เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 22
  พิมพ์  
อ่าน: 23517 คุยกันเรื่องวิลเลียม เชกสเปียร์
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 210  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 10:35

บางส่วนจาก คำนำบทละครเริงรมย์เรื่อง ฝัน ณ คืนกลางฤดูร้อน (A Midsummer-Night's Dream) แปลโดย ดุษฎีมาลา

ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีมากที่คุณ 'ดุษฎีมาลา' ได้แปลบทละครของเช็กสเปียร์ เรื่อง A Midsummer-Night's Dream เป็นภาษาไทยสำเร็จผลเป็นอย่างดี ต้องนับว่าเป็นความเจริญสำคัญก้าวหนึ่งในประวัติวรรณคดีไทย เพราะตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง 'โรเมโอและจูเลียต'-'เวนิสวาณิช' และ 'ตามใจท่าน' ยังไม่มีผู้ใดพยายามทำงานสำคัญชิ้นนี้อีกเลย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง แต่ย่อมเป็นที่เข้าใจกันแล้วว่า การที่จะแปลงภาษาที่สละสลวยของเช็กเปียร์เป็นภาษาไทยให้สละสลวยและให้ออกรสเช่นเดียวกับบทฉบับเดิม นั้นเป็นงานที่ยากยิ่ง มาบัดนี้คุณ 'ดุษฎีมาลา' ได้ดำเนินรอยตามพระมหาธีรราชเจ้า และตามความเห็นของข้าพเจ้า เธอแปลได้อย่างใกล้ชิดตรงตามใจความและได้ spirit ของบทประพันธ์เดิม ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าเป็นงานที่สืบต่อเนื่องจากงานที่พระมหาธีรราชเจ้าได้ทรงกระทำไว้ และที่จะทำให้ได้ดีว่านี้เห็นจะยาก

เรื่อง A Midsummer-Night's Dream ของเซ็กสเปียร์ ได้พิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในลอนดอนในปี ค.ศ. ๑๖๐๐ (คือในรัชสมัยพระนเรศวรมหาราชของไทย)ในสมัยซึ่งเป็นปลายรัชกาลของพระนางเอลิซาเบธ นาฏศิลปกำลังเพื่องฟูถึงขีดสุด และเป็นประเพณีที่ถือกันในยุคนั้นว่า ไม่ว่าโรงพิมพ์ใดอาจแอบเอาบทละครที่แสดงแล้วไปลงพิมพ์ได้ เพราะยังไม่มีกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่มักพิมพ์ขึ้นหลังจากที่ละครเรื่องนั้น ๆ ได้ออกแสดงแล้วมาสัก ๒-๓ ปี เราจึงพอสันนิษฐานได้ว่าเช็กสเปียร์ได้แต่ง A Midsummer-Night's Dream ก่อน ค.ศ. ๑๖๐๐ ไม่กี่ปีนัก ตอนที่เช็กสเปียร์กำลังมีปฏิภาณสูงสุด

จากเว็บ คุณแม่บุ๊ก
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 211  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 11:47

         เรื่อง เวนิสวานิช นี้คุ้นที่สุดเพราะ พระราชนิพนธ์แปลโดยร.๖ เป็นแบบเรียนสมัยมัธยม ยังจำตอนไคลแมกซ์ได้ดี
ถึงทุกวันนี้ ตอนปอร์เชียแปลงว่าความ เนื้อหนึ่งปอนด์ ไม่มีขาด,ไม่มีเกิน และ เนื้อล้วน ห้ามมีเลือดปน
(ท่านเชกใช้สารต้นธารเนื้อเรื่องจากงานในยุคก่อนหน้า,อีกแล้ว)
         เมื่อมองอีกครั้งในวันนี้ นอกจากประเด็น ต่อต้านยิว ที่โดดเด่นที่สุดแล้ว เห็นความเด่นชัดที่
ประเด็นสตรีนิยม ครับ
         (ลองกูเกิ้ลดู พบหลายที่กล่าวถึง แต่ไม่ได้เข้าอ่าน)

         ท่านเชกน่าจะมีแนวคิดยกย่องสตรี, ในเรื่องนี้ท่านเชกสร้างตัวละครเอกฝ่ายชายแต่ละคน - น่าเพลีย

         ตัวต้นเรื่อง บัสสานิโย หมายปองดอกฟ้าต่างฐานะ จนต้องกู้เงินเพื่อไป"ชิงนาง" กับคู่แข่งระดับเจ้า
ได้สำเร็จกลายเป็นหนูตกถังข้าวสาร
         แต่ ผลที่ตามมาคือทำให้เพื่อนรัก อันโตนิโย นายประกันเงินกู้เกือบตาย ยามที่นาทีชีวิตใกล้หมด
ก็หมดหวัง,ปลดปลงยอมรับชะตากรรม ไม่ค่อยจะเกิดสติปัญญาคิดหาทางแก้
         ไชล็อก ยิวเจ้าหนี้โหด คนทั้งเมืองชัง,ต่อต้าน เก็บความแค้นเคืองจนถึงวันเอาคืน แต่สุดท้าย
สูญเสียพ่ายแพ้ ย่อยยับอับอาย เกือบถูกจองจำ, ถูกบังคับเปลี่ยนศาสนา มีแต่คนสมน้ำหน้าซ้ำเติม


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 212  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 11:49

            
         ส่วนตัวละครเอกฝ่ายหญิงนั้น -

         เชสสิกา ลูกสาวขบถของไชล็อก แหกกฎสมัยนั้น - ฉันจะเลือกคู่เองโดยการหนีตามกันไป ไม่พอยัง
เลือกตัดต่อด้วยการเปลี่ยนศาสนาอีกด้วย และ

         ปอร์เชีย วีรสตรีผู้นำชัยให้บุรุษ  ทั้งสวย,รวย และฉลาดเกินชาย น่าเสียดายยุคนั้น ไม่มีสิทธิ์เลือกคู่ครอง
ต้องเป็นฝ่ายถูกเลือกแบบเสี่ยงได้ไม่คู่ควร แต่นางก็ฉลาดคิดหาทางใช้เพลงที่มีเนื้อร้องช่วยชายที่นางพึงใจเลือก
หีบได้ถูกใบ (ตรงนี้มีขัดใจบ้าง ที่นางตกหลุมรักบัสสานิโยที่ไม่น่าคู่ควรเท่าไร)
         ที่พีคสุดคือวีรกรรมที่นางใช้ปัญญาล้ำเกินชาย สยบตัวร้ายราบคาบ,หมดรูป สามารถช่วยชีวิตเพื่อนรัก
ของสามีไว้ได้ แล้วต่อด้วยการหลอกสามีที่....จนดูไม่ออกว่าเป็นนางปลอมตัวมาขอแหวนสัญญารักตอบแทน
งานว่าความ ก่อนจะมาเฉลยในตอนจบให้เป็นเรื่องแกล้งลองใจเล่นเป็นขำๆ เพื่อให้บทละครเรื่องนี้ที่เครียดหนัก
พอจะเรียกได้ว่ามีความเป็น comedy บ้าง  ยิงฟันยิ้ม

Portia
George William Smetham-Jones, 1864-1905


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 213  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 12:39

   ขอบคุณคุณหมอเพ็ญชมพู   รายนี้เป็นอาละดิน  มีตะเกียงวิเศษเรื่องหาหนังสือ  ถูตะเกียงทีไรได้คำตอบทุกที
   น่าเสียดายที่หนังสือหายากเล่มนี้ขายไปเสียแล้ว
   ไม่เป็นไร  ขอให้จบเรื่องเวนิสวานิชก่อน  แล้วค่อยเลา่เรื่อง Midsummer Night's Dream ไปตามประสาเทาชมพู    เท่าที่จะเล่าได้ก็แล้วกันนะคะ

    ก่อนจะไปที่ "เวนิสวานิช" ขอย้อนกลับไปที่ "ตามใจท่าน" อีกครั้ง   ลืมเล่าถึงบทกวีสำคัญของเรื่องนี้ ที่บรรดาแฟนคลับของเชกสเปียร์พากันจำได้ขึ้นใจ   คือบทที่คุณปู่เป็นคนเขียนให้ ยาคส์  บริวารของเจ้านครคนเก่า เอ่ยขึ้นขณะอยู่ด้วยกันในป่าอาร์เดน  
    All the world's a stage,
And all the men and women merely players;
They have their exits and their entrances,
And one man in his time plays many parts,
    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแปลไว้ว่า
    ทั้งโลกเปรียบเหมือนโรงละครใหญ่                 ชายหญิงไซร้เปรียบตัวละครนั่น
    ต่างมียามเข้าออกอยู่เหมือนกัน                       คนหนึ่งนั้นย่อมเล่นตัวนานา
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 214  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 13:35

All the world's a stage,
And all the men and women merely players;
They have their exits and their entrances,
And one man in his time plays many parts,

ตรงกับเนื้อเพลงของ ครูไพบูลย์ บุตรขัน

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 215  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 13:55

   ทีนี้ก็กลับมาสู่ "เวนิสวานิช" ได้เสียที
   อย่างที่คุณหมอ SILA ว่าไว้    ปอร์เชียเป็นหนึ่งในนางเอกเด่นแถวหน้าของเชกสเปียร์   ได้ชื่อว่าเป็นนางเอกฉลาด มีสติปัญญาสูงกว่าบุรุษ (เรียกว่าข่มพระเอกบัสสานิโยให้กลายเป็นตัวประกอบไปเลย)   ดังนั้นคุณปู่ของเราจึงมอบสุนทรพจน์โดดเด่นที่สุดบทหนึ่งในผลงานของท่าน  ให้นางเป็นผู้พูด    เมื่อนางกล่าวเกลี้ยกล่อมเฒ่าไชล็อกให้กลับใจ   อย่าแล่เนื้อเถิอหนังอันโตนิโย
     สุนทรพจน์ของนางนี้ก็กลายมาเป็นบทกวีภาษาไทย  ให้นิสิตไทยในอดีตต้องท่องขึ้นใจกันมาแล้ว  
    The quality of mercy is not strained;
It droppeth as the gentle rain from heaven
Upon the place beneath. It is twice blest;
It blesseth him that gives and him that takes:
'T is mightiest in the mightiest; it becomes
The throned monarch better than his crown:
His sceptre shows the force of temporal power,
The attribute to awe and majesty,
Wherein doth sit the dread and fear of kings;
But mercy is above this sceptred sway;
It is enthronèd in the hearts of kings,
It is an attribute to God himself;
And earthly power doth then show likest God's
When mercy seasons justice. Therefore, Jew,
Though justice be thy plea, consider this,
That, in the course of justice, none of us
Should see salvation: we do pray for mercy;
And that same prayer doth teach us all to render
The deeds of mercy. I have spoke thus much
To mitigate the justice of thy plea;
Which if thou follow, this strict court of Venice
Must needs give sentence 'gainst the merchant there.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 216  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 14:00

บทพระราชนิพนธ์

อันว่าความกรุณาปรานี                   จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ             จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน
เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้มใจ               แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล
เป็นกำลังเลิศพลังอื่นทั้งสิ้น                เจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระกรุณา
ประดุจทรงวราภรณ์สุนทรสวัสดิ์           เรืองจรัสยิ่งมงกุฎสุดสง่า
พระแสงทรงดำรงซึ่งอาชญา               เหนือประชาพสกนิกร
ประดับพระวรเดชวิเศษฤทธิ์               ที่สถิตอานุภาพสโมสร
แต่การุณยธรรมสุนทร                     งามงอนกว่าพระแสงอันแรงฤทธิ์
เสถียรในหฤทัยพระราชา                 เป็นคุณของเทวาผู้มหิทธิ์
และราชาเทียมเทพอมฤต                 ยามบพิตรเผยแผ่พระกรุณา
ฉะนั้นยิวแม้อ้างยุติธรรม                  จงกำหนดจดจำไว้ด้วยว่า
ในกระแสแห่งยุติธรรมา                  ยากจะหาความเกษมเปรมใจ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 217  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 14:35

นางปอร์เชีย กล่าวสุนทรพจน์ในศาล

ภาพจาก แบบเรียนวรรณคดีไทย เรื่อง เวนิสวาณิช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 218  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 14:54

เพลง นักเรียนพยาบาล
ทำนอง ครูเอื้อ สุนทรสนาน
คำร้องเพิ่มเติม ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
เสียง มัณฑนา โมรากุล

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 219  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 14:57

คลิปนี้ The Quality of Mercy โดย Maggie Smith

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 220  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 17:17

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 221  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 18:17

The Merchant of Venice  ปี 2004  น่าสนใจค่ะ  ได้ดาราใหญ่อย่างอัล ปาชิโนมาเล่นบทไชล็อก  แสดงว่าบทนี้ต้องมีสีสันมาก เขาถึงตกลงเล่น
อันที่จริงก็อยากจะพูดถึงไชล็อกมากๆ เช่นกัน เพราะรู้สึกว่าแท้จริงแล้ว  แกต่างหากเป็นตัวเอก คู่กับปอร์เชีย   ไม่ใช่บัสสานิโยหรืออันโตนืโย

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 222  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 20:35

เมื่อเป็นเด็กได้เรียนหนังสือเรื่อง 'เวนิสวาณิช' ความรู้สึกที่มีต่อไชล็อกตัวเอกของเรื่อง เป็นภาพลบอย่างแน่นอน แต่พอมาถึงวันนี้ ไปดูละครเรื่อง เวนิสวาณิช ของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไปมากครับ ได้มองเห็นอะไรต่อมิอะไรที่ไชล็อกต้องพบผ่านมาในชีวิต ในฐานะคนกลุ่มน้อยหรือคนชายขอบที่อาศัยอยู่ในเวนิส เช่นการถูกผู้คนดูถูกเหยียดหยามเหมือนอย่างกับเป็นหมูเป็นหมา อาชีพให้กู้เงินโดยมีดอกเบี้ย ก็ถูกตราหน้าว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีศีลธรรม และผู้ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างแค้นนี้ขึ้นไว้ก็คืออันโตนิโอนั่นเอง ถ้าเราต้องตกอยู่ในฐานะนั้น เราก็อาจไม่ต่างจากไชล็อก มิหนำซ้ำเมื่อถูกลงโทษในตอนจบ โทษที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการบังคับให้ใชล็อกต้องเปลี่ยนศาสนาจากยิวมาเป็นศาสนาคริสต์ และถูกริบทรัพย์จนสิ้นเนื้อประดาตัว

ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

หากอาจารย์ธงทองชมภาพยนตร์ 'เวนิสวาณิช' เวอร์ชั่นนี้ คงมีความรู้สึกต่อไชล็อกเช่นเดียวกัน




บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 223  เมื่อ 22 มี.ค. 25, 07:57

มองกลับมุมเวนิสวานิชไว้ (คล้ายที่คุณเพ็ญได้นำเสนอแล้วเมื่อคืน, กูเกิ้ลดูก็พบมากที่เช่นกัน)
 
         กาลเวลาที่ผ่านไป, ค่านิยมแนวคิดเปลี่ยนแปลง บทละครเก่าแก่ดั้งเดิมเมื่อนำมารีเมคในยุคปัจจุบัน
ต่างถูกตีความ,ปรับมุมมองใหม่ ทำให้เกิดรสชาติ,ธรรมสังเวช,สุนทรียภาพเพิ่มเติมหรือแตกต่าง
         จากเรื่องพ่อค้าเวนิส - อันโตนิโย ปรับมองเป็น เจ้าหนี้เวนิส - ไชล็อก
         จากเดิม comedy > tragedy
         hero - ไชล็อก ผู้ร่ำรวย, tragic flaw - ความโลภเงินทอง ความคับแค้นจากการถูกต่อต้านชิงชัง
เพราะเชื้อชาติศาสนา และความแค้นเคืองต่ออันโตนิโยที่ขัดผลประโยชน์ปล่อยกู้ไม่คิดดอกจึงหมายชำระแค้น
แต่กลับพลิกผันจนนำไปสู่ downfall ของตนเอง


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 224  เมื่อ 22 มี.ค. 25, 09:35

เวนิสวาณิช หรือ The Merchant of Venice เชื่อว่าถูกเขียนขึ้นหลังปี ๑๕๙๖ ภายใต้เงื่อนไขทางประวัติศาสตร์คือการที่ โรเดริโก โลเปซ แพทย์เชื้อสายยิวประจำพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ ๑ ถูกกล่าวหาว่าพยายามลอบวางยาพิษราชินี และในที่สุดก็ถูกประหารชีวิต และยังเป็นไปได้ว่าจะได้รับอิทธิพลจากบทละคร The Jew of Malta (1589) ของคริสโตเฟอร์ มาโลว์ อันมีตัวเอกคือยิวผู้โหดร้าย นาม 'บาราบัส' ซึ่งเป็นตัวละครต้นแบบของ 'ไชล็อก' นั่นเอง

ว่ากันว่า เวนิสวาณิช ได้รับความนิยมกว่าเรื่องอื่นๆในราชสำนัก มีผู้เชื่อว่ามันถูกนำมาใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พวกยิวนั้นจ้องจะหาประโยชน์จากการขูดรีดเนื้อหนังและเงินทองของชาวคริสต์ด้วยความโลภแบบผู้ไม่ใช่คริสเตียน ดังนั้น บทละครดังกล่าวจึงปลุกอคติที่มีต่อชาวยิว ซึ่งส่งต่อมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในสมัยนาซีเยอรมันที่นำมาแสดงเพื่อเป็นโฆษณาชวนเชื่อถึง ความไม่เป็นมนุษย์ของยิว เพื่อสร้างความชอบธรรมในการสร้างความเกลียดชังและกำจัดพวกเขานั้นเอง

กระนั้น ก็มีผู้ชี้ว่า ไชล็อกนั้นมีมิติความเป็นมนุษย์มากกว่าเมื่อเทียบกับบาราบัส เพราะความโหดร้ายนั้นมีมูลเหตุมาจากความพยาบาทเดิมเนื่องจากอันโตนิโยนั้นมักจะลบหลู่เกียรติและเหยียดหยามเขาอยู่เสมอ

"มันนั้นไซร้ได้เคยทำให้ข้าอับอาย, และเคยทำให้ข้าฉิบหายขัดลาภตั้งกึ่งล้าน; เย้ยเวลาเสีย, เยาะเวลาได้, ดูถูกกระทั่งชาติ, กลางตลาดแย่งกำไร, ยุสหายให้แหนงจิต, แหย่อมิตร์ให้ขัดใจ; ทั้งนี้เพราะเหตุใด ? เพราะเหตุที่ข้าเปนยิวนั่นแล. นี่แน่ยิวไม่มีตาฤๅ ? ยิวไม่มีมือ, ไม่มีอวัยวะ, ไม่มีกายหรือเจ้าคะ, หรือไม่มีสัมผัส, ตัดฉันทะและโทษะได้สิ้นหรือไฉน ?  ไม่กินอาหารเหมือนกันหรือไร, หรือถูกสาตราไม่เจ็บไม่บาด, หรือไม่มีโรคาพาธ, ไม่รักษาด้วยยาเหมือนท่าน, ไม่ร้อนไม่หนาวเพราะฤดูกาล เหมือนพวกท่านคริสตังละฤๅไฉน ? ถ้าแทงเราเข้าไซร้, หรือเลือดไม่มี ? ถ้าแม้ว่าจี้, หรือเราจะไม่หัวเราะ ? เพราะฉนั้นไซร้ใครทำร้าย, จะไม่ให้เราหมายแก้แค้นหรือว่าไร ? ถ้าเราเหมือนท่านอยู่แล้วไซร้, ก็ต้องเอาอย่างทางนั้นด้วยนา. ถ้าแม้ยิวทำร้ายคริสตัง, เขานั้นตั้งตอบแทนอย่างไร ? แก้แค้นเปนแน่, ก็แม้คริสตังทำร้ายยิว, ยิวจะควรทำอะไรบ้าง ตามแบบอย่างคริสตัง ? แก้แค้นนั่นซี. " (ไชล็อก องก์ที่ ๓ ตอนที่ ๑)

จากบทความของ ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ อาจารย์สาขาวิชาสังคมศึกษา
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.216 วินาที กับ 19 คำสั่ง