เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 22
  พิมพ์  
อ่าน: 26504 คุยกันเรื่องวิลเลียม เชกสเปียร์
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8428


ความคิดเห็นที่ 90  เมื่อ 17 ก.พ. 25, 10:24

         ปรมาจารย์ คุโรซาวะ ดัดแปลง คิง เลียร์ เป็น Ran เปลี่ยน ๓ เจ้าหญิงเป็น ๓ เจ้าชาย
         สร้างสรรค์ผลงานได้เป็นภาพยนตร์แสงสีวิจิตร จนบางสำนักวิจารณ์ยกให้เป็นภาพยนตร์สวยสดงดงามที่สุด
(เดิมทีงานชิ้นเอก,โด่งดัง เช่น ราโชมอน เจ็ดซามูไร ฯ เป็นหนังขาวดำ)

คลิป Fanmade ใช้ดนตรีประกอบเร้าใจจาก Star Wars The Last Jedi Trailer (2017)

 
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16063



ความคิดเห็นที่ 91  เมื่อ 17 ก.พ. 25, 12:35

蜘蛛巣城 (ปราสาทใยแมงมุม) หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า Throne of Blood (บัลลังก์เลือด) งานดัดแปลงอีกเรื่องหนึ่งของปรมาจารย์ คุโระซะวะ จากเรื่อง Macbeth ของเช็กสเปียร์

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8428


ความคิดเห็นที่ 92  เมื่อ 18 ก.พ. 25, 09:37

        ท่านคุโรซาวะ ดัดแปลงงานชิ้นเอกของท่านเชก 3 เรื่อง เริ่มด้วย  Macbeth > Throne of Blood,
Hamlet > The Bad Sleep Well เรื่องนี้ทำเป็นร่วมสมัย และ King Lear > Ran เป็นภาพยนตร์สีวิจิตร,
ต่างจากสองเรื่องก่อน - ขาวดำ, ได้รับคำยกย่องทั่วถ้วน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 93  เมื่อ 18 ก.พ. 25, 13:14

มาเล่าเนื้อเรื่อง King Lear ต่อ ค่ะ

     เจ้าหญิงกอนเนอริลสมรสกับดยุคแห่งอัลบานี  ส่วนรีแกนสมรสกับดยุคแห่งคอร์นวอลล์ 
      เมื่ออำนาจการครองอาณาจักรตกอยู่ในมือของทั้งสองนาง    ใครที่เคยดูสื่อนำเสนอเรื่องเศรษฐีโอนสมบัติให้ลูกขณะตัวเองยังมีชีวิตอยู่ แล้วผลเป็นอย่างไร   ก็คงเดาได้ว่าพระเจ้าเลียร์ก็ไม่ต่างจากเถ้าแก่หรือคุณยายที่เป็นข่าวนั้นหรอก     เพราะทั้งกอนเนอริลและรีแกนพอสมประสงค์แล้ว ก็เริ่มเห็นว่าพระเจ้าเลียร์คือคนไร้ประโยชน์    อยู่ไปก็เกะกะน่ารำคาญ
       กอนเนอริล เป็นคนแรกที่แสดงความอกตัญญู นางเริ่มต่อต้านบิดาไม่ว่าพระองค์จะทำอะไร   นางไม่พอใจข้าราชบริพารที่ถวายงานรับใช้มาตั้งแต่ก่อนนางเกิดเสียอีก  นางกล่าวหาว่าพวกเขาเรื่องมาก   เรียกร้องให้บิดาลดจำนวนมหาดเล็กเด็กชาลง รวมถึงต้องวางตัวให้เหมาะสมกับสถานะใหม่ คือเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะไม่ได้เป็นผู้นำอาณาจักรอีกแล้ว   เมื่อพระเจ้าเลียร์คัดค้าน นางก็ทำเพิกเฉย เย็นชา  ไม่ให้ความเคารพต่อพระองค์ทั้งในฐานะกษัตริย์และพระบิดา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 94  เมื่อ 18 ก.พ. 25, 13:15

     รีแกน ใจร้ายยิ่งกว่าพี่สาว  เมื่อพระเจ้าเลียร์ผิดหวังและเคืองแค้นจากลูกสาวคนใหญ่  หันไปพึ่งลูกสาวคนรองเพื่อขอให้นางดูแลท่านได้ดีกว่า    นางกลับเข้าข้างพี่สาว และยิ่งไปกว่านั้น นางยังลดพระเกียรติของบิดาลงไปอีก ด้วยการกล่าวว่าบัดนี้ในเมื่อไม่ใช่กษัตริย์แล้ว    ก็ไม่จำเป็นต้องมีข้าราชบริพารสักคนก็ได้  ซึ่งทำให้พระองค์กลายเป็นเพียงชายชราผู้โดดเดี่ยวเดียวดาย ไร้ความหมายใดๆในราชสำนัก
      บัดนี้ เมื่อสิ้นอำนาจ สิ้นวาสนา กลายเป็นตาแก่ที่ไม่มีใครสนใจไยดี  พระเจ้าเลียร์ก็รู้ตัวว่าตัดสินใจผิดไปแล้ว ที่หลงเชื่อคำหวานป้อยอของลูกสาวสองคนและลงโทษลูกคนเล็กที่ซื่อตรง      กอนเนอริลและรีแกนนอกจากทรยศต่อคำพูดตัวเอง            ยังริดรอนอำนาจและศักดิ์ศรีของพระองค์จนหมดสิ้น พระองค์จึงซัดเซพเนจรออกจากวังไปท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำ   กลายเป็นคนเร่ร่อน และค่อย ๆ ฟั่นเฟือนไป
      ในขณะเดียวกัน คอร์ดีเลียซึ่งได้แต่งงานกับกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส ได้ข่าวว่าบิดาถูกพี่สาวทรยศหักหลัง  ก็ยกทัพกลับมาเพื่อช่วยเหลือพระบิดา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 95  เมื่อ 19 ก.พ. 25, 10:09

   ทีนี้ก็มาถึงโครงเรื่องรองซึ่งมีแนวเรื่องคู่ขนานไปกับโครงเรื่องใหญ่    คือเรื่องราวของขุนนางสำคัญในอาณาจักรของพระเจ้าเลียร์ ชื่อดยุคแห่งกลอสเตอร์
      กลอสเตอร์มีบุตรชายชื่อเอ็ดการ์ เป็นบุตรถูกต้องตามกฎหมาย  แต่เขาไปมีลูกนอกสมรสอีกคนหนึ่งชื่อเอ็ดมันด์    เอ็ดมันต์เติบโตขึ้น   ตระหนักว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์สืบทอดตำแหน่งและทรัพย์สินของบิดา  นอกจากจะกำจัดพี่ชายต่างแม่ให้กระเด็นออกไปเสียก่อน แล้วค่อยจัดการกับพ่อทีหลัง   เขาจึงปลอมแปลงจดหมายขึ้นมา  หลอกลวงให้พ่อเชื่อว่าเอ็ดการ์กำลังวางแผนโค่นล้มพ่อของตนเอง
      กลอสเตอร์จะว่าไปก็โง่พอๆกับพระเจ้าเลียร์ เพราะทำแบบเดียวกัน คือหลงเชื่อลูกชายคนเลว หันมาเล่นงานลูกชายคนดี   จนเอ็ดการ์ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากคฤหาสน์   ปลอมตัวเป็นขอทานบ้าๆบอๆชื่อทอม  หลบซ่อนภัยจากพ่อ

      เอ็ดมันด์กำจัดพี่ชายพ้นทางไปได้แล้ว   ก็เข้าสู่ราชสำนัก  ล่อลวงกอนเนอริลและรีแกนให้หลงรัก  หลอกใช้พวกนางเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตนเอง     จากนั้น  ขั้นต่อไปคือกำจัดบิดาโดยเปิดเผยว่ากลอสเตอร์สนับสนุนพระเจ้าเลียร์  ด้วยการแอบไปตามหาตัวพระเจ้าเลียร์ขณะซัดเซพเนจรจนพบ แล้วส่งตัวไปโดเวอร์เพื่อจะพบกับทัพฝรั่งเศสของคอร์ดีเลีย  
      เรื่องนี้ทำให้ดยุคแห่งคอร์นวอลล์สามีของรีแกน โกรธมาก สั่งทหารควักลูกตากลอสเตอร์ออกเป็นการลงโทษ
      มหาดเล็กคนหนึ่งทนความโหดเหี้ยมที่เห็นไม่ไหว   จึงทำร้ายคอร์นวอลล์จนถึงแก่ความตาย แต่กลอสเตอร์ก็ถูกทิ้งไว้ในสภาพตาบอดและอับจนหนทาง    เขาเพิ่งตาสว่าง ตระหนักถึงความจริงหลังจากตาบอด—ว่าเอ็ดมันด์เป็นคนทรยศ และเอ็ดการ์เป็นผู้บริสุทธิ์มาตลอด
      สูญสิ้นทุกอย่าง กลอสเตอร์เดินเร่ร่อนไปด้วยความสิ้นหวัง  แต่เอ็ดการ์ (ซึ่งปลอมตัวเป็นขอทาน) ตามมาพบพ่อ   นำทางเขาไปยังโดเวอร์   เมื่อตระหนักถึงความจริงว่าเขาผิดพลาดไปแล้วที่หลงเชื่อลูกเลวและลงทัณฑ์ลูกคนดีให้ลำบาก     กลอสเตอร์ประสบความเจ็บปวดในอารมณ์ที่รุนแรงสุดขีดก็เลยเสียชีวิตลงในที่สุด
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8428


ความคิดเห็นที่ 96  เมื่อ 19 ก.พ. 25, 11:27

              ถึงจุดนี้ รู้สึกว่าท่านเชก "จงใจ" ขีดเขียนชะตากรรมของตัวละครให้รันทด,ลำเค็ญเหลือเกินแบบคูณสอง(คน)
ทั้งยังเริ่มเสิร์ฟความรุนแรงอีกครั้ง หลังจากสองเรื่องก่อนก็เวทีเลือดนองมาแล้ว
              นอกจากนี้ การเสนอภาพ ความตกต่ำ downfall ของบุคคลระดับสูงบนเวที เพื่อสร้างธรรมสังเวชให้แก่ผู้ชมแล้ว
ยังอาจเพื่อสร้างความสะใจหรือปลอบใจให้แก่ผู้ชมบนดินที่มีชีวิตลำบาก,ไม่ได้ร่ำรวยสุขสบาย เป็นแบบว่า ละครเวทีบำบัด 


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 97  เมื่อ 19 ก.พ. 25, 11:46

    มันเป็นรสนิยมของคนอังกฤษยุคนั้นด้วยค่ะ ที่ชอบอะไรแรงๆ สะใจคนดู  ฆ่าฟันกันก็ต้องตายเกลื่อนเวที ไม่ใช่ตายแค่ตัวละครตัวเดียวสองตัว   
    ส่วนการหลุดร่วงสู่สภาพอับจน(downfall) ของตัวละครที่มียศศักดิ์สูงๆนั้น  ก็สะใจคนดูอย่างที่คุณหมอว่า  ละครยุคอลิซบีทันหรือยุคเรอเนสซองส์นี้สืบทอดจารีตมาจากละครโศกนาฏกรรมของกรีก  ที่นิยมแสดงชีวิตตัวเอกที่เป็นเจ้าเป็นนาย  เพราะถือว่าการดิ่งลงสู่ที่ต่ำจะทำให้เกิดความสังเวชในอารมณ์คนดูได้มากกว่า   พระเจ้าเลียร์ที่ไร้บัลลังก์  กระเซอะกระเซิงไปเดียวดาย ย่อมก่อความสะเทือนใจได้มากกว่าเห็นทหารเลวประสบชะตากรรมอย่างเดียวกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 98  เมื่อ 20 ก.พ. 25, 09:30

     กลับมาทางในวัง  กอนเนอริลและรีแกนต่างหึงหวงแย่งชิงความรักจากเอ็ดมันด์    กอนเนอริลวางยาพิษน้องสาวจนตายเพื่อจะครอบครองเอ็ดมันด์ไว้แต่ผู้เดียว  นางพยายามกำจัดดยุคแห่งอัลบานีผู้สามีด้วย แต่ทำไม่สำเร็จ
     ทัพของคอร์ดีเลียยกมาถึง แต่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้  คอร์ดีเลียถูกจับได้ และถูกเอ็ดมันด์ซึ่งกุมอำนาจในอาณาจักรอยู่สั่งประหาร
     เอ็ดการ์เปิดเผยตัวขึ้นมา ท้าดวลกับเอ็ดมันด์  เอ็ดการ์สามารถเอาชนะเอ็ดมันด์ได้ ก่อนตายเอ็ดมันด์สำนึกผิดและพยายามจะสั่งงดโทษประหารคอร์ดีเลีย แต่ไม่ทัน   นางถูกประหารไปแล้ว
     เมื่อกอนเนอริลรู้ข่าวว่าชู้รักตาย  นางก็ฆ่าตัวตายตามไปอีกคน

     พระเจ้าเลียร์ปรากฏตัว อุ้มร่างไร้วิญญาณของคอร์ดีเลีย เดินเร่ร่อนไปไร้จุดหมายอย่างคนคลุ้มคลั่งเสียสติ   ใจเต็มไปด้วยทุกข์แสนสาหัส ที่ตัวเองคือสาเหตุให้ลูกรักประสบความวิบัติ      ทีแรกพระองค์หวังว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อรู้ว่านางจากไปจริงๆ หัวใจของเลียร์ก็แตกสลาย สิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา

       เมื่อมาถึงตอนจบของเรื่อง ตัวละครเอกตายกันเกือบหมด   เหลือดยุคแห่งอัลบานี สามีของกอนเนอริล และเอ็ดการ์ อัลบานีเสนอให้เอ็ดการ์และเอิร์ลแห่งเคนท์ ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของเลียร์ปกครองอาณาจักรร่วมกัน แต่เคนท์ปฏิเสธ โดยบอกเป็นนัยว่าเขาจะติดตามพระเจ้าเลียร์ไปในไม่ช้า
      อาณาจักรจึงตกเป็นของเอ็ดการ์ในตอนจบ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 99  เมื่อ 20 ก.พ. 25, 09:32

    ทีนี้ก็มาถึงคำถามว่า Tragic flaw อันเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมในชีวิตพระเจ้าเลียร์คืออะไร
    ตรงกันข้ามกับแม็คเบธ  พระเจ้าเลียร์ไม่ต้องทะเยอทะยานใดๆ เพราะพระองค์นั่งอยู่บนที่สูงสุดคือบัลลังก์กษัตริย์มาตั้งแต่แรกแล้ว      อาณาจักรของเลียร์ก็ดูสงบสุขดีมาตลอดรัชกาล  ไม่มีปัญหายุ่งยากอย่างเดนมาร์กของแฮมเล็ต   ดังนั้น ก็เช่นเดียวกับคนที่ครองอำนาจบริหาร หรือนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานอยู่นานๆ เก้าอี้ไม่สั่นคลอน    มันก็อดไม่ได้ที่จะเกิด hubris ขึ้นมาในความสำคัญของตน
     คำนี้เป็นคำเก่า  ไม่ค่อยจะเคยเห็นในนวนิยายยุคใหม่   แปลเป็นไทยได้หลายคำ เช่นเย่อหยิ่ง หยิ่งยโส  โอหัง อหังการ ทะนงตนว่าเหนือกว่าผู้อื่น 
    วิชาจิตวิทยามีโรคประเภทหนึ่งเรียกว่า  Hubris Syndrome  หรือ เรียกอย่างทางการว่า Leadership Personality Disorder คือพอเป็นผู้นำที่มีอำนาจมากๆ เข้า หรือครองอำนาจนานเข้า ก็อาจจะเกิดความผิดปกติทางจิตบางประการข้ึนมาโดยไม่รู้ตัว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 100  เมื่อ 20 ก.พ. 25, 09:33

 พวกที่เป็น disorder แบบนี้ เชื่อว่าตัวเองเป็นคนวิเศษวิโสกว่าคนอื่นๆรอบด้าน   เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่คนศิโรราบ    เมื่อคิดเช่นนั้น  อัตตาก็จะเริ่มพองคับตนเอง เช่นชอบให้คนป้อยอ   ท่านทำอะไรก็ถูกหมดดีหมด   ใครจะค้านไม่ได้ ต้องเยินยอว่าถูกครับนาย ใช่ครับท่าน กันลูกเดียว   
   พระเจ้าเลียร์ป่วยหรือเปล่า ไม่รู้  เชกสเปียร์เองก็คงไม่รู้เพราะท่านเชกไม่ใช่หมอ  สมัยนั้นวิชาจิตวิทยา หรือแพทย์สาขาจิตเวชก็ยังไม่ถือกำเนิด   แต่ท่านเชกน่าจะเคยเห็นคนประเภทนี้มาก่อนจะแต่งละครเรื่องนี้  จึงสามารถสร้างพระเจ้าเลียร์ให้เป็นคนทะนงตนว่าดีวิเศษกว่าคนอื่น    ชอบคำสรรเสริญเยินยอมากกว่าคำพูดตรงๆไม่หวานหู    ในเมื่อหลงเชื่อเช่นนี้ จึงนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ลงท้ายด้วยความหายนะของตนเองและบุคคลใกล้ชิด
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8428


ความคิดเห็นที่ 101  เมื่อ 20 ก.พ. 25, 11:30

           หากจะพูดว่า R.I.P. แบบที่สะดวกนิยมกัน, ก็รู้สึกว่า ไม่จริงใจ เพราะคิดว่าจิตใจคิง ไม่น่าสงบปลงได้
กับการสูญเสียมหันต์ เสียรู้แล้วได้บทเรียนเมื่อสาย เพราะอัตตา มานะ ทิฏฐิของตน


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8428


ความคิดเห็นที่ 102  เมื่อ 20 ก.พ. 25, 11:37

            เรื่องนี้ท่านเชกชโลมเลือดบนเวทีอีกครั้ง(เขาว่า ใช้กระเพาะและเลือดหมูซ่อนไว้ในเครื่องแต่งกาย)
            ย้อนมองทั้งสามเรื่องเอกนี้ มีแบบแผนเหมือนๆ กัน(สำหรับละครเล่าเรื่องจบใน 2-3 ชั่วโมง ไม่ค่อยมี
เวลาพอจะเกริ่นนำที่มา,พื้นฐานตัวละครหลักๆ สักเท่าใด)  
            เปิดเรื่องเริ่มด้วย อุบัติเหตุ tragic flaw ของตัวละครเอก แล้วจึงตามมาด้วยเหตุการณ์วิบัติหายนะ
นองเลือดในตอนจบ ราวกับว่าจะให้คนดูใช้เลือดชำระล้างจิตใจ ให้ได้สังเวช,ปลง,ได้คิด,เห็นบทเรียนบนเวที

ใน Shakespeare in Love, Juliet ใช้ผ้าสีแดงแทนเลือดสดงดงาม


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 103  เมื่อ 21 ก.พ. 25, 09:00

    King Lear เป็นโศกนาฏกรรมที่หม่นมืดที่สุดใน 4 เรื่อง   เพราะตัวละครเกือบทุกตัวล้วนจบชีวิตลง ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือคนอื่น ก็จบลงด้วยหัวใจสลายจากความรู้สึกผิดของตนเอง
    ถ้าหากว่าตัวละครฝ่ายร้ายตาย คนดูก็คงไม่รู้สึกอะไรมากนอกจากสะใจ     ถ้าตัวละครที่มี tragic flaw ตาย  คนดูก็ทำใจไว้พร้อมตั้งแต่แรกอีกนั่นแหละ   แต่เชกสเปียร์เพิ่มความเข้มข้นลงไปอีก ด้วยการเพิ่มสีขาวลงไปตัดกับสีดำ ให้เห็นชัดขึ้น คือให้ตัวละครสะอาดบริสุทธิ์และแสนดีอย่างคอร์ดีเลีย ต้องมาตายไปอย่างไม่น่าจะตาย
    จะว่าไปคอร์ดีเลียมีบทน้อย แต่มีพลังต่อความรู้สึกของคนดูมาก    นางออกมาตอนต้นเรื่องแล้วก็เข้าฉากไป   กลับมาอีกครั้งตอนใกล้ๆจะท้ายๆ    นางประสบชะตากรรมเลวร้ายซ้ำซ้อน  นอกจากถูกพ่อขับไล่ออกจากเมืองให้ไปแต่ตัวแล้ว  พอยกทัพมาเพื่อจะช่วยเหลือพ่อ ก็กลับถูกตัวร้ายจับได้แล้วสั่งประหารเสียอีก   คนดูจะรู้สึกสะเทือนใจยิ่งกว่าตัวละครอื่นๆที่ตายลงเช่นกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41299

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 104  เมื่อ 21 ก.พ. 25, 09:02

     ทำไมเชกสเปียร์ถึงเขียนให้คอร์ดีเลียตายอย่างน่าเวทนา  ทั้งๆนางไม่ได้ทำอะไรเลวร้าย  ผิดกับพี่สาวสองคนนั่น (ซึ่งตายเสียได้ก็ไม่น่าเสียดาย)  คำตอบก็มีให้ตีความกันได้มากมาย   
     อย่างหนึ่งคือเพื่อเน้นโทษของความหลงตนเอง ที่พระเจ้าเลียร์กระทำ   ไม่เฉพาะแต่ทำลายตัวเองให้สูญสิ้นยศศักดิ์เท่านั้น   แต่ทำลายผู้ที่พระองค์รักมากที่สุด และเป็นผู้บริสุทธิ์ในทุกกรณีด้วย
     อย่างที่สองคือเชกสเปียร์ต้องการแสดงให้เห็นว่าโลกเราก็ใช่ว่าจะถูกต้องยุติธรรมกันไปเสียทุกกรณี   ความอยุติธรรม ความเลวร้าย ความไม่ถูกไม่ควร ต่างหาก  กลับเป็นสิ่งคู่โลกมาทุกยุคทุกสมัย   
     ถ้าเราจะถามว่าทำไมคอร์ดีเลียต้องตาย  ก็ต้องถามต่อไปว่า ในสงครามแต่ละครั้ง ผู้บริสุทธิ์อย่างเด็กเล็กๆที่ไม่ประสีประสาและไม่เคยก่อเรื่องก่อราวให้ใคร กลับต้องตายลงไปมากมาย     มันไม่ถูกไม่ควรใช่ไหม  แต่สงครามก็ยังเกิดมานับครั้งไม่ถ้วนในอดีต และจะยังเกิดต่อไปในอนาคต
     แต่เชกสเปียร์ก็ยังยั้งมือไว้ ไม่บรรเลงเพลงโศกให้ตัวละครฝ่ายดีตายกันมากไปกว่านี้    เท่ากับบอกว่า บางครั้งความดีก็ยังมีชัยอยู่บ้าง     เอ็ดการ์ถึงเอาชนะเอ็ดมันด์ได้     ถ้าเอ็ดมันด์ตัวร้ายเป็นฝ่ายชนะ ฆ่าทุกคนได้หมด   แล้วขึ้นครองราชย์   เรื่องนี้จะเปลี่ยนจากโศกนาฏกรรมเป็นเรื่องเหี้ยมโหดซาดิสม์  ไม่ใช่จุดมุ่งหมายของโศกนาฏกรรมของเชกสเปียร์
    อีกอย่าง ถ้าตัวละครตายกันไปมากๆ ร่วงเหมือนใบไม้ร่วง    คนดูจะเริ่มชินชาจนไม่รู้สึกสะเทือนใจ   เผลอๆจะเฮฮากันด้วยซ้ำไปเมื่อตัวละครตัวหลังๆล้มตายลงไปอีกคน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 19 คำสั่ง