เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
อ่าน: 1534 คุยกันเรื่องวิลเลียม ซอมเมอเซท มอห์ม (William Somerset Maugham)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41305

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 04 ก.ค. 25, 11:49

เขาเคยไปสหรัฐอเมริกามาก่อน   เคยเห็นภูเขาจากหน้าต่างรถไฟเมื่อนั่งข้ามรัฐต่างๆ    จำได้ว่ามันเป็นภูเขาทรงกลม เกลี้ยงเรียบ  ไม่มีหน้าผาหินขรุขระ   มองดูเหมือนรังตุ่นขนาดมหึมาผุดขึ้นจากพื้นราบอย่างกะทันหัน  เขาจำได้ว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องศักดิ์สิทธิ์หรือสูงส่งอะไร  แต่กลับไปคิดว่ามันเหมือนนมผู้หญิงอย่างไรพิกล

     อาการเครียดไม่หยุดของสาธึุคุณเดวิดสันเป็นสิ่งที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจระงับได้ แต่เขาก็ได้รับการเกื้อหนุนทางใจจากความชุ่มชื่นเบิกบานใจอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน    เนื่องจากกำลังถอนรากถอนโคนเศษบาปหลงเหลืออยู่ในมุมลึกสุดในหัวใจของหญิงผู้นั้น  ยามอ่านพระคัมภีร์และสวดอ้อนวอนกับนาง
     วันหนึ่งเขาเล่า ขณะสี่คนกินอาหารเย็นอยู่ด้วยกันตามเคย
     “ เป็นเรื่องมหัศจรรย์   มิสทอมป์สันบัดนี้มีชีวิตใหม่อย่างแท้จริง จิตวิญญาณของเธอที่เคยดำมืดเหมือนกลางคืน ตอนนี้บริสุทธิ์และขาวราวกับหิมะตกลงมาใหม่ๆ    จนผมรู้สึกตัวเองต้องถ่อมตน ด้วยความยำเกรงเธอขึ้นมา  ความสำนึกผิดของเธอต่อบาปทั้งหมดที่เคยทำมาช่างงดงาม   จนผมรู้สึกว่าไม่คู่ควรแม้แต่จะแตะชายเสื้อของเธอ”
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41305

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 04 ก.ค. 25, 12:09

     นายแพทย์แมคเฟลเดาว่า เมื่อเซดี้กลับตัวกลับใจได้แล้ว   สาธุคุณเดวิดสันก็คงจะถอนคำร้อง ไม่ส่งนางไปรับโทษจำคุกถึง 3 ปีที่ซานฟรานซิสโก   แต่ปรากฏว่าไม่ใช่   เดวิดสันก็คงยังแน่วแน่ต่อการปฏิบัติตนทางศาสนา

     “ งั้นท่านสาธุุคุณก็คงไม่ส่งเธอกลับไปซานฟรานซิสโกแล้วนะครับ” หมอแมคเฟลว่า “สามปีในคุกของอเมริกามันโหดมากไป   ท่านน่าจะช่วยเธอให้รอดจากเรื่องนี้ได้”
     " เรื่องนี้น่ะหรือ?  คุณหมอไม่เห็นหรือว่ามันจำเป็น จะเว้นไม่ได้   หมอคิดหรือว่าใจฉันจะไม่พลอยเจ็บปวดไปด้วยกับเธอ   ฉันเมตตาเธอเหมือนอย่างที่ฉันรักภรรยาและน้องฉัน   ตลอดเวลาที่เธอถูกจำคุก   ฉันก็ทรมานใจไม่น้อยไปกว่าเธอหรอก ”
     “ไร้สาระ” หมอโพล่งออกมา
     " อนิจจา! คุณหมอไม่เข้าใจอยู่ดี   มนุษย์อย่างคุณมักจะตาบอดต่อความผิดบาปเสมอ    มิสธอมป์สันเป็นคนบาป  เพราะฉะนั้นเธอจะต้องรับผลแห่งบาปที่กระทำลงไป    ฉันรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเจออะไรบ้าง ไม่ใช่ไม่รู้   เธอต้องอดอยากหิวโหย  ต้องทรมานทั้งกายใจ  ต้องอับอายขายหน้าต่อมนุษย์อื่นๆ    แต่โทษทัณฑ์ที่ได้รับนี้คือเครื่องบูชาแด่พระเจ้าที่เธอควรทำด้วยความเต็มใจ    จะมีมนุษย์กี่คนที่มีโอกาสรับทุกข์ทรมานเพื่อถวายเป็นเครื่องพลีแด่พระผู้เป็นเจ้า   เธอมีโอกาสที่พวกเราจำนวนมากไม่มี   สำหรับพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงรักและเมตตาเราทุกคน"
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8428


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 04 ก.ค. 25, 12:25

          ไม่นึกว่า ท่านมอห์มจะขีดเขียนให้ถึงตาย, มีเรื่องราวสืบสวน
          คาดคิดว่าจะลงเอยด้วยท่านสาธุคุณต้องอับอาย(ซึ่งก็เหมือนตายทั้งเป็น) เพราะแพ้พ่ายกิเลส(โลภ โกรธ หลง)ตน
เมื่อต้องผจญกับนางบาปผู้ไร้อายท้าทายโลกประณาม
          แต่เมื่อได้อ่านมาถึงแนวคิดเคร่งตรงสุดโต่ง,ตกขอบของท่านสาธุคุณแล้ว ก็น่าจะมาแนวเดียวกับ Javert ใน Les Miserables
ที่ไม่สามาถรับกับความผิดของตน มิอาจทนมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41305

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 04 ก.ค. 25, 14:16

   วันเวลาล่วงไปทีละวัน ทีละวัน อย่างช้าๆ   จนใกล้ถึงวันที่เรือไปซานฟรานซิสโก จะมาแวะที่ท่าเรือเมืองนี้
    เซดี้อยู่อย่างซังกะตาย  เหมือนคนกลัวจนสิ้นหวัง   นางเกาะสาธุคุณแจ ได้แต่ยึดเขาเป็นที่พึ่ง
    มอห์มบรรยายไว้ว่า

     เซดี้เอาแต่ร้องไห้   อ่านพระคัมภีร์ และสวดมนตร์อ้อนวอนพระเจ้า   บางครั้งเธอดูเหนื่อยล้าและซังกะตาย   จากนั้นเธอก็เฝ้ารอการทดสอบจากพระเจ้า เพราะดูเหมือนว่าการทดสอบนี้จะให้ทางออกที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมจากความทุกข์ทรมานที่เธอกำลังเผชิญอยู่    เธอไม่อาจทนกับความคลุมเครือน่าสะพรึงกลัว ที่รุมเร้าอยู่ได้อีกต่อไป
   ด้วยความรู้สึกผิดบาป   เซดี้ละทิ้งความหยิ่งทระนงทั้งหมด  วันๆเอาแต่เดินไปมาในห้องที่รกไม่เป็นระเบียบ  สวมเสื้อคลุมสกปรก และชุดนอนที่ไม่ได้เปลี่ยนมา 4 วันแล้ว  ไม่สวมถุงน่อง  ในขณะเดียวกัน ฝนก็ตกลงกระหน่ำต่อเนื่อง  เหมือนเบื้องบนจงใจเทน้ำลงมาจนเกลี้ยงสวรรค์    ฝนยังคงเทลงมาอย่างหนักหน่วงไม่ขาดสาย   กระทบหลังคาเหล็ก ทุกอย่างเปียกชื้นและเหนียวเหนอะหนะ มีเชื้อราคืบคลานขึ้นมาบนผนังและรองเท้าที่วางไว้บนพื้น    ตลอดคืน ไม่มีใครนอนได้ลง   ยุงก็เอาแต่บินหวู่หวี่รบกวนไม่หยุดยั้ง
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8428


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 04 ก.ค. 25, 15:31

   เซดี้อยู่อย่างซังกะตาย  เหมือนคนกลัวจนสิ้นหวัง   นางเกาะสาธุคุณแจ ได้แต่ยึดเขาเป็นที่พึ่ง
  เซดี้เอาแต่ร้องไห้   อ่านพระคัมภีร์ และสวดมนตร์อ้อนวอนพระเจ้า   บางครั้งเธอดูเหนื่อยล้าและซังกะตาย   
จากนั้นเธอก็เฝ้ารอการทดสอบจากพระเจ้า เพราะดูเหมือนว่าการทดสอบนี้จะให้ทางออกที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมจากความทุกข์ทรมาน
ที่เธอกำลังเผชิญอยู่    เธอไม่อาจทนกับความคลุมเครือน่าสะพรึงกลัว ที่รุมเร้าอยู่ได้อีกต่อไป
   ด้วยความรู้สึกผิดบาป   เซดี้ละทิ้งความหยิ่งทระนงทั้งหมด


           คำโปรยหน้าปก หลอก?, นึกว่าเซดี้ จะไร้สำนึก ที่จำทนทำเป็นเข้าขบวนการล้างบาปไปก็เพื่อให้ท่านสาธุคุณเมตตา
ไม่ส่งเธอกลับซานฟราน
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8428


ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 04 ก.ค. 25, 17:51

         ไม่นึกว่า ท่านมอห์มจะขีดเขียนให้ถึงตาย, มีเรื่องราวสืบสวน

           หรือจะเป็นคดี ราโชมอน เวอร์ชั่น ผู้ชาย 1, ผู้หญิง 2 คน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41305

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ วันนี้ เวลา 11:35

  ดูท่าทางคุณหมอสนใจใคร่รู้ตอนจบ  ทีแรกว่าจะค่อยๆบอก แต่ตอนนี้เล่ารวดเดียวหมดดีกว่าค่ะ     แล้วค่อยมาอธิบายถึงวิธีการเขียน และคิด ของมอห์ม ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นเรื่องเด่นของเขา
 

    ในตอนเช้าวันก่อนที่เซดี้ถูกส่งตัวลงเรือไปซานฟรานซิสโก   นายแพทย์แมคเฟลถูกเจ้าของที่พักแรมมาปลุก ให้รีบแต่งตัวออกไปข้างนอกโดยไม่ต้องบอกคุณนายแมคเฟล  เขาไม่ยอมบอกว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น  จนกระทั่งไปถึงชายหาด เห็นชาวบ้านมุงดูบางอย่างกันอยู่ 
ณ ริมชายหาด ร่างของสาธุคุณนอนจมอยู่ครึ่งๆในน้ำ    เมื่อพลิกร่างขึ้นมา ก็พบว่าเขาตายมาหลายชั่วโมงแล้ว จนตัวเย็นแข็ง    คอถูกปาดจากหูซ้ายถึงหูขวา และในมือขวายังมีมีดโกนที่ใช้เป็นอาวุธ

นายแพทย์สั่งให้แจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจมาถึง ก็ให้ชาวบ้านช่วยกันยกศพไปยังสถานชันสูตรศพ  เมื่อหมอแมคเฟลกลับถึงห้องพัก เขาก็พบว่าภรรยาตื่นนอน แต่งตัวเกือบเสร็จแล้ว

“ ทำไงดีคะ  คุณนายเดวิดสันกลุ้มใจจะตายแล้วเรื่องสามี” เธอบอกเขาทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปในห้อง “ท่่านสาธุคุณไม่ได้เข้านอนมาทั้งคืน เธอได้ยินเขาออกจากห้องของมิสทอมป์สันตอนตีสอง แต่ไม่กลับเข้าห้อง   กลับออกไปข้างนอก นี่ถ้ามัวแต่ออกไปเดินจงกรมจนเช้าละก็ มีหวังอดนอนตายแน่”

หมอแมคเฟลแจ้งเหตุร้ายให้ภรรยาทราบ   ขอให้เธอบอกข่าวนี้กับนางเดวิดสัน

“โอ๊ยตายแล้ว! ท่านทำงั้นได้ไง” คุณนายแมคเฟลร้องอย่างตื่นตระหนัก
“ฉันไม่รู้”
“ ฉันทำไม่ลง  ข่าวร้ายขนาดนี้ใครจะกล้าบอกเธอได้ลง”
“ยังไงเธอก็ต้องทำ”

คุณนายแมคเฟลไปแจ้งข้่่าว   ส่วนทางนี้หมอก็เริ่มโกนหนวดและอาบน้ำ   แต่งตัวเสร็จก็ลงนั่งรอภรรยาของเขา จนในที่สุดเธอก็กลับมา

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41305

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ วันนี้ เวลา 11:37

    “คุณนายเดวิดสันอยากเห็นศพสามี” เธอบอกสั้นๆ
    “ ตำรวจนำศพไปที่ห้องเก็บศพแล้ว เราควรไปเป็นเพื่อน    พอรู้ข่าวเธอทำยังไงน่ะ”
      “ฉันว่าเธอคงช็อคนะคะ  ไม่ได้ร้องไห้ แต่ตัวสั่นไปหมดเหมือนใบไม้โดนลม”
    “ งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ”
     เมื่อสองสามีภรรยาเคาะประตูห้องของเธอ นางเดวิดสันก็ออกมา หน้าซีดเผือด  น้ำตาไหลอาบหน้า  แต่ไม่พูดไม่จา  ทั้งสามเดินออกไปเงียบๆ ตามถนน จนมาถึงห้องเก็บศพ นางเดวิดสันก็เอ่ยขึ้น
     “ขอฉันเข้าไปหาเขาคนเดียวเถอะนะคะ"  
     หมอและภรรยานั่งรอ  ในที่สุดประตูก็เปิดออกอย่างเงียบๆ และนางเดวิดสันก็ออกมา ความเงียบเข้าปกคลุมที่นั้น
     “กลับกันเถอะค่ะ” นางบอก
     น้ำเสียงนางกระด้าง  มั่นคงไม่สั่นเครือ   หมอแมคเฟลไม่เข้าใจแววตาสตรีผู้นี้ รู้แต่ว่าใบหน้าซีดเผือดบอกความเครียดจัด  ทั้งสามกลับไปช้าๆ ไม่พูดกันสักคำ  ในที่สุดก็มาถึงโค้งถนนอีกด้านหนึ่งของที่พัก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41305

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ วันนี้ เวลา 11:40

     นางเดวิดสันชะงักงัน   ทุกคนหยุดกึก เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่มีใครนึก ดังแสบแก้วหูออกมาจากในบ้าน  ท่วงทำนองโลดโผนระคายโสต
     “อุ๊ย! เสียงอะไรน่ะ” คุณนายแมคเฟลร้องอย่างตกใจ
     “เดินกันต่อกันเถอะค่ะ” นางเดวิดสันตัดบท
     ทั้งสามเดินขึ้นบันไดและเข้าไปในโถงชั้นล่าง    ณ ที่นั้น  เซดี้ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องของนาง  คุยอยู่กับกะลาสีคนหนึ่ง   มองปราดเดียวก็เห็นความเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง   ไม่ใช่ผู้หญิงที่ขี้ขลาดหวาดกลัวจนแทบเสียสติอย่างเมื่อไม่กี่วันก่อน  แต่เป็นหญิงสาวในกระโปรงชุดสีขาว พร้อมรองเท้าบู๊ตทรงสูงหนังมันวาว  แน่นจนดันขาอวบดูแทบจะปริในถุงน่องผ้าฝ้าย  ผมเผ้าหวีอย่างประณีตสวมหมวกขนาดใหญ่ติดดอกไม้สีฉูดฉาด  ผัดหน้า เขียนคิ้วดำสนิท ริมฝีปากเคลือบสีแดงเจิดจ้า
      นางยืดร่างตรง ดังนางพญาผู้ทะนงตนอย่างที่คนอื่นๆเห็นในตอนแรก    เมื่อทั้งสามเดินเข้ามาในห้องโถง  นางก็ระเบิดเสียงหัวเราะเย้ยหยันออกมาดังลั่น   เมื่อนางเดวิดสันหยุดชะงัก   หญิงสาวก็ดันน้ำลายมาไว้ที่มุมปากแล้วถุยปรี๊ดออกมา
     นางเดวิดสันผงะ  แก้มซีดขาวปรากฏสีเลือดฉีดขึ้นจนแดง  จู่ๆ ก็ยกมือขึ้นปิดหน้า วิ่งขึ้นบันไดไปที่ห้องพักอย่างไม่เหลียวหลัง
     นายแพทย์แมคเฟลเดือดพล่านขึ้นมาทันที    เขาผลักเซดี้ให้ถอยกลับเข้าไปในห้องของนาง
     "ทำอะไรทุเรศสิ้นดี" เขาตะคอก "  ปิดไอ้เครื่องเล่นบ้าๆนั่นเดี๋ยวนี้"
     เขาเดินไปหาเครื่องเล่นแผ่นเสียง กระชากแผ่นออกจากเครื่อง   หญิงสาวหันมาทางเขา
     “แหม! หมอ อยากเล่นกะฉันก็ไม่บอก   ไม่งั้น จะเข้ามาทำอะไรในห้องฉันล่ะ”
    “เธอหมายความว่ายังไง” หมอร้องอุทาน “พูดอะไรน่ะ”
     เซดี้ตั้งหลักได้แล้วในตอนนี้    อารมณ์เหยียดหยามชิงชังสุดขีดที่ปรากฏอยู่ในคำตอบนั้น ล้วนแรงเกินกว่าจะมีผู้ใดบรรยายออกมาได้
     " มึงก็ไอ้พวกผู้ชาย   จัญไรเหมือนกันทุกคนไม่มีผิด     ไอ้พวกหื่น..หื่น..หื่น.."   
      หมอแม็กเฟลอ้าปากค้าง เขาเข้าใจทันที


จบ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.043 วินาที กับ 20 คำสั่ง