เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 22
  พิมพ์  
อ่าน: 23515 คุยกันเรื่องวิลเลียม เชกสเปียร์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 225  เมื่อ 22 มี.ค. 25, 10:55

   อา่นที่สองหมอ  คุณ SILA และคุณเพ็ญชมพูไปค้นคว้ามาให้อ่านแล้ว    สงสัยว่าจะปล่อยให้สองคนนี่เล่าต่อเองจนจบ ดีไหมนี่    เบาแรงคนเล่า
   คำพูดของไชล็อคข้างบนนี้ เป็นสปีชที่มีชื่อเสียงชิ้นหนึ่งมากของเชกสเปียร์   เพราะคุณปู่ของเราเข้าใจแสดงถึงที่มาของความเคียดแค้นของไชล็อค   ว่าเขาถูกข่มเหงรังแกก่อนจากชาวคริสต์ รวมทั้งอันโตนิโยผู้เหยียดหยามลบหลู่เขาในที่สาธารณะหลายครั้ง   ทั้งๆเขาไม่เคยทำอะไรให้อันโตนิโยเสียหายเลย    ความผิดที่น่าขมขื่นของไชล็อคมีเพียงประการเดียวคือเกิดเป็นชาวยิวเท่านั้น   
  ภาษาอังกฤษเขียนว่า
   " He hath disgraced me, and hindered me half a million; laughed at my losses, mocked at my gains, scorned my nation, thwarted my bargains, cooled my friends, heated mine enemies, and what’s his reason? I am a Jew. Hath not a Jew eyes? Hath not a Jew hands, organs, dimensions, senses, affections, passions? Fed with the same food, hurt with the same weapons, subject to the same diseases, healed by the same means, warmed and cooled by the same winter and summer, as a Christian is? If you prick us, do we not bleed? If you tickle us, do we not laugh? If you poison us, do we not die? And if you wrong us, shall we not revenge? If we are like you in the rest, we will resemble you in that. If a Jew wrong a Christian, what is his humility? Revenge. If a Christian wrong a Jew, what should his sufferance be by Christian example? Why, revenge."
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 226  เมื่อ 22 มี.ค. 25, 10:57

   ขอแยกซอยหน่อยค่ะ

เวนิสวาณิช หรือ The Merchant of Venice เชื่อว่าถูกเขียนขึ้นหลังปี ๑๕๙๖ ภายใต้เงื่อนไขทางประวัติศาสตร์คือการที่ โรเดริโก โลเปซ แพทย์เชื้อสายยิวประจำพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ ๑ ถูกกล่าวหาว่าพยายามลอบวางยาพิษราชินี และในที่สุดก็ถูกประหารชีวิต และยังเป็นไปได้ว่าจะได้รับอิทธิพลจากบทละคร The Jew of Malta (1589) ของคริสโตเฟอร์ มาโลว์ อันมีตัวเอกคือยิวผู้โหดร้าย นาม 'บาราบัส' ซึ่งเป็นตัวละครต้นแบบของ 'ไชล็อก' นั่นเอง

     คริสโตเฟอร์ มาร์โลว์  เป็นหนึ่งในนักเขียนบทละครที่มีชื่อเสียงแถวหน้าในสมัยเดียวกัน     โด่งดังมาก่อนเชกสเปียร์เล็กน้อย  ถ้าไม่ตายเสียก่อนตั้งแต่อายุแค่ 29 ปี คงจะผลิตบทละครดังๆขึ้นมาอีกหลายเรื่อง เป็นคู่แข่งของคุณปู่  เพราะบทกวีของเขา เต็มไปด้วยสัสันจากพลังของคนหนุ่ม ถ้อยคำอลังการงานสร้าง  จนคุณปู่หยิบยืมไปใช้หลายบทด้วยกัน
     แต่มาร์โลว์ก็แพ้คุณปู่ของเรา ตรงที่ตัวละครเขาขาดความลึกอย่างตัวละครคุณปู่    ก็พอเข้าใจได้ว่าอายุเขายังน้อย ยังไม่เข้าใจมนุษย์ได้ลึกซึ้งนัก    ตัวละครดังๆของเขาจึงเป็นสีสันด้านเดียว  ไม่ใช่สีผสมหลายสีซับซ้อนอย่างตัวละครของเชกสเปียร์
     ก็ดูอย่างไชล็อก   คนดูสมัยเชกสเปียร์เห็นว่าเป็นตัวร้าย   สมกับเป็นคนยิว เป็นนายทุนให้กู้เงิน  หน้าเลือด  นิสัยอาฆาตแค้น   ถูกนางเอกลบเหลี่ยมไปจนสิ้นก็สมควรแล้ว   ตอนจบโดยลงโทษสาหัสให้เปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์ ซึ่งคนดูนับถืออยู่   ก็นับว่าสาสมแล้ว   คนดูก็เฮกันตอนละครปิดม่านจบ
    แต่ความลึกของเชกสเปียร์คือการเปิดโอกาสให้คนแต่ละยุคสมัยได้ตีความหลากหลายออกไป   ไม่ใช่ถูกผูกมัดให้เห็นด้านเดียวจนกระดิกกระเดี้ยไม่ได้     ดังนั้น ละครเชกสเปียร์จึงไม่ตายมาจนปัจจุบันนี้  ผิดกับละครดังๆหลายเรื่องในยุคของเขา แทบไม่มีใครรู้จักอีกแล้ว เพราะมันล้าสมัยไปกับกาลเวลา


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 227  เมื่อ 22 มี.ค. 25, 12:35

He hath disgraced me, and hindered me half a million; laughed at my losses, mocked at my gains, scorned my nation, thwarted my bargains, cooled my friends, heated mine enemies, and what’s his reason? I am a Jew. ……

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 228  เมื่อ 23 มี.ค. 25, 10:18

             เข้าซอยต่ออีกหน่อยครับ,  แรกพบ,สบบทร้อยกรองของ Christopher Marlowe ก็ชื่นชม
เพราะ บรรทัดแรกเริ่มคือเพลงที่เคยคุ้น จากหนัง Valley of the Dolls



"The Passionate Shepherd to His Love" (1599)

     Come live with me, and be my love;
And we will all the pleasures prove
That hills and valleys, dales and fields,
Woods, or steepy mountain yields.
     
         ท่านคริส มีชีวิตที่มีสีสรรพ์กว่าท่านเชกมาก จนน่าเสียดายที่ "ตายยัง(die young)" ไม่ทันสูงวัย
ไม่เช่นนั้น ท่านคริสอาจฝากบทละครอมตะโลกไม่ลืมไว้หลายชิ้น
         เรื่อง เหตุแห่งความตายของท่านนั้นเป็นปริศนามาจนวันนี้ ในหนัง Shakespeare in Love
มีบทของท่านเล็กน้อย แต่ก็ติดในความจำ เพราะมีการเล่นคำว่า bill ที่มีความหมายพ้อง
        กล่าวคือเมื่อท่านสิ้น(เขาว่า)เพราะเหตุทะเลาะวิวาทเรื่อง บิล ค่าเหล้า(คิดผิดราคา ประมาณนั้น)
คนฟังข่าวซึ่งอยู่ในแวดวงละครที่คุ้นกับ บิล (bill - an announcement of a theatrical entertainment)
ที่หมายถึงใบปิดประชาสัมพันธ์ละคร จึงทำหน้างง

ปัจจุบันนี้ เป็นที่ยอมรับโดยนักวิชาการให้เครดิทท่านคริสว่าได้ร่วมแต่งบทละครของท่านเชกเรื่อง Henry VI
theguardian.com


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 229  เมื่อ 23 มี.ค. 25, 10:52

  คริสโตเฟอร์ มาร์โลว์เป็นอีกหนึ่งกวี ที่บรรดาผู้ไม่เชื่อว่าวิลเลียม เชกสเปียร์คือเจ้าของบทละครที่แต่งในนามของเขา คิดว่าเป็นเชกสเปียร์ตัวจริง       การตายของมาร์โลว์ก็ดูลึกลับซับซ้อน เพราะอาชีพอีกอาชีพของเขานอกเหนือจากแต่งบทละครคือเป็นสายลับให้ทางการ  สืบดูว่าใครไม่ใช่ชาวคริสต์ที่แท้จริงบ้าง   
  เขาทำงานให้เซอร์ฟรานซิส วอลซิงแฮม เจ้ากรมสืบราชการลับในยุคนั้น
  แถมผู้ที่ทะเลาะวิวาทจนแทงเขาตายในโรงเตี๊ยมทั้ง 3 คนก็เป็นสายลับทั้งหมด    จึงมีข้อสงสัยว่ามาร์โลว์รู้อะไรมากเกินไปจนถูกปิดปาก    จนบัดนี้ปริศนาก็ยังไม่คลี่คลาย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 230  เมื่อ 23 มี.ค. 25, 11:22

  ทีนี้จะขอให้คำตอบว่าทำไมชาวยิวในสมัยพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 (ก็คือสมัยของเชกสเปียร์น่ะละค่ะ) ถึงเป็นที่เกลียดชังของชาวคริสต์กันนัก 
  ความชิงชังนี้มีมาตั้งแต่ก่อนยุคนี้   นานหลายศตวรรษ  และต่อเนื่องมาจนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2  หลังจากฮิตเลอร์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวไป 6 ล้านคน   อคติก็ค่อยเบาลง  แต่ก็ยังไม่หมดเสียทีเดียว
    ย้อนความไปในอดีตกาลอันไกลโพ้น    ศาสนาของชาวยิวหรือโบราณเรียกว่าฮีบรู (Hebrew)มีมายาวนานก่อนกำเนิดของคริสตศาสนา  ซึ่งนับจากกำเนิดของพระเยซู (Jesus Christ)    ในสมัยที่พระองค์เผยแพร่คำสั่งสอน    ยิวยังไม่ได้เป็นท่ีเกลียดชังอย่างในสมัยเชกสเปียร์   เพราะพระเยซูเองก็มีกำเนิดเป็นชาวยิว
     พระคัมภีร์เก่าของคริสตศาสนาที่เรียกว่า The Old Testament  ได้นำประวัติเก่าแก่ของศาสนาของยิวมาเป็นประวัติของคริสตศาสนาก่อนกำเนิดของพระเยซูด้วย
     ชาวยิวมีความเชื่อในศาสนาอย่างหนึ่งคือเชื่อในพระเมสสิยาห์ (Messiah) ตามศัพท์แปลว่า พระผู้ช่วยให้รอด   คือเป็นผู้ที่พระเจ้าส่งลงมาเพื่อปลดเปลื้องบาปจากมนุษยชาติ  และช่วยให้มนุษย์ชาติรอดจากการตกนรกชั่วกัปป์ชั่วกัลป์หลังวันสิ้นโลก หรือวันโลกาวินาศ    ซึ่งเป็นวันที่ระบุอยู่ในคัมภีร์ของหลายศาสนาด้วยกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 231  เมื่อ 23 มี.ค. 25, 11:30

     เมื่อพระเยซูเริ่มออกเผยแผ่คำสอน   ประกาศตนว่าเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า  และเป็นพระเมสสิยาห์   ชาวยิวที่เลื่อมใส กลายมาเป็นคริสตศาสนิกชนในเวลาต่อมา   แต่มีชาวยิวอีกกลุ่มหนึ่งที่ปฏิเสธสถานะของพระเยซู   ทั้งเฝ้ารอพระเมสสิยาห์ต่อไป    มีความเชื่อกันว่ากลุ่มหลังที่มีส่วนทำให้พระเยซูถูกตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์  แม้ว่าการตรึงกางเขนเป็นการกระทำของจักรวรรดิโรมันก็ตาม
    ช่วงสองสามร้อยปีแรกหลังจากพระเยซูถูกตรึงกางเขน คริสตศาสนาและศาสนายิวยังอยู่ร่วมกันได้โดยปกติ แต่แล้วเมื่อจักรพรรดิโรมันรุ่นหลังกลับใจมานับถือคริสต์ศาสนา    ศาสนาคริสต์จึงกลายเป็นศาสนาเดียวที่ก่อตั้งขึ้นในจักรวรรดิโรมัน และเป็นที่มาของคริสตจักรยุคแรก  แต่ชาวยิวที่นับถือศาสนายิวก็ยังคงยึดถือขนบธรรมเนียมหลักของตนเอาไว้ และยังปฏิเสธที่จะยอมรับพระเยซูในฐานะพระเมสสิยาห์
    ต่อมาแม้ว่าจักรวรรดิโรมันล่มลงไปแล้ว แต่คริสตศาสนายังอยู่ และแพร่หลายไปทั่วยุโรป  มีศูนย์กลางอยู่ที่องค์สันตปาปา ในนครวาติกัน   ชาวคริสต์ไม่ว่าในประเทศไหนถืออย่างเคร่งครัดว่า  ผู้ที่นับถือพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นศาสนิกที่แท้จริง    ผลกระทบที่ตามมาคือชาวยิวเริ่มถูกมองว่าเป็น "คนนอกศาสนา" 
    ความเป็นคนนอกศาสนาทำให้พวกเขาเสียสิทธิ์หลายอย่าง  เช่นถูกห้ามไม่ให้แต่งงานกับชาวคริสต์ ถูกห้ามไม่ให้ประกอบหลายอาชีพที่ชาวคริสต์ทำได้     อาชีพที่ชาวยิวทำได้คือเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้  ซึ่งทางชาวคริสต์ถือว่าเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจ  แต่ชาวคริสต์ก็ยังต้องพึ่งพาชาวยิวอยู่ดีในเรื่องนี้ ดังที่ปรากฏในละคร เวนิสวานิช
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 232  เมื่อ 23 มี.ค. 25, 11:35

คริสโตเฟอร์ มาร์โลว์เป็นอีกหนึ่งกวี ที่บรรดาผู้ไม่เชื่อว่าวิลเลียม เชกสเปียร์คือเจ้าของบทละครที่แต่งในนามของเขา คิดว่าเป็นเชกสเปียร์ตัวจริง

คุณเทาชมพูเคยอธิบายไว้ในบทความ เชกสเปียร์ ตัวจริงและตัวปลอม หน้า ๙๔-๙๗
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 233  เมื่อ 24 มี.ค. 25, 09:42

    นอกจากโครงเรื่องใหญ่ คืออันโตนิโยยืมเงินไชล็อกมาให้เพื่อน  แล้วรอดจากถูกแล่เนื้อเมื่อไม่มีเงินไปใช้    ยังมีโครงเรื่องรอง ประกอบด้วยหนุ่มสาวอีกคู่หนึ่ง จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งในสมัยโน้น แต่มาถึงสมัยนี้ก็ไม่วายจะก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาบ้างจนได้  
    ฝ่ายชายชื่อลอเรนโซ  เป็นเพื่อนของบัสสานิโย พระเอกของปอร์เชีย   รักกับเช็สสิกา ลูกสาวของเฒ่าไชล็อก
 ทำนองดอกฟ้ากับยาจก  เพราะฝ่ายชายยากจน แต่สาวรวย  
    ในเม่ื่อคริสเตียนแต่งงานกับยิวไม่ได้ เว้นแต่ชาวยิวจะเปลี่ยนมานับถือคริสตศาสนาเสียก่อน       เช็สสิกาผู้มีคติ "รักพี่ให้หนีพ่อ" ก็พบว่าตัวเองไม่มีความสุขที่เกิดเป็นชาวยิว ซ้ำยังเป็นลูกสาวของไชล็อกที่คนชังกันทั้งเมือง นางจึงตัดสินใจหนีพ่อไปอยู่กับคนรัก   แถมหอบเงินทองของพ่อไปด้วย   ลอเรนโซก็ต้อนรับสาวคนรักด้วยความยินดี
    ในตอนจบของเรื่อง เมื่อไชล็อกแพ้คดี  เชือดเนื้ออันโตนิโยไม่ได้ตามสัญญาเงินกู้  เงินที่ให้ยืมก็สูญ   แถมถูกบังคับเชิงลงโทษให้เปลี่ยนศาสนาเป็นคริสเตียน   เท่านั้นยังไม่พอ   ก็ต้องแบ่งเงินทองให้ลูกสาวไปอยู่กินกับลูกเขยอีกด้วย    เรียกว่าถูกลงโทษทางสังคมอย่างโงหัวไม่ขึ้น   เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนดูละครในสมัยเชกสเปียร์ยิ่งนัก  ต่างก็พากันสมน้ำหน้าไชล็อกที่แพ้หมดรูป  ยินดีกับความสุขของเช็สสิกาที่เปลี่ยนมานับถือคริสตศาสนา ได้สมหวังกับคนรัก แบบรักแท้ย่อมชนะทุกสิ่ง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 234  เมื่อ 24 มี.ค. 25, 09:45

    แต่คนดูในศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา อดไม่ได้จะตั้งคำถามว่า ในเมื่อไชล็อกอยู่เฉยๆตามประสาแก อันโตนิโยเป็นฝ่ายขอกู้เงินแกเอง   สัญญาว่าจะเชือดเนื้อก็ตกลงเต็มใจลงชื่อเอง ไม่ใช่ว่าถูกหลอกลวง    ทำไมตอนท้าย  ไม่ต้องจ่ายหนี้   แถมไชล็อกซวยซ้ำซ้อน มีลูกสาวกะเขาคนหนึ่งก็แหกคอก อกตัญญูกับพ่อยังไม่พอ  ตอนหนีตามผู้ชายไปยังหอบเงินทองพ่อไปด้วย   แต่กลับได้รับความเมตตาจิตจากฝ่ายศัตรูของไชล็อกว่านางทำถูกแล้ว ที่ทิ้งพ่อมาหาผู้ชาย   น่าชมเชยในความรักที่อยู่เหนือศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี  
   อย่างไรก็ตาม เชกสเปียร์พรรณนาถึงความรักที่พร่ำรำพันกันระหว่างลอเรนโซและเช็สสิกาไว้โรแมนติกเป็นที่จดจำกันมาจนทุกวันนี้    
   How sweet the moonlight sleeps upon this bank!
Here will we sit and let the sounds of music
Creep in our ears. Soft stillness and the night
Become the touches of sweet harmony.

Sit, Jessica. Look how the floor of heaven
Is thick inlaid with patens of bright gold.
There’s not the smallest orb which thou behold’st
But in his motion like an angel sings,
Still choiring to the young-eyed cherubins.

Such harmony is in immortal souls,
But whilst this muddy vesture of decay
Doth grossly close it in, we cannot hear it.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 235  เมื่อ 24 มี.ค. 25, 09:47

  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงแปลไว้ว่า
        ดูแสงเดือนส่องแฉล้มอแร่มขาว
    ราวนอนเหนือเนินหญ้าสง่าศรี !
    มาเถิดเรานั่งลงที่ตรงนี้,
    ให้ดนตรีสู่โสตร์ปราโมทย์ใจ:
    ความสงัดราตรีนี้แสนเหมาะ
    สำหรับเพลงไพเราะเสนาะใส.
    นั่งเถิดเช็สสิกาผู้ยาใจ.
    ดูท้องฟ้านภาลัยแสนงามงอน,
    ประดับด้วยดารานานาเนก
    อีกก้อนเมฆราวกับทองฟ่องสลอน:
    ดาวทุกดวงที่เห็นคเนจร
    ราวอมรร่อนพลางทางขับร้อง,
    กล่อมทวยเทพบุตรสุดสนิท,
    อมฤตย์รู้ดนตรีดีทั้งผอง;
    แต่มนุษมิอาจยินขับร้อง
    เพราะกายเราเหมือนกองดินกำบัง.
 
(หมายเหตุ : สะกดตามพระราชนิพนธ์)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 236  เมื่อ 24 มี.ค. 25, 09:54

   บทนี้ยังเป็นที่รู้จักของคนไทยน้อยกว่าอีกบทหนึ่ง    คือบทที่ต้นฉบับเดิมเขียนว่า
   Tell me where is fancy bred,
Or in the heart or in the head?
How begot, how nourished?
Reply, reply.

It is engender'd in the eyes,
With gazing fed; and fancy dies
In the cradle where it lies.
Let us all ring fancy's knell;
I'll begin it,—Ding, dong, bell.

All. Ding, dong, bell.

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าทรงแปลไว้ไพเราะยิ่ง  เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย   จนกลายมาเป็นบทเพลงในภายหลัง
     ความเอยความรัก                ริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน
เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ     หรือเริ่มในสมองตรองจงดี
แรกจะเกิดเป็นไฉนใครรู้บ้าง        อย่าอำพรางตอบสำนวนให้ควรที่
ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงรตี     ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอย

       ตอบเอยตอบถ้อย               เกิดเมื่อเห็นน้องน้อยอย่าสงสัย
ตาประสบตารักสมัครไซร้            เหมือนหนึ่งให้อาหารสำราญครัน
แต่ถ้าแม้สายใจไม่สมัคร             เหมือนฆ่ารักเสียแต่เกิดย่อมอาสัญ,
ได้แต่ชวนเพื่อนยามาพร้อมกัน      ร้องรำพันสงสารรักหนักหนาเอย
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 237  เมื่อ 24 มี.ค. 25, 11:35

เพลงนี้บรรเลงใน องก์ที่ ๓ ตอนที่ ๒ ในระหว่างเวลาที่บัสสานิโยเลือกหีบเสี่ยงทายทั้งสาม (ทอง เงิน ตะกั่ว)

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 238  เมื่อ 24 มี.ค. 25, 12:25

เรื่องต่อไปอยากจะฟังเรื่องอะไรคะ   
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 239  เมื่อ 24 มี.ค. 25, 14:35

      นอกจากทั้ง  As You Like It และ The Merchant of Venice จะได้ถูกเลือกนำมาเป็นพระราชนิพนธ์แปล
โดย ล้นเกล้า ร.๖ แล้ว
      
       ทั้งสองเรื่องยังมี ประโยค โลกนี้เหมือนเวทีโรงละคร

จาก As You Like It                                                          ตามใจท่าน
 
All the world's a stage,                                         ทั้งโลกเปรียบเหมือนโรงละครใหญ่
And all the men and women merely players;          ชายหญิงไซร้เปรียบตัวละครนั่น
They have their exits and their entrances,              ต่างมียามเข้าออกอยู่เหมือนกัน
And one man in his time plays many parts,            คนหนึ่งนั้นย่อมเล่นตัวนานา


The Merchant of Venice                                                  เวนิสวานิช (อันโตนิโย)

I hold the world but as the world, Gratiano,           ข้าเห็นโลกก็เปนโลกไม่แผกผิด;
A stage where every man must play a part,           โลกนี้เหมือนลครโรงนิด ๆ
And mine a sad one.                                            คิดว่าเราเปนลครอยู่ทั่วกัน.
                                                                         ต่างคนมีบทรำและทำท่า
                                                                         ต่าง ๆ นา ๆ เหมือนแสร้งสรร,
                                                                         ส่วนข้าเปนตัวเศร้าจึงเหงางัน
                                                                         จบเท่านั้น.
                                                                                          
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.063 วินาที กับ 20 คำสั่ง