SILA
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 04 ก.พ. 25, 10:06
|
|
เปิดเรื่องด้วย เรื่องเหนือธรรมชาติ,ปีศาจ สามแม่มด คล้ายๆ แฮมเลท ต่อด้วย,เปิดตัว แม่มด "คน"ที่สี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 04 ก.พ. 25, 10:35
|
|
ฉากเปิดเรื่องของ Macbeth
First Witch When shall we three meet again? * In thunder, lightning, or in rain?
Second Witch When the hurly-burly’s done,
When the battle’s lost and won. Third Witch
That will be ere the set of sun.
* ฟาโรสเล่าว่า ตอนที่เรียนปี ๑ วิชา Intro Drama Arts ปริทัศน์ศิลปการละคร ได้เรียนกับ รองศาสตราจารย์สดใส พันธุมโกมล อาจารย์ยกตัวอย่างให้ดูและถามว่า "คุณรู้ไหม ทำไมเชกสเปียร์ถึงดัง" และเปิดแมคเบธให้ดู ประโยคแรกของเรื่องคือ "When shall we three meet again? - เมื่อไหร่สามเราจะหวนมาชุมนุม" อาจารย์ถามว่านิสิตเห็นอะไรบ้างในประโยคนี้ อาจารย์ชี้ให้ดูว่า เห็นผู้พูดไหม มีเราสามคน เห็นเวลาไหมว่ามีอนาคตจะต้องมาเจอกัน แสดงว่ามีพันธกิจบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งสามารถขยายความได้เป็น paragraph แต่ทุกอย่างจบได้ในประโยคเดียว
จาก PYMK ในความคิดเห็นที่ ๑๖ นาทีที่ ๓๒.๓๓ - ๓๔.๐๐
ข้อที่น่าสังเกตในเรื่อง Macbeth มีแม่มด ๓ ตน ทำให้นึกถึง แม่มดในภาพยนตร์เรื่อง Stardust (ศึกมหัศจรรย์ ปาฏิหาริย์รักจากดวงดาว) ก็มี ๓ ตนเหมือนกัน
เลข ๓ นั้น สำคัญไฉน?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41269
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 04 ก.พ. 25, 17:01
|
|
ภาพวาดนี้ชื่อ Ellen Terry as Lady Macbeth วาดโดย John Singer Sargent ศิลปินขอให้นางละครชื่อ Ellen Terry ผู้สวมบทบาทนี้บนเวที แสดงแบบเป็นเลดีแม็คเบธ ให้เขาวาด ภาพนี้แสดงตอนเลดีแม็คเบธชูมงกุฎของกษัตริย์ดันแคนขึ้นจะสวมบทศีรษะ หลังจากลอบสังหารแล้ว บทนี้ไม่มีในละคร แต่ศิลปินเห็นว่าเป็นท่าทางที่สะท้อนตัวตน และบทบาทสำคัญของนางได้มากที่สุด ภาพนี้แสดงอยู่ที่ Tate Gallery ในลอนดอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41269
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 05 ก.พ. 25, 10:26
|
|
แม็คเบธกลับไปที่ปราสาทของเขา เลดีแม็คเบธรอต้อนรับอยู่ด้วยความยินดีปรีดา ส่วนกษัตริย์ดันแคนก็ตามมาในวันนั้น งานเลี้ยงจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เมื่องานเลิกทุกคนแยกย้ายกันไปนอน แต่สามีภรรยาแม็คเบ็ธตัดสินใจว่าคืนนี้เป็นโอกาสเดียวที่จะลงมือสังหารดันแคนได้ เพราะพรุ่งนี้ดันแคนก็จะเดินทางจากไปแล้ว สามีภรรยารอจนกลางดึก ทุกคนหลับสนิท เมื่อถึงเวลาที่กำหนด เลดี้แม็คเบ็ธมอมเหล้ายามเฝ้าประตูเพื่อให้แม็คเบธสามารถเข้าไปสังหารกษัตริย์ได้ นางเข้าไปดูลาดเลาก่อน แล้วเรียกสามีให้เข้าไปจัดการ ในตอนแรก แม็คเบ็ธลังเลที่จะฆ่าผู้บริสุทธิ์ แต่เลดีแม็คเบธเร่งเร้าผลักดันจนเขาตกลงใจจ้วงแทงดันแคนจนตายคาที่ พอลงมือทำไปแล้ว แม็คเบธช็อคในการกระทำของตนเองมาก แต่ภรรยากล่อมให้เขาสงบลง นางนำกริชที่เปื้อนเลือดไปวางไว้ข้างยามที่เมาสลบไสล
เลดีแม็คเบธเข้าไปดูลาดเลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41269
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 05 ก.พ. 25, 10:26
|
|
ตอนเช้า ทุกคนตื่นขึ้น แมคดัฟฟ์ ขุนนางคนหนึ่งของประเทศเข้าไปพบศพของกษัตริย์ดันแคน แม็คเบ็ธแสดงออกว่าโกรธแค้นมาก ถึงกับฆ่ายามที่เมาสุราเพื่อแก้แค้นแทนกษัตริย์ การกระทำของแม็คเบธทำให้เจ้าชายมัลคอล์มและน้องชายชื่อดอนัลเบน ระแวงเงื่อนงำการสังหารบิดา ทั้งสองจึงหลบหนีออกจากปราสาทด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกกำจัดเป็นอันดับต่อไป ในเมื่อเจ้าชายหายตัวไป แม็คเบธก็ได้โอกาสป้ายความผิดว่าทั้งสองเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร
ภาพล่าง แม็คเบธเข้าไปสังหารดันแคน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41269
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 05 ก.พ. 25, 10:49
|
|
ในเมื่อกษัตริย์ถูกสังหาร เจ้าชายก็หนีหายไป แม็คเบธผู้เป็นบุคคลสำคัญที่สุดในราชสำนักจึงได้ขึ้นครองบัลลังก์สกอตแลนด์ ตรงตามคำทำนายของแม่มด ทุกอย่างทำท่าว่าจะเป็นไปด้วยดี แม็คเบธขึ้นเป็นกษัตริย์ได้สมความมุ่งหมาย ไม่มีใครต่อต้าน แต่แทนที่จะมีความสุขได้เต็มที่ เขากลับถูกหลอกหลอนด้วยความรู้สึกหวาดระแวง ไม่มั่นใจในอนาคตของตัวเอง เขานึกถึงคำพยากรณ์แม่มดที่ว่าทายาทของแบงโควจะได้เป็นกษัตริย์ ในเมื่อแม่มดทำนายถูกมาหมดแล้วทุกเรื่อง เรื่องนี้ก็จะต้องเป็นจริงตามนั้น กลายเป็นว่าพ่อลูกจะกลายมาเป็นก้างขวางคอ ล้มบัลลังก์กษัตริย์ในวันหนึ่ง แม็คเบธวางแผนสังหารแบงโควและเฟลยองซ์บุตรชายของเขา มือสังหารฆ่าแบงโควได้สำเร็จ แต่เด็กหนุ่มเฟลยองซ์หนีรอดไปได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41269
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 05 ก.พ. 25, 10:50
|
|
ในคืนเดียวกันนั้น มีงานเลี้ยงใหญ่ในวัง แม็คเบธเห็นวิญญาณของแบงโควปรากฏตนขึ้นหลอกหลอน จนเขาตื่นตระหนก หวาดกลัวแทบเสียสติ ก่อให้เกิดความฉงนสนเท่ห์ให้เหล่าขุนนาง เพราะไม่มีใครเห็นปีศาจนอกจากแม็คเบธคนเดียว เลดีแม็คเบธรีบไล่แขกออกไปก่อนสามีจะหลุดความลับออกมา นางพยายามปลอบใจสามีว่าไม่มีอะไรมาก แค่ภาพหลอน แต่ก็ไม่เป็นผล แม็คเบธยังคงหวาดกลัวแทบคลุ้มคลั่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 05 ก.พ. 25, 16:04
|
|
จากคำนำ แมคเบธ ผลงานแปลโดย อ. นพมาส แววหงส์ โดย อ.สดใส พันธุมโกมล
แมคเบธ เป็นวรรณกรรมบทละครที่เปี่ยมด้วยคุณค่าอย่างยากจะหาเรื่องอื่นใดเทียบได้ มีความโดดเด่น ทั้งในลักษณะการดำเนินเรื่อง การวางตัวละคร การใช้ภาษา ภาพพจน์ อุปมาอุปไมย และแก่นของเรื่องที่ลึกซึ้งน่าประทับใจ
เลดี้ แมคเบธ งานวาดโดย อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 05 ก.พ. 25, 18:35
|
|
คำนิยมของรองศาสตราจารย์สดใส พันธุมโกมล ศิลปินแห่งชาติ สาขาสาขาศิลปะการแสดง (ละครเวทีและโทรทัศน์) ประจำปี ๒๕๕๔
ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เขียนคำนิยมสำหรับบทละครที่รองศาสตราจารย์นพมาส แววหงส์ ได้คัดเลือกมาทำเป็นบทภาษาไทยจากวรรณกรรมการละครที่ยิ่งใหญ่ของวิลเลียม เชกสเปียร์ เพราะชื่นชมและมั่นใจในความเป็นอัจฉริยะของรองศาสตราจารย์นพมาสที่จะสามารถทำให้บทละครภาษาไทยที่แปลจากปลายปากกาของเชกสเปียร์มีความงดงามและยิ่งใหญ่ไม่แพ้ต้นฉบับเดิมที่เป็นภาษาอังกฤษเลยแม้แต่น้อย นอกจากนั้น บทละครในชุดนี้ยังได้รับความกรุณาจากอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้วาดภาพปกและภาพประกอบ ซึ่งย่อมทำให้บทละครเรื่อง แมคเบธ และบทละครทุกเรื่องที่นำเสนอในชุดนี้ มีความเพียบพร้อมและสมบูรณ์ทั้งในแง่ศิลปะและวรรณกรรมอย่างหาที่เปรียบมิได้
ข้าพเจ้าเคยสอนบทละครเรื่อง Macbeth ของวิลเลียม เชกสเปียร์ เป็นวิชาหนึ่งของแผนกวิชาภาษาอังกฤษ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งข้าพเจ้าสอนเป็นภาษาอังกฤษ รองศาสตราจารย์นพมาส แววหงส์ เป็นหนึ่งในนิสิตในชั้นเรียนวิชานี้อยู่ด้วย หลังจาก รศ.นพมาสเรียนจบและเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาศิลปการละครต่อมา วิชาหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้มอบหมายให้สอนคือ การอ่านและแปลบทละคร เพื่อประโยชน์ในการเรียนการสอนรายวิชานี้ รศ.นพมาสเกิดแรงบันดาลใจให้แปลเรื่อง แมคเบธ และยังได้ใช้บทละครที่แปลในการเรียนการสอนวิชาอื่น ๆ ของภาควิชาศิลปการละครต่อมา รวมทั้งได้กำกับละครเรื่องนี้ เป็นละครปฐมฤกษ์ของศูนย์ศิลปการละครสดใส พันธุมโกมล คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ด้วย
แมคเบธ เป็นวรรณกรรมบทละครที่เปี่ยมด้วยคุณค่าอย่างยากจะหาเรื่องอื่นใดเทียบได้ มีความโดดเด่นทั้งในลักษณะการดำเนินเรื่อง การวางตัวละคร การใช้ภาษา ภาพพจน์ อุปมาอุปไมย และแก่นของเรื่องที่ลึกซึ้งน่าประทับใจ น่ายินดีที่แวดวงการศึกษาศิลปะการละครของไทยเรา ได้มีบทละครชิ้นเอกของโลก วรรณกรรมในภาคภาษาไทยไว้ศึกษาอีกเรื่องหนึ่ง
บทละครที่รองศาสตราจารย์นพมาสแปลไม่ใช่เป็นการแปลคำต่อคำ แต่แสดงให้เห็นความสามารถในการแปลอย่างเยี่ยมยอด เป็นงานแปลที่สมบูรณ์ ทั้งในลักษณะภาษา วรรณกรรมและวัฒนธรรมซึ่งต่างยุคต่างสมัยไปจากสมัยปัจจุบัน และไม่ใช่แปลจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่งเท่านั้น แต่สามารถถ่ายทอดหัวใจ ความคิดความใฝ่ฝัน ของต้นฉบับ คนอ่านจะได้เรียนรู้ถึงยุคสมัยลักษณะนิสัย ตัวละครบรรยากาศของยุคสมัย และขนบประเพณีต่าง ๆ ไปด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41269
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 06 ก.พ. 25, 09:13
|
|
แม็คเบธไปตามหาแม่มดจนเจอ แม่มดทำนายว่าพระราชาแม็คเบธจะปลอดภัยอยู่บนบัลลังก์จนกว่าป่าในละแวกนั้น ชื่อ"เบอร์นัมวูด" จะเดินมาประชิดติดเมืองได้ นอกจากนี้ เขายังไม่ต้องกลัวใครที่คลอดจากสตรี เพราะบุคคลเหล่านั้นจะไม่สามารถทำร้ายเขาได้ อย่างไรก็ตาม แม่มดยังทำนายอีกว่าทายาทของสกอตแลนด์จะยังคงมาจากสายเลือดของแบงโคว แม็คเบธจึงเริ่มครองราชย์ด้วยความโหดเหี้ยม สังหารผู้คนมากมายที่เขาระแวงว่าเป็นญาติหรือพรรคพวกของแบงโคว รวมถึงครอบครัวของขุนนางอีกคนชื่อแมคดัฟฟ์ แมคดัฟฟ์หนีรอดไปได้ เขาเดินทางไปพบมัลคอล์ม (โอรสของกษัตริย์ดันแคน) ที่หลบหนีไปพำนักอยู่ในราชสำนักอังกฤษ มัลคอล์มยังเยาว์วัย ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่แมคดัฟฟ์ผู้สาบานว่าจะล้างแค้นให้ครอบครัวสามารถโน้มน้าวให้เขานำกองทัพเข้าต่อสู้กับแม็คเบธได้สำเร็จ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41269
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 06 ก.พ. 25, 09:21
|
|
ทัพของมัลคอล์มยาตราเข้ามาถึงสกอตแลนด์ แต่แม็คเบธยังรู้สึกวางใจว่าทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี จนกระทั่งได้รับข่าวจากชาวบ้านที่ตื่นตระหนกว่า เห็นป่าเบอร์นัมวูดเดินได้ กำลังเคลื่อนเข้ามาหาเขา ที่แท้ กองทัพของมัลคอล์มนั้นถือกิ่งไม้จากป่ามาใช้พรางตัวเพื่อบุกโจมตีป้อมปราการของแม็คเบธ ในขณะเดียวกัน เลดีแม็คเบ็ธถูกความรู้สึกผิดที่มีส่วนร่วมในการสังหารดันแค้น ก็เริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ เดินละเมอเอามือที่เปื้อนเลือดล้างแล้วล้างอีก ในที่สุด เมื่อทนทุกข์ทรมานไม่ไหว นางก็ปลิดชีพตัวเอง ข่าวนี้ไปถึงแม็คเบธเมื่อเตรียมรบครั้งสุดท้าย แม็คเบ็ธกำลังหดหู่ใจกับชีวิตที่ผ่านมา เมื่อได้ยินข่าวว่าภรรยาฆ่าตัวตาย เขาก็ยิ่งเสียขวัญและส้ิ้นหวัง แม็คเบธออกศึกด้วยตนเอง พบว่าทัพของตนกำลังจะพ่ายแพ้ เขาได้เผชิญหน้ากับแมคดัฟฟ์ แม็คดัฟฟ์ท้าแม็คเบ็ธให้สู้กันตัวต่อตัว เมื่อแม็คเบธประกาศว่าไม่มีใครที่เกิดจากสตรีทำร้ายเขาได้ แมคดัฟฟ์ก็ตอบว่าเขาไม่ได้คลอดออกมาอย่างทารกทั่วไป แต่เกิดจากการผ่าออกทางหน้าท้อง แม็คเบธจึงตระหนักว่าตนถึงจุดจบ และถูกแม็คดัฟฟ์สังหารในการรบ แมคดัฟฟ์ชนะศึก นำศีรษะของแม็คเบ็ธไปมอบให้มัลคอล์ม มัลคอล์มประกาศคืนความสงบสุขให้แผ่นดิน และเดินทางเข้าเมืองเพื่อขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์สกอตแลนด์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 06 ก.พ. 25, 10:35
|
|
แมคเบธต่อสู้กับแมคดัฟฟ์
ภาพจาก แมคเบธ ละครปฐมฤกษ์ของศูนย์ศิลปการละครสดใส พันธุมโกมล คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 06 ก.พ. 25, 11:43
|
|
คราวแรกที่เคยได้อ่านเรื่องย่อนานแล้ว ถึงตอนนี้ที่ว่า ไม่ได้เกิดจากการคลอดตามช่องทางธรรมชาติ (แต่ผ่าออกจากช่องท้อง) ก็ไม่ได้ติดใจ,ผ่านเลยไป มาคราวนี้ ได้ไปรีวิวคร่าวๆ การผ่าคลอดทำกันมานานนับร้อย นับพันปี แรกทำในกรณีมารดาเสียชีวิตเพื่อช่วยชีวิตทารกที่น่าจะ ยังไม่ตายตามไป Julius Caesar ไม่ได้เกิดโดยการผ่าคลอดเพราะมารดาไม่ได้ตายตอนคลอด,ยังมีชีวิตอยู่เมื่อพระองค์ เจริญวัย แต่สมัยพระองค์นั้นมีกฎหมายให้ทำการผ่าทารกออกจากมารดาที่เสียชีวิต(เพื่อรักษาทรัพยากรสำคัญ - มนุษย์) จึงอาจเป็นที่มาของคำเรียกการผ่าคลอด - cesarean section(พบมีที่ใช้ในปี 1598) แต่ อีกแนวทางที่มาคือ คำกริยาภาษา Latin "caedare," แปลว่า to cut และคำว่า "caesones" ใช้เรียกทารกที่เกิดจากมาตามต(แม่ตาย)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41269
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อ 06 ก.พ. 25, 15:42
|
|
เข้าใจผิดมาตลอดว่า การผ่าคลอด (ซีซาร์เรียน เซคชั่น)ได้ชือนี้ เป็นเพราะจูเลียส ซีซาร์ เกิดมาเพราะถูกผ่าตัดออกทางหน้าท้อง ความจริงไม่ใช่ สันนิษฐานว่าเขาได้รับชื่อนี้จากบรรพบุรุษที่เกิดจากการผ่าคลอด ที่จริงคืออย่างที่คุณหมอ SILA ว่า คือการผ่าคลอดถูกใช้เพื่อช่วยชีวิตทารกจากครรภ์ของมารดาที่เสียชีวิตขณะคลอดบุตร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|