ถนนราชดำเนินในช่วงกึ่งพุทธกาล หรือพ.ศ. 2500 ยังเป็นที่ตั้งของร้านตัดผมร้านดัง ชื่อร้าน "พงศ์เทพ" เป็นแหล่งชุมนุมคนดังหลากหลายวงการ ทั้งในแวดวงสังคมชั้นสูง นักการเมือง ไปจนถึงผู้สร้าง ผู้กำกับ และดาราภาพยนตร์
http://www.kroobannok.com/blog/13988สมพร โฉมงาม ช่างตัดผมประจำร้านพงศ์เทพ วัย 69 ปี ซึ่งยึดอาชีพช่างตัดผมมานานนับ 40 ปี บอกเล่าว่าดาราดังๆ ที่มาตัดผมในยุคนั้น ได้แก่ ลือชัย นฤนาท, ชนะ ศรีอุบล, ทักษิณ แจ่มผล, มานพ อัศวเทพ, ชุมพร เทพพิทักษ์ และมีดาราอีกหลายคนที่ได้แจ้งเกิดในวงการโดยมีจุดเริ่มต้นจากร้านนี้ เนื่องจากมีผู้สร้างภาพยนตร์มาชุมนุมกันที่ร้านนี้มากมาย หากจะเปรียบกับสมัยนี้ก็คงเป็นเหมือนสยามแสควร์ที่บรรดาวัยรุ่นไปชุมนุมกัน หวังให้มีแมวมองมาชักชวนเข้าสู่วงการบันเทิง
ช่างสมพรบอกว่า ยุคนั้นทรงผมยอดนิยมที่สุดก็คือ "ทรงลือชัย นฤนาท" พระเอกที่มาดัดผมเลียนแบบสไตล์เจมส์ ดีน ซูเปอร์สตาร์ของฮอลลีวู้ด ส่งผลให้แฟนหนังของลือชัยมาดัดผมทรงนี้ตามจนเข้าแถวยาวออกไปจนถึงถนนหน้าร้าน ช่างสมพรยังเล่าเกร็ดขำๆ ว่าช่วงที่ผมทรงนี้ฮิตระเบิดไปทั่วพระนครนั้น ถึงกับมีกรณีชกต่อยกันระหว่างช่างตัดผมกับลูกค้า เพราะไม่พอใจที่ช่างดัดผมออกมาให้ไม่เหมือนลือชัย
ช่วงแรกนั้น สนนราคาค่าตัดก็อยู่เพียงแค่ 5 บาท ก่อนจะขึ้นเป็น 7 บาทในเวลาต่อมา ถ้าตัดสระก็ 8 บาท ส่วนเด็กคิดค่าตัด 2 บาท ในตอนนั้นร้านพงศ์เทพมีอยู่ 2 ร้าน คือร้านเก่าที่ถนนตะนาว และร้านที่ถนนราชดำเนินซึ่งติดเครื่องปรับอากาศ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน
แม้ในวันนี้ ร้านพงศ์เทพจะเปลี่ยนเจ้าของมาหลายมือแล้ว แต่ชื่อเสียงเดิมของนายพงศ์เทพ บุญสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งก็ยังคงอยู่ ทำให้ลูกค้ายังให้ความไว้วางใจมาใช้บริการไม่ขาดสาย
บัญญัติ สังขารักษ์ ช่างตัดผมที่มีประสบการณ์หลายสิบปีกล่าวว่า ในยุคต่อมาลูกค้าที่เป็นนักแสดงเริ่มไม่มีแล้ว แต่เป็นกลุ่มนักธุรกิจและคนในสังคมชั้นสูงทั้งหลายมารวมตัวกัน ในรุ่นหลังลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเป็นนักการเมือง ส่วนนักแสดงก็มีบ้างแต่ไม่มากนัก เช่น พระเอกละคร ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ ในยุคที่รุ่งเรืองสุดขีดก็เคยมาเป็นลูกค้าที่นี่
ลูกค้านักการเมืองที่มาใช้บริการร้านพงศ์เทพยุคนั้นก็มีหลายท่าน อาทิ สมัคร สุนทรเวช, สุธี สิงห์เสน่ห์, บัญญัติ บรรทัดฐาน, สุรินทร์ พิศสุวรรณ, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, สัมพันธ์ ทองสมัคร, ไสว พัฒโน, สวัสดิ์ คำประกอบ, วิษณุ เครืองาม เป็นต้น โดยเฉพาะในยุคพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นจะมีนักการเมืองมาใช้บริการที่ร้านกันมาก
สมหมาย กองสุทธิผล เป็นช่างตัดผมมีฝีมืออีกคนที่มีนักการเมืองหลายคนไว้วางใจให้เป็นช่างประจำ กล่าวว่าปัจจุบันนี้ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนมากมักจะเป็นลูกค้าประจำ นักการเมืองบางท่านก็ยังแวะเวียนมาใช้บริการบ้าง "ร้านพงศ์เทพมีนักการเมืองรู้จักกันมาก ผู้หลักผู้ใหญ่ให้การยอมรับ เพราะร้านเรามีมาตรฐาน ไฮโซยุคก่อนเอ่ยชื่อร้านพงศ์เทพใครก็ต้องรู้จัก"
ด้วยความที่มีนักการเมืองมาใช้บริการมากนี่เอง ช่างตัดผมที่ร้านพงศ์เทพจึงรู้เบื้องหลังเบื้องลึกในแวดวงการเมืองไม่น้อยกว่าในรัฐสภาหรือทำเนียบ เนื่องจากต้องคอยรับฟังปัญหาที่ลูกค้าระบายให้ฟังอยู่เสมอ
ด้านลูกค้าขาจรต่างชาตินั้นก็มีมาบ้าง ทั้งญี่ปุ่นและฝรั่ง ช่างบัญญัติเสริมว่า ที่ชาวต่างชาติเลือกมาใช้บริการไม่ใช่เพียงค่าตัดที่ถูกกว่า แต่หลายคนต่างยอมรับว่าช่างตัดผมไทยฝีมือประณีตดีกว่า โดยทางร้านจะคิดค่าบริการเท่ากันกับคนไทยคือ ราคาตัด 100 บาท ตัดสระ 200 บาท แต่สำหรับชาวต่างชาติจะคิดค่าโกนหนวดแยกต่างหาก ไม่คิดรวมอยู่ในค่าตัดผมเหมือนคนไทย เพราะเหตุที่ว่า ฝรั่งนั้นหนวดมักจะแข็งทำให้โกนยากกว่า
การโกนหนวดนั้นนับเป็นเอกลักษณ์ของร้านตัดผมยุคเก่า แต่ช่างสมหมายและบัญญัติบอกว่า ช่างตัดผมรุ่นใหม่ๆ นั้นใช้ใบมีดโกนกันไม่เป็นเสียแล้ว
"ถ้ารุ่นนี้ตายก็ไม่มีแล้ว ขึ้นห้างกันหมดแล้ว ต่อไปใครอยากไปตัดผมก็ต้องไปที่ห้าง" คือคำปรารภอย่างเศร้าสร้อยของช่างตัดผมที่มีฝีมือรุ่นเก่า
ภาพข้างล่างนี้คือลือชัย นฤนาท ค่ะ