เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 169 170 [171] 172 173 ... 187
  พิมพ์  
อ่าน: 1576904 สัตว์ประหลาด
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2550  เมื่อ 23 ก.ย. 12, 15:25

บางท่านอาจคิดว่าพืชเท่านั้นที่สามารถสังเคราะห์แสงได้

ขอแนะนำให้รู้จัก "ทากทะเลพลังแสงอาทิตย์" Elysia chlorotica

มันสามารถอยู่ได้เป็นปี ๆ โดยไม่ต้องกินอาหาร  แต่ได้พลังงานจากการสังเคราะห์แสง

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2551  เมื่อ 24 ก.ย. 12, 10:31

ตอนเด็ก ๆ เจ้าทากตัวนี้ไม่ได้มีสีเขียวดอก



ต่อเมื่อมันกินสาหร่าย Vaucheria litorea ซึ่งเป็นอาหารโปรดของมัน ตัวของมันก็จะเริ่มเขียวขึ้นเรื่อย ๆ จนเขียวเหมือนใบไม้ในที่สุด

http://www.youtube.com/watch?feature=endscreen&NR=1&v=aQR_aaUqMPc

แล้วทำไมสัตว์พวกช้าง ม้า วัว ควาย ที่กินหญ้า หรือคนเราที่กินผัก ตัวไม่เขียวเหมือนทากพลังแสงอาทิตย์ตัวนี้

เรื่องนี้มีคำตอบ

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2552  เมื่อ 24 ก.ย. 12, 11:23

จาก A ทารก (larva) เป็น B เด็กน้อยกินสาหร่าย สู่ C วัยรุ่นตัวเริ่มเขียว  สุดท้าย D โตเต็มวัย


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2553  เมื่อ 26 ก.ย. 12, 11:32

ทำไมเจ้าทากตัวนี้กินสาหร่ายแล้วตัวเขียว แถมยังสังเคราะห์แสงได้อีก 

สีเขียวของทากน้อยได้มาจากคลอโรพลาสต์ (ชิ้นส่วนที่อยู่ในเซลล์ภายในบรรจุคลอโรฟิลล์สีเขียวที่เรารู้จักกันดี) มาจากการกินสาหร่ายแล้วลำเลียงไปเก็บไว้ตามในเซลล์ผนังของทางเดินอาหารซึ่งแตกเป็นก้านย่อย ๆ เป็นแขนงคล้ายใบไม้

การสังเคราะห์แสงไม่สามารถเกิดขึ้นได้สมบูรณ์โดยอาศัยคลอโรพลาสต์เพียงอย่างเดียว การทำงานทุกอย่างของสิ่งมีชีวิตถูกลิขิตโดยยีน (สารพันธุกรรม) ซึ่งอยู่ในนิวเคลียสของเซลล์ ซึ่งจะผลิตโปรตีนเป็นตัวควบคุมการทำงาน ดังนั้นนอกจากทากจะได้รับคลอโรพลาสต์จากสาหร่ายแล้วมันยังได้รับยีนสั่งงานการสังเคราะห์แสงมาจากสาหร่ายด้วย ปรากฏการณ์นี้แหละที่ประหลาดมหัศจรรย์ยิ่งกว่ารูปร่างหน้าตาของมัน

ในอนาคตเราอาจไม่ต้องผลิตอาหารสัตว์จำนวนมากเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ หากเราสามารถรู้ความลับทุกขั้นตอนของความสามารถในการสังเคราะห์แสงของ "ทากพลังแสงอาทิตย์" ตัวนี้ และนำไปดัดแปลงใช้ในปศุสัตว์

หากเราขึ้นยานเวลาไปในอนาคต อย่าแปลกใจหากเห็นฝูง "วัวพลังแสงอาทิตย์" สีเขียว กำลังเดินเล่นออกกำลังรับแสงอรุณยามเช้าอยู่ในฟาร์ม

พล็อตเรื่องนี้อนุญาตให้ใช้นำไปเขียนนิยายได้

ไม่สงวนลิขสิทธิ์

 ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2554  เมื่อ 29 ก.ย. 12, 22:50

ตัวข้างล่างนี้สังเคราะห์แสงไม่ได้ แต่จะเรืองแสงสีเขียวในที่มืด  มันคือ แมงกะพรุนเรืองแสง  Aequorea victoria

สิ่งที่ทำให้มันเรืองแสงได้ มีความสำคัญต่อวงการวิทยาศาสตร์มากทีเดียว

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2555  เมื่อ 01 ต.ค. 12, 10:28

เคล็ดลับของการเรืองแสงอยู่ที่ขอบร่มด้านล่างของแมงกะพรุน ในนั้นมีโปรตีนสำคัญอยู่ ๒ ตัวคือ เอควาริน - aequorin และ จีเอฟพี - green fluorescent protein, GFP

เมื่อเอควารินได้รับการกระตุ้นจากอนุภาคแคลเซียมในน้ำทะเลจะเปล่งแสงสีฟ้าออกมา ซึ่งแสงนี้จะไปกระตุ้นโปรตีนจีเอฟพีให้เรืองแสงสีเขียวออกมาอีกที

โปรตีนจีเอฟพีนี้นี่แหละที่จะมีบทบาทสำคัญในการศึกษาสิ่งมีชีวิตระดับเซลล์ต่อไป

 ขยิบตา


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2556  เมื่อ 03 ต.ค. 12, 22:39

คุณต่ายเคยนำหมูเรืองแสงมานำเสนอ

อันนี้เป็นผลผลิตของนักวิทยาศาตร์ที่ดัดแปลงพันธุกรรมเอาสารพันธุกรรมของแมงกระพรุนเรืองแสงใส่เข้าไปในตัวอ่อนหมู ทำให้เวลากลางวันจะเป็นแหมงเรืองสูตัวเขียวๆ แต่ถ้าอยู่ในที่มืดก็สามารถเรืองแสงได้ และที่เยี่ยมไปกว่านั้นคือสามารถถ่ายทอดกรรมพันธุ์ที่ถูกดัดแปลงนี้ให้กับลูกได้อีกด้วย



http://news.bbc.co.uk/2/hi/4605202.stm

http://www.msnbc.msn.com/id/22563650/ns/technology_and_science-science/t/green-pig-gives-birth-glowing-piglets/#.T3HC_THxpag

หมูเรืองแสงพวกนี้เป็นผลงานของนักวิทยาศาสตร์ไต้หวัน สร้างโดยการใส่ยีนของแมงกะพรุนที่สร้างโปรตีนเรืองแสงเข้าไปในเซลล์ตัวอ่อนของหมู จุดประสงค์เพื่อหวังจะใช้สำหรับการศึกษาพัฒนาการของเซลล์ต้นกำเนิด (สเต็มเซลล์)

เมื่ออยู่ในที่มืดภายใต้แสงอุลตราไวโอเล็ต หมูพวกนี้จะเรืองแสงสีเขียว

 ขยิบตา


บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 2557  เมื่อ 04 ต.ค. 12, 15:23

ปรากฏการณ์ ทะเลเรืองแสง ที่สวยงาม ในประเทศญี่ปุ่น... ยิงฟันยิ้ม
เกิดจาก...ปลาหมึกเรืองแสงค่ะ



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2558  เมื่อ 05 ต.ค. 12, 22:38

^
^
หมึกหิ่งห้อย ความสวยงามและความอร่อยที่อ่าวโทยามา ญี่ปุ่น



 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2559  เมื่อ 07 ต.ค. 12, 18:30

ลิงวอก ตัวนี้ชื่อ ANDi ย่อมาจากคำว่า “inserted DNA” (อ่านจากขวามาซ้าย)

แอนดิ กำเนิดจากการที่นักวิทยาศาสตร์เอายีนควบคุมการสร้างโปรตีนเรืองแสงของแมงกะพรุน ตัดต่อผสมกับยีนของไข่ลิง โดยอาศัยไวรัสเป็นสื่อนำยีนของแมงกะพรุนเข้าไปผสมกับยีนของไข่ จากนั้นก็นำไข่ของลิงมียีนแมงกะพรุน ผสมกับสเปิร์มของลิง เกิดเป็นตัวอ่อนลิงมากกว่า ๑๐๐ ตัว แล้วนำตัวอ่อนลิงเข้าไปอยู่ในท้องของลิงตัวเมียจำนวนหนึ่ง ในที่สุด เกิดเป็นลูกลิงจริง ๆ สามตัว โดยที่มีอยู่ตัวหนึ่ง มียีนของแมงกะพรุนอยู่ในตัวด้วย

เขาว่าการสร้างลิงเรืองแสงขึ้นมานี้ จุดประสงค์เพื่อการศึกษาวิจัยทางการแพทย์

ซ้าย-ภายใต้แสงปรกติ   ขวา-ภายใต้แสง UV

 ขยิบตา


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2560  เมื่อ 10 ต.ค. 12, 18:57

ลิงวอกมีความพิเศษตรงที่สามารถสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งชื่อว่า restriction factor protein ซึ่งป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์

นักวิทยาศาสตร์เอายีนที่สร้างโปรตีนในลิงวอกชนิดนี้ติดเข้ากับยีนที่สร้างโปรตีนเรืองแสงจากแมงกะพรุนใส่เข้าไปในไข่ของแมว ลูกแมวที่ได้จากไข่ที่มีการตัดต่อยีนนี้และผสมกับเชื้อตัวผู้แล้ว จะเรืองแสงสีเขียวภายใต้แสงอุลตราไวโอเล็ต แสดงว่ามีการสร้างโปรตีนป้องกันการติดโรคเอดส์เช่นเดียวกับในลิง





เมื่อทดสอบกับไวรัสโรคเอดส์ในแมว (Feline Immunodeficiency Virus - FIV)  ก็พบว่าโปรตีนนี้ทำงานได้ผลคือสามารถยับยั้งไวรัสโรคเอดส์แมวไม่ให้เข้าเพิ่มจำนวนในเซลล์ของแมวได้



นี่อาจจะเป็นก้าวแรกของการต่อสู้กับโรคเอดส์ในมนุษย์

 ขยิบตา
บันทึกการเข้า
konkao
ชมพูพาน
***
ตอบ: 125


ความคิดเห็นที่ 2561  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 16:50

คน-สัตว์ประหลาด

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2562  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 18:39

ตัวข้างบนนี้น่าจะเป็นหุ่นในพิพิธภัณฑ์มากกว่าสัตว์ประหลาดจริงๆ

ตัวข้างล่างที่เหมือนฟองน้ำสีน้ำตาล  ตัวอะไรไม่ทราบ แต่ดูน่าเกลียดมากกว่าน่าจับ

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9550000124308


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2563  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 20:16

ตัวข้างบนนี้น่าจะเป็นหุ่นในพิพิธภัณฑ์มากกว่าสัตว์ประหลาดจริงๆ

เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการชื่อ We Are Family โดย Patricia Piccinini, Venice Biennale 2003, Australia Pavilion

ภาพจาก Roslyn Oxley9 gallery

 ยิงฟันยิ้ม


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2564  เมื่อ 15 ต.ค. 12, 20:47

เช้าวันพุธที่ผ่านมา (๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕) ก็เหมือนกับทุกวันที่ จิโน โควัคชี  เดินเล่นตามปรกติไปตามชายหาดพอมปาโน ฟลอริดา  เขาสังเกตเห็นวัตถุประหลาดสิ่งหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากพื้นทราย หลังจากล้างทำความสะอาดแล้วจึงพบว่ามันเป็นดวงตาสีฟ้าขนาดใหญ่ ยังมีสภาพสดใหม่ และยังคงมีของเหลวไหลออกมาเมื่อเขานำไปใส่ในถุงพลาสติก



โควัคชีได้เบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อไปยังคณะกรรมการอนุรักษ์พันธุ์ปลาและสัตว์ป่าฟลอริดาจากตำรวจซึ่งตรวจการณ์อยู่แถว ๆ นั้น ในขั้นแรกยังไม่มีคำตอบว่าดวงตายักษ์นั้นมาจากสัตว์ชนิดใด  

เจ้าหน้าที่เดินทางมาเพื่อนำดวงตาประหลาดส่งไปตรวจสอบที่สถาบันวิจัยพันธุ์ปลาและสัตว์ป่าฟลอริดาที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

มันน่าจะเป็นดวงตายักษ์ของสัตว์พันธุ์ใดได้บ้าง

บ้างว่าเป็นหมึกยักษ์ (giant squid)



บ้างก็ว่าเป็นปลากระโทงดาบ (swordfish)



หรืออาจเป็นเจ้าตัวนี้

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 169 170 [171] 172 173 ... 187
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.225 วินาที กับ 20 คำสั่ง