแล้ว
เห็นรูป  นึกถึงค้างคาวค่ะ

ถึงเวลาเฉลยคำตอบ

แมวพันธุ์สฟิงซ์  http://en.wikipedia.org/wiki/Sphynx_(cat) (http://en.wikipedia.org/wiki/Sphynx_(cat))

(http://122.155.0.199/jabchai/images_joke/10626/10626-11.jpg)

บางครั้งใคร ๆ ก็เรียกแมวพันธุ์นี้ว่า “ แมวไม่มีขน ” แม้ว่าที่จริงแล้วมันมีขนปกคลุมอยู่บาง ๆ โดยจะเห็นได้ชัดเจนบริเวณปลายลำตัวทั้ง ๒ ข้าง แมวไม่มีขนตัวแรกปรากฏขึ้นที่แคนาดา ใน พ.ศ. ๒๕๐๙ และต่อมาจึงได้กลายเป็นแมวพันธุ์หนึ่ง โดยใช้แมวขนสั้นของอเมริกามาผสม แต่สมาคมผู้เลี้ยงแมวส่วนใหญ่ก็ยังไม่ยอมรับแมวพันธุ์นี้เนื่องจากเชื่อกันว่าการที่ไม่มีขนอาจทำให้เกิดอันตรายต่อแมวได้ และไม่ได้เป็นลักษณะเฉพาะคล้ายกับการกลายพันธุ์ นอกจากนี้การไม่มีขนอาจทำให้แมวอ่อนแอเปราะบางต่อความหนาวเย็นและอากาศร้อน

http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=10626

คุณเทาว่าน่ารักหรือน่ากลัว

 ;)

ไม่น่ารัก  ไม่น่ากลัว   และไม่น่าเลี้ยง

แอบไปฟังคนพันทิปเขาคุยกันเรื่องนี้

##ตื่น! สัตว์ประหลาด ตกใส่หลังคาบ้าน##
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9341581/X9341581.html

ชักฮอตแล้ว

 ;)

โถ้ อาจารย์อยู่เมืองไทยเลี้ยงสัตว์ประหลาดไม่ยากอย่างเมืองนอกนะครับ

เมืองไทยเขาเลี้ยงด้วยควันธูปควันเทียน ใกล้กลางเดือนกะปลายเดือน ก็จะระคายผิวหน่อย เพราะเขาจะเอาแป้งมาทาถูทาถูครับ  ;)

แล้วงวดนี้มีอะไรเด็ดหรือยังครับจารย์  ;D

ตอนนี้เด็กหญิง กอบัว ยังไม่กลับ เดื๋ยวปู่ต้อง"ถ่อสังขาร"ไปรับ จุดที่น่าคิดคือ แมวพันธ์นี้มีเลี้ยงแถวๆโน้นหรือ หรือว่าลมโทร์นาโด หอบขึ้นฟ้ามาจากเมืองไกล แล้วมาปล่อยตกแถวเมืองไทย ครับผม (ป.ล.ท่านเพ็ญชมพูสงสัยไม่ใช่สีเทาแต่เป็นสีเหลืองใช่ใหม ครับผม)
มานิต

ไปหาคลิปวิดีโอแมวสฟิงซ์ ที่คิดว่าหน้าตาพอจะดูได้กว่าที่อื่น มาฝากหนูกอบัวของคุณมานิต   ถ้าเธออยากเลี้ยง   ก็บอกว่าแมวไทยเราสวยกว่า  และราคาถูกกว่าแยะค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=JXhfroM_VQA&feature=related

ไม่รู้ว่าเจ้าแมวสฟิงซ์พลัดไปได้ยังไงถึงหนองบัวลำภู    แต่เจ้าของคงอยู่แถวๆนั้นแหละ

ท่านมานิตคิดไปไกลถึงทอร์นาโด สีเทา สีเหลือง เชียว

สีชมพูเดียวกันกับท่านมานิตนั่นแหละ   ;)

ป.ล. ราคาแมวพันธุ์นี้ที่เมืองนอกเบาะ ๆ ตัวละ ๕๐๐ - ๑,๐๐๐ เหรียญ เชียวนา แพงไม่ใช่เล่น

http://www.terrific-cats.com/for-sale/sphynx.asp

เห็นหน้าแมวสฟิงซ์แล้ว    นึกไม่ออกว่าจะหาสัตว์ประหลาดอะไรมาเล่าได้อีก
คงต้องยอมให้คุณเพ็ญชมพูเธอสปีดขึ้นหน้าไปคนเดียว

กระทู้จากพันทิปที่เดี้ยงไปเรียบร้อยแล้ว ใน # ๑๘๔ มีความเห็นหนึ่งกล่าวถึงสัตว์ประหลาดของญี่ปุ่นตัวหนึ่งชื่อว่า "ไรจู" http://en.wikipedia.org/wiki/Raij%C5%AB  มีรูปร่างคล้ายสุนัขหรือแมว ซึ่งเชื่อว่ามาพร้อมกับฟ้าแลบและฟ้าร้อง

เรื่องสัตว์ที่หล่นมาจากท้องฟ้าในญี่ปุ่นเชื่อว่าคือเจ้าไรจูนี่เอง เคยพบหลายครั้งทั้งที่ตายแล้วและมีชีวิตอยู่

มีซากของเจ้าไรจู ๒ ตัวเก็บรักษาไว้ที่วัด Yuzanji และ วัด Saishoji


ตัวแรกที่วัด  Yuzanji

(http://www.pinktentacle.com/images/monster_mummy_7.jpg)

อีกตััวหนึ่งที่วัด Saishoji

(http://www.pinktentacle.com/images/raiju_6.jpg)


รายละเอียดเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งก์ข้างล่างนี้

http://www.cryptomundo.com/cryptozoo-news/raiju/


เจ้าแมวสฟิงซ์ที่หนองบัวลำภูตัวนี้ก็มาพร้อมพายุฝนเหมือนกัน

ถ้าเป็นที่ญีุ่ปุ่น ชาวบ้านคงนึกถึงเจ้าไรจูก่อนเพื่อน

 ;D

เพิ่งขึ้นไปสำรวจกระทู้ดังกล่าวปรากฏว่าซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว  

ความคิดเห็นที่ ๕ ของคุณ =Por=  มีว่า

ถ้าสมมุติว่าเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดเป็นความจริง เรื่องมันจะไปตรงกับตำนานของญี่ปุ่น ซึ่งตัวนี้จะเรียกว่า ไรจู ครับ แต่ถ้าเรื่องนี้โกหก มันก็คือแมวต้มแห่งเวียดนาม

ในสมัยเอโดะผู้คนเชื่อว่าตัวไรจูทำให้เกิดฟ้าผ่า มีบันทึกไว้มีไรจูตัวหนึ่งตกมาจากฟ้าตอนเกิดพายุหนัก ซึ่ง ใน Volume 2 of Kasshi Yawa ("Tales of the Night of the Rat") หนังสือเกี่ยวกับชีวิตสมัยเอโดะ เขียนว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แถมยังเล่าเรื่องที่ว่า มีสัตว์ตระกูลเดียวกับแมวตกลงมาใส่หลังคาบ้านแห่งหนึ่งช่วงฝนตกฟ้าคะนอง และถูกเอาไปต้มกิน


น้องหนูกอบัวหลานท่านมานิตอาจจะรู้จักเจ้าไรจู (Raijū) ตัวนี้ดี

ในนามไรชู (Raichu) จากเรื่องการ์ตูนญีุ่ปุ่นเรื่องโปเกมอน (Pokémon)

(http://pokemon.neoseeker.com/w/i/pokemon/4/42/Raichu.PNG)

และนี่ก็คือ ไรชู ผู้หล่นมาบนหลังคาบ้าน  :D

(http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9341581/X9341581-38.jpg)

เจ้าไรชูตัวนี้หน้าตาเหมือนหนู ออกมาในแนวน่ารักเอาใจเด็ก ๆ

น้องกอบัวชอบหรือเปล่า

 ;D

สัตว์ที่ตกลงมาพร้อมกับฝนนี้เคยมีรายงานตั้งแต่ ปลา, กบ, เขียด, คางคก, เต่า, งู หรือแม้เต่ หนอน

http://creatures.igetweb.com/index.php?mo=3&art=162782

ฝนปลา - ออสเตรเลีย ๒๕๓๒

(http://syukranview.files.wordpress.com/2010/03/rare-weather-events-nonaqueous-rain.jpg?)

ฝนปลาและกบ - ญี่ปุ่น ๒๕๕๒

(http://syukranview.files.wordpress.com/2010/03/tadpole-rain_4336.jpg?w=462&h=475)

(http://www.pinktentacle.com/images/tadpole_rain_22.jpg)


แต่เรื่องแมวและสุนัขหล่นจากมาจากท้องฟ้าพร้อมสายฝนนี้ยังไม่เคยมีรายงานเป็นทางการมาก่อน

แต่มีร่องรอยอยู่ในสำนวนฝรั่งที่ว่า "Raining cats and dogs"

ฤๅว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นจริง ๆ ?

(http://www.cartoonstock.com/newscartoons/cartoonists/bbr/lowres/bbrn6l.jpg)

 ???   ???

เมื่อ ๔ ปีที่แล้ว ที่เมืองไทยเราก็มีข่าวเรื่องตัวประหลาดหล่นลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับสายฝนให้ฮือฮากัน

ข่าวจากเดลินิวส์ฉบับวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๙

ฮือฮาตัวประหลาดตกจากฟากฟ้าขณะพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง เรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นตุ๊บลงข้างบ้าน ตื่นเช้ามาพบเคลื่อนที่จากจุดที่ตกมาอยู่หน้าบันไดบ้าน ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายหนอนขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ สีขาวขุ่นมีแกนคล้ายน้ำแข็งอยู่ภายใน สุดประหลาดพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้น เจ้าของเชื่อให้โชคลาภจุดธูปบูชา ขณะที่ชาวบ้านแห่ดูพูดเป็นเสียงเดียวกันเกิดมาเพิ่งจะเคยเห็น

เมื่อเวลา ๑๖.๐๐ น. วันที่ ๑๑ พ.ค. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบวัตถุลึกลับคล้ายเป็นสิ่งมีชีวิตตกลงมาจากฟ้า ที่บ้านเลขที่ ๑๓๑/๑ หมู่ ๓ บ้านชายเขา ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงพบว่าชาวบ้านจำนวนมากพากันมามุงดูวัตถุประหลาดดังกล่าว ซึ่งนางกฤษณา มะโนมั่น อายุ ๓๙ ปี เจ้าของบ้าน นำมาใส่ไว้ในโหลแล้วนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชา โดยชาวบ้านที่มาดูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเห็นมาก่อน และต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา

นางกฤษณา ซึ่งมีอาชีพค้าขายเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนวันที่ ๑๐ พ.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนพัดตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ขณะนั้นนายถวิล จันจินดา อายุ ๕๖ ปี พี่ชาย และนางตะเคียน ทวีเขตกิจ อายุ ๖๒ ปี เพื่อนบ้าน ที่มานอนเป็นเพื่อนเนื่องจากไฟฟ้าดับ เห็นมีวัตถุลึกลับมีลักษณะเป็นแสงคล้ายผีพุ่งไต้ ตกลงมาจากฟ้า โดยผ่านมาทางเทือกเขาปลาร้าที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ ๑ กม. มาตกที่ข้างบ้านเสียงดังตุ๊บ แต่ทั้งสองคนไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นลูกเห็บ

กระทั่งรุ่งเช้าตนตื่นขึ้นมาเก็บกวาดบ้าน ก็พบวัตถุประหลาดดังกล่าวตรงบันไดหน้าบ้าน ห่างจากจุดที่ตกประมาณ ๕ เมตร โดยมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่น คล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ ๒ จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหู มีขนาดเท่าฝ่ามือ ตนจึงนำมาใส่ไว้ในขวดโหลพร้อมกับเติมน้ำเข้าไป

จากการสังเกตดูวัตถุประหลาดที่คล้ายสิ่งมีชีวิตนี้ พบว่าหากจับไว้ในมือลำตัวจะหดลง แต่หากปล่อยทิ้งไว้ในขวดโหล ลำตัวก็จะพองโตออกมากกว่าเดิม และบางครั้งมองดูคล้ายมีสีรุ้ง ตนไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร เพราะตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็เพิ่งจะเคยเห็น อย่างไรก็ตามตนจะเก็บไว้บูชา เพราะเชื่อว่าจะให้โชคลาภและหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังข่าวพบตัวประหลาดนี้แพร่สะพัดออกไป ได้มีชาวบ้านหลั่งไหลกันมาขอดูแทบไม่ขาดสาย ซึ่งจะได้ติดต่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบต่อไปว่าตัวประหลาดนี้คืออะไรกันแน่

(http://www.vcharkarn.com/uploads/13/13099.jpg)

ยังจำได้ไหม เ่จ้าตัวประหลาดนี้คืออะไรเอ่ย ?

 ;D

จำได้ว่าเป็นญาติสปีชี่ส์เดียวกับรูปข้างล่างนี้ละค่ะ :)

สัตว์ประหลาดที่เคยเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วอเมริกา ในค.ศ. 1967   คือ Big Foot   ถ่ายไว้ได้โดยโรเจอร์ แพตเตอร์สัน
http://www.youtube.com/watch?v=QrtdL6Jz13Q&feature=related
เพื่อไม่ให้น้องกอบัวสับสน  คุณปู่ช่วยบอกด้วยนะคะว่า บิ๊กฟู้ทที่เห็นนี่ไม่ใช่ของจริง    เป็นเรื่องหลอกกัน

(http://www.vcharkarn.com/uploads/33/33084.jpg)

คุณเทาชมพูความจำดี

แต่เหนือของเทียมยังมีของแท้

ยังมีสัตว์ประเภททากทะเลอยู่ชนิดหนึ่งชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cliopsis krohni Troschel, 1854 หน้าตาเหมือนเ่จ้าสัตว์ประหลาดเทียมของเราเลย

สัตว์ประหลาดเทียม (แผ่นเจลลดไข้บวมน้ำ)

(http://www.vcharkarn.com/uploads/33/33081.jpg)

สัตว์ประหลาดแท้ (ทากทะเล Cliopsis)

(http://www.vcharkarn.com/uploads/33/33080.jpg)

เรื่องราวของเจ้าทากทะเลตัวนี้เป็นอย่างไร หาอ่านได้ข้างล่าง

http://jellieszone.com/cliopsis.htm

 ;D

ถึงเแม้คุณตีนโตของแพตเตอร์สันจะเป็นของเทียม

แ่ต่คุณตีนโตในอเมริกาเหนือ (Bigfoot -Sasquatch) กับ เยติ (YETI) ในเอเซีย (แถว ๆ เนปาลและทิเบต) อาจมีจริงก็ได้

มีทฤษฎีหนึ่ง (The Bigfoot-Giganto Theory) กล่าวว่าอาจจะเป็นลิงยักษ์  Gigantopithecus ที่เคยพูดถึง

http://www.bfro.net/ref/theories/mjm/whatrtha.asp


(http://www.bfro.net/images/lineupWeb_v4_1231.jpg)


สุดท้ายเป็นการ์ตูนคุณตีนโต ฝากให้น้องกอบัว (คุณปู่ช่วยแปลให้ด้วย)

(http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9303288/A9303288-0.gif)

 ;D

ความเป็นไปได้ของเยติ กับซัสควอทช์  ต่างกันตรงที่ว่า เยติมีคำเล่าลือว่าอาศัยอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย อากาศหนาวจัด และบางส่วนก็ยังไกลสำรวจ    พอจะเป็นได้ว่ามีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ได้ โดยผู้คนภายนอกไม่รู้

ส่วนคุณตีนโตซัสควอทช์นั้น ถ้าอาศัยอยู่แถวอเมริกาเหนือหรือข้ามแดนไปแคนาดา   คงมีคนจับภาพจริงและหาตัวได้เสียนานแล้ว     ประเทศเจริญทางเทคโนโลยีอย่างอเมริกาและแคนาดา  ส่องกล้องมองเห็นกันทุกซอกทุกมุม  อย่าว่าแต่สัตว์ประหลาด แม้แต่ผี  เขาก็หากันเจอว่ามีในบ้านไหนบ้าง

อ่านเรื่องมนุษย์วานรของอเมริกาได้ที่นี่ค่ะ
http://home.clara.net/rfthomas/papers/kopas.html

ป.ล. รูปนี้ไม่จริงนะคะ คุณมานิต 
ตั้งแต่รู้ว่าหนูกอบัวตามอ่านกับคุณปู่   เลยเริ่มเกร็งไปหมดทุกภาพ

เนสซี่เพื่อนรัก

     เห็นรูปที่เพื่อนกำลังเล่นน้ำกับคุณซัสควอทช์แล้ว นึกถึงตอนที่เพื่อนมาเล่นน้ำกับเราที่เสียมเรียบ ดูมีความสุขกันดีจริงนะ  คุณซัสควอทช์เล่นมาพักผ่อนที่สก๊อตแลนด์  พวกมะกันเขาเลยส่องกล้องมองไม่เห็นกัน

                                                                        คิดถึงเสมอ

                                                                          เพ็นโน

                                   (http://deusexeverriculum.files.wordpress.com/2010/04/god-still-not-real.jpg?w=450&h=300)

                                                                    ;D  ;D  ;D

              เคยอ่านเรื่อง สัตว์และ น้ำแข็งที่ตกลงมาจากฟากฟ้า ครับ

            กรณีสัตว์นั้นจะมากับพายุฝน และอธิบายว่าเป็นผลจากพายุหมุน tornado หรือ
พายุงวงช้าง waterspout ที่โกยเอาสัตว์เหล่านั้นขึ้นไปแล้วโปรยลงมากับสายฝน

เมื่อเร็วๆ นี้ (มี.ค. ๕๓) ก็มีข่าวเหตุการณ์นี้ที่ออสเตรเลีย

     Lajamanu, a small community in the Northern Territory of Australia,
has experienced a “rain of fishes.”  Hundreds of spangled perch, some frozen,
some still alive, fell from the sky onto the desert community.

            กรณี น้ำแข็ง Megacryometeors ซึ่งปรากฏเป็นข่าวในหลายแห่ง

            เนื่องจากเหตุการณ์เกิดในวันฟ้าใส จึงตัด ลูกเห็บ ออกไป เพราะลูกเห็บจะเกิดจากพายุเมฆฝน

                    ส่วนที่มานั้น มีความเห็นหลักสองอย่าง คือ

            นักวิทยาศาสตร์บางคนบอกว่าเกิดจาก ผลึกน้ำแข็งซึ่งเกาะตัวรวมกันจนเป็นก้อนโตในชั้นบรรยากาศ
            จากการตรวจส่วนประกอบของน้ำในก้อนนั้นพบว่าเป็นตรงกับน้ำฝนที่มาจากชั้น troposphere
          ภาวะ turbulence ในชั้นบรรยากาศ จะพัดพาผลึกน้ำแข็งผ่านไอน้ำซ้ำไปมาจนพอกตัวหนาขึ้น
เป็นก้อนน้ำแข็ง
             ผลจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศโลก จะเพิ่มปริมาณไอน้ำและ turbulence ในชั้นบนของ
troposphere ทำให้ปรากฏการณ์ก้อนน้ำแข็งหล่นนี้เกิดบ่อยขึ้น
       
            อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องการการศึกษาค้นคว้าต่อไป ในขณะที่ยังไม่มีแบบจำลองทางภูมิฟิสิคส์
ที่สามารถอธิบายปัจจัย และขบวนการเกิดได้ดีพอ

และ       จากบางรายงานที่บอกว่ามีวัตถุคนใช้แล้วทิ้งฝังอยู่ในก้อนน้ำแข็งนั้นด้วย ทำให้หลายคนเชื่อว่าเป็น
            น้ำรั่ว หรือน้ำทิ้งจากเครื่องบิน (ซึ่งมีข้อแย้งว่า มีบันทึกการเกิดก้อนน้ำแข็งนี้ในอดีตก่อนมีเครื่องบิน)

Megacryometeors

ข่าวสดออนไลน์   ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๓

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJMk9ESTVNamsxTlE9PQ==

สระบุรีตื่นน้ำแข็งยักษ์ตกจากฟ้า ทะลุหลังคารูโบ๋

เมื่อเวลาประมาณ ๐๘.๕๐ น. วันที่ ๑๑ มี.ค. ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี รายงานว่า นายณรงค์ สุดสาระ อายุ ๔๖ ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๙ ต.บ้านครัว อยู่บ้านเลขที่ ๒๘/๓ หมู่ ๙ ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี กำลังดูแล ลูกน้องเป็นคนงานบรรจุไม้ตะเกียบ ปรากฏว่าได้ยินเสียงดังโครมใหญ่บนหลังคาโกดังเป็นหลังคากระเบื้อง ทะลุเป็นรูโบ๋ มีวัตถุก้อนใหญ่คล้ายก้อนน้ำแข็งยักษ์ตกลงมาถูกกระจกหน้ารถกระบะอีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน บฉ ๑๒๗๒ สระบุรี กระจกหน้ารถแตกร้าว  โดยวัตถุดังกล่าวกระเด็นลื่นไหลไปตามพื้นปูน แตกกระจายออกเป็นสามก้อน เมื่อไปดูพบเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดเขื่องมีเกล็ดหิมะเกาะรอบ ๆ ทั้ง ๆที่บริเวณใกล้เคียงไม่มีโรงงานน้ำแข็งตั้งอยู่ ขณะที่ท้องฟ้าก็โปร่งใส ไม่มีเมฆฝน เมื่อนำมาชั่งน้ำหนักดูปราฏว่ามีน้ำหนักกว่า ๒ กิโลกรัม

นายธวัชชัย เกตุพันธุ์ นายอำเภอบ้านหมอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี มาตรวจที่เกิดเหตุ   สันนิษฐานว่าเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ และหรือวัตถุนี้ตกลงมาจากเครื่องบิน ตามที่เคยมีข่าวปรากฏมาแล้ว  เพราะวัตถุชิ้นนี้ตกลงมาด้วยความเร็วสูง สามารถทำให้หลังคากระเบื้องทะลุ

(http://www.khaosod.co.th/online/2010/03/12682929551268292987.jpg)   (http://www.khaosod.co.th/online/2010/03/12682929551268292994.jpg)


น่าดีใจที่ชาวบ้านเข้าใจปรากฏการณ์ธรรมชาติ

ไม่มีการจุดธูปเทียนบูชา

 ;)

คุณตีนโตดอดไปหาเนสซี่ด้วยเส้นทางไหนหนอ    ทำให้เกิด Megacryometeors รึเปล่า?
 ;D
ตั้งแต่เมื่อวาน  ตามเพื่อนไปเที่ยวเขื่อน    ระหว่างเดินเล่นอยู่ที่ลานลั่นทม ที่วัดพ่อขุนเณร    ก็ไปเจอตัวอะไรตัวหนึ่งไต่อยู่ที่โคนต้น  เพื่อนบอกว่ามันเพิ่งออกทีวีไปหยกๆ
เห็นแล้วนึกถึงคุณเพ็ญชมพู (มิใช่ว่าละม้ายด้านหน้าตานะคะ   อย่าเพิ่งเข้าใจผิด  ยังไงเธอก็ต้องสวยกว่าแน่ๆ )
แต่เป็นเพราะอนุโลมเข้าประเภทสัตว์ประหลาด  ก็เลยเก็บภาพมาฝากเธอ  ไม่รู้ว่าชื่อเผ่าพันธุ์ของมันคืออะไร

ไม่แน่ว่าคุณเทาชมพูอาจค้นพบแมลงสปีชี่ส์ใหม่เข้าให้แล้ว

เป็นแมลงหน้าคนอีกตัวหนึ่ง

อย่างนี้ต้องไปออกรายการคุณสรยุทธ์

 ;D

พวกเดียวกับที่อยู่เชียงใหม่ ค่ะ
http://www.thairath.co.th/content/region/88927
เห็นมันไต่โคนต้นไม้อยู่หลายตัว   มีแนวโน้ม  น่าจะอยู่กันเป็นฝูง

อยากหล่อจ้า..............

 ;) :-X;D

ตัวทางซ้ายที่คุณเทาชมพูส่งเข้าประกวดหล่อดีนะ   ;)


เป็นอันว่าคุณเทาพลาดโอกาสที่จะเป็นผู้ค้นพบแมลงสปีชี่ส์ใหม่แล้ว

เจ้าแมลงตัวนี้ชื่อมวนแดงนุ่น  (Kapok bug) Odontopus nigricornis Stål ในวงศ์ Pyrrhocoridae  พบได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย

(http://pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9356822/X9356822-6.jpg)

อีกตัวหนึ่งลักษณะคล้าย ๆ กัน แต่คนละสี ชื่อมวนแดงฝ้าย (Cotton stainer, Red cotton bug) Dysdercus cingulatus Fabricius อยู่ในวงศ์เดียวกับตัวข้างบน

(http://www.malaeng.com/blog/wp-content/pictures/2007/09/dysdercus-cingulatus.jpg)

http://www.malaeng.com/blog/?cat=108

 ;D :D

ศัตรูพืชใส่สูท 55555

 :(

หล่อพอกันทุกตัวค่ะ  :)

อดตั้งชื่อ Taochompoo bug เลย :(

 ;)

สองภาพนี้ได้มาจาก Images ; Animals that freak you out

ลองเข้าไปดูที่   
http://news.in.msn.com/gallery.aspx?cp-documentid=3425656&page=18


สนุกดี มีปลาแฝดสยามด้วย

คำเตือน?????

เข้าไปเว็บนี้...อันตรายมากสำหรับผู้ขวัญอ่อน

รูปชัดแจ่ว.สีสดใส..........


สยองมาก.....แค่ขู่นะครับ



http://naldzgraphics.net/inspirations/30-most-weirdest-animal-photo-manipulation/

 ;D

สปีชี่ส์นี้ยังไม่มีชื่อ   อาจจะมอบเกียรติให้เพ็นโน

ธรรมชาติเป็นดีไซเนอร์ที่ยิ่งใหญ่เกินมนุษย์   แม้แต่แมลงตัวเล็กๆอย่างตัวนี้  การออกแบบสีสันและลวดลาย ก็ไม่ได้ทำอย่างลวกๆเลย

ควันหลงจากเรื่องแมลงหน้าีคน

เจ้าแมงมุมตัวนี้ Theridion grallator  พบได้ที่ฮาวาย

(http://photography.nationalgeographic.com/staticfiles/NGS/Shared/StaticFiles/Photography/Images/POD/s/spider-guarding-eggs-683251-sw.jpg)

http://photography.nationalgeographic.com/photography/enlarge/spider-guarding-eggs_pod_image.html


มีภาพปริศนามาให้คุณเทาและคุณศรีลองพิจารณาดูสิว่า

มันคืออะไร

(http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9342212/X9342212-0.jpg)

ขอใบ้ว่า เป็นภาพจริง ไม่มีการตกแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น   

;D

 :-\
เคยเห็นในกูเกิ้ล แต่กลับไปหาอีกครั้ง ยังไม่เจอ
ขอหลีกทางให้ท่านอื่นๆค่ะ

เห็นแล้ว...กัว...กัวมากๆไอ้ตัวล่างเนี่ย ...ดำๆนั่น  :Pเฉลยได้เลยครับทายไม่ถูกดอก



 >:( :(

นึกออกแล้ว.โย๊..............

เป็นนกพันธ์หนึ่งครับกำลังสำแดงศักดา.อวดว่าข้าเก่ง..หรือจีบสาว?


คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็น


 8)

         ถ้าจำไม่ผิด เป็นนกชนิดหนึ่งกำลังกางปีก จากรูปจะเห็นขาข้างซ้ายของเจ้านกตัวนี้ ครับ

วันก่อนท่องเน็ทเจอ ปูซามูไร ครับ

             Samurai Crab - Heikea japonica

         ตำนานเล่าว่า ในปี ๑๑๘๕ อันเป็นวาระสิ้นสุดของจักรวรรดิ Heike นั้น พวก Genji
ซึ่งเป็นศัตรูได้บุกจู่โจมโรมรัน จนฝ่าย Heike พ่ายแพ้แต่ไม่ยอมจำนน เหล่าซามูไรต่างเลือกที่
จะยอมตายโดยโจนลงทะเล แล้วกลายเป็นปูซามูไร

          แต่ยังมีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์จากนักชีววิทยา Julian Huxley ที่อธิบายเหตุด้วย กฎการคัดเลือก
คล้ายของดาร์วิน แต่คราวนี้ไม่ใช่ธรรมชาติเลือก (Natural Selection) แต่เป็น มนุษย์ (Artificial Selection)
ผู้เชื่อในโชคลางและตำนานจัดการปล่อยปูที่จับมาได้แต่มีลายคล้ายหน้าคนกลับคืนทะเล ทำให้ปูลักษณะแบบนี้อยู่รอด
ปลอดภัยแล้วถ่ายทอดลักษณะนี้สืบรุ่นต่อรุ่นกันมา

           แต่มีข้อแย้งคือ ปูซามูไรนี้มีขนาดเล็กไปสำหรับการรับประทาน จนชาวประมงเมินที่จะจับมาเพื่อขาย
นอกจากนี้แล้วยังมีปูชนิดอื่นๆ ใน family Dorippidae ที่มองแล้วคล้ายหน้าคนแบบนี้

ลายบนหลังปูซามูไร กับ หน้ากากซามูไรของละครคาบูกิ

ได้ระฆังช่วยจากคุณศิลา แท้ๆ
http://www.maniacworld.com/Strange-Bird-of-Paradise.html

              pareidolia ถูกนำมาใช้อธิบายถึงเหตุการณ์ การเห็นยูเอฟโอ บิ๊กฟูต ล็อคเนส เป็นต้น
และรวมถึงหน้าคนบนหลังปูและสัตว์อื่นๆ ครับ

(บ่ายนี้ส่งความเห็นชนกันกลางอากาศสองครั้งติดกัน - ชนกับอาจารย์และคุณศรีสยาม)   

ขนมปังหน้าคน ที่บางคนบอกว่าเหมือนโอบามา

ขอโทษที  ดีใจที่หารูปเจอค่ะ  เลยรีบส่ง ก่อนครูเพ็ญชมพูจะเข้ามาหักคะแนน
เล่นเอาชนกันกลางอากาศเปรี้ยงใหญ่

เดี๋ยวคุณเพ็นโนเธอก็ส่งสารจากเนสซี่และตีนโตมาประท้วงอีกหรอก  :)

pareidolia ที่คุณศิลาอธิบาย   น่าจะเป็นการอธิบายข่าวประหลาดประเภทหน้าคนโผล่ขึ้นบนเปลือกไม้ (หรือก้อนหิน)  ให้ชาวบ้านแห่กันไปขอหวย   
ตอนตึกเวิร์ลเทรดถูกถล่ม  ก็มีรูปแบบนี้ให้เห็น

Rorschach inkblot test

นาซ่าจับภาพบิ๊กฟูตบนดาวอังคาร ได้ด้วยนะคะ
หลังจากไปเยี่ยมเนสซี่แล้ว    ก็คงเลยไปทัวร์ไกลหน่อย

รูปนี้เป็นรูปนกตัวผู้เกี้ยวตัวเมียอยู่ครับ  คล้ายๆนกหว้าหรือนกยูงจะรำแพนครับ

ดูลีลาได้จาก http://atcloud.com/stories/47599  ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=MMtMHxT5orY

มีสมาชิกเข้ามาตอบปัญหาภาพปริศนากันคับคั่งอย่างครื้นเครง

คะแนนเต็มสิบ


นก - จีบสาว  ไม่มีชื่อนก  -  ๘ คะแนน


นก ชื่ออะไร กำลังทำอะไร ไม่ทราบ - ๗ คะแนน


ดูจากคลิปวิดิโอ นก - Bird of paradise - เกี้ยวสาว หักคะแนนตัวช่วยจากคุณศิลา  ๘ คะแนน


นก - เกี้ยวตัวเมีย  ไม่มีชื่อ  ๘ คะแนน

Bird of paradise ถิ่นที่อยู่แถบเกาะนิวกินี มีอยู่หลายสิบพันธุ์  ในรูปคือตัวผู้กำลังเกี้ยวตัวเมีย โดยการแผ่ขนออกมา

http://www.youtube.com/watch?v=7dx2CUMtZ-0&feature=player_embedded

สมาชิกพอใจในคะแนนไหมเอ่ย

 ;D

ที่ว่าหัก ๘ คะแนน คือหักไป ๘ เหลือ ๒  หรือหักแล้วเหลือ ๘ คะ
จะเป็นข้อไหนก็ตาม โหดไป    ขอประท้วงครูเพ็ญชมพู        :'( :'( :'(

ดิฉันเอง   ถ้าคนตอบ อยู่ในห้องเรียนจะให้ ๑๐/๑๐ หมดทุกคน
ถือว่าตอบถูกแล้ว  ถ้าตอบเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่นก ค่อยเหลือ ๙+

           กลับเข้ากระทู้จึงได้พบว่า มีความเห็นหายไป ครับ

           ข้อความนั้นกล่าวถึง Pareidolia        

           มาจากคำ Greek para- ("beside", "with", or "alongside"—meaning, in this context,
something faulty or wrong และ eidolon ("image")

          เป็นปรากฏการณ์หรือขบวนการทางสมองและจิตใจ ที่ส่งผลให้มนุษย์มีแนวโน้มที่จะเห็นสิ่งต่างๆ
เป็นไปตามความคุ้นเคยของตน

            ทำให้เราเห็น พระจันทร์ลายกระต่าย หรือ man in the moon หรือ เมฆรูปสัตว์ เป็นต้น

            แบบทดสอบผู้ป่วยทางจิตวิทยา ที่เรียกว่า Rorschach inkblot test ก็ได้แนวคิดมาจากปรากฏการณ์นี้        

ไม่ได้หายค่ะ   ดิฉันแยกกระทู้ไปตั้งใหม่ให้คุณ SILA  ชื่อ ภาพประหลาด
พอแยกไปกระทู้ใหม่   ระบบก็พาความเห็นจากกระทู้เก่า หายไปด้วย

         ครับ ได้เห็นกระทู้ใหม่ที่อาจารย์ตั้ง พร้อมข้อความนั้น หลังจากที่พิมพ์ข้อความ(อีกครั้ง)ในกระทู้นี้

ภาพประหลาด

            http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3357.msg65408;topicseen#msg65408

งานออกแบบระบายสี  โดยธรรมชาติ
มีตัวไหนบ้าง ที่ฝีมือไม่ประณีต

คุณครูเพ็ญหักคะแนนโหดนัก   บิ๊กฟู้ตเลยรับไม่ได้
http://www.youtube.com/watch?v=UCCWxL0jlPA&feature=channel

เอาละซี เกิดการประท้วงเข้าให้แล้ว ข่าวล่ามาทุ่มห้าสิบเอ็ดเมื่อวาน คุณตีนโตถึงกับปลิดชีพตัวเองประท้วง

เพื่อให้เกิดความปรองดองในกระทู้นี้  จึงขอออกประกาศดังนี้

๑. คุณศรี เพิ่มจาก ๘ คะแนน เป็น ๑๐ คะแนน

๒. คุณศิลา เพิ่มจาก ๗ คะแนน เป็น ๑๐ คะแนน

๓. คุณเทาชมพู เพิ่มจาก ๘ คะแนน เป็น ๑๐ คะแนน

๔. คุณธีร์ เพิ่มจาก ๘ คะแนน เป็น ๑๐ คะแนน

ทั้งนี้ตั้งแต่ ๙.๑๕ น. วันอังคารที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ เป็นต้นไป

ลงชื่อ

เพ็นโน

ผู้นำเสนอภาพปริศนา

 ;D  ;D  ;D

ดีนะเนี่ย  มาเจอเข้าตอนเก้าโมงครึ่ง   ไม่งั้นขีดเส้นตายแค่สิบโมง
จะเผากระทู้ ประท้วง
เป็นอันว่าจบลงแบบสมานฉันท์     กำลังร่างนิรโทษกรรมให้คุณครูเพ็นโน

กราบขออภัยคุณครูประจำชั้นPennoด้วยความตกใจยิ่งขอรับ :(


ไม่เจตนาเห็นความทุกข์ความน่าสงสารของสัตว์โลกเป็นเรื่องสนุกดอกครับ...........


แต่ที่ว่าสนุกดี.น่าจะหมายถึงท่านพี่ม้าที่มีของแถมจากม้าลายมาด้วยแค่นั้นแหละ...........
หักคะแนนตัวเองดีไหมนี่? ไอ้คุณศรีฯจอมโหด



 ;D

มาพักผ่อนหลังสอบดีกว่าครับ

แมลงสวยด้วยเพชร(น้ำค้าง)

อีกหนึ่ง ครับ

น้องหมาไม่ได้ป่วยด้วยโรคผิวหนังประหลาด แต่เป็น

น้องหมาฝ่าหิมะ

       เจ้า "สุมาตรา"  toyger (<- toy + tiger) ที่ได้รับการจดทะเบียนกับ International Cat Association (TICA)
ในปี 1993 และ เป็นวิฬาร์ดาราเด่นในเวทีประกวดแมวงามเคียงกับสายพันธุ์เปอร์เซีย และ สยาม

         Judy Sudgen เริ่มผสมแมวพันธุ์ใหม่นี้ในปี ๑๙๘๐ และยังจะสร้างสรรค์ผลงานต่อไปเพื่อให้ได้แมว
ที่มีลักษณะคล้ายเสือมากขึ้นไปอีกในอนาคต

ตามรอยบรรพบุรุษวิฬาร์ทอยเกอร์

แมวลายเสือ  น่ารักกว่าชนิดไม่มีขน หล่นลงบนหลังคา หลายเท่า    แต่ไม่รู้ว่าใครแพงกว่ากัน
เคยเห็นแมวลายเสือ  ก็แมวไทยตามบ้านนี่ละ  สีส้มๆ  ไม่เห็นจะต้องผสมกันใหม่ให้ยุ่งยาก
เลยไม่รู้ว่าเจ้าพันธุ์ใหม่แตกต่างยังไงค่ะ   

แยกกระทู้สัตว์สีชมพูไปเป็นกระทู้ใหม่แล้วนะคะ คุณเพ็นโน

เมื่อคุณเทาชมพูแยกกระทู้สัตว์สีชมพูไปเป็นกระทู้ใหม่แล้ว เผอิญมีเรื่องแมวลายเสือของคุณศิลาติดไปด้วย

ขออนุญาตคืนพื้นที่ให้แมวลายเสือ

 ;D

กำลังคิดอยู่ว่าทำยังไงจะเอาแมวลายเสือของคุณศิลากลับมากระทู้เดิมได้    เพราะขั้นตอนมันยุ่งยาก
ต้อง copy ข้อความกลับมา paste   แล้วกลับไปเซฟรูป    เอากลับมาใส่ตามเดิม อีก
เลยยังไม่ได้ทำ
มาเห็นวิธีคุณเพ็ญแล้ว จึงเพิ่งนึกออก  ขอบคุณมากค่ะ จะจำไว้เป็นแนวทางต่อไป เวลาแยกกระทู้

สัตว์ประหลาดที่น่าสงสาร จากเหตุการณ์น่าวิตก

สถานที่ - East Grand Terre Island แถบ Louisiana coast

เหตุการณ์น่าวิตก - Gulf of Mexico oil spill

สัตว์ที่น่าสงสาร -

ก่อนอื่นต้องขอประทานโทษที่หายหน้าไป ไปทำมาหาเลี้ยงหลานครับผม ตอนนี้กอบัวนั่งอยู่ด้วย เดี๋ยวเธอจะเลือกรูปที่จะส่งไปเอง พอเปิดอ่านคำถามแรกคือ ขวัญอ่อน คืออะไร คะปู่ ขอตอบแค่นี้ก่อนนะ ครับผม  :P :P :P :P :P
กอบัว ค่ะ

เปิดพจนานุกรมตอบหนูกอบัวเลย

ขวัญอ่อน - เรียกผู้ตกใจง่ายคือเด็กหรือหญิงซึ่งมักจะขวัญหายบ่อย ๆ ว่า ขวัญอ่อน.

หนูกอบัวขวัญอ่อนหรือเปล่าจ้ะ

ถ้าขวัญอ่อน วานคุณปู่ช่วยกรองภาพบางภาพด้วย โดยเฉพาะเรื่อง "ฝาแฝดสยาม" กับ "อัตวินิบาตกรรมของคุณตีนโต"

 ;)

มีคำตอบสำหรับรูปนี้แล้ว


Montauk Monster

(http://www.cryptomundo.com/wp-content/uploads/untitled-2.jpg)

bald raccoon

(http://www.cryptomundo.com/wp-content/uploads/c38e44a2413fa8d76817efdee505.jpeg)

http://www.cryptomundo.com/cryptozoo-news/bald-raccoon/


คุณปู่มานิตช่วยอธิบายน้องกอบัวให้เข้าใจด้วย

 ;D

ภาพปริศนา

คุณเทา คุณศิลา คุณศรี ดูทีรึ

มันคืออะไร

(http://images.stanzapub.com/readers/scienceray/2008/07/01/201653_19.jpg)

มนุษย์กบ หรือ มนุษย์ต่างดาว

 ;D

รูปนี้ ดิฉันเคยเอาลงตอนต้นๆกระทู้แล้วนี่นา

โอ๊ะ...โอ่  อย่างนี้เขาเรียกว่า ได้หน้าแล้วลืมหลัง

ถือเสียว่าคุณเทาได้ตอบภาพปริศนานี้ล่วงหน้าไว้ก็แล้วกัน   ;D


เจ้า Axoloti นี้ เป็นซาลามานเดอร์ชนิดหนึ่ง ถิ่นกำเนิดอยู่ในเม็กซิโก

http://www.youtube.com/watch?v=ujcNvwe0WpM

บางคนก็เรียกเจ้านี่ว่า หมาน้ำ บางคนก็เรียกว่า จิ้งจกน้ำ

แต่ดูจากรูปเหมือนจิ้งจกน้ำมากกว่า

 ;)

 ;D ;D ;D

ตอบก่อนถามได้ด้วย...........


ฮืๆๆๆ

ถามไม่ตรงคำตอบก็ได้ด้วยค่ะ  ;)

เอากบตัวใสมาให้หนูกอบัวดู    มันชื่อ Glass frog กบกระจก?   น่าจะอยู่รวมกับจิ้งจกน้ำของคุณเพ็ญชมพูได้

หมาม็อบถูเรือน  มีชื่อว่า Komondor dog  เห็นแล้วไม่กล้าเลี้ยง    วันๆ อาบน้ำสางขนให้มันอย่างเดียว  ก็คงไม่มีเวลาเข้าเรือนไทยอีก

งั้นเลี้ยงพันธุ์นี้ดีกว่า

http://en.wikipedia.org/wiki/Chinese_Crested_Dog

(http://www.unicorn-chinese-cresteds.com/front.jpg)

พวกผมไม่ได้เป็นโรคเรื้อนนะครับ

เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิด

 ;D

มอบพันธุ์นี้ให้คุณเพ็ญชมพู ตอบแทน   สีชมพูตามสเป๊คคุณเพ็ญเสียด้วยค่ะ  :)
ไม่รู้ว่าพันธุ์ไหน  แม้แต่เป็นหมาหรือแมว ก็ไม่แน่ใจ

ยังจำได้ไหม ถึงแมวพันธุ์หนึ่ง ซึ่งคุณเคยบอกว่า


 ;D

อ้าว  จำไม่ได้ว่าเป็นตัวเดียวกับสัตว์ประหลาดตกจากฟ้ามาบนหลังคาบ้าน   เห็นรูปที่ไปเอามา เขียนว่า rat dog, rat cat  เลยไม่รู้ว่าตัวอะไรกันแน่

ขออนุญาตส่งแม่ลูกคู่นี้เข้าประกวดครับ.............ของแท้-ไม่ตัดต่อDNA................ ;) ;D


ใครอย่ามากล่าวหาว่าเป็นมะละกอดิบเชียว...โกรธตายเลย!



 >:(

ส่งสองแม่ลูกไปเรื่อง "ภาพประหลาด" เรียบร้อยแล้ว

ขอบคุณและขออภัยครับ......
แก้ตัวด้วยสุดหล่อนี้.


 ;)

ใครจำสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้บ้าง?

gremlin ครับผม.................ผ่านมาหลายสิบปี.ยังไม่หายสยอง......บรื๊อส์ส์ส์.......... :( >:( :( >:( :(

 :D

กระทู้นี้สนุกจังเลยครับ แต่กว่าจะอธิบายหลานแบบให้เข้าใจ ไม่ใช่จำ นี่ยากกว่าสอนระดับสูงๆเยอะ และความรู้พื้นฐานนี่สอนยากครับ จะบอกไม่ทราบก็ไม่ได้ เพราะจะโดนต่อว่า ว่า หนูไปอวดเพื่อนว่า ปู่เป็นวิศวกรซ่อมได้ทุกอย่าง แค่นี้ไม่รู้ได้ยังไงคะ
มานิต

สอนหลานสนุกออกค่ะ   โตขึ้น  จะได้เก่งเหมือนคุณปู่

เอารูปสัตว์จริงมาฝากหลานสาวคุณมานิต ชื่อ liger  ไลเกอร์ เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแม่เสือกับพ่อสิงโต

ส่วนพ่อเสือ กับแม่สิงโต  ออกลูกมาเป็น tigon  ไทกอน

จับแพะชนแกะ  ออกมาได้ Geep (กี๊พ)  ลูกผสมแพะกับแกะ

กลัวเผลอใจไปตัดต่อพันธุกรรมสัตว์เข้าอีก..............เลยแวะกลับไปที่ตั๊กแตนน่ารักตัวนี้.


ปีกจริงครับ.


ยืนยันโดยไม่ต้องฟันธง ;D

สัตว์ประหลาดของคุณศิลา

จากกระทู้ภาพประหลาด

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3357.90

มีแมลงหน้าคน หน้าผี ก็ไปแล้ว ปูหน้าซามูไร ก็ไปแล้ว

ทีนี้ถึงคิว

ปลาหน้าคน จากเกาหลีใต้ http://en.wikipedia.org/wiki/Human_Face_Fish

(http://www.bountyfishing.com/blog/wp-content/uploads/2008/03/breakthechain-carp.jpg)

(http://inventorspot.com/files/images/int-fish.jpg)

http://www.youtube.com/watch?v=gTVwgvqhwn8

หน้าตาเหมือนคนที่รู้จักบ้างหรือเปล่า

 ;D

ยังอยู่ในน้ำ ครับ

narwhal คือ วาฬขาดกลางที่ตัวผู้มีงายาว อาศัยอยู่แถบขั้วโลกเหนือบริเวณแคนาดาและ
                   กรีนแลนด์ อาร์คติค

              งานี้ที่จริงแล้ว คือ ฟันหน้างอกออกมาจากขากรรไกรบนด้านซ้าย วัดความยาวได้ 2 - 3 เมตร
หน้าที่ของมันอาจเป็นเพียงเครื่องหมายบอกสภาวะเพศผู้ เหมือนกับขนแผงคอของสิงโต หรือหางนกยูงรำแพน
มากกว่าจะใช้เป็นอาวุธหรืออุปกรณ์เจาะแผ่นน้ำแข็ง

           เป็นหนึ่งในสัตว์โลกที่ได้รับผลกระทบจากความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม และเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
เป็นพวกแรกๆ

           ยืนกระต่ายปลาสามขา tripod fish

           อาศัยอยู่ในน้ำลึก ได้ชื่อจากครีบสะโพกและครีบหางที่แข็งและยื่นยาวจนสามารถใช้ยืน
บนพื้นสมุทรอยู่ทั้งวันแทบจะไม่ว่ายไปไหน รอกระแสน้ำพัดพาเหยื่อผ่านมาให้มันใช้ครีบหน้าอก
จับพาเข้าปาก ลำตัวยาวประมาณ 15 นิ้ว

ไต้หวัน พัฒนาวิธีดัดแปลงพันธุกรรมทำให้ได้สัตว์เรืองแสง -

ปลา (ล่าสุดเห็นข่าวปลาเทวดาเรืองแสงจากไต้หวัน)

หมู

ปลามีขาเป็นเรื่องจริงหรือเป่ล่าคะ ???
กอบัวค่ะ

หนูกอบัว เรื่องจริงครับ "ขา" ของเจ้าปลาตัวนี้ก็คือครีบยาวและแข็งแรงใช้ยืนบนพื้นสมุทรได้ 

หนูกอบัวจ๊ะ

มีปลาโบราณอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า http://en.wikipedia.org/wiki/Coelacanth

เจ้าปลาตัวนี้เคยพูดถึงแล้วครั้งหนึ่ง

ยังจำได้ไหมเอ่ย  ;)


เจ้าปลาตัวนี้แหละที่อาจเรียกได้ว่า "มีขา"

(http://www.harunyahya.com/images_books/images_refuted/coel.jpg)

ภาพข้างบนแสดงลักษณะของ "ขา" (ครีบ) ของ Coelacanth ซึ่งมีลักษณะเหมือนขาของสัตว์บก นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมุติฐานว่าเจ้าปลาตัวนี้อาจเป็นรอยต่อระหว่างสัตว์น้ำและสัตว์บกก็ได้

แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะขาของปลา Coelacanth และสัตว์บกก็ยังไม่เหมือนกันทีเดียวนัก

http://www.darwinismrefuted.com/natural_history_1_08.html

 8)

ปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ไม่ใช่สัตว์ประหลาด

แต่พฤติกรรมของมันนี่ซิ ประหลาด

คนที่เชื่อเรื่องนี้ยิ่งประหลาดใหญ่

หมึกพอลบอลโลกทำนายอีกแล้ว เยอรมันพิชิตอาร์เจนติน่า
http://www.suthichaiyoon.com/detail/3915

ผลงานทำนายทีมเยอรมันชนะอังกฤษ

http://www.youtube.com/watch?v=74PWmVHwqPY&feature=player_embedded

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/news/image-102375-galleryV9-llbu.jpg)

ดูแล้วนึกถึงพระโคเสี่ยงทายกินอาหารในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

 ;D

เบื้องหลังการทำนายบอลโลก

หมึกพอลกับแม่หมอ

 ;D

ถ้าพี่หมึกมาเมืองไทย  ป่านนี้คงถูกผูกแพรเจ็ดสี  รมด้วยควันธูปควันเทียน  กลายเป็นปลาหมึกปิ้งไปแล้ว 
เพื่อให้บอกเลขเด็ด

ลองดูเลขเด็ดของพี่หมึกเป็นไร

ซี้ ซี้ ซี้ ซี้

 ;D

ถ้างวดนี้ออกตามนี้จริงๆละก็   ปิดเรือนไทยไปตั้งสำนักแข่งกับพี่หมึก  น่าจะรุ่งกว่า  ;D

ระหว่างติดตามผลงานของหมึกพอล

โปรดชมญาติของหมึกพอล น่ากลัวพิลึก

หมึกแวมไพร์ http://en.wikipedia.org/wiki/Vampire_squid

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=240543

http://www.youtube.com/watch?v=S4YbQKNdCl4  

http://www.youtube.com/watch?v=q5ZQH2Uzpew

(http://l.yimg.com/img.tv.yahoo.com/tv/us/img/site/81/38/0000038138_20070301141656.jpg)

ระวัง ! อย่ามองตานาน เดี๋ยวโดนสะกดจิต

 ;D

เป็นอันว่า คุณพอลพลาดเรื่องเลขเด็ดไปเสียแล้ว

คุณเทาก็ไม่ต้องปิดเรือนไทยไปตั้งสำนักแข่ง

 ;D



http://www.youtube.com/watch?v=fFT4YmQG8co

เอ๊ะ ข้างบนนั่นตัวอะไรเห็นแว่บ ๆ มนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า



อ๋อ เ่จ้าหมึกเอเลี่ยน Magnapinna นี่เอง

http://news.nationalgeographic.com/news/2008/11/081124-giant-squid-magnapinna.html

ฟังเพลงเพราะ ๆ ประกอบลีลาเริงระบำใต้น้ำของคุณเธอได้ ณ บัดนี้   ;D

http://www.youtube.com/watch?v=eaZkn5pA5ts&NR=1


ขนาดของหมึกยักษ์ชนิดต่าง ๆ เมื่อเทียบกับมนุษย์

(http://forgetomori.com/wp-content/uploads/2008/11/squidcompare.png)

จากซ้ายไปขวา  Mesonychoteuthis, Architeuthis, Dosidicus, Taningia, Onykia, Magnapinna, Kondakovia, Galiteuthis, Megalocranchia, Asperoteuthis.

 :D

อดตั้งสำนักใหม่  ว่าจะเปิดกระทู้นี้เป็นบูธหน้าเรือนไทย    ก็ไม่เห็นตัวไหนจะเอามาทำอย่างในรูปข้างล่างได้เลยสักตัว

ตัวนี้เป็นไร

เอามาย่างกินได้ทั้งเรือนไทย

(http://www.thetechherald.com/media/images/200818/Mesonychoteuthis_hamiltoni_2003_1.jpg)

นึกขึ้นมาแล้วน้ำลายไหล

 ;D

หมึกพอลยังดังได้ แล้วไฉนโลมา "เซย์โก้" จะขอดังบ้างไม่ได้

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในเมือง "มาร์ เดล ปลาตา" ในอาร์เจนตินา จึงนำโลมา ชื่อ "เซย์โก้" มาทำนายผลบอลโลกบ้าง โดยให้มันเลือกกล่องติดลายธงชาติอาร์เจนตินากับเยอรมนีที่วางไว้ริมสระน้ำ ปรากฏว่า "เซย์โก้" เลือกกล่องสีฟ้า-ขาว ชี้ว่าอาร์เจนตินาจะชนะ!

บัดนี้ก็เป็นที่รู้กันแล้วว่า "เซย์โก้" ไม่มีถึงดวงดาว

http://www.thairath.co.th/column/oversea/joke/93474

 ;D

มาราโดน่า กลับไปอาร์เ่จนติน่า อาจจะสั่งอาหารจานนี้มารับประทานให้หายแค้น

(http://www.freakingnews.com/pictures/34000/Endangered--34171.jpg)

 ;D

บทจะดังอะไรก็ยั้งไม่อยู่

หมึกพอลดังเสียจนมีมือดีทำภาพตัดต่อ การทำนายผลการแข่งขัน เยอรมัน - สเปน

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/863/12863/images/Fifa-World-Cup2010/Poul/002.jpg)

ของแท้      ข้างบน : เยอรมัน - เซอร์เบีย
ของเทียม   ข้างล่าง : เยอรมัน - สเปน

http://www.oknation.net/blog/swongviggit/2010/07/05/entry-5

และความฝัน

ว่าสักวันหนึ่ง....

(http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S9439256/S9439256-23.jpg)

 ;D

ชะตากรรมของญาติเจ้าพอล ที่แคลิฟอร์เนีย ๒๖ กรกฎาคม ๒๐๐๒

(http://img66.imageshack.us/img66/6605/279qx.jpg)

เคยเห็นแต่วาฬเกยหาด

หมึกเกยหาด

ประหลาดยิ่ง

 ;)

และแล้วภาพตัดต่อก็เป็นจริง

http://www.youtube.com/watch?v=vTdpJQ-0WwA&feature=player_embedded

(http://static.horoworld.com/imgcontents/20000/19482/19482_ea0b5d4f5c1ac386532d09cab529c8bb.jpg)


อาจารย์ธรณ์ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์  อาจารย์ประจำภาควิชาภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

"ผมบอกได้เลยว่าปลาหมึกมันดูบอลไม่เป็น"

และให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า

"ปลาหมึกเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่ฉลาดที่สุดก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการล่าเหยื่อ การหลอกล่อ การป้องกันตัว  การใช้ชีวิต ฯลฯ ซึ่งเหตุที่เจ้าปลาหมึกยักษ์พอล สามารถทายผลฟุตบอลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ก็ไม่สามารถที่จะอธิบายได้เช่นกันว่าเป็นเพราะเหตุใด อาจเป็นเพราะความบังเอิญ หรืออาจเป็นเพราะเหยื่อ ซึ่งก็คือ หอย ที่ทางอควาเรียมของเยอรมันใส่ลงไว้ในกล่องให้มันเลือกกิน อาจมีกลิ่นแรงมากกว่าอีกกล่องหนึ่งที่ตั้งมาคู่กัน  เพราะโดยธรรมชาตินั้น ปลาหมึกเวลาจะกินอาหารมันก็ไม่ได้สนใจอะไร นอกจากตัวเหยื่อ แต่เรื่องนั้นก็ไม่สามารถบอกได้อีกนั่นแหละ  เพราะคนที่เป็นผู้ดูแลเจ้าพอล ก็ไม่มีทางรู้เช่นกันว่ามันจะเลือกกล่องไหน ที่จะมีผลให้ชาติใดให้แข่งบอลชนะ หรือบางที เจ้าพ่อ อาจมีวิญญาณเจ้าพ่อปลาหมึกสิงร่างอยู่ก็ได้ (หัวเราะ) หรือมันอาจจะมีเซนส์พิเศษ ลึกลับ ที่ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดพิสูจน์ได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร"

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1278410529&grpid=00&catid=98

 

 

มันไม่น่าจะเป็น sense อะไรทั้งนั้นละค่ะ   มีกล่องแค่สองกล่องให้เลือก  โอกาสพี่พอลจะเลือกถูกก็ ๕๐ % อยู่แล้ว     เลือกผิดไม่ว่ากัน รอเลือกถูกในคราวหน้า ก็คงถูกเข้าสักคราว
อ่านที่คุณธรณ์ให้สัมภาษณ์ ก็งงๆว่านักข่าวถอดเทปมาผิดหรือเปล่า  เพราะท่านก็ฟันธงลงไปว่าเจ้าพอลดูบอลไม่เป็น  ข้อนี้จริง  แต่พอมาขยายความว่าปลาหมึกเป็นสัตว์ฉลาด ก็เลยงงๆ ว่าความฉลาดนั้นคงไม่เกี่ยวกับดูบอล
ไม่งั้นอีกหน่อยอาจจะฝึกพี่พอลเป็นกรรมการตัดสินได้
เข้าใจว่าคุณธรณ์พูดทีเล่นทีจริงมากกว่า  แต่คงจะทีเล่นมากกว่าทีจริง

แมลงหน้าคนก็มีแล้ว ปลาหน้าคนก็มีแล้ว

ครานี้ถึงคิว หมึกยักษ์หน้าคน จากอินโดนีเซีย

(http://img.photobucket.com/albums/v694/akitoshi/video/2.jpg)

(http://img.photobucket.com/albums/v694/akitoshi/video/3.jpg)

http://www.stressphobia.com/human-head-shaped-octopus.html

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเยอรมันต่างพากันหันหลังให้เจ้าปลาหมึกพอล หลังจากมันไม่ทำนายเข้าข้างประเทศของตน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ "แดร์ เวสเทิร์น" รายงานว่า มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นมากมายในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ระบุว่าพอลน่าจะถูกนำไปทำปลาหมึกทอด ปลาหมึกปิ้งบาบิคิว สลัดซีฟูดหรือทำข้าวผัดสเปนที่เรียกกันว่า ปาล่า (paella) และบางคนอยากจับมันโยนลงไปในแท็งค์ใส่ฉลาม

ปลาหมึก“พอล”ระทึก!ถูกปิ้งหลังทำนายเยอรมันแพ้สเปน
http://siamrath.co.th/?q=node/42450

กรรมของพอลและผองเพื่อน

(http://kc042.k12.sd.us/images/Japan%20pictures/July%2017.%2000%20spider/octopus.jpg)

 ;D

มาสวัสดีคุณเพ็นโนครับ
ก่อนเจ้าพอลจะกลายเป็นปลาหมึกย่าง    ได้ข่าวว่าสเปนจะจัดตั้งกองกำลังมาคุ้มกันอย่างแข็งแกร่ง   แถมเซิฟดินเนอร์เป็นหอยชั้นดี
คำทำนายล่าสุดว่าสเปนจะชนะเนเธอร์แลนด์  ทำเอากระทิงดุ ดี๊ด๊ามาก
ถ้าพอลจะย้ายจากเยอรมนีไปสเปน  พี่เปนก็ยินดีต้อนรับ     ถ้าสเปนบ้าหวยเหมือนสารขันฑ์    พี่พอลคงทำรายได้เข้าประเทศอื้อซ่า
http://www.youtube.com/watch?v=Ya85knuDzp8

เรื่องของพอลคงอยู่ในความทรงจำอันเกี่ยวเนื่องกับฟุตบอลโลกไปอีกนาน

ผลงานการทำนายของพอล รวบรวมโดยคุณวิกกี้

http://en.wikipedia.org/wiki/Paul_the_Octopus

หมึกพอล แชมป์ฟุตบอลโลกตัวจริง

(http://www.khaosod.co.th/online/2010/07/12789447871278944876l.jpg)

 ;D  ;D  ;D

เห็นเน็ตมาครับ มันคือตัวอะไรครับ

มันคือ Naja photoshouthia เกิดจากการตัดแต่งพันธุกรรมของงูเห่าธรรมดา Naja kaouthia ด้วยโปรแกรม photoshop

ความจริงมีหัวมากกว่า ๕ หัว จะปรากฏเมื่อยามมีอาการมึนงง - "หัวหมุน"

 ;D

เขาว่า"คุณพอล" มักจะเลือกกล่องทางด้านขวา(ของจอคอม) ถ้าเป็นดังนั้นผู้วางกล่องน่าจะเป็นเจ้าพ่อตัวจริง ส่วน"คุณพอ" เป็นแค่ร่างทรง ละกระมัง
มานิต

http://www.youtube.com/watch?v=mA0Apmp4-Pw&feature=related

เห็นท่ากระโดดงับน้ำของเจ้ากิ้งก่า (หรือจิ้งจก ?) แล้วนึกถึงโฆษณาถั่วโก๋แก๋ตอนปลาตีนกระโดดงับเม็ดถั่ว

http://www.youtube.com/watch?v=k62WenpzNCY

ชีวิตจริงของปลาตีน

http://www.youtube.com/watch?v=OJJlb93kf4k&feature=player_embedded#!

บางคนกระดากไม่กล้าเรียกชื่อนี้

เลี่ยงไปเรียกว่า "ปลาเท้า"

 ;D

พูดถึงปลาตีนแล้วนึกถึงคำถามของหนูกอบัวหลานคุณมานิต


ปลาตีนไม่มีขา มีแต่ครีบซึ่งทำหน้าคล้ายเท้า (ตีน)

ครีีบของปลานอกจากจะทำหน้าที่เป็นเท้าแบบปลาตีนแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นปีกได้อีก อย่างเช่น

ปลาบิน http://en.wikipedia.org/wiki/Flying_fish (http://en.wikipedia.org/wiki/Flying_fish)

รู้สึกว่าคนไทยจะเรียกว่า ปลานกกระจอก

http://www.youtube.com/watch?v=OmWRCdUw17E&feature=player_embedded

(http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9436359/X9436359-0.jpg)

หนูกอบัวยังอ่านเรื่องสัตว์ประหลาดอยู่หรือเปล่า

 ;D

สำหรับคนรักปลา

http://www.youtube.com/watch?v=VrrnnfIXoNk&feature=fvw

ถ้าให้ประหลาดต้องเจ้าตัวนี้

ปักเป้า (อ่านว่า ปัก-กะ-เป้า) เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน

ปักเป้าหนามทุเรียน - เกล็ดที่กลายเป็นหนาม http://en.wikipedia.org/wiki/Porcupinefish (http://en.wikipedia.org/wiki/Porcupinefish)

http://www.youtube.com/watch?v=hrxmYVY1yo8&feature=related

ไม่เคยเห็นปลาปักเป้าเป็นๆ เคยเห็นแต่ที่แขวนอยู่ในร้าน  เป็นเครื่องประดับเพดานค่ะ  เขาว่าเป็นปลาอันตรายใช่ไหมคะ

คุณเพ็ญชมพูคงรู้จักปลาปิรันย่า  หลายปีมาแล้วอ่านพบข่าวว่า ชาวบ้านลงอาบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เคราะห์ร้ายถูกปลากัดจนเลือดโชก 
แต่รายนี้น่าจะเป็นแรมโบ้มาแต่เดิม    เลยฮึดสู้จับตัวปลามาได้   หลังจากทุบหัวซะบี้แบน
ผู้ว่ากทม.หรือผู้ใหญ่ทางการท่านไหนไม่ทราบ รีบไปดู   พอเห็นก็ให้สัมภาษณ์ว่าเข่าอ่อน เพราะเป็นปิรันย่าจริงๆ   ถ้าแพร่พันธุ์ไปในแม่น้ำละก็หายนะกันแน่      ท่านเดาว่ามีคนสั่งเข้ามาเพื่อเลี้ยงเป็นปลาตู้    แล้วขายไม่ออกเลยปล่อยลงน้ำไป   
หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวปิรันย่าอีก   ไม่ทราบว่ามันหลุดลงน้ำไปตัวเดียว ไม่มีพวกพ้อง  พอถูกจับได้เลยจบกัน หรือยังไง

http://www.youtube.com/watch?v=wbG4BUZOc44&feature=related

ปักเป้าถ้าเราไม่ไปยุ่งกับมันคงไม่มีอันตราย (จับ-หนามตำ, กิน-พิษจากเครื่องใน)

แต่ปิรันย่า http://en.wikipedia.org/wiki/Piranha (http://en.wikipedia.org/wiki/Piranha) เราไม่ไปยุ่งกับมัน แต่มันอาจจะมายุ่งกับเรา

เรื่องยุ่ง ๆ ก็จะเกิดขึ้น  ;D

http://www.youtube.com/watch?v=fxw1EFcm3vw

เร็ว ๆ นี้เพิ่งมีการจับปิรันย่าที่ลักลอบเข้ามาแสดงที่สถานแสดงสัตว์น้ำชื่อดังที่ชลบุรี

กรมประมงจับโชว์ปิรันยา ‘เตือนประชาชนห้ามนำเข้าและครอบครอง’
http://www.fisheries.go.th/fish/pr/news_detail.php?news_id=195

 :o

สยองมาก  ดูคลิปได้ครึ่งเดียวก็พอแล้วค่ะ
ถ้าโชว์ปิรันย่าคือเอาสัตว์เป็นๆปล่อยลงน้ำ แล้วให้ปิรันย่าจัดการ ก็โหดเหี้ยมเกินไป     แต่ถ้าเป็นแค่โยนเนื้อลงไปก็ค่อยยังชั่ว
แต่ยังไงก็เป็นปลาอันตรายอยู่ดี   มันเข้าประเทศมาได้ยังไงกันนี่

มีปลาพื้นบ้านของเราอยู่ชนิดหนึ่ง สามารถมองทะลุปรุโปร่งเห็นถึงเครื่องในได้ชัดแจ๋ว

หลายท่านคงรู้จัก

ปลาก้างพระร่วง http://en.wikipedia.org/wiki/Glass_Catfish (http://en.wikipedia.org/wiki/Glass_Catfish)

http://www.youtube.com/watch?v=g-tIpQNWOqc

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/8d/Kryptopterus_species.jpg/600px-Kryptopterus_species.jpg)

มีปลาโปร่งใสอีกชนิดหนึ่งที่อยากจะแนะนำ เป็นปลาทะเลน้ำลึก

ปลาตัวนี้โปร่งใสเฉพาะตรงหัว อาจจะเรียกได้ว่าเป็นปลาหัวใส http://en.wikipedia.org/wiki/Barreleye (http://en.wikipedia.org/wiki/Barreleye)

หัวไม่ใสอย่างเดียว แถมหน้ายังคล้ายคนด้วย

http://www.youtube.com/watch?v=RM9o4VnfHJU&feature=player_embedde

(http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/12/X8711390/X8711390-15.jpg)

ไม่แน่ใจว่าหัวใสแล้วจะฉลาดด้วยหรือเปล่า

 ;D

ปลาก้างนี่มีเนื้อให้กินได้หรือเปล่าคะ คุณเพ็ญ
ที่สงสัยเพราะอ่านเพชรพระอุมา   ตอนไพรมหากาฬ  พนมเทียนบรรยายว่าในแคมป์ของตัวละคร เคยทำต้มยำปลาก้างกินกันด้วย

ปลาก้างของคุณพนมเทียนน่าจะเป็นเจ้าตัวนี้ อยู่ในวงศ์เดียวกับปลาช่อน คนละวงศ์ปลาก้างพระร่วง

http://th.wikipedia.org/wiki/ปลาก้าง (http://th.wikipedia.org/wiki/ปลาก้าง)

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/d/d4/83-20060518004058.jpg)

มีเนื้อให้กินได้พอ ๆ กับปลาช่อน

 ;D

เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าปลาวงศ์เดียวกับปลาช่อนชื่อปลาก้าง   
ไม่เคยเห็นมันขึ้นเมนูอาหารมาก่อน  หรือจะขึ้นรายการ   แต่ไม่เคยกินก็ไม่ทราบนะคะ

ถ้าพูดถึงสัตว์ตัวใสในทะเล  อันดับแรกคงคิดถึง แมงกะพรุน

(http://aquaviews.net/wp-content/uploads/2009/06/box-jellyfish.jpg)

(http://imagecache6.allposters.com/LRG/27/2706/AH1ND00Z.jpg)

แต่ยังมีมากกว่านั้น

ขอแนะนำสัตว์ทะเลชนิดหนึ่งหน้าตาคล้ายแมงกะพรุนแต่ไม่ใช่

มีแต่ชื่อฝรั่ง ไม่มีชื่อไทย

ซาล์ป  http://en.wikipedia.org/wiki/Salp (http://en.wikipedia.org/wiki/Salp)

http://news.clipmass.com/story/ซาล์ป-salp-สัตว์ทะเลตัวใสช่วยดูด-co2---12409 (http://news.clipmass.com/story/ซาล์ป-salp-สัตว์ทะเลตัวใสช่วยดูด-co2---12409)

http://www.youtube.com/watch?v=-Jooz4gz264

(http://www.greenpeace.org.uk/files/images/oceans/salp.jpg)

(http://goodheartextremescience.files.wordpress.com/2010/01/individual-salp.jpg)

ใต้ทะเลยังมีสัตว์ประหลาดอยู่อีกมาก

 ;D

เมื่อคืนดูข่าว เห็นบอกว่าเพลี้ยแป้งสีชมพูระบาดหนัก  ต้องไปอิมพอร์ตตัวแตนเบียนมากำจัด
หารูปเพลี้ยแป้งสีชมพูจะมาเข้ากลุ่มกับเพื่อนๆของคุณเพ็ญชมพู   ไม่มีรูปชัดๆเลย   ไม่รู้ว่ามันตัวอะไร
กำลังสงสัยว่าสั่งแตนเบียน(เพิ่งเคยได้ยินชื่อ ฟังอยู่หลายครั้ง) มากำจัดเพลี้ย   แล้วต่อไปจะต้องสั่งอะไรมากำจัดแตนเบียนอีกหรือเปล่า ;)

มีศัพท์วิชาการเกี่ยวกับการควบคุมทางด้านชีววิทยาของแมลงมาเสนอคุณเทาชมพู ๒ คำ

๑. ตัวห้ำ (predator) หมายถึง แมลงที่กินแมลงชนิดอื่น ๆ เป็นอาหาร และการกินนั้นจะกินเหยื่อ (prey) หลายตัว กว่าจะเจริญเติบโตครบวงจรชีวิต การกินจะกินเหยื่อไปเรื่อย ๆ และมักจะไม่จำกัดวัยของเหยื่อคือสามารถทำลายเหยื่อได้ทุกระยะการเจริญเติบโต ตัวอย่างของตัวห้ำ เช่น ด้วงเต่าชนิดต่าง ๆ ตั๊กแตนตำข้าว แมลงปอ มวนตัวห้ำ มวนเพชฌฆาต และมวนตัวห้ำเพลี้ยไฟ

๒. ตัวเบียน (parasite) หมายถึง แมลงที่เบียดเบียนเหยื่อ (host) หรือเกาะกินอยู่กับเหยื่อ จนกระทั่งเหยื่อตาย และการเป็นตัวเบียนนั้นจะเป็นเฉพาะในช่วงที่เป็นตัวอ่อนเท่านั้น เมื่อเป็นตัวเต็มวัยจะหากินอิสระ และในช่วงอายุหนึ่ง ๆ ต้องการเหยื่อเพียงตัวเดียวเท่านั้น

ตัวเบียนมีหลายประเภท ซึ่งถ้าแบ่งตามความสัมพันธ์กับเหยื่อ จะแบ่งออกได้เป็นแมลงเบียนไข่ (egg parasite) แมลงเบียนหนอน (larval parasite) แมลงเบียนดักแด้ (pupal parasite) แมลงเบียนตัวเต็มวัย (adult parasite) เป็นต้น ตัวอย่างของตัวเบียน เช่น แตนเบียนไข่หนอนกระทู้ผัก และแตนเบียนหนอนเจาะลำต้นและยอดอ้อย 

http://www.ku.ac.th/e-magazine/may47/agri/bug.html


ป.ล. ถ้าคุณเทาชมพูหารูปชัด ๆ ของเพลี้ยงแป้งสีชมพูได้แล้ว กรุณานำลงในกระทู้

ส่องโลกสัตว์(ประหลาด)สีชมพู
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3359.msg68064;topicseen#msg68064

จะได้ขึ้นจากทะเลมาบนบกซะที

 ;D

มาดูสัตว์ทะเลตัวใสกันต่อ

หมึกตัวใส  Glass Squid Teuthowenia pellucida http://en.wikipedia.org/wiki/Teuthowenia (http://en.wikipedia.org/wiki/Teuthowenia)

(http://1.bp.blogspot.com/_DW3Bp12L7YI/Sawb7UX1p6I/AAAAAAAAU0c/NjeZLPlXUTY/s400/transparent_squid.jpg)

นางฟ้าตัวใส  http://en.wikipedia.org/wiki/Clione_limacina (http://en.wikipedia.org/wiki/Clione_limacina)

http://www.youtube.com/watch?v=vB5recdpPaI&feature=player_embedded

(http://www.siamscubadiving.com/board/upload2008/200804/1207069233.jpg)

นางฟ้าทะเลเป็นนักล่าที่หิวกระหายตลอดเวลา และจะกินเพียงผีเสื้อทะเลซึ่งเป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวกันเป็นอาหารเท่านั้น โดยใช้ความว่องไวในการต้อนเหยื่อให้จนมุม แล้วใช้หนวดพิเศษที่ยื่นออกมาจากปาก ดึงออกจากเปลือกก่อนที่จะกลืนกินไปทั้งตัว

ผีเสื้อทะเล http://en.wikipedia.org/wiki/Sea_butterfly (http://en.wikipedia.org/wiki/Sea_butterfly)

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:tOkenG2f7zwp1M:http://www.noaanews.noaa.gov/stories2006/images/pteropod-limacina-helicina.jpg)

นางฟ้าหรือซาตาน

 ???

วันนี้ไปกินอาหารที่ครัวเจ๊ง้อ  เจอเมนู ปลิงผัดฉ่า   ทีแรก นึกว่าเป็น leech ของคุณศิลา แต่พออ่านภาษาอังกฤษใต้ชื่อจึงรู้ว่าเป็น sea cucumber  เพื่อนของคุณเพ็ญชมพูนี่เอง
แต่เป็นอย่างไหนก็ไม่สั่งมากินละค่ะ  กินไม่ลง

เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างช้างไทยกับหมีแพนด่า เป็นความสำเร็จของคนไทยครับ

แล้วจานนี้ล่ะ

ปลิงผิดกระเพรา

(http://i13.photobucket.com/albums/a251/veerajun/Tang%20Jai%20Yu/R0011877b.jpg)

ปลิงทะเลนอกจากจะเป็นอาหารอร่อยแล้ว ยังเป็นยาด้วยนะเออ   ;D

จับปลิงทะเลทำยารักษามะเร็งมีสารทดลองรักษาเนื้อร้ายได้ผล
http://onknow.blogspot.com/2009/08/blog-post_9403.html

ขอต่อเรื่องสัตว์ตัวใสบนบกบ้าง  ;)

ขอว่าด้วยเรื่อง ผีเสื้อ

ผีเสื้อปีกใส Glasswing http://en.wikipedia.org/wiki/Greta_oto (http://en.wikipedia.org/wiki/Greta_oto)

http://www.youtube.com/watch?v=0ZJGzGI1kdw&feature=related

(http://www.hemmy.net/images/animals/glasswing06.jpg)

ผีเสื้อปีกใสกับดอกไม้งาม  คงทำให้ยามเช้าสดชื่นขึ้น

 ;D

ผีเสื้อมีวงจรชีวิต ๔ ขั้นตอน คือ ไข่   หนอน   ดักแด้   ตัวเต็มวัย

ช่วงที่มีรูปร่างแปลกประหลาดที่สุดเห็นทีจะอยู่ในขั้นตอนเป็น หนอน

ขอยกตัวอย่างในกระทู้นี้

หนอนแปลก ไม่ใช่ หนอนปลอก แล้วมันคือหนอนอะไร?
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9519538/X9519538.html

หน้าตาของหนอนแปลก
http://en.wikipedia.org/wiki/Moduza_procris (http://en.wikipedia.org/wiki/Moduza_procris)

(http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9519538/X9519538-4.jpg)


พอเป็นตัวเต็มวัยแล้วไม่ค่อยแปลก

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/0/09/RN012_Limenitis_procris.jpg)

 ;D

หนอนปลอกที่มีอะไรแปลก ๆ

Caddisflies หรือ แมลงหนอนปลอกน้ำ เมื่ออยู่ในช่วงตัวอ่อน แมลงชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในน้ำ และสร้างปลอกขึ้นมาจากเศษ ทราย กรวด เปลือกหอย กิ่งไม้ ใบไม้ หรือสิ่งอื่นใดที่มีขนาดเล็ก ที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่ อย่างสวยงาม แมลงหนอนปลอกน้ำ เป็นแมลงในวงศ์ Trichoptera ( เป็นคำจากภาษากรีก โดยคำว่า trich มาจากคำว่า เส้นผม และ ptera มาจากคำว่า ปีก ) แมลงหนอนปลอกน้ำ เป็นผีเสื้อราตรีขนาดเล็ก มีปีกใสบาง สองคู่ ตัวอ่อนจะอาศัยอยู่ในน้ำจืดที่ค่อนข้างสะอาด มีออกซิเจนสูง



ข้างล่างเป็นผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศส ชื่อว่า Herbert Duprat ได้สร้างผลงานศิลปะชุดนี้โดยใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมของ แมลงหนอนปลอกน้ำ ที่จะสร้างปลอกจากเศษวัสดุ เพื่อเป็นเกราะป้องกันร่างกาย โดยน้ำเศษทองคำ ไข่มุก หินมีค่าใส่ลงไปแทน

ขออนุญาตต่อเรื่อง หนอนแปลก

คุณ Simone Preuss ได้รวบรวมภาพ "หนอนแปลก" พวกนี้ไว้เป็นที่น่าสนใจยิ่งใน  "15 Most Alien Looking Caterpillars on Earth"

จะทยอยเอามาลงครั้งละ ๓ ตัว คิดว่าไม่มากเกินไป

Mugshot of a truly alien-looking critter
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb45.webshots.com-42796-2675305730104237032S600x600Q85.preview.jpg)


Giddy up if you dare!
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb14.webshots.com-43981-2010702090104237032S600x600Q85_0.preview.jpg)


Scaring potential predators – extraterrestrial ones?
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb31.webshots.com-45406-2218856180104237032S600x600Q85_0.preview.jpg)


เอเลี่ยนบุกโลกแล้ว

 ;D

 ;D

ถ้ายังไม่ประหลาด ต่ออีก ๓ ตัว  ;)

Yo, what’s up in the hood?
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb60.webshots.com-42043-2027462270104237032S600x600Q85.preview.jpg)


Mirror, mirror, on the wall, who is the brightest of them all?
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb05.webshots.com-42948-2185604350104237032S500x500Q85.preview.jpg)


Snakecharmer, anyone?
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb10.webshots.com-42569-2986134590104237032S600x600Q85.preview.jpg)


;D

พามาอีก ๓ ตัว

Hop doggy dog
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb45.webshots.com-45548-2053155360104237032S600x600Q85.preview.jpg)


The very fuzzy caterpillar
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb18.webshots.com-45329-2026167330104237032S600x600Q85.preview.jpg)


Doesn’t this specimen look like a tiny Chinese dragon?
(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb25.webshots.com-41816-2439279190104237032S600x600Q85.preview.jpg)

อีก ๖ ตัวที่เหลือที่คุณ Simone Preuss  พูดถึงเข้าไปชมโฉมได้เลย

http://www.environmentalgraffiti.com/featured/most-alien-looking-caterpillars-on-earth/11812

 ;D

ถามคุณเพ็ญว่าตัวหนอนน่าขยะแขยงพวกนี้  เรียกว่าหนอนบุ้งหรือเปล่าคะ
ตัวขนปุยเหมือนหมาจู ค่อยน่ารักหน่อย  ตัวอื่นดูไม่ได้เลยสักตัว

ถ้าไม่มีขนคงเรียกว่า บุ้ง ไม่ได้

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ความคำว่าบุ้งไว้ว่า

ชื่อหนอนผีเสื้อหลายชนิดและหลายวงศ์ เช่น วงศ์ Arctiidae, Lymantriidae, Lasiocampidae มีขนปกคลุมเต็มลําตัว เมื่อถูกเข้าจะปล่อยนํ้าพิษทําให้เกิดอาการแสบร้อนและคัน เมื่อเจริญวัยจะเปลี่ยนเป็นดักแด้และฟักออกมาเป็นผีเสื้อกลางคืน, ร่าน ก็เรียก.

ผีเสื้อทั้ง ๓ วงศ์ที่ราชบัณฑิตยสถานยกมาอธิบายเป็นวงศ์ของผีเสื้อกลางคืนทั้งสิ้น

 :)

เดาว่าตั๊กแตน  ถ้าเป็นอย่างอื่นก็จนปัญญาค่ะ
ว่าแต่คุณเพ็ญชมพูเคยเอากุ้งขน มาโชว์หรือยังคะ   กินได้เหมือนปูขนหรือเปล่า?

เฉลย

๑. ตั๊กแตน dying leaf mimic katydid   

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:0f0eI9bz8xvrJM:http://lh4.ggpht.com/_J-5M4-xRh1I/SjZ_177aB3I/AAAAAAAADTw/bm2xFSh9vig/IMG_3641.JPG)

๒. ผีเสื้อ dead-leaf butterfly http://en.wikipedia.org/wiki/Kallima_inachus 

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:VdQ2642OgFRv5M:http://www.sciencemusings.com/blog/images/deadleaf.jpg)

๓. แมลงใบไม้  Phyllium giganteum

http://www.youtube.com/watch?v=3O4KllC3TpA&feature=player_embedded


นอกจากพวกแมลงแล้วยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่พรางตัวเก่ง ไว้จะเล่าในโอกาสต่อไป

 ;D

รูปที่ ๒ นึกว่ามันซ่อนตัวอยู่ใต้ใบไม้  รูปที่ ๓ เหมือนแต่งด้วย photoshop    

ตัวนี้ พวกเดียวกันหรือเปล่าคะ

(http://images.wildmadagascar.org/pictures/andasibe-Mantady/leaf_insect_00.jpg)

เจ้าตัวของคุณเทาชมพูคือ ตั๊กแตนใบไม้ Aspidonotus spinosus (Pseudophyllinae: Aspidonotini) พบที่ Madagascar

ตัวนี้พบที่ออสเตรเลีย Children's stick insect  http://en.wikipedia.org/wiki/Tropidoderus_childrenii

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/3d/Tropidoderus_childrenii-1.jpg/450px-Tropidoderus_childrenii-1.jpg)

เวลาพรางตัวแล้วเหมือนอะไรเอ่ย

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2008/11/tropidoderus-childrenii.jpg?w=331&h=500)

 ;D

^
เตรียมเอาตัวข้างบนนี้มาส่งเป็นการบ้านให้คุณครูเพ็ญชมพู    ครูเฉลยเสียก่อนแล้ว เลยอด
ไปหาสัตว์ประหลาดตัวใหม่มาส่งเป็นการบ้านแทน

ปลาใบไม้แห่งอเมซอน

ปลาหมึกพรางตัว

http://www.youtube.com/watch?v=ckP8msIgMYE&feature=player_embedded

ยืมมือตบมาจากคุณนวรัตน

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3438.0;attach=12875;image)

 ;D

ให้ยืมค่ะ  คืนท่านไปเถอะ

แมงมุมดอกไม้

จัํกจั่นเปลือกไม้

CAN YOU SEE ME?

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2008/10/leaf-mimic-frog.jpg?w=528&h=704)

คุณเทาชมพูเห็นตัวอะไรอยู่ในกองใบไม้แห้งนี้บ้างหรือเปล่า 

 ;)

ต้องมีอะไรเข้าสักตัวละน่ะ  แต่ดูไม่ออกว่าอยู่ตรงไหน  หรือจะตั๊กแตนใบไม้หมดทั้งรูปก็เป็นได้

ไม่ใช่ตั๊กแตนแต่เป็น กบ

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2008/10/leaf-mimic-frog2.jpg?w=560&h=420)

แต่ว่า

อยู่ที่ไหนเอ่ย

 ;)

กบใบไม้อยู่ไหนเอ่ย ?

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2008/11/leaf-frog.jpg?w=350&h=348)

ลองหาดูในกองใบไม้แห้งข้างบน พบอยู่ ๒ ตัว 

ใครเห็นมากกว่านี้บ้าง

 ;D

แล้วนี่ล่ะ

ตัวอะไร ?

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2008/11/uroplatus.jpg?w=500&h=375)

 ;D

ขนาดคุณเพ็ญวงให้ดูยังไม่รู้เลยว่าเป็นกบ

ตอบการบ้าน  ตุ๊กแก

น่าจะตอบผิด   ไปจำสับกับตัวนี้
อี๋...

(http://lh6.ggpht.com/_gKQKwLZ8XUs/S-aOHVaWe6I/AAAAAAAACnw/M8WLNEuQXYg/s800/camouflage-uroplatus-gecko1.jpg)

คุณเทาชมพูตอบถูกแล้ว

อย่าลังเล อย่าลังเล

มันคือ ตุ๊กแกหางใบไม้ Satanic Leaf Tailed Gecko  http://en.wikipedia.org/wiki/Uroplatus_phantasticus

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2008/11/uroplatus2.jpg?w=335&h=500)   (http://conservationreport.files.wordpress.com/2008/11/satanic-leaf-tailed-gecko1.jpg?w=280&h=504)

 ;D

สุดยอดแห่งนวัตกรรมของธรรมชาติ...

นี่ตัวผู้...ไม่ทราบตัวเพศแม่หน้าตายังไง?




 :o ;D

คุณศรีสยามคงเดาได้ว่าตัวไหนตัวผู้ ตัวไหนตัวเมีย

(http://www.arkive.org/media/87/875C0F14-BCBC-4012-9F45-3916EE9E66DB/Presentation.Large/photo.jpg)

 ;D

เอ๊ะ ! ตัวอะไร     มองคล้ายกับหญ้า
ล่องลอยไปมา    ในมหานที

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2009/04/robust-ghost-pipefish1.jpg?w=600&h=450)

 ;D

คุณเพ็ญช่างหา     สรรมาประดามี
เชิญดูดีดี            ตัวนี้..ปูทะเล

หากคุณเทาชมพูไม่เฉลยไม่ทราบเลยนะเนี่ยว่าเป็นปูทะเล

เอาตัวที่คล้ายหญ้าทะเลมาให้ดูชัด ๆ

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2009/04/robust-ghost-pipefish2.jpg?w=600&h=717)

เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่งชื่อว่า robust ghost pipefish Solenostomus cyanopterus ภาษาไทยเขาเรียกว่าปลาไม้จิ้มฟันจระเข้ปีศาจ เป็นญาติกับพวกม้าน้ำ

 ;D

ในกอหญ้าทะเลนี้คุณเทาชมพูเห็นตัวอะไรบ้างหรือเปล่า

(http://www.deepseaimages.com/dsilibrary/data/1291/22004_1001_144842AA_1.jpg)

 ;)

ในกอหญ้าทะเลข้างบน ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นเจ้าตัวนี้

Halimeda ghostpipefish Solenostomus halimeda

(http://farm4.static.flickr.com/3249/3007014668_95cd0ca906.jpg?v=0)

 ;D

อีกพันธุ์หนึ่้งของนักพรางตัว

http://en.wikipedia.org/wiki/Ornate_ghost_pipefish

http://www.youtube.com/watch?v=glxb-RU5aHI

(http://www.pxleyes.com/blog/wp-content/uploads/camouflage-photography-in-the-animal-world-50-astonishing-photos/27.jpg)

 ;D

CAN YOU SEE ME?

(http://conservationreport.files.wordpress.com/2008/11/pygmy-sea-horse3.jpg?w=500&h=375)

 ;)

นี่ไม่เชิงพรางตัว
แต่เป็นการแอบในซอกหินตอนกลางคืน

น่ารักกว่าตุ๊กแก เยอะค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=PjnsTkNKlsg&NR=1

^
^
น่ารักแต่ไม่แปลก

ว่าแต่ว่า รูปใน # ๓๖๑ คุณเทาชมพูดูออกไหมว่ามีตัวอะไรซ่อนอยู่

 ;)

อันนี้ส่งมาให้ดูเล่นๆค่ะ

真不知道我的主人在想什麼.






















 

ดิฉันมองไม่เห็นรูปของคุณ XT ค่ะ เห็นแต่ตัวหนังสือจีน

ตอบคุณเพ็ญชมพู
สงสัยจะเป็นตัวตรงกลาง  ตุ๊กแกทะเล

เอามาโชว์บ้าง  หนอนระเบิดเขียว

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/801/34801/images/animals/topspecies02.jpg)

หนอนที่อาศัยอยู่ในทะเลลึกชนิดนี้พิเศษตรงที่มีการพก “ระเบิด” ติดตัวอยู่เสมอ หรือแท้ที่จริงก็คือเหงือกที่มีการแปลงสภาพไปนั่นเอง ซึ่ง “ระเบิด” ที่ว่านี้สามารถสลัดให้หลุดไปจากตัว และจะเรืองแสงสีเขียวอยู่หลายวินาที คาดว่าอุปกรณ์พิเศษนี้มีไว้เพื่อใช้ในการป้องกันตัวจากนักล่า

คุณเทาชมพูช่างเห็นอะไรเป็นตุ๊กแกไปหมด   ;D

เจ้าตัวที่ว่านี้ไม่ใช่อื่นใด

มันคือม้าน้ำชนิดหนึ่งนั่นเอง http://en.wikipedia.org/wiki/Pygmy_seahorse (http://en.wikipedia.org/wiki/Pygmy_seahorse)

http://www.youtube.com/watch?v=gD0AJdcDRYg

(http://70.38.46.108/data/media/1/Pygmy_Seahorse_Indonesia_wallpaper.jpg)

 :D

อ้าว แล้วใครชอบเอาตุ๊กแกมาทาย จนคนทายหลอนไปหมดแล้ว

มีรูปทากกินหนอนมาฝากค่ะ

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/801/34801/images/animals/topspecies04.jpg)

ทากทะเลชนิดใหม่ของโลกที่มีชื่อเรียกทั่วไปว่า Aiteng ater หรือ Aiteng (ไอ้เท่ง) จากอ่าวไทยนี้ เป็นพันธุ์ประหลาดที่ไม่เหมือนกับทากพันธุ์อื่นๆ ตรงที่เป็นทากทะเลที่กินเฉพาะแมลงเป็นอาหาร (ในขณะที่พันธุ์อื่นๆ กินสาหร่ายและไข่สัตว์น้ำเป็นอาหาร) ชื่อ “ไอ้เท่ง” นี้มาจากชื่อตัวละครที่เป็นที่นิยมในหนังตะลุงที่เล่นกันในทางใต้ของไทย “ไอ้เท่งที่มีตาถลนใหญ่นั้นทำให้เรานึกถึงตัวทากที่เราพึ่งค้นพบ” นักวิจัยกล่าว

รายการฝากรายวัน ให้คุณเพ็ญชมพู


ปลากบประสาทหลอน (Psychedelic Frogfish)


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/801/34801/images/animals/topspecies05.jpg)

ปลากบนี้ได้ชื่อมาจากลวดลายตามศิลปะแบบ psychedelic ที่เป็นที่นิยมมากในยุคของยาหลอนประสาท (LSD) ในตอนปลายของยุค 1960s นอกจากลวดลายแปลกตาแล้ว ปลาชนิดนี้ยังมีจุดเด่นตรงที่เป็นปลากบชนิดเดียวที่มีหน้าแบน!

เจ้าตัวนี้รู้สึกว่าเป็นปลากบสปีชี่ส์ใหม่เพิ่งค้นพบที่ิอินโดนีเซียเมื่อปีที่แล้วนี้เอง

http://en.wikipedia.org/wiki/Psychedelic_frogfish

http://www.youtube.com/watch?v=Yf9zFVXGOUE

สังเกตให้ดีมันเคลื่อนที่โดยการกระโดดมิใช่ว่ายเช่นปลากบปรกติ

 ;D

ทั้งหารูปมาได้  ก็ยังไม่รู้เลยว่าปลากบคืออะไร    ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมคะ

คิดอะไรไม่ออกบอกคุณวิกกี้   ;D

http://en.wikipedia.org/wiki/Frogfish (http://en.wikipedia.org/wiki/Frogfish)

ปลากบ หรือ Frogfish เป็นปลาที่อยู่ในกลุ่มของปลานักตกเบ็ด (Anglerfish) อันเป็นกลุ่มปลาทั้งหมดใน Order Lophiformes ลักษณะเด่นของปลาในกลุ่มนี้ก็คือ จะมีก้านครีบด้านบนหัวที่พัฒนาขึ้นมาเป็นก้านเล็ก ๆ ยาวใสคล้าย ๆ คันเบ็ด และที่ปลายก้านครีบนี้จะมีพู่เล็ก ๆ ที่มองดูเหมือนเหยื่อตกปลาติดอยู่ส่วนบนของหัว โดยก้านครีบเล็ก ๆ บนหัวที่คล้ายเป็นคันเบ็ดประจำตัวนี้จะพับไว้บนหัว หรือยื่นตรงออกมา แล้วส่ายไปมา เพื่อให้ปลาที่เป็นเหยื่อหลงกล คิดว่าพู่เล็ก ๆ ที่ปลายคันเบ็ดนั้นเป็นเหยื่อจำพวกกุ้ง หรือปลาตัวเล็ก ๆ เมื่อปลาที่สนใจว่ายเข้ามาใกล้หมายจะจับกินเหยื่อเล็ก ๆ นั้นเป็นอาหาร ก็จะถูกปลากบ หรือปลานักตกเบ็ดใช้ปากที่กว้างใหญ่ฮุบกินเป็นอาหาร ตกเป็นเหยื่อเสียเองไปในพริบตา เจ้าปลาชนิดนี้จึงมักจะถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ปลานักตกเบ็ด”

http://www.jamchan.com/index.php?mo=3&art=453308

http://www.youtube.com/watch?v=AcN4nfcletU&feature=player_embedded

ดูลีลาการเดินขบวนของเจ้าปลากบแล้ว เห็นทีมันไม่ชอบจะว่ายน้ำสักเท่าไร

ชอบเดินมากกว่า

 ;D

เจ้าปลากบนี้เป็นยอดนักพรางตัวทีเดียว

Can you see me ?

(http://www.frogfish.ch/image/frogfish-Anglerfisch/Antennarius-commerson/Antennarius-commerson21.jpg)

(http://www.frogfish.ch/image/frogfish-Anglerfisch/Antennarius-commerson/Antennarius-commerson10.jpg)

(http://www.frogfish.ch/image/behavior-Verhalten/Antennarius-pictus-camouflage2.jpg)

 ;D

ลองสังเกตเจ้าตัวนี้

(http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/11/X7262795/X7262795-10.jpg)

บอกให้ว่ามันไม่ใช่มด

ถ้าอย่างนั้นมันคือตัวอะไรล่ะ

 ;)

เป็นแมงมุม ที่มีลักษณะคล้ายมด ขอรับ

ตอบอย่างมั่นใจมาก  ว่า ไม่รู้

ขอถามคำถามขั้นอนุบาลว่า สัตว์พรางตัว คือมันสามารถเปลี่ยนสี/ลาย บนผิวหนังชั่วคราวได้ ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม อย่างเจ้าปลาหมึกที่ดิฉันเอาคลิปมาให้ดูใช่ไหมคะ
พอพ้นสภาพแวดล้อมตรงนั้นไป  สี/ลาย มันก็เปลี่ยนไป กลับไปสู่แบบเดิม

เอาสัตว์ประหลาดรายวัน มาฝาก 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/801/34801/images/animals/topspecies06.jpg)


แมงมุมใยวงกลมทอง (Komac's golden orb spider)

แมงมุมในตระกูล Nephila ชนิดล่าสุดที่มีการค้นพบนับตั้งแต่ปี 1897  เป็นชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในขณะนี้  ตัวเมียมีขนาดตัวถึงปลายขาได้เกือบ 40 เซนติเมตร และสร้างใยรูปวงกลมได้ใหญ่กว่า 3 ฟุต แมงมุมยักษ์ชนิดใหม่ของโลกนี้อาศัยอยู่ทางตอนล่างของทวีปแอฟริกา

ชนกลางอากาศกับคุณ Siamese   
ดีใจเหลือเกินมีคนมาร่วมวงในกระทู้นี้   ขอส่งไม้ต่อให้คุณ Siamese รับไปบ้าง    ตัวเองขอไปพัก   สัตว์ประหลาดของดิฉันจวนจะหมดโกดังอยู่แล้ว

คุณไซอามีสพอจะช่วยตอบคำถามของคุณเทาชมพูได้ไหม  ???


คุณไซอามีสนอกจากจะเป็นคลื่นลูกใหญ่ในเรื่องรูปเก่าเล่าเรื่องเมืองบางกอกแล้ว

ยังมีความรอบรู้ในเรื่องสัตว์อีกด้วย   ;)

ถ้าลองนับขาดู           ก็จะรู้ว่าแปดขา
แมงมุมแปลงกายมา    เพื่อเหตุผลกลใดฤๅ    

แลนี่คือเหตุผล

(http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/11/X7262795/X7262795-11.jpg)

มดตัวจริง (ซ้าย) กำลังตกเป็นเหยื่อของมดปลอม (ขวา)

 ;D

ฝากให้คุณเพ็ญชมพู เอาสัตว์ประเภทนี้ไว้ดูครับ

^
^
สิ่งมีชีวิตด้านบน เรียกว่า "ไดอะตอม" โครงสร้างทำด้วยซิลิกา ถึงได้มีเปลือกแข็งหุ้มไว้ มีรูปร่างหลายแบบมามาย น่าอัศจรรย์มาก

อ้าว  ทำไมคุณไซมีสมาเฉลยเองล่ะคะ   ไม่รอคุณเพ็ญชมพูหรือ?

พวกเดียวกับรูปนี้หรือเปล่า

(http://www.news.wisc.edu/story_images/0000/0379/800px-Diatoms_PhC_DIC-lg.jpg)

เป็นความกรุณาของคุณไซอามีสที่ช่วยเฉลย

ว่าแต่ว่าเจ้า "ไดอะตอม" นี่เป็นพืชหรือสัตว์

(http://www.gpmatthews.nildram.co.uk/diatoms/circle02.jpg)

 ;)

ได้ความว่า เจ้าไดอะตอม คือ สาหร่ายสีแหลงแกมน้ำตาลกลุ่มหนึ่ง ในทะเลมีประมาณ ๒๐๐ ชนิด ผนังเซลล์ ประกอบด้วยซิลิกา มีเม็ด สีช่วยในการรับแสงอยู่บนฝาภายในมีโปรโตพลาสซึม มีนิวเคลียส สืบพันธุ์โดยการแบ่งตัว

ขอถาม
๑  ถามต่อว่า สาหร่ายเป็นพืชหรือเป็นสัตว์ คะ
๒  สีแหลง นี่มันสีอะไร

เอาปลาผีดิบดูดเลือดมาฝากค่ะ  ชื่อ Dracula minnow  เห็นเขี้ยวมันแล้วจะเข้าใจ

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/801/34801/images/animals/topspecies08.jpg)

ตอบคำถามคุณเทาชมพูเรื่อง "สาหร่าย" เป็น พืช หรือ ส้ตว์

คนจำนวนมากคิดว่าสาหร่ายหมายถึงพืชที่เจริญเติบโตในน้ำ นิยามนี้เป็นที่ยอมรับกัน จวบจนศตวรรษที่ ๑๘ ซึ่งถือกันว่าสาหร่าย "มิใช่พืชแท้" เพราะไม่มีทั้งดอกและเมล็ด ปัจจุบันนิยามดังกล่าวพ้นสมัยไปแล้ว สาหร่ายอาจเป็นได้ทั้งพืชและสัตว์ เจริญเติบโต ทั้งบนบกและในน้ำ ทั้งยังเป็นที่สนใจศึกษาของนักสัตววิทยาและนักพฤกษศาสตร์พร้อม ๆ กัน

กระทั่งถึงตอนปลายทศวรรษ ๑๙๕๐ บรูโน เดอ เรอเวียรส์ อาจารย์อาวุโสแห่งพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งประเทศฝรั่งเศส อธิบายว่า นักวิทยาศาสตร์มักจะจำแนก ประเภทสรรพสิ่งว่าเป็นสัตว์หรือพืชเสมอ อันที่จริงแล้วสาหร่ายนั้นเป็นได้ทั้งสองอย่าง เรอเวียรส์กล่าวว่า "สาหร่ายเป็นสิ่งที่ค่อนข้างซับซ้อน เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีที่มาจากสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันหลาย ๆ กลุ่ม บางครั้งอาจมีลักษณะทางพันธุกรรม ที่ห่างไกลกันมาก และไม่ปรากฏสายสัมพันธ์โดยตรง"

ทัศนะโดยรวมที่มีต่อสิ่งมีชีวิตในโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก อาณาจักรพืชแต่เดิมถูกแบ่งออกเป็น แธลโลไฟท์ (thallo phytes) กับ คอร์โมไฟท์ (cormophytes) ประเภทแรกมาจากคำว่า thallos ในภาษากรีก ซึ่งหมายถึง หน่อ หรือกล้าไม้ ซึ่งถือเป็นพืชชนิด "ธรรมดาหรือพื้น ๆ " (บางครั้งใช้คำว่า "มีลักษณะด้อย") เพราะไม่มี ทั้งกิ่งก้านสาขา ใบ ราก หรือเส้นใบ พืชประเภทนี้ได้แก่ สาหร่าย เห็ด มอส ไลเคนส์ และแบคทีเรีย ส่วนคอร์โมไฟท์มาจากคำว่า kormos ซึ่งหมายถึงกิ่งไม้ ในภาษากรีกได้แก่ พืชประเภทที่มีกิ่งก้าน ราก และดอก

แล้วเราจำแนกพืชเหล่านี้ออกจากสัตว์ได้อย่างไร ก็โดยดูจากความสามารถในการ เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของสัตว์ที่พืชไม่มีแต่เรื่องก็ยุ่งยากซับซ้อนขึ้นอีกเมื่อพบว่า สัตว์บางชนิด เช่น ดอกไม้ทะเลหรือปะการังเกาะแน่นอยู่ในสถานที่แห่งเดียวกันตลอด ในขณะที่สาหร่ายขนาดเล็กบางชนิดสามารถเคลื่อนที่ได้เช่น สาหร่ายพันธุ์ Spirulina (สาหร่ายทะเลสีน้ำเงิน) หรือไดอะตอม (diatoms สาหร่ายทะเลแพลงก์ตอนสีน้ำตาล) ข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งคือ พืชสามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ ในขณะที่สัตว์ที่ล่าและกินเหยื่อเป็นอาหาร แต่ทว่า สาหร่ายบางชนิดก็มีความสามารถ เช่นเดียวกับพืชกินเนื้อบางชนิดเช่นกัน เพราะมันสามารถล่าเหยื่อและกินอินทรีย์วัตถุ ได้ด้วย เพื่อให้ครอบคลุมประเด็นปัญหาดังกล่าว นักชีววิทยาในปัจจุบันจึงเสนอให้มีการ จำแนก อย่างน้อยเป็น ๕ ประเภท โดยพิจารณาที่ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมมากกว่าจะดูที่ความเกี่ยวพันระหว่างพืชและสัตว์แต่ละชนิดพันธุ์ดังแต่ก่อน

ที่มา : ยูเนสโกคูริเย โดย ฟรองซ์ เบอแกตต์  อรวรรณ คูหเจริญ นาวายุทธ แปล

 ;D

เพิ่มเ่ติม

ปัจจุบันวงวิชาการจำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็น ๕ อาณาจักร คือ

๑.อาณาจักรมอเนอรา (Kingdom Monera)
 
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้เป็นจำพวกเซลล์เดียวที่ไม่มีนิวเคลียส หรือไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส เรียกสิ่งมีชีวิตพวกนี้รวมๆ ว่า โพรแคริโอต (Prokaryote) ได้แก่ แบคทีเรีย และสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน หรือไซอาโนแบคทีเรีย (cyanobacteria)

๒. อาณาจักรเห็ดรา (Kingdom Fungi)
 
เห็ดราเป็นสิ่งชีวิตที่เซลล์มีนิวเคลียสหรือมีเยื่อหุ้มนิวเคลียสเรียกว่า ยูแคริโอต (eukaryote) อาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่เซลล์เดียวหรือหลายเซลล์ ไม่มีคลอโรฟิลล์ สังเคราะห์อาหารเองไม่ได้ กินอาหารโดยสร้างน้ำย่อยแล้วปล่อยออกมาย่อยสารอินทรีย์จนเป็นโมเลกุลเล็กและดูดเข้าเซลล์ (saprophyte) ได้แก่ เห็ดและราชนิดต่าง ๆ

๓. อาณาจักรโพรทิสตา (Kingdom Protista)
 
โพรทิสตาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ชนิดยูแคริโอต มีทั้งชนิดเซลล์เดียวและหลายเซลล์ ได้แก่ สัตว์เซลล์เดียว (protozoa) สาหร่ายต่าง ๆได้แก่ สาหร่ายสีเขียว สาหร่ายสีน้ำตาล สาหร่ายสีแดง สาหร่ายสีทอง เช่น ไดอะตอม

๔. อาณาจักรพืช (Kingdom Plantae)
 
พืชเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ เซลล์เป็นชนิดยูแคริโอต มีสารสีเพื่อการสังเคราะห์ด้วยแสงเรียกว่าคลอโรฟิลล์ ซึ่งมีหลายชนิด มีผนังเซลล์เป็นสาร เซลลูโลส สืบพันธุ์ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ มีวัฏจักรชีวิตแบบสลับ (alternation of generation) การจำแนกเป็นไฟลัมหรือดิวิชันใช้ลักษณะวัฏจักรชีวิตแบบสลับที่มีระยะแกมีโทไฟต์ (gemetophyte) และสปอโรไฟต์ (sporophyte) การมีท่อลำเลียงอาหารและน้ำ มีรากและใบ และมีดอก (flower) หรือไม่มีดอก

๕. อาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia)
 
เป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ ประกอบด้วยเซลล์ชนิดยูแคริโอต การจำแนกเป็นไฟลัมต่าง ๆ ใช้ลักษณะสำคัญคือ จำนวนชั้นของเนื้อเยื่อ ช่องภายในตัว ปล้องขา ลำตัว ชนิดของท่อทางเดินอาหาร สมมาตร (symmetry) ของลำตัว ชนิดของระบบไหลเวียน และการพัฒนาของระบบอื่น ๆ แบ่งออกเป็นสอง ซับคิงดอม (Subkingdom) คือ ซับคิงดอมพาราซัว (Parazoa) ได้แก่ฟองน้ำและซับคิงดอมเมทาซัว (Metazoa) ได้แก่สัตว์อื่น ๆ ที่เหลือ

 ;D

คุณเทาชมพูเคยโชว์ปลาหมึกพรางตัวไว้ตัวหนึ่ง



เจ้าตัวของคุณเทาชมพูนี้บางคนเีรียกว่า ปลาหมึกล่องหน Invisible octopus



มีปลาหมึกอีกตัวหนึ่งมีความสามารถในการเลียนแบบสัตว์ต่าง ๆ ได้ยอดเยี่ยม Thaumoctopus mimicus http://en.wikipedia.org/wiki/Mimic_Octopus    

เจ้าปลาหมึกตัวนี้อยู่ในสายพันธุ์หนึ่งของปลาหมึกสาย มันคือนักปลอมตัวชั้นยอด เมื่อต้องเจอกับปลาสลิดหิน (damselfish) หรือปลาตัวตลก (clownfish) มันกลายร่างเป็นงูทะเลชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า "banded sea snake" ซึ่งจับเจ้าปลาชนิดนี้กินเป็นประจำ โดยจะซ่อนหนวดไว้ ๖ เส้นและทำตัวเป็นเส้นโค้งยาว ๆ บางสถานการณ์มันจะแผ่หนวดออกไปรอบๆ ทุกทิศทุกทาง เพื่อเลียนแบบครีบของปลาสิงโตที่มีพิษ หรือหุบหนวดให้ไปทางเดียวกันเพื่อเลียนแบบปลาลิ้นหมา (flatfish) ซึ่งเป็นปลามีพิษ

(http://www.vcharkarn.com/uploads/164/165080.jpg)

http://www.youtube.com/watch?v=H8oQBYw6xxc&feature=player_embedded#!

 ;D

ต้องเข้ามาขอบพระคุณอาจารย์เพ็ญชมพูอีกครั้งครับที่สรรสาระดีๆมาให้ชม...................
สงสัยจริงๆ...พ่อเจ้าประคุณThe Indonesian Mimic Octopus.......ท่านทำได้ไง...เยี่ยมมากครับ


 :D

เจ้าปลาหมึกเลียนแบบบนหน้าหนังสือของคุณแทนไท ประเสริฐกุล

(http://www.onopen.com/upload/mimic%20cover.jpg)

หากคุณศรีสยามสนใจเกี่ยวกับเรื่องประเภทนี้ ติดตามอ่านผลงานของคุณแทนไทได้ที่นี่

ปรากฏการณ์ก๊อบลวงโลก (ตอนแรก) http://www.onopen.com/2006/02/629 (http://www.onopen.com/2006/02/629)
ปรากฏการณ์ก๊อบลวงโลก (ตอน ๒)   http://www.onopen.com/2006/02/630 (http://www.onopen.com/2006/02/630)
ปรากฏการณ์ก๊อบลวงโลก (ตอน ๓)   http://www.onopen.com/2006/02/655 (http://www.onopen.com/2006/02/655)
ปรากฏการณ์ก๊อบลวงโลก (ตอน ๔)   http://www.onopen.com/2006/02/675 (http://www.onopen.com/2006/02/675)
ปรากฏการณ์ก๊อบลวงโลก (ตอน ๕)   http://www.onopen.com/2006/02/693 (http://www.onopen.com/2006/02/693)
ปรากฏการณ์ก๊อบลวงโลก (ตอน ๖)   http://www.onopen.com/2006/02/721 (http://www.onopen.com/2006/02/721)
ปรากฏการณ์ก๊อบลวงโลก (ตอน ๗)   http://www.onopen.com/2006/02/728 (http://www.onopen.com/2006/02/728)
ปรากฏการณ์ก๊อบลวงโลก (ตอน ๘)   http://www.onopen.com/2006/02/768 (http://www.onopen.com/2006/02/768)

ป.ล. คุณแทนไท ประเสริฐกุล เป็นใคร เขาแนะนำตัวเองไว้อย่างนี้
http://athitha.multiply.com/reviews/item/8 (http://athitha.multiply.com/reviews/item/8)
  
 ;D

 

เรียงความบทนี้น่าจะแนะนำตัวคุณแทนไทได้ดีอีกระดับหนึ่ง

 ;D

บทความของคุณแทนไทอ่านสนุก  แต่ยาวมาก เลยยังอ่านไม่จบ
ขอถามคุณเพ็ญชมพูดีกว่า
การพรางตัวของสัตว์อย่างปลาหมึกในคลิปวิดีโอ  และในรูปวาดที่คุณเพ็ญเอามาให้ดู   เกิดขึ้นได้อย่างไร   
ร่างกายมันสามารถผลิตเซลล์สีออกมาได้ชั่วคราว ให้เหมือนอะไรที่มันอยากพราง ใช่หรือไม่คะ   ถ้าใช่ก็แปลว่าผลิตได้รวดเร็วมาก  แป๊บเดียวเปลี่ยนสีผิวหนังให้มีลายได้  อีกหนึ่งแป๊บลายก็หายไปได้
ไม่รวมที่มันสามารถรวบหรือขมวดบางส่วนของร่างกายให้มีลักษณะแปลกไปจากปกติ ให้เหมือนสิ่งที่เป็นเป้าหมายของมัน

คุณแทนไท เป็นหนุ่มใหญ่เต็มตัวแล้วในพ.ศ. นี้  รูปนี้ถ่ายกับคุณแม่(ยังสาว) จีรนันท์ พิตรปรีชา

(http://widget.slide.com/rdr/1/1/1/W/90000001df254ab/1/154/iqP1FmgY0T-0MB0LDGWixMkuQft7L7Lm.jpg)

ในกรณีหมึกล่องหนของคุณเทาชมพูเขาเรียกว่า การพรางตัว  http://en.wikipedia.org/wiki/Camouflage 

ส่วนในกรณีของหมึกตัวที่สองเรียกว่า การเลียนแบบ http://en.wikipedia.org/wiki/Mimicry

เรื่ืองที่คุณเทาชมพูสงสัยการคือ การพรางตัว

การพรางตัวของหมึกเกี่ยวข้องกับ ๒ อย่างคือ ความสามารถในการขยายหรือหดตัวของเซลล์สี (ไม่ใช่เพิ่มหรือลดจำนวนเซลล์สี) เซลล์เม็ดสีเหล่านี้อยู่บนผิวหนังของหมึกเรียกว่า http://en.wikipedia.org/wiki/Chromatophore (http://en.wikipedia.org/wiki/Chromatophore) ซึ่งอยู่ด้านบนลำตัวมากกว่าด้านข้าง ด้านในมีเม็ดสี เมื่อกล้ามเนื้อหดตัวจะดึงผนังของเซลล์เหล่านี้ให้ขยายใหญ่ขึ้น จึงทำให้สีสันของหมึกสามารถแปรเปลี่ยนไปมาได้  และอีกอย่างหนึ่งคือความสามารถในการสร้างรูปแบบของผิวหนังแบบโพลาไรซ์ โดยควบคุมความเหลือบของสีในผิวหนัง

คุณเทาชมพูโปรดอ่านรายละเอียดต่อข้างล่างนี้

http://www.vcharkarn.com/vcafe/60208


http://www.youtube.com/watch?v=jN99Kx_ghC8

ในนาทีที่ ๔.๓๕ - ๖.๒๐ เป็นการทดลองเพื่อแสดงให้เห็นความสามารถในการจำของหมึกประเภทเดียวกับหมึกพอล

พอจะเข้าใจได้ว่า การทำนายของหมึกพอลแท้จริงแล้วน่าจะเป็นผลจากการฝึกฝนให้หมึกพอลจำสิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องการมากกว่า

 ;D

มีสัตว์ประหลาดมาลองภูมิ

ตัวอะไรเอ่ย

ไรฝุ่นรึเปล่าคะ

ม่ายช่าย

ไรฝุ่น หน้าตาหล่อกว่าเยอะ

(http://www.sanicleansystems.com/files/1432890/uploaded/House_Dust_Mite.jpg)

 ;D

เพลินเพลงยามบ่ายกับ "ไรฝุ่นพาเพลิน"

http://www.youtube.com/watch?v=-UqZDjwGETk&feature=related

 ;D

ขอเชิญฟังเพลงต่อไปโดยเหล่าศิลปินไรฝุ่น และพบกับแขกรับเชิญระดับโลก ได้ ณ บัดนี้

http://www.youtube.com/watch?v=VSjCLd50L5I

 ;D

ยังดูไม่ออกว่าตัวอะไรที่คุณเพ็ญถามมา แต่คิดว่าเล็กจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

เอาหนอนสีสวยมาฝากตัวหนึ่งค่ะ
แก้ตัวที่ทำการบ้านไม่ได้

หนอนสีสวยของคุณเทาชมพูน่าจะเป็นตัวเดียวกับเจ้าหนอนใน # ๓๒๘

(http://www.environmentalgraffiti.com/sites/default/files/images/http-inlinethumb45.webshots.com-42796-2675305730104237032S600x600Q85.preview.jpg)


คุณไซอามีสไม่ลองมาตอบหน่อยรึว่าเจ้าตัวประหลาดใน # ๓๙๒ คือตัวอะไร

 ;)

รูปถ่ายหน้าตรงของสัตว์ประหลาดปริศนา

;D

สัตว์ปริศนาแปดขาท้าทายตัวนี้เป็นตัวไรชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับไรฝุ่น ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคคนและสัตว์ตัวหนึ่ง

Sarcoptes scabiei ไรตัวนี้มีหลายพันธุ์ (variety) พันธุ์ที่อยู่ในคนเรียกว่า ไรหิด  ส่วนในสัตว์จำพวกสุนัข สุกร วัว ควาย เรียกว่า ไรขี้เรื้อน

ตัวไรที่ทำให้เกิดอาการคันเป็นตัวเมียซึ่งจะชอนไขเข้าไปใต้ชั้นหนังกำพร้าเพื่อวางไข่ ส่วนตัวผู้ใจเซาะเมื่อเสร็จสิ้นการผสมพันธุ์ก็สิ้นใจ

 ;)

(http://2.bp.blogspot.com/_1Z5_frqW26w/Sbyz6GGn1rI/AAAAAAAADj0/mRq2iKLtEL0/s400/content-scabies-mite.jpg)

สัตวประหลาดมาอีกตัวหนึ่งแ้ล้ว

ตัวอะไรเอ่ย


ป.ล. เชื่อว่าคุณไซอามีสรู้จักเจ้าตัวนี้ดี

 ;)

ส่งหนอนมาฝากคุณเพ็ญชมพู ๒ ตัว
แก้ตัวที่ตอบคำถามไม่ได้  ยังไม่ได้ซื้อกล้องจุลทรรศน์ค่ะ

เลือกตัวสวย ๆ มาประชันกับคุณเทาชมพู

(http://lh6.ggpht.com/_gKQKwLZ8XUs/S4rXqE6HChI/AAAAAAAACIU/7zzXJFfbaqI/s800/Amazing-Caterpillars-Blue.jpg)

(http://lh5.ggpht.com/_gKQKwLZ8XUs/S4rYhrJEmsI/AAAAAAAACIw/jd0EHEY1tR8/s800/Amazing-Caterpillars-Colorful.jpg)

(http://lh4.ggpht.com/_gKQKwLZ8XUs/S4rXpwRSa5I/AAAAAAAACIQ/URkoOcIlky4/s800/Amazing-Caterpillars-Black.jpg)

http://www.boredpanda.com/22-weird-and-beautiful-caterpillars/

 ;D


ป.ล. เจ้าไรฝุ่น ไรหิดหรือไรขี้เรื้อน รวมทั้งไรปริศนาตัวสุดท้าย หากคุณเทาชมพูต้องการเห็นอย่างในภาพที่นำมาแสดง คงต้องหาซื้อกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน Electron microscope

 ;)

หนูอยู่บนใบหน้า         ชาวประชาทุกคนไป
ไม่ก่อความป่วยไข้      ใครคือหนู Who am I ?

 ;D

ไรน้อยตัวข้างบนชื่อว่า ไรขุมขน  Demodex mite ในคนและสัตว์เป็นคนละสปีชี่ส์กัน

คนร้อยคนจะพบเจ้าตัวนี้ ๙๗ คน ส่วนมากพบในขุมขนบนใบหน้า บริเวณอื่นก็พบได้บ้าง มีความสามารถก่อให้เกิดโรคในคนต่ำมาก ๆ และถ้าจะเป็นโรค  ก็เป็นแค่โรค  http://en.wikipedia.org/wiki/Rosacea  (http://en.wikipedia.org/wiki/Rosacea) แพทย์ผิวหนังท่านหนึ่งเล่าว่าในชีวิตการเป็นแพทย์ผิวหนังมาตลอดกว่า ๒๐ ปี  เคยพบคนไข้โรคนี้ไม่ถึง ๕ ราย

ในสุนัขก็เช่นเดียวกับคนคือพบได้ในสุนัขแทบทุกตัว ทำให้เกิดโรคในสุนัขได้หากมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและสุนัขนั้นมีภูมิคุ้มโรคต่ำลง โรคนั้นคือ "ขี้เรื้อน" แต่มีลักษณะคนละอย่างกับขี้เรื้อนที่เกิดจากไรขี้เรื้อนตัวก่อนหน้านั้นซึ่งมักเรียกว่า "ขี้เรื้อนแห้ง" แต่ขี้เรื้อนจากไรขุมขนตัวนี้เรียกว่า "ขี้เรื้อนเปียก"

มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเจ้าไรตัวนี้กันมาก

ลองอ่านดูในกระทู้พันทิป

ความเข้าใจผิด

นำชม สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในรูขุมขนที่หน้า ของเราๆ ทุกคน
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/01/X8804911/X8804911.html

ข้อมูลที่ถูกต้อง

อย่ากังวลกับไร Demodex บนใบหน้า
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/01/X8812956/X8812956.html

 :D

http://www.youtube.com/watch?v=dBU6-XK2v54

ขอนำสัตว์ไม่ประหลาดมาสลับฉากบ้าง

เหตุไฉนไม่ประหลาด

เป็นแมลง ไทยเรียกว่า เต่า (เต่าทอง) ฝรั่งเรียกว่า นก (ladybird)

นับได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง


ตัวนี้ก็ประหลาด

Dragonfly   หน้าตาเหมือนมังกรตรงไหน

(http://puterisworld.com/wp-content/uploads/2010/08/dragonfly5-galt.jpg)

Butterfly    เนยบิน ?

(http://puterisworld.com/wp-content/uploads/2009/10/butterfly2a.jpg)

 ;D

http://puterisworld.com/category/insects/

สัตว์ประหลาดตัวต่อไป

มีหกขา ต้องเรียกว่า แมลง

คนไทยเรารู้จักกันดี แต่ทว่าเคยเห็นกันชัด ๆ แบบนี้หรือเปล่า

 ;D

เดาว่า 'เหา' ใช่หรือเปล่าครับ ?

ตัวเรือด รึเปล่าคะ

คุณติบอตอบถูก

ตัวเรือดของคุณร่วมฤดีหน้าตาเป็นอย่างนี้

(http://newyorkvsbedbugs.org/wp-content/uploads/2010/02/fascicle-inside-labium.jpg)

(http://www.exterminatorsbrooklyn.com/images/bedbug_1_manhattan_exterminator.jpg)

ไม่ยากเลยใช่ไหมสำหรับคำตอบ

จองตัวคุณติบอและคุณร่วมฤดีไว้ตอบสัตว์ปริศนาตัวต่อไป

ไม่ใช่ตัวไร ไม่ใช่แมลง

มันคืออะไร ?

เดาไม่ถูกครับ คุณเพ็ญชมพูใบ้เพิ่มนิดนึงได้ไหมครับ

คุณติบอคิดว่ากรงเล็บของเจ้าสัตว์ปริศนาตัวนี้เหมือนของสัตว์ชนิดใด

 ;)

คู่แฝดต่างสายพันธุ์

 :D

กรรมเวร ยิ่งมืดตึ๊ดตื๋อหนักกว่าเดิมเสียอีก
(ตอนเรียนวิชาปรสิทธิ์ผมน่าจะขยันกว่านี้ 555+)
รูปของคุณเพ็ญชมพูน่ากลัวมากครับ เหอๆ

อึ๋ยยยย น่าแขยงงงง...จังค่ะ ตัวเห็บสุนัขหรือเปล่าคะ เล็บ หรือ นิ้วเยอะเชียว

ไม่เก่งเรื่องนี้ ไม่ได้เรียนปรสิตวิทยา หรือ กีฏะวิทยามี ม.เกษตรเสียด้วย

เคยเลี้ยงเหาบนหัวตัวเองสมัยเด็ก ๆ  ยังจำหน้าตาไม่ได้เลยอ่ะค่ะ

ใครว่าน่ากลัว

ลีลาน่ารักของเจ้าหนูน้อยตัวนี้นวดนาดบนละอองเรณู

แม่ลูกผูกพัน

 ;D

นึกถึงวุ้นเส้นถั่วเขียวตรา 'ช้างเหยียบโลก' ขึ้นมาตะหงิดๆเลยครับ คุณเพ็ญชมพู  ;D

คุณติบอดูดี ๆ ว่าเหมือนช้างหรือเหมือนตัวอะไรกันแน่

เจ้าหนูน้อยนี้มีสีสันสวยงาม มีทั้ง แดง ขาว ส้ม เหลือง เขียว ม่วง ดำ และโปร่งใส  

 ;D

สีที่ว่านี่เกิดจากเม็ดสีในตัว หรือว่าสีย้อมหรือครับ ?

เป็นสีของตัวมันเอง

 ;D

เออ... ไม่ทราบเลยครับ มีแบบนี้ด้วยหรอ แหะๆ
เนื่องด้วยเกล้ากระผมเกิดอาการ 'หัวตัน' เสียแล้ว
จึงรอสมาชิกท่านอื่นมาร่วมด้วยช่วยกันเดาดีกว่าครับ แหะๆ

มันคือสุดยอดสิ่งมีชีวิต!
มันมีชีวิตอยู่ได้ในน้ำเดือด
มันมีชีวิตอยู่ได้ในที่ที่หนาวเย็นที่สุดของโลก
มันรับแรงดันมหาศาลในทะเลที่ลึกที่สุดได้สบาย
มันทนรังสีเอ็กซ์ที่รุนแรงได้มากกว่ามนุษย์หลายร้อยเท่า
มันอยู่ได้ในอวกาศ
มันอยู่ได้เป็นร้อยปี
มันมีอยู่ทุกที่ทั้งหนองน้ำ มหาสมุทร ภูเขา แม้แต่บนหลังคาบ้าน
มันคือตัวอะไร...
มันคือ...
มันคือ...

 ;)

ตื่นเต้นจัง...ตัวอะไร น้า.... ???

สัตว์ประหลาดต่างดาว!!! แน่ๆเลยครับ อิอิ

"หมีน้ำ" หรือ "ตัวทาร์ดิเกรด (tardigrade)"

อยากรู้รายละเอียด ไปดูที่นี่  http://jirapong.siam2web.com//?cid=532672

..."หมีน้ำเล็บเหมือนแมว  ดูไปแล้วตัวเหมือนหมี  ดูไม่ดีเหมือนเห็บไร  ดูไกลๆ เหมือนธุลี"...
คุณหลวงเล็ก เยี่ยมจริงๆ ค่ะ... แฟ้มบุคคลขอปรมมือให้....

ดูหมีตัวจิ๋วแล้ว  ชวนคุณเพ็ญชมพู และท่านอื่นๆ  มาดูแมง(มุม)ระดับบิ๊กบ้างดีกว่า
ในรูปเขาเรียกว่า camel spider   ดิฉันไม่รู้ว่ามีตัวจริง  หรือทำหลอกกัน
ขอเชิญไขข้อข้องใจ


(http://www.camelspider.info/images/camelspider2.jpg)

ตื่นเต้นที่คุณหลวงเล็กให้เกียรติมาร่วมเฉลยชื่อ "สัตว์ปริศนา"

ไม่มีอะไรตอบแทนดีไปกว่าเสียงปรบมือ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3296.0;attach=14786;image)

หวังว่าใน "สัุตว์ปริศนา" ตัวต่อไป คุณหลวงเล็ก, คุณติบอ, คุณร่วมฤดี, คุณดีดี และเจ้าประจำคือคุณเทาชมพูคงเข้ามาร่วมรายการกันอีก

ป.ล.  สำหรับเจ้า camel spider  ของคุณเทาชมพูมีอยู่จริงแท้แน่นอน

http://www.youtube.com/watch?v=V8ORwFBw0tk&feature=player_embedded

http://www.camelspider.info/

เสร็จหน้าที่แจ๋ว.....จะมาประจำการรบเคียงบ่าเคียงไหล่ทุกท่านค่ะ

ตัวอะไรแปลกประหลาดมาก ช่างไปหามาทายได้ นับถือ ๆๆๆๆๆ

ตัวนี้จะว่าประหลาดก็ไม่เชิง

เคยได้ยินชื่อกันทุกคน ตั้งเป็นชื่อคนก็ยังมี

คุณร่วมฤดีและสหายทุกท่านว่าเป็นตัวอะไร

 ;D

ยังไม่มีกล้องจุลทรรศน์ หมดปัญญาจะทาย
คุณเพ็ญชมพูเอาตัวนี้ไปดูเล่นก่อน นะคะ

(http://ilovewerewolves.com/blog/wp-content/uploads/2009/10/X-312-252x300.jpg)

ขอภาพมุมข้างได้ไหมครับ คุณเพ็ญชมพู
ขออนุญาตเดามั่ว่า 'มอด' ก่อนแล้วกันนะครับ
แต่จะมอดอะไรนายติบอเดาไม่ถูกหรอก

เห็นทีว่าถ้าเป็นข้อสอบ ผมคงจะได้ 'มอดม้วย' เป็นตัวแรก  ;D

ผมว่า "เหา" นะครับคุณเพ็ญชมพู

"หมัด" ใช่หรือไม่ ???

หากคุณเทาชมพูต้องการเห็นสัตว์พวกนี้ชัด ๆ อย่างที่เอามาแสดงคงต้องหาซื้อเจ้าเครื่องนี้  Scanning Electron Microscope ราคาไม่แพงประมาณเครื่องละ ๑๕ ล้านบาทเอง หากยังไม่มีงบ ไปใช้บริการที่จุฬาฯ ได้ ค่าเปิดเครื่อง SEM ครั้งละ ๒,๐๐ บาท  ค่าบริการชั่วโมงละ ๗๐๐ บาท

http://www.cmprice.com/market/category_detail.php?cate_id=272204968

เรื่องน่ารู้ของกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (Scanning Electron Microscope , SEM)
http://www.dss.go.th/dssweb/st-articles/files/pep_4_2547_sem.pdf

ตามไปดูแล้ว เขาบรรยายว่าเป็น Mummified El Chupacabra เก็บไว้ในหีบอย่างดีเชียว

http://entertainment.webshots.com/album/559145764UwDaki

ของจริงหรือหลอกช่วยบอกด้วย

 ;)

ดูท่าทางคุณหลวงเล็กไม่ใคร่มั่นใจ

ดูภาพนี้อีกที

"หมัด" ใช่หรือไม่

 ;)

o.k. ;)

ถ้าคุณหลวงเล็กมั่นใจอย่างนี้

ก็ต้องบอกว่า

ถูกต้องแล้ว

ขอปรบมือให้คนเก่งเป็นครั้งที่สอง

เซียนเก่งๆ ทั้งนั้นเลย  ;D

ขอร่วมนำภาพมาทายด้วยละกันครับ อะไรกันนี่  ???

ดูละม้ายคล้ายคลึงกับ "ไรฝุ่น" เสียนี่กระไร

(http://listverse.files.wordpress.com/2008/06/dust-mites.jpg)

ถ้าไม่ถูก คุณไซอามีสช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อย

 :)

เก่งมากเลยครับ คุณเพ็ญชมพู ที่หาจนพบ "ตัวไรฝุ่น"
ตัวไรฝุ่น คือ สัตว์ที่มีขนาดเล็กมาจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เป็นสัตว์จำพวกแมลงแต่มีลักษณะคล้ายกับแมงมุม เห็บ หมัด และ มีขา 8 ขา ชอบอาศัยอยู่ในบ้านของเรา ขนาดของไรฝุ่นจะวัดได้ 1 ส่วน

100 ของความยาวที่เป็นนิ้ว ซึ่งเทียบแล้วคือเล็กกว่าปากกาที่จุดลงบนกระดาษ

อาหารของตัวไรฝุ่น คือ เซลล์ผิวหนังของคนและสัตว์เลี้ยงที่หลุดลอกออกมา ผิวหนังของคนนั้นโดยทั่วไปจะหลุดลอกวันละประมาณ 1.5 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่มากพอที่จะเลี้ยงตัวไรฝุ่นให้เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี นอกจากอาหารที่ได้จากคน ไรฝุ่นยังอาศัยพวกใยผ้าและขนสัตว์กินเป็นอาหารได้ด้วย

ตัวไรฝุ่นไม่มีตาที่มองเห็น และไม่มีระบบหายใจ ตัวไรฝุ่นชอบอยู่ในที่อุ่น ชื้น และเต็มไปด้วยฝุ่นละออง อุปกรณ์การนอน เช่น หมอนหนุน ที่นอน พรม และเฟอร์นิเจอร์ผ้า เป็นสถานที่ที่ดีอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวไรฝุ่น ตัวไรฝุ่นจะปล่อยมูลของเสียของมันออกมาประมาณวันละ 20 ก้อน และสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการสืบพันธุ์ของพวกมัน คือ ที่นอนที่มีความอบอุ่น ชื้น และมืดของเรานั่นเอง ไรฝุ่นเพศเมียจะวางไข่วันละ 60-100 ฟอง

คนที่แพ้ไรฝุ่น หมายถึง คนที่มีปฎิกิริยาต่อโปรตีนในตัวและในมูลของไรฝุ่น ภูมิแพ้ไรฝุ่นคือ ปฎิกิริยาที่ไวต่อโปรตีนของตัวไรฝุ่นที่ตายแล้ว โปรตีนดังกล่าวจะมีผลเสียต่อทางเดินหายใจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบรุนแรงและโรคหอบหืด และยังทำให้คนที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคผิวหนังอักเสบมีอาการของโรคมากขึ้น

ตัวไรฝุ่นที่ตายจะมีจำนวนโปรตีนจำนวนมาก เมื่อเราสูดลมหายใจหรือผิวหนังของเราสัมผัสกับตัวไรฝุ่นที่ตาย ร่างกายของเราก็จะสร้างภูมิต้านทาน (antibodies) ขึ้นมา ภูมิต้านทานนี้จะปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า ฮีสตามีน ซึ่งทำให้เกิดการบวมและการระคายเคืองของทางเดินหายใจตอนต้น นั่นก็คืออาการของโรคทางเดินหายใจอักเสบและโรคหอบหืด และภูมิแพ้นี้ยังสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้อีกด้วย

สารก่อภูมิแพ้ของไรฝุ่นอาจเป็นสาเหตุของโรคต่อไปนี้
  โรคทางเดินหายใจอักเสบตลอดปี 
 โรคตาอักเสบ (ตาระคายเคือง) 
 โรคจมูกอักเสบ (น้ำมูกไหลและมีการจาม) 
 โรคหอบหืด (ไอและมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ) , โรคหอบหืดในระยะต่อไป 
 โรคผิวหนังอักเสบ (ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น มีผื่นแดงและคัน) 
 โรคปวดศีรษะ 
 โรคผื่นคัน 

ถึงว่าสัตว์ปริศนาของคุณไซอามีสหน้าตาคุ้น ๆ เหมือนเคยผ่านตามาก่อน

เ่จ้าไรฝุ่นเคยออกโรงมาแล้วที่


จัดรายการ "ไรฝุ่นพาเพลิน" ยามสายให้ฟังอีกที

เพลงแรก


ต่อด้วย


หวังว่าทุกท่านคงมีอารมณ์ดียามสายไปกับรายการ "ไรฝุ่นพาเพลิน"

 ;D

สัตว์ปริศนาตัวนี้เคยมีคนพูดถึงในกระทู้เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง

คุณไซอามีสว่าเป็นตัวอะไร

ทุกคนเคยได้ยินชื่อเช่นกัน

แต่คงไม่เคยเห็นตัวใหญ่ขนาดนี้

 ;)

อุ๋ย แมงกุ๊ดจี่แน่ๆเลย
หรือเปล่าครับ หิหิ  ;D

เจ้าแมง (แมลง) กุ๊ดจี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Dung_beetle ของคุณติบอหน้าตาเป็นอย่างนี้

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/3/31/Dungbeetle.jpg)

มีเพลงประจำตัวเสียด้วย

http://www.youtube.com/watch?v=RTK1A5K5d7I&feature=related


สัตว์ปริศนาที่ถาม  คุณติบอน่าจะคุ้นเคย

 ;D

อยากให้คุณติบอเดาอีกทีจัง

เราท่านอาจจะเคยรับประทานเจ้าตัวนี้มาแล้วพร้อมข้าว

 ;)

มอด ชัวร์ 8)

อันที่จริงชื่อที่ถูกต้องควรเรียก "ด้วงงวงข้าว (Rice weevil)" 

ชื่ออื่นๆ : มอดข้าวสาร Black Weevil, Lesser Rice Weevil

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sitophilus oryzae (Linnaeus)

ชื่อเดิม : L., Sitophilus oryza L.

อันดับ,วงศ์ : Coleoptera,Curculionidae

ด้วงงวงตัวเต็มวัยมีสีน้ำตาลดำ ยาวประมาณ 2.0-3.0 มม. ส่วนหัว่จะยื่นออกมาเป็นงวง(snout) หรือ (rostrum) สามารถบินออกไปทำลายเมล็ดพืชตั้งแต่ยังอยู่ในไร่นา โดยตัวเมียจะวางไข่ที่เมล็ดพืชขณะที่เมล็ดเริ่มจะสุกแก่ เมล็ดละ 4-6 ฟอง แล้วขับเมือกปิดปากรูไว้ ตัวเมียวางไข่ได้ 300-400 ฟอง ไข่จะฟักในระยะ 3-6 วัน เป็นตัวอ่อนสีขาวลำตัวสั้นป้อม และอาศัยกัดกินอยู่ภายในเมล็ด ระยะตัวอ่อน 20-30 วัน แล้วจึงเข้าดักแด้เป็นเวลา 3-7 วัน เมื่อเป็นตัวเต็มวัยแล้ว จะเจาะผิวเมล็ดออกมา ทำให้เมล็ดที่ถูกด้วงงวงข้าวอาศัยอยู่เป็นรู วงจรชีวิตใช้เวลา 30-40 วัน ตัวเต็มวัยมีชีวิตอยู่ได้นาน 1-2 เดือน หรือมากกว่านี้

นอกจากนี้ยังมีมอดแป้ง อีกด้วยครับ

มอดแป้ง-ศัตรูข้าวสาลี

มอดแป้ง (red flour beetle)


ชื่อวิทยาศาสตร์ Tribolium castaneum (Herbst)
วงศ์ : Tenebrionidae
อันดับ : Coleoptera
ชื่อสามัญอื่น : -

วงจรชีวิตและระยะทำลายพืช
ไข่ หนอน ดักแด้ ตัวเต็มวัย

 
มอดแป้ง มีสองชนิด คือ Red flour beetle (Tribolium castancum Hbst.) และ Con - fused flour beetle (Tribolium confusum Duv.) เป็นมอดสีน้ำตาลปนแดง ขนาดลำตัวยาวประมาณ ๒.๕-๔.๕ มิลลิเมตร ลำตัวค่อนข้าวแบนชอบทำลายเมล็ดที่ถูกมอดข้าวสาร หรือมอดข้าวเปลือกกัดกินไปแล้ว

ก่อนอื่นต้องตบมือให้คุณหลวงเล็กก่อน

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3296.0;attach=14786;image)


เรียนคุณไซอามีส

ขอบพระคุณที่กรุณาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

มอด ความจริงก็คือด้วงชนิดหนึ่ง  มอดข้าวสาร จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ด้วงงวงข้าว เพราะมันอีกจมูกยาวเหมือนงวง

ในพจนานุกรมก็ยังใช้ชื่อแรก

มอด ชื่อแมลงขนาดเล็กหลายชนิดในหลายวงศ์ที่เจาะกินเข้าไปในวัสดุต่าง ๆ ทําให้เกิดเป็น รูพรุนทั่วไปกับทั้งมีวัสดุผสมมูลขับถ่ายออกมาเป็นขุยเป็นเม็ดเล็ก ๆ เรียก ขี้มอด ส่วนใหญ่เป็นแมลงปีกแข็ง เช่น มอดข้าวสาร (Sitophilus oryzae) ในวงศ์ Curculionidae ทําลายข้าวสาร

 ;D

ตัวนี้หน้าตาเหมือนเอเลี่ยน

คุณหลวงเล็กคงตอบได้ไม่ยาก

 ;D

คล้าย แมลงสาบ นะคะ...
เอ!! หรือว่าจะเป็น มด...

ทายว่า "ปลวก" ดีกว่า

มดตะนอยค่ะ  บางคนก็เรียกว่า มดแดง ไม่รู้ชื่อไหนกันแน่ แต่มีที่ต้นมะม่วงที่บ้านค่ะ

ถ้าอยู่ที่ต้นมะม่วง ก็น่าจะเป็นมดแดง

เหมือนมดแดงแฝงพวงมะม่วงงอม           ไต่ตอมเต็มอยู่ไม่รู้รส

มดตะนอย

(http://lifeunseen.com/cart/img/2525.jpg)

โลมาสีชมพู  (ภาพจริงค่ะ)

(http://www.hoax-slayer.com/images/pink-dolphin1.jpg)

(http://www.hoax-slayer.com/images/pink-dolphin2.jpg)

มันคือ โลมาเผือก

(http://www.hoax-slayer.com/images/worlds-strongest-dog.jpg)

หมาตัวนี้ชื่อ Wendy  เป็นพันธุ์ Whippet ที่มีความผิดปกติทางยีนส์ ทำให้ตัวมันโตกว่าหมาชนิดเดียวกัน พร้อมด้วยกล้ามล่ำบึ้ก
ตอนนี้อยู่ในกองทัพรัสเซีย

เห็นน้องหมาแรมโบ้ของอาจารย์เทาชมพู
ชวนให้นึกถึงเวทีประกวดเพาะกายยังไงไม่ทราบครับ
เดาว่านักเพาะกายหลายคนคงอยากได้ยีนส์ผิดปกตินี่
ไปตัดต่อเข้ากับพันธุกรรมของตัวเองอยู่หรือเปล่า ?


สำหรับบ่ายที่แสนร้อนจัดแบบนี้
ผมลองเอาสัตว์ประหลาดเข้ามาทายกันเล่นๆตัวนึงดูครับ
คิดว่าอาจจะมีคนเดาได้ ไม่ยากว่ามันคือตัวอะไร

เจ้าตัวนี้ยาวแค่เกือบๆ 1 ใน 10 มิลลิเมตรเองครับ

อยากขอยืมเจ้า Wendy ของ อาจารย์เทาชมพู เพื่อจูงแหวกผู้คนเข้าไปในงานสัปดาห์หนังสือจังค่ะ

ถ้าเวนดี้ไม่ว่าง   ตัวนี้ก็แทนได้นะคะ

(http://www.fugly.com/media/IMAGES/Amazing/giant-dog.jpg)

มีึสมาชิกเข้ามาร่วมวงประัชันสัตว์ประหลาดกันครึกครื้น

ขอเฉลยสัตว์ปริศนาที่ติดค้างไว้ก่อนเป็นอันดับแรก

คำตอบของคุณดีดีใน # ๔๕๗ ที่ทายว่า "ปลวก" ถูกต้อง  แต่ไหงภาพประกอบกลับเป็น "มด" เสียได้

(http://www.knowledgerush.com/wiki_image/c/ca/Ant_SEM.jpg)



มดตะนอยกันมดแดงเป็นคนละเผ่าพันธุ์กัน

มดตะนอยเป็นชื่อมดหลายสกุลในวงศ์ Formicidae เช่น สกุล Diacamma, Leptogenys, Lobopelta ที่พบทั่วไป คือ ชนิด  Diacamma rugosum   http://en.wikipedia.org/wiki/Diacamma

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/d3/CharlesLam_-_Diacamma_rugosum.jpg/800px-CharlesLam_-_Diacamma_rugosum.jpg)

ส่วน มดแดง http://en.wikipedia.org/wiki/Oecophylla_smaragdina หน้าตาเป็นอย่างนี้

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b5/O.smaragdina7.jpg)

 ;D

 ;D

สัตว์ประหลาดของคุณติบอเป็นตัวอ่อน (cercaria) ของหนอนพยาธิชนิดหนึ่งคือ "พยาธิใบไม้ในเลือด" ชื่อว่า http://en.wikipedia.org/wiki/Schistosoma_mansoni เจ้าตัวนี้ไม่พบในไทย

http://emtrix.dbs.umt.edu/demo/schistosome/index.htm

หน้าตาตัวเต็มวัยเป็นอย่างนี้

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/5/5f/Schistosoma_mansoni2.jpg)

ตัวที่พบในไทยชื่อว่า Schistosoma japonicum

ทำให้เกิดโรคในคนอย่างไร อ่านได้ในลิ้งก์ข้างล่าง

http://cai.md.chula.ac.th/chulapatho/chulapatho/lecturenote/infection/parasite/shistosomiasis.html

 ;D

ตัวอะไรเอ่ย  คุณติบอ

 ;D

Is it a millipede ? :-\

Correct.

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3296.0;attach=14786;image)

Who am I ?

 ;)

Are you a mosquito ?

SURE !!!!!
"mosquito"

ภาพชุดนี้ อาจจะหลุดคอนเซ็ปสัตว์ประหลาดไปหน่อย
แต่อยากเอามาฝากนะคะ อยากให้ได้ดูกันค่ะ น่ารักมาก!!!

ภาพแรกอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวอะไร

ภาพต่อมาค่ะ เอาชีวิตเข้าแลกกันเลยนะคะ

กลับขึ้นมาอย่างผู้ชนะ?

ทั้งหมดนี้ เพื่อลูกค่ะ........โห!!! ซึ้งจังนะคะ
ความประหลาดของสัตว์ตัวน้อยๆ  ที่มนุษย์บางคนยังต้องอาย...

มาสนับสนุนค่ะ 471 คือ ยุงค่ะ เจ้าตัวเล็กนี้ ทำดิฉันนอนโรงพยาบาลเมื่อปีที่แล้วสำเร็จ

คุณ D:D: ค่ะ รูปของคุณสวยเหลือเกินค่ะ

ปรบมือให้คุณหลวงเล็ก, คุณดีดี และคุณร่วมฤดี

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3296.0;attach=14786;image)

มองภาพนกภาพแรกของคุณดีดี แล้วนึกถึงคำว่า วิหคสายฟ้า

 ;D

เก็บมาจากเว็ปต่างประเทศค่ะ นานมากแล้วค่ะ
ชอบภาพ แต่ไม่ได้เก็บชื่อคนถ่ายภาพ
ต้องขอโทษท่านเจ้าของภาพด้วยนะคะที่ไม่ได้ให้เครดิต...

มีสุดหล่อมาให้ทายตัวหนึ่งค่ะ เขามี 8 ตานะคะ มีขามากกว่า 1 คู่ค่ะ
เขาคือ...

เข้ามาติดตามชมในกระทู้นี้แล้ว ...

น้องพอลของพี่เพ็นโน ตายเสียแล้ว เมื่อวันที่ ๒๖ ต.ค. ๒๕๕๓  :'(


(http://pics.manager.co.th/Images/553000016010602.JPEG)

มาดูปฏิกิริยาทั่วโลกกัน

http://www.youtube.com/watch?v=o-yI-FCIR0U

^
^
เพิ่งอ่านข่าวพบเมื่อเช้านี้เอง

น้องพอลไม่น่าอายุสั้น

R.I.P.

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:icCNMJsWL0CxpM:http://www.siamcomic.com/images/scboard//71563_644775.jpg)

 :'(  :'(  :'(

ภาพสัตว์ประหลาดของคุณดีดีคือเจ้าตัวนี้

(http://www.atclabs.com/Photos/spider.jpg)

เป็นผลงานของ Argo - Tech Materials Laboratory ที่อเมริกา

http://www.atclabs.com/Photos.htm

ภาพถ่ายจาก SEM ของแท้จะเป็นภาพขาวดำ สีที่เห็นในภาพของคุณดีดีเกิดจากการเติมสีเข้าไปภายหลัง

เจ้าแมงมุมจะถูกห่อหุ้มด้วยทองคำเปลวก่อนที่จะถ่ายภาพด้วย SEM ออกมา

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/ec/Gold_Spider_SEM_sample.jpg/799px-Gold_Spider_SEM_sample.jpg)

ยังมีภาพแมลงถ่ายด้วย SEM แล้วเติมสีสันอีกหลายภาพให้ดูในลิ้งก์ข้า่งล่าง

http://www.sgclub.com/humour/insects-under-the-electron-microscope/

ลองมาทายดูก็ได้ว่ามันเป็นตัวอะไรกันบ้าง

 ;D

ถูกต้องแล้วค่ะคุณเพ็นโน อุ้ย! คุณเพ็ญชมพู เยี่ยมเลยค่ะ  ;D
มันคือ Jumping Spider  แมงมุมกระโดด นั่นเองค่ะ
ดูท่าตอนกระโดดล่าเหยื่อได้ที่นี่ค่ะ
 
http://www.youtube.com/watch?v=h6NUWz7gVv8&feature=player_embedded#at=170

สำหรับรายละเอียดของสุดหล่อตัวนี้ ต้องที่นี่เลยค่ะ
http://www.tulsamastergardeners.org/insects/jumpingspider.html

อ่านข่าวออนไลน์ พบว่าอึงคะนึงกันเรื่องสัตว์ประหลาดชนิดต่างๆพบในป่าอเมซอน     ไปเจอตัวนี้เข้า ไม่รู้ว่าเป็นลิงลมหรืออะไร
เขาเรียกว่า 
Rio acari marmoset (Mico acariensis).

เลยพามาฝากเนื้อฝากตัวกับคุณเพ็ญชมพู

(http://static.guim.co.uk/sys-images/Guardian/Pix/pictures/2010/10/26/1288086583552/New-species-in-Amazon-Rio-006.jpg)

(http://www.drakebayholiday.com/drake_bay_costa_rica_m75.jpg)

เห็นเขาเรียกว่า glass frog เพราะตัวมันใส มองเห็นตับไตไส้พุงได้  พบในป่าอเมซอนเหมือนกัน

(http://dummidumbwit.files.wordpress.com/2010/06/mekong-giant-catfish.jpg?w=461&h=308)


Mekong giant catfish,(Pangasianodon gigas)ปลาดุกยักษ์พันธุ์นี้หรือเปล่า ที่ข่าวรายงานว่ากินลิงเป็นอาหาร

เสียน้องพอลไป   ฝากตัวนี้มาแทนค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=F9Bjj7X_0Uo

อยากได้ตัวนี้มากกว่า

http://en.wikipedia.org/wiki/Pygmy_Marmoset

น่ารักน่าชัง

 ;D

สองตัวนี้เคยมาเยี่ยมกระทู้แล้ว

กบกระจก



ปลาบึก



 ;D

น้องด้า ขวัญใจคุณเทาชมพู ?

 ;D

น้องด้า แบบนี้ พอไหว
แต่ก็ยินดียกให้คุณเพ็นโน

(http://yogeetoys.com/images/product/SN54LGR1_Anaconda_A.jpg)

^
^
น่ารักน่าชังไปอีกแบบหนึ่ง


สัตว์ประหลาดจาก SEM ตัวต่อไป

คุณดีดีว่าเป็นตัวอะไร

 ;D

คำเฉลยอยูที่นี่

http://www.telegraph.co.uk/science/picture-galleries/7397841/Creepy-crawlies-Amazing-Scanning-Electron-Microscope-pictures-of-insects-and-spiders.html

 ;D

กำลังจะตอบเลยค่ะ เฉลยซะแล้ว..
ส่งเจ้าตัวน้อยสีสวยน่ารักมาฝากค่ะ

นำความงามของโลก (สีชมพู) ใต้ท้องทะเลมาฝากคุณดีดีเช่นกัน

 ;D

ขอบคุณคุณเพ็ญชมพู ค่ะ สวยทุกตัวเลยโดยเฉพาะทากทะเลสีชมพู ชอบจังเลยค่ะ
มีตัวแปลกๆ สีสดสวยมาฝากด้วยค่ะ

ดีใจที่คุณดีดีชอบ พร้อมขอบพระคุณสำหรับภาพตัวแปลก ๆ สีสดสวย

 ;D

กิจกรรมบนต้นไม้ของสัตว์ประหลาดจาก SEM ตัวเดิม

สัตว์ประหลาดจาก SEM ของคุณเพ็ญชมพู ซนจังเลยนะคะปีนต้นไม้ด้วย
น่าจะอยู่ตามซอกที่นอน หรือไม่ก็ขนอุ่นๆ ของน้องหมานะคะ...

วันนี้มีรูปมังกร มาฝากค่ะ เหมือนเนอะ

ชวนไปดูข่าวนี้ค่ะ  ไม่ทราบว่าคุณเพ็ญชมพูเห็นหรือยัง ว่ามันตัวอะไรกันแน่
ตามข่าว เกิดที่ปานามาเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

http://www.youtube.com/watch?v=w15Ta_-NmXo


Panama -- People in Central America are talking about the most bizarre discovery that you have to see to believe.
Four teenagers in Panama claim they encountered a creature that was photographed, dead on a rock.
It appears to have an animal-like head, but a strange body with skinny, human like arms. Some say it's an alien while others say it's an animal that's never been seen before.
The teens said, the creature was alive when they found it and it started coming after them, so they threw rocks and sticks at it, killing it.

Zoologists in Panama said they're not sure what it is, but it appears to be a dead fetus of some kind.

มังกรของคุณดีดีท่าทางจะแปลงร่างมาจาก "ปู" เป็นก้ามเบ้อเริ่มเชียว


สัตว์ประหลาด SEM ตัวนี้เป็นมังสวิรัติสนใจแต่พืชผัก หาสนใจน้องหมาไม่

 ;D

สัตว์ประหลาดของคุณเทาชมพู ข่าวล่าสุดรายงานว่าน่าจะเป็นตัวสล็อธ  http://en.wikipedia.org/wiki/Sloth (http://en.wikipedia.org/wiki/Sloth)

http://www.whalesinspace.com/2009/09/pamama-alien-creature-hits-mainstream-news/

เจ้ามังกร ที่คุณเพ็ญชมพูบอกว่าแปลงร่างมาจาก "ปู" มันคือ ทากทะเล ชนิดหนึ่งค่ะ
ส่วนสัตว์ประหลาดของคุณเพ็ญชมพู ตอนแรกเข้าใจว่า ตัวหมัด สงสัยจะเข้าใจผิด ต้องตั้งต้นใหม่ซะแล้ว...
ส่ง ทากทะเล มากำนัลอีกตัวค่ะ

ทากทะเลหลายหลากมากสีสวย                รูปร่างด้วยต่างกันไปให้ค้นหา
เหมือนมังกรเหมือนกุ้งเหมือนปูปลา            ขอบอกว่าแน่มากหนอขอขอบคุณ


http://www.google.co.th/images?hl=th&q=Bornella_anguilla (http://www.google.co.th/images?hl=th&q=Bornella_anguilla)

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:0K3pkVyuUzU3pM:http://www.snipped.net/blog/wp-content/uploads/2009/10/Bornella_anguilla.jpg)



http://www.google.co.th/images?um=1&hl=th&tbs=isch%3A1&sa=1&q=Mexichromis_mariei (http://www.google.co.th/images?um=1&hl=th&tbs=isch%3A1&sa=1&q=Mexichromis_mariei)

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:PsQJkUE6WGUvCM:http://www.nationalgeographic.com.tr/ngm/0806/images/mercek/mercek.4.31.jpg)


http://ngm.nationalgeographic.com/2008/06/nudibranchs/doubilet-photography

 ;D

สัตว์ประหลาดของคุณเพ็ญชมพู เป็นมังสวิรัติด้วย!!
น่าจะเป็น "ตัวเพลี้ย (Aphidoidea)" มั้งคะ

ของฝากไม่ลงทะเลแล้ว เอาน้องน้อยน่ารักตัวนี้ละกันนะคะ

ปรบมือให้คุณดีดี

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3296.0;attach=14786;image)

ลองดูมดกับเพลี้ย                  มานัวเนียช่วยเหลือกัน
ไม่แบ่งแยกสีสัน                   เอาอย่างมันเถอะนะคน

http://www.youtube.com/watch?v=Dhi-SYxNPFw

น้องน้อยของคุณดีดีน่ารักไม่ใช่เล่น

 ;D

สัตว์ประหลาด SEM ที่คุณดีดีเคยถามหา

 ;D

 Sloth มีชื่อภาษาไทยไหมคะ

ดูเหมือนยังไม่มีใครตั้งชือภาษาไทยให้

คุณเทาชมพูลองตั้งดูก็ได้ ;D


สล็อธมีทั้งชนิดสองนิ้วและสามนิ้ว

ที่เขาดินมีชนิดสองนิ้วอยู่ตัวหนึ่ง

ข้างล่างเป็นชนิดสามนิ้วกำลังข้ามถนนด้วยลีลาการเคลื่อนไหวที่ช้าสุด ๆ สมกับนามว่า sloth

http://www.youtube.com/watch?v=-tfsL9Kq8R8

ตัวนี้ประหลาดไหมคะ...ปูกระป๋อง...ตราหลายแม่ครัว....
พบเห็นได้ทั่วไปตามชายหาดของประเทศไทย เมืองที่ทิ้งขยะกันไม่เป็นที่เป็นทาง

สงสารปูกระป๋อง                ถูกคนจ้องแย่งบ้านไป
เปลือกหอยบ้านเขาไซร้        แย่งเขาไปทำไมฤๅ

http://www.youtube.com/watch?v=NeU9uDpS6yM&feature=player_embedded


สัตว์ประหลาด SEM ตัวดีตัวเดิม ท่าหงายท้อง

ตัวกลมเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ

เป็นสัตว์ประเภทเดียวกับตัวข้างบน ตัวเมีย

กินเยอะไปหน่อยตัวเลยป่องอย่างที่เห็น

แปลกที่ตัวผู้กินอย่างไรตัวก็ไม่ป่องอย่างนี้

นี่แหละคือข้อแตกต่างระหว่างตัวเมียและตัวผู้

 ;D

หอ-เอะ-บอ  เห็บ O.K.?

 

หนูชอบจับ ตัวที่เป่งๆ มาบี้ให้เลือดกระจาย...ฮ่า ฮ่า ซาดิส ซะไม่มี...

มาโชว์ตัวให้ทายกันค่ะ หนูคือตัวอะไรคะ

ตุ่นจมูกดาว http://en.wikipedia.org/wiki/Star-nosed_mole

(http://c.photoshelter.com/img-get/I0000D3azeT5CqEg/s)

 ;D

คุณเพ็ญชมพู ตอบได้รวดเร็ว ว่องไว สมเป็นเจ้าแม่สัตว์ประหลาดค่ะ....(ด้วยความชื่นชม นะคะ) ;D

ขออธิบายเพิ่มเรื่องน้องตุ่น เผื่อผู้ชมท่านอื่นๆ ค่ะ

ตุ่นจมูกดาว มีชื่อเป็นภาษาฝรั่งว่า Star-nosed mole ค่ะ เจ้าตุ่นชนิดมีหน้าตาแปลกประหลาด โดยลักษณะของจมูกที่บานออกเป็นแฉก ๆ คล้ายดาวซึ่งจมูกนี้มีหนวดรับสัมผัส (fleshy tentacles) ถึง 22 เส้นอยู่รอบรูจมูก ปลายสัมผัสที่ "จมูก" หรือ "ดาว" ของมันมีมากมายราวหนึ่งแสนจุดเลยทีเดียว  
ตุ่นจมูกดาว อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มชื้นแฉะ ทางเขตตอนเหนือของอเมริกา ตะวันออกของแคนนาดา ตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ  รวมทั้งชายทะเลที่ไกลออกไปถึงตะวันออกเฉียงใต้ของจอร์เจีย
เมื่อโตเต็มวัยจะมีความยาว ประมาณ 15 ถึง 20 เซนติเมตร หนักประมาณ 55 กรัม มีฟัน 44 ซี่
หากินด้วยการใช้กรงเล็บอันทรงพลังในการขุดคุ้ยดินในพื้นที่ชุมน้ำหรือตะกอนลำธาร หนวดอันมากมายรอบจมูกของมันจะคอยสอดส่องหาบรรดาเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็น สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังตัวเล็กๆ ตัวอ่อน หนอน สัตว์จำพวกหอยและปลาหมึก รวมทั้งแมลงในน้ำ
ประสาทรับสัมผัสอันว่องไวของเจ้าตุ่นตัวนี้ พิสูจน์ได้จากการที่มันสามารถจับเหยื่อเพื่อเขมือบลงท้องได้ในเวลาเพียง 120 มิลลิวินาที (และนี่ก็คือสถิติความเร็วสูงสุดในการระบุตำแหน่งและจัดการกับเหยื่อเคราะห์ร้าย)

ไม่เพียงแต่บนบก ตุ่นจมูกดาวยังเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่สามารถดมกลิ่นใต้น้ำได้อีกด้วย มันจะใช้หนวดสำรวจหาเหยื่อตามก้นแหล่งน้ำ โดยจะพ่นฟองอากาศออกมาจากรูจมูกหลายครั้ง เพื่อให้โมเลกุลกลิ่นในน้ำผสมกับอากาศ จากนั้นก็ทำการสูดหายใจเอาฟองอากาศกลับเข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยความถี่ประมาณ 10 ครั้งต่อวินาทีเพื่อตรวจหากลิ่นของเหยื่อในน้ำ

และด้วยความสามารถที่มีอย่างล้นเหลือนี่เอง ทำให้มันได้ครองตำแหน่งหลายตำแหน่ง....
ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่กินเร็วที่สุดโลก
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ว่องไวที่สุดในโลก
และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดแรกที่ดมกลิ่นหาเหยื่อใต้น้ำได้

ในรูปเป็นตอนที่พ่นฟองอากาศออกมาจากรูจมูกค่ะ รูปนี้น้องตุ่นดำน้ำอยู่นะคะ