สัตว์ประหลาด

[luanglek]

ขอข้อมูลประกอบการพิจารณาชันสูตรซากสัตว์ประหลาดตัวนี้หน่อยได้หรือไม่

[เพ็ญชมพู]

คุณหลวงเล็กตอบว่า "ช้าง" ถูกแล้ว

แต่ไม่ใช่ "แมมมอธ"

แถมภาพโครงกระดูกเมื่อประกอบเสร็จแล้วให้คุณหลวงเล็กพิจารณา

ช้างอะไร

 

[เพ็ญชมพู]

ทางซ้ายคือ แมมมอธ ของคุณหลวงเล็ก ส่วนตัวทางขวาที่เล็กกว่าคือช้างปริศนา

[เพ็ญชมพู]

ขออนุญาตนำช้างประหลาดอีกตัวมาเสนอคั่นรายการช้างดึกดำบรรพ์

             ช้างเอราวัณ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นช้างปลอมแปลงทั้งสิ้น (รามเกียรติ์ อินทรชิตแปลงเป็นพระอินทร์ จำเป็นต้องให้พหลพลโยธาแปลงเป็นอราวัณด้วย) หวนมาดูช้างเอราวัณตัวจริงกันบ้างดังนี้

            "อันว่า ในเมืองฟ้าโพ้นบ่มีสัตว์เดรัจฉาน ตัวน้อยก็ดีตัวใหญ่ก็ดีหาบ่มิได้ เทียรย่อมเทพยดาสิ้นไส้ แลว่ายังมีเทพยดาองค์หนึ่งชื่อ ไอยราพัณเทวบุตร ผิแลเมื่อพระอินทร์เจ้าแลมีทีเสด็จไปเหล้นแห่งใดๆก็ดี แล ธ จะใคร่ขี่ช้างไปเหล้นจิงไอยราพัณเทพบุตร ก็นฤมิตตัวเป็นช้างเผือกตัวหนึ่งใหญ่นัก โดยสูงได้ ๑,๒๐๐,๐๐๐ วา แลมีหัวได้ ๓๓ หัว หัวน้อยๆอยู่ ๒ หัว อยู่ ๒ ข้างนอกหัวทั้งหลายนั้น แลว่า หัวใหญ่ได้ ๒,๐๐๐ วา แลหัวนั้นถัดเข้าไปทั้งสองข้างแล หัวแล ๓,๐๐๐ วา ถัดนั้นเข้าไปแลหัวแล ๔,๐๐๐ วา ถัดนั้นเข้าไปแลหัวแล ๕,๐๐๐ วา ถัดนั้นเข้าไปกว้างแลหัวแล ๖,๐๐๐ วา แร่งเข้าไปก็แร่งใหญ่ถัดกันเข้าไปดังกล่าวนี้แล ส่วนหัวใหญ่อันที่อยู่ท่ามกลางทั้งหลาย ชื่อสุทัศน์ เป็นพระที่นั่งพระอินทร์ โดยกว้างได้ ๒๔๐,๐๐๐ วา (ฉบับพระมหาจันทร์ว่า ๒,๒๐๐,๐๐๐) เหนือหัวนั้นแล มีแท่นแก้วอันหนึ่งกว้างได้ ๙๖,๐๐๐ วา และมีปราสาทกลางแท่นแก้วนั้นมีธง (ทั้งหลายแลธง) แก้วฝูงนั้นโดยสูงได้ ๘,๐๐๐ วา ธงฝูงนั้นเทียรย่อมแก้ว ๗ สิ่ง แลมีพรวนทองคำห้อยย้อยลงทุกแห่งแกว่งไปมา แลมีเสียงนั้นไพเราะนักหนา ดั่งเสียงพาทย์พิณในเมืองฟ้า ในปราสาทนั้นเทียรย่อมดัดเพดานผ้าทิพย์  แลมีแท่นนอนอยู่ในนั้นกว้างได้ ๘,๐๐๐ วา แลมีราชอาสนาหมอนใหญ่ หมอนน้อยหมอนอิงค์ องค์พระอินทร์นั้นสูงได้ ๖,๐๐๐ วา และประดับด้วยแก้วถนิมอาภรณ์ทั้งหลาย แล ธ นั่งเหนือแท่นแก้วนั้นหัวช้างได้ ๓๓ หัวไส้ พระอินทร์ ธ ให้เทพยดาทั้งหลายขี่ ๒๒ หัวนั้น มีบุญเพียงประดุจพระอินทร์ไส้ อันว่าหัวช้างทั้ง ๓๓ หัว แลหัวแลมีงา ๗ อัน แลงาอันยาวได้ ๔๐๐,๐๐๐ วา แลงานั้นมีสระได้ ๗ สระ สระแลสระนั้นมีบัวได้ ๗ กอ กอบัวแลกอนั้นมีดอกแล ๗ ดอก ดอกแลอันนั้นมีกลีบ ๗ อัน กลีบแลอันแลอันนั้นมีนางฟ้ายืนรำระบำบัพพะแล ๗ คน นางแลคนแลคนนั้นมีสาวใช้ได้ ๗ คน โสดช้าง ๓๓ หัวนั้น ๒๓๑ งา และสระนั้นได้ ๑,๖๑๗ สระ แลกอบัวนั้นได้ ๑๑,๓๑๙ กอ แลดอกบัวนั้นได้ ๗๙,๒๓๓ ดอก แลกลีบดอกบัวนั้นไส้ได้ ๕๕๔,๖๓๑ กลีบ แลนางฟ้ารำระบำนั้นได้ ๓,๘๘๒,๔๑๗ นาง แลสาวใช้นางระบำนั้นได้ ๒๗,๑๗๖,๙๑๙ คน แลมีอยู่ในงาช้างไอยราพัณ แลมีสถานที่แห่งหนึ่งโดยกว้างได้ ๕๐ โยชน์ เป็นที่อยู่แห่งนางระบำและบริวารของนางทั้งหลายนั้นด้วย"

            ทั้งหมดนั้นเป็นลักษณะของช้างไอยราพัณ หรือ เอราวัณ ซึ่งเราๆต่างทราบดีว่าเป็นช้างทรงของพระอินทร์ ใหญ้โตมโหฬารขนาดไหน ความทั้งหมดนั้นอยู่ในหนังสือ ไตรภูมิพระร่วง หรือ ไตรภูมิกถา ที่พญาลิไททรงนิพนธ์ขึ้นในสมัยสุโขทัย

            เพราะหนังสือเรื่องนี้ปรากฏอยู่ในสมัยสุโขทัยนั้นเอง จึงเป็นแบบฉบับและมีอิทธิพลต่อราชกวีและกวีรุ่นหลัง เอาแบบอย่าง เช่นในเรื่องรามเกียรติ์ และลักษณวงศ์ ดังกล่าวมาแล้ว

http://onknow.blogspot.com/2010/03/blog-post_2197.html

จินตนาการของคนโบราณช่างมหัศจรรย์พันลึกแท้

 
           

[เพ็ญชมพู]

ต่อเรื่องช้างดึกดำบรรพ์

นี่คือภาพการขุดค้นช้างปริศนาอีกภาพหนึ่ง



ภาพการขุดค้น่ครั้งนี้ถูกตัดต่อเป็นการขุดพบ "โครงกระดูกยักษ์" ให้คนฮือฮากันไปเสียนี่

 

[เทาชมพู]

เคยเอารูปนี้มาลงแล้ว    ระหว่างรอคุณเพ็ญชมพูมาเฉลยภาพยักษ์
ลองมาดูสัตว์ประหลาดเซทนี้ก่อน  คั่นเวลา

[เพ็ญชมพู]

เคยเอารูปนี้มาลงแล้ว    ระหว่างรอคุณเพ็ญชมพูมาเฉลยภาพยักษ์
ลองมาดูสัตว์ประหลาดเซทนี้ก่อน  คั่นเวลา

ภาพยักษ์เฉลยแล้วว่าภาพจริงคือช้าง

ช้างอะไรก็เคยเฉลยแล้ว

คุณเทาชมพูจำได้ไหมเอ่ย

 

[เพ็ญชมพู]

ภาพเต็มของหลุมขุดค้นถ่ายจากมุมสูง

[เทาชมพู]

โครงกระดูกของยักษ์ตัวนี้หรือเปล่า

[เพ็ญชมพู]

เอายักษ์มาให้เห็นชัดๆ อีกรูปค่ะ  (จริงเท็จไม่ว่ากัน)
ขอถามหน่อยค่ะ  รอยเท้าจริงๆของสิ่งมีชีวิต ประทับลึกลงในหินได้ยังไง   ไม่ใช่ฟอสซิลนี่คะ
หรือประทับตั้งแต่หินยังเป็นแค่ดิน

สำนวนที่ว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ปัจจุบันเห็นทีจะใช้ไม่ได้เสียแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือแม้แต่ภาพเคลื่อนไหว สามารถทำเทียมขึ้นมาได้ง่าย ๆ

ภาพนี้ของคุณเทาชมพูก็เช่นเดียวกัน

ขอให้คุณสังเกตภาพข้างล่างนี้



เป็นภาพการขุดค้นเมื่อ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๓ นอกเมืองไฮด์ปาร์ค (ชื่อเดียวกับสวนสาธารณะที่อังกฤษเลยนะ) นิวยอร์ค โครงกระดูกที่เห็นก็เป็นของช้างโบราณพวก mastodon และ mammoth

เปรียบเทียบกับภาพของคุณเทาชมพู

ภาพเขื่อนกั้นดินและคนที่ยืนอยู่ทางด้านซ้าย อยู่ในตำแหน่งเดียวกันเป๊ะเลย

This photo was taken on 16 September 2000 at an excavation site outside Hyde Park, New York. It is part of the documentation of a sensational excavation under the Paleontological Research Institution and the Department of Geological Sciences at Cornell University. What the team of more than 60 scientists, students and volunteers under paleontologist Prof. John Chiment discovered was, however, not the skeleton of a giant human being, but the skeleton of a mastodon, an extinct predecessor of the elephant. Actually, the find included one of the most complete fossils of a mastodon and possibly a less-complete mammoth. The animals lived between 10,000 and 14,000 years ago.

http://www.rationalistinternational.net/article/20041001_en.html

โครงการะดูกที่ขุดพบนี้ก็คือ มาสโตดอน นั่นเอง

 

[เพ็ญชมพู]

ช้างตัวนี้จึงมีชื่อเรียกขานกันว่า The Hyde Park Mastodon ตามชื่อสถานที่ที่ขุดพบ



 

[เพ็ญชมพู]

ตัวนี้เป็นบรรพบุรุษของสัตว์ที่คุณหลวงเล็กเคยพูดถึง

สัตว์ทั้งหลายมีวิวัฒนาการจากน้ำขึ้นมาสู่บนบก



สำหรับเจ้าตัวนี้มีวิวัฒนาการจากบกสู่บ้านเก่าอีกครั้งหนึ่ง

และด้วยขนาดที่ใหญ่โตขึ้น จนเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาสมุทรจึงเป็นบ้านที่ดีที่สุดของพวกมัน

คงเดาได้ไม่ยากว่า เจ้าตัวนี้เป็นบรรพบุรุษของสัตว์อะไรในปัจจุบัน

 

[luanglek]

ช้างตัวนี้จึงมีชื่อเรียกขานกันว่า The Hyde Park Mastodon ตามชื่อสถานที่ที่ขุดพบ



 

อ้าว  มาตอบไม่ทัน  คุณเพ็ญฯ เฉลยไปซะแล้ว
มัวรบอยู่ที่กระทู้ตัวเอง  เพิ่งไปค้นหนังสือได้มา
Mastodon  นี่น่าจะเป็นสายหนึ่งของพวกแมมัสกระมัง

ผมเพิ่งทราบว่า  ต้นตระกูลช้างบางสาขามีงา ๔  กิ่ง
ฉะนั้นที่คนโบราณว่า ช้างในวรรณคดีมี  ๔ งา  ก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน

[เพ็ญชมพู]

Mastodon  นี่น่าจะเป็นสายหนึ่งของพวกแมมัสกระมัง

แมมัส - เดาว่าคุณหลวงคงจะหมายถึง Mammoth

ช้างทั้งสองชนิดต่างกัน

คนไทยส่วนมากรู้จัก แมมมอธ มากกว่า มาสโตดอน

แต่ถ้าเคยดูการ์ตูนเรื่อง มนุษย์หินฟลินท์สโตนส์ จะรู้ว่าเนื้อมาสโตดอนเป็นสุดยอดอาหารของครอบครัวฟลินท์สโตนส์ทีเดียว   

[เพ็ญชมพู]

ผมเพิ่งทราบว่า  ต้นตระกูลช้างบางสาขามีงา ๔  กิ่ง
ฉะนั้นที่คนโบราณว่า ช้างในวรรณคดีมี  ๔ งา  ก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน

ไปชมได้ที่ พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ โคราช

ทางช้าย  Deinotherium = ช้าง ๒ งา แต่งอกจากขากรรไกรล่าง   ทางขวา Gomphotherium = ช้าง ๔ งา