ข่าวนี้น่าจะเข้าขั้นสัตว์ประหลาดได้ ว่าสามีภรรยาในเรื่องนี้ถูกหลอกให้ซื้อหมูธรรมดามาแต่แรก หรือว่าเจ้าหมูในข่าวมันผ่าเหล่าผ่ากอ
อึ้ง! ผัวเมียอังกฤษเลี้ยง "หมูจิ๋ว" ผ่านไปปีครึ่งกลายเป็น "หมูยักษ์" หนักร่วม 160 กก.
ผัวเมียชาวอังกฤษซึ่งซื้อหมูจิ๋วมาเลี้ยงตามแฟชั่นได้แต่งงแล้วงงอีก เมื่อลูกหมูที่ควรจะตัวย่อมๆกลับอ้วนและโตขึ้นเรื่อยๆจนหนักร่วม 160 กิโลกรัม แถมยังเข้ามานอนอืดกลางบ้านของพวกเขาด้วย
เมื่อ 19 เดือนก่อน เจ้า "เบ๊บ" ยังดูน่ารักน่าชัง และมีขนาดเล็กจนเอาขาทั้ง 4 ข้างยัดใส่ในถ้วยชาได้
คุณลุง คอลิน เว็บบ์ เลือกลูกหมูผิวสีชมพูจากเว็บไซต์ ก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงิน 250 ปอนด์เพื่อซื้อมันเป็นของขวัญแก่ป้าซูซี่ ภรรยาคู่ชีวิต
ในขณะที่หมูจิ๋วซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของคนดังอย่าง ปารีส ฮิลตัน และวิกตอเรีย เบคแฮม จะสูงไม่เกิน 14 นิ้ว และหนักไม่เกิน 28 กิโลกรัม เจ้าหมูตัวนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น ทุกวันนี้ เบ๊บ สูงถึง3 ฟุต หนักกว่า 158 กิโลกรัม และยังโตขึ้นทุกสัปดาห์จากการกินอาหารหมู, กล้วย, สตรอเบอร์รี และน้ำมันตับปลาค็อด ซึ่งเจ้าของให้มันกินทุกวันเพื่อบำรุงข้อต่อ
ขนาดในปัจจุบันของเจ้าเบ๊บทำให้มันไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปในครัวได้ และจากที่เคยนอนอยู่ปลายเตียงของสองสามีภรรยาทุกคืน วันนี้มันยังก้าวขึ้นบันไดไม่ได้ด้วยซ้ำ
ที่นอนของเบ๊บกลายเป็นโซฟาในห้องนั่งเล่น ซึ่งคุณลุงคอลินหาไม้กระดานมาหนุนไว้เป็นพิเศษ เพื่อรองรับน้ำหนักอันมหาศาลของมัน
"มันไม่ยอมออกจากบ้านเลยครับ เมื่อก่อนผมเคยพามันออกไปเดินเล่น เพราะมีใบอนุญาตจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบท (Defra) แต่เดี๋ยวนี้มันปฏิเสธไม่ยอมก้าวเท้าออกจากประตูบ้านท่าเดียว"
"จะทำไงได้ล่ะ คุณจะพาหมูหนัก 158 กิโลกรัมไปไว้ในที่ที่มันไม่อยากไปได้อย่างไร ทุกวันนี้ผมก็ให้มันนอนหน้าทีวีในห้องนั่งเล่น เมื่อก่อนนี้ผมยังเคยเอามันวางบนฝ่ามือได้แท้ๆ" คุณลุงบอก
อย่างไรก็ดี ครอบครัวเว็บบ์กลับมีความสุขที่ได้แชร์บ้านกับเจ้าหมูยักษ์
"
เขาดูแลง่ายกว่าคนตั้งเยอะค่ะ" ป้าซูซี่ วัย 53 ปี จากเมืองสการ์โบโร กล่าว
"มันไม่เคยทำสกปรกเวลาไปเข้าห้องน้ำ ไม่บ่นเรื่องอาหาร และเวลานอนกลับก็ไม่กรนด้วย"
ลุงคอลินซึ่งเป็นอดีตวิศวกร เคยติดต่อไปยังชาวนาที่ขายเจ้าเบ๊บให้กับเขา เพราะคิดว่าอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้น และเบ๊บอาจจะไม่ใช่หมูจิ๋วตามที่โฆษณา
"แต่ผมก็ลองติดต่อคนอื่นๆที่ซื้อหมูครอกเดียวกันไป ปรากฎว่าพวกมันก็ตัวเล็กกันหมด"
"เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมูของเรา บางทีเราอาจให้มันกินมากไปก็ได้"
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000092857
