เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 19 20 [21] 22 23 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 61865 Yesterday Once More...
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 300  เมื่อ 08 ก.พ. 25, 18:05

คุยเรื่องวงที่มีสมาชิกเป็นพี่น้องกันต่ออีกนิด

วง The Hudson Brothers



วง The Jones Girls กับเพลงนี้ที่ไม่ดังบนอันดับเพลงเลย  แต่วิทยุบ้านเราชอบเปิดให้ฟัง  ฟังครั้งแรกรู้สึกว่ายาวและเนิบนาบ  เมื่อไรจะจบวะ  เลยไม่สนใจ  จนมาถึงยุคแก่  ไล่เก็บความหลัง  มาถึงเพลงนี้ในที่สุด   โหลดมาฟังแล้ว  แหม... เพราะอะไรอย่างนี้  กาลเวลาและประสบการณ์เปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง



วงมีเพลงดังระดับแผ่นเสียงทองคำคือเพลงนี้ที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน  เป็นเพลงดิ้น  อาจจะเคยได้ยินตอนไปเยี่ยมบาร์ ฯ



วง Sister Sledge ดังกระหึ่มในยุค disco  เข้าบาร์ ฯ ครั้งใด  ต้องเจอเพลงนี้ วี้ อา แฟม มิ ลี้... แล้วก็ดิ้นกันพราด ๆ





ในต้น 80s ก็มีวง DeBarge ร้องหลายเพลงแต่ที่ดังที่สุดมี 3 เพลง  วิทยุบ้านเราเปิดครบและบ่อยมาก







ในปลายยุคผมต้องเพลงนี้ของวงพี่น้อง Hanson ดังทุกคลื่นที่เปิดเพลงฝรั่ง



แถมด้วยเพลงนี้  ไม่ใช่วงพี่น้อง  เป็นวัยรุ่น 3 คนจากอังกฤษ  เพลงนี้ดังมาก  ดังร่วมรุ่นกัน (มาเช็ค timeline เพลงนี้มาก่อน  แต่บ้านเราเปิดกันนานเลยละ  เลยทันกัน)



แล้วยังมีที่เสนอไปแล้วอีกก็ The Bee Gees, The Carpenters, Bellamy Brothers แล้วก็
The Pointer Sisters  (ความคิดเห็นที่ 350, 351 และ 352)
https://www.reurnthai.com/index.php?topic=7342.msg186332;topicseen#msg186332


มีต่อ...

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 301  เมื่อ 09 ก.พ. 25, 18:44

ยังมีวงที่มีสมาชิกเป็นพี่น้องกันอีกวงชื่อ Mac & Katie Kissoon  ชื่อนี้สมัยโน้นไม่รู้จัก  อย่าว่าแต่แสนรู้รู้ว่าสมาชิกเป็นพี่น้องกันเลย   อย่างไรก็ตาม  วิทยุเคยเปิดเพลงนี้ของวง  เปิดบ่อยอยู่ช่วงหนึ่ง



เปิดอยู่เพลงเดียว  แล้วก็จำได้แค่ชื่อเพลง  วันหนึ่งตอนแก่  นั่งจัดหนังสือ  มาจนถึงหมวดหนังสือเพลง  มี I.S. Song Hits, Current Song Hits แล้วก็ Savvy Song Hits  นั่งพลิกไปพลิกมา  เล่มโน้นเล่มนี้  ดูรายชื่อเพลงไปเรื่อย ๆ  ก็พบชื่อเพลงนี้  ซึ่งฝังลืมไปนาน  ถึงรู้ชื่อว่าใครร้อง
  
จากนั้นก็เอาชื่อคนร้องมาหาต่อใน ปูมของ Joel Whitburn  เพื่อหาว่า  เพลงนี้ดังบนตาราง billboard  แค่ไหน  ผมเรียกการทำแบบนี้ว่า ‘ต่อยอด’  ทำมาตั้งแต่เริ่มมีแหล่งข้อมูลให้สะสม  ที่ชอบทำเพราะเป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็น  ผม ต่อยอด ของผมไปเรื่อย ๆ  เช่น พอรู้ชื่อศิลปินก็ดูซิว่าพวกเขาออกเพลงอะไรอีก  ออกกี่เพลง  ดังกี่เพลง  วิทยุเปิดเพลงไหนให้ฟังบ้าง แล้วก็ดูต่อว่าเพลงเหล่านั้นอยู่ในอัลบั้มอะไร  ศิลปินออกอัลบั้มกี่ชุด  ได้รางวัลอะไรบ้าง ฯลฯ  เอาข้อมูลที่สนใจไปเป็นฐานในการหาซื้อแผ่นเสียงมาฟัง  แล้วยังอ่านข่าวจากสิ่งพิมพ์นานาอีก  ก็ต่อยอดได้อีก  ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ปัจจุบันก็ยังทำ  เพราะอย่างนี้แหละผมถึงรู้จักเพลงเยอะแยะตาแป๊ะเจ๊ก  ต้องมีหลายคนคิดว่า มันรู้เพลงมากขนาดนี้จริงเหรอวะ  รู้จริงครับ  อย่าว่าแต่คนอ่านเลย  ผมเองบางครั้งก็ยังแคลงใจว่า  ทำไมแกรู้เยอะจังวะ  นี่ขนาดงานที่ลงที่นี่แค่ตั้งอยู่บนฐานของการรับฟังมาจากวิทยุเท่านั้นนะ  

อ้อ... หยอดไว้ตรงนี้ว่า  คงมีคนสงสัยว่าเขียนมาตั้ง 20 หน้าแล้ว  วิทยุไม่เปิดเพลงบรรเลงบ้างเลยเหรอ  ก็จะบอกว่าเปิดครับ  แต่ว่าเพลงบรรเลงที่ดังบนอันดับเพลงมีน้อย  แล้วก็จะอยู่ในยุค 60s เสียทั้งนั้น (ยุค 70s มีหย่อมนึง  เตรียมไว้แล้ว) มาถึงยุคนี้ศิลปินเพลงบรรเลงดัง ๆ เหล่านั้นต่างก็เกี่ยวก้อยกันลงโลงไปแทบจะหมดแล้ว  งานของศิลปินพวกนี้ก็เลยไปอออยู่ในอีกกระทู้หนึ่งที่ผมทำมาก่อนหน้านี้คือ กระทู้นักร้องตาย ของ อ.เทาชมพู  ที่นั่นก็มีเพลงเพราะ ๆ ให้ฟังอีกบานเบอะ

กลับมาที่เพลง Hey you love  ปรากฏว่าพบชื่อศิลปินแต่ไม่พบชื่อเพลงนี้  ไม่รู้ว่าดีเจวิทยุไปเอาเพลงมาจากไหน  อย่างไรก็ตาม วงมีเพลงอยู่บนอันดับ billboard เพลงเดียวคือ



เป็นฉบับที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน  แต่เพลงนี้ไม่ใช่เพลงแปลกหน้าในบ้านเรา ในต้นยุค 70s  วิทยุคลื่นเพลงฝรั่งในบ้านเราระดมกันเปิดเพลงนี้ของนักร้องกลุ่มนี้



เพลงฮิตอย่างน่าขนลุก  คนที่ไม่ฟังเพลงฝรั่งก็รู้จัก  คุณยายผมยังรู้จักเพลงนี้เลย  พอพวกเราหมุนคลื่นวิทยุมาเจอเพลงนี้  ท่านจะรำพึงว่า  ‘มาอีกละเพลงนี้’

วง Middle of the Road เป็นวงดังจากฝั่งอังกฤษที่ไม่มีเพลงไหนข้ามฟากมาที่ฝั่งอเมริกาเลย  นักฟังเพลงที่อเมริกาจึงไม่รู้จักวงนี้  แต่อย่างที่บอกว่า บ้านเรารับเพลงฮิตจากทั้ง 2 ฝั่ง  พวกเราจึงรู้จักเพลงนี้

ในช่วง 2-3 ปีนั้นวิทยุบ้านเราเปิดเพลงของวงนี้มากมาย  ที่โรงเรียนของผม  ระหว่างช่วงเช้าก่อนเข้าเรียนและช่วงพักเที่ยง  ทาง รร. จะเปิดเพลงของวงนี้จากแผ่นเสียงให้ฟังเป็นประจำ  ผมจึงรู้จักเพลงของวงนี้มากเพลงกว่าคนที่ได้ยินแค่ทางวิทยุ  2 เพลงแรกเป็นเพลงโปรดของผมเลยละ  









เพลงสุดท้ายของวงที่ผมได้ยินทางวิทยุคืออีกหนึ่งเพลงดังในบ้านเรา

(เนื้อเพลงนี้ตลกดีนะ  ลองฟังดู)


ต่อยอดด้วยเพลงนี้



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 302  เมื่อ 10 ก.พ. 25, 18:33

เพลงดังขนาดหนักในบ้านเราแบบนี้  ยังมีอีกเพลงหนึ่ง  ดังในบ้านเราจนแทบบ้า  เปิดมันเข้าไป  เปิดทุกวันไม่มีก่อนหรือหลังอาหาร 



มันดังสนั่น  ท่อน ‘ปั๊บปะดาฯ’ นี่แม้แต่คนที่ไม่ฟังเพลงฝรั่งยังร้องตามได้  ตอนนั้นรู้แค่ชื่อเพลง  ไม่รู้ว่าใครร้อง  ดีเจอาจบอกแต่สมองผมลืมจำ  ช่างมันปะไร  ก็เพลงเปิดบ่อยจนผมเลี่ยนและไม่เคยคิดถึงมันอีกเลย  ฝังกลบ
 
ตัดฉาก... ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น  ทุกคลื่นเพลงฝรั่งก็เปิดอีกเพลง  เป็น soul ballad ที่เพราะ  และไม่แปลกใจที่ฮิต 



เจ้าของเพลงนี้คือวง Blue Magic เพลงนี้ฮิตทั้งที่บ้านเราและบ้านเขา  ถัดจากเพลงนี้  วิทยุเปิดอีกเพลงเป็น single ที่ 2 ของวง  ผมมารู้เมื่อมีข้อมูลอยู่ในมือว่า  มันดับที่บ้านเขาแต่ยังคงดังที่บ้านเรา



เปลี่ยนฉากมาที่วันเดียวกันกับที่ผมจัดหนังสือฯ และพบในหนังสือเพลงชื่อหัวหนึ่งว่าเพลง Hey you love ที่เคยรู้แค่ชื่อมาตลอดแต่ต้นนั้นใครเป็นคนร้อง  ในคราวนั้น  ผมก็พบด้วยว่าไอ้เพลง ‘ปั๊บปะดาฯ’ ฉบับที่ดังเป็นบ้าเป็นหลังในบ้านเรา  ที่ผมสาปส่งไม่คิดจะฟังอีกแล้วเพราะยังเลี่ยนไม่หายนี้  ผู้ร้องก็คือวง BM นี่เอง  ที่รู้ว่าใช่เพราะ  เอาข้อมูลไปถาม youtube  จากข้อมูล  เพลงฉบับนี้ไม่ใช่ single  มันรวมอยู่ใน album ที่มีเพลง Sideshow  ปรากฏว่าดังกว่า single  ตอนลองฟังทาง youtube ว่า 'ใช่' รึเปล่า  ปรากฏแก่สองรูหูว่า  เฮ้ย... ทำไมมันเพราะจังวะ

อย่างไรก็ตาม  มีผู้ที่พาเพลงนี้เข้าอันดับ billboard คือวง The Main Ingredient เพลงฉบับนี้ฮิตระดับแผ่นเสียงทองคำเลยละ แต่ผมจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินทางวิทยุรึเปล่า



เป็นเพราะผมได้ยินแต่ฉบับ BM มาก่อนรึเปล่าก็ไม่รู้  ผมว่าเพราะกว่าหลายขุม 

พูดถึงวง MI   ยังมีอีกเพลงที่ดังในบ้านเราอย่างแน่นอน  เพราะได้ยินมาตั้งแต่ต้น  เพลงนี้ดังมากและเพราะสุด



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 303  เมื่อ 11 ก.พ. 25, 18:20

เลยเถิด...

พูดถึงเพลงเดียวกันแต่ร้องโดยศิลปินต่างกันแล้วออกตลาดในเวลาไล่เลี่ยกัน  ทำให้นึกถึงอีกเพลง



ฉบับนี้ร้องโดยวง rock ชื่อ Stories  ถ้าเพลงนี้ไม่คุ้นหูก็ไม่ประหลาดใจ  เพราะมันไม่ดัง  มันได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวในบ้านเราด้วยอานิสงค์จากเพลงก่อนหน้าที่ดังจนสลบ



ผมจำได้ว่าในตอนนั้นผมได้ยินวิทยุเล่นเพลง Mammy Blue นี้  2 ฉบับ  ไม่หลงเพราะจำได้ว่าทำนองเดียวกันแต่จังหวะต่างกัน  ฉบับของวง Stories นี่จำได้เพราะวงมีเพลงดังและเพลงนี้ต่อยอดมาจากเพลงดังนั้น  ก็เลยจำชื่อศิลปินได้  ส่วนอีกฉบับ  ไม่รู้ว่าลืมชื่อหรือว่าไม่รู้ชื่อ  รู้แต่ว่านึกไม่ออก

ในวันที่ผมจัดหนังสือฯ ผมพบสิ่งที่นึกไม่ออกมานานเกี่ยวกับเพลงเป็นเพลงที่ 3  ศิลปินที่ร้องเพลง Mammy Blue อีกฉบับนั้นชื่อวง Pop Tops



มาถึงเพลงอีกชุดหนึ่งที่เล่นโดยศิลปินต่างกันแล้วก็ออกสู่ตลาดในปีเดียวกันด้วย  บ้านเราเปิดบ่อยแค่ไหนไม่รู้เพราะ  ผีเพลงยังไม่เข้าสิง  แต่พี่ ๆ บอกว่า  ได้ยินประจำ  ผมมาได้ยินตอนหลัง   ตอนนั้นไม่มีข้อมูลเลยไม่รู้ว่าวิทยุเปิดฉบับของใครหรือเปิดทั้ง 2 ฉบับ  ฟังจากลำโพงวิทยุทรานซิสเตอร์แล้วทำนองคล้ายกันดิก 
Them



Shadows of Knight



นั่นอยู่ในยุคก่อนหน้าที่ผีเพลงจะสิงผม  ในยุคที่ผีเพลงสิงผมอย่างอยู่หมัด  ต้องฝาแฝดคู่นี้ 

ปกติก่อนจะเปิดเพลงดีเจจะพูดชื่อศิลปิน  จำได้ว่าก่อนเล่นเพลงนี้บางครั้งดีเจบอกว่าศิลปินชื่อ Chicory Tip  บางครั้งก็พูดว่าศิลปินชื่อ Giorgio  ผมก็ งง (ตามเคย) ว่าตกลงใครร้องกันแน่วะ  ตอนนั้นคาดว่าสมองยังไม่เต็มกะโหลก  คิดไปไม่ถึงว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะมี 2 ศิลปินที่ร้องเพลงเดียวกันนี้  ก็เลยนั่งฟังแบบงง ๆ อยู่นั่นแล้ว
Chicory Tip



Giorgio



ในช่วงที่ผีเพลงเข้าสิง  ผมได้ฟังเพลงเพลงเดียวกันแต่ร้องโดยศิลปินต่างกันมากมายแต่ไม่มีคู่ไหนออกอากาศทางวิทยุในช่วงเวลาเดียวกัน (แข่งกัน)  เหมือนอย่างที่เพิ่งเล่าไป  ไม่รู้ผมหลงไปบ้างรึเปล่า  ถ้ายังมีอีกจะเอามาโม้อีกนะ

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 304  เมื่อ 12 ก.พ. 25, 18:10

เลยเถิดต่อไป...

Intro ของเพลง Son of my father นี่ติดหูตั้งแต่ได้ยินครั้งแรก  ติดมาจนกระทั่งถึงบัดนี้  จากประสบการณ์  มีหลายเพลงที่มี intro เร้าใจ จนติดหู (ผม)  ได้ยินครั้งแรกก็ติดหนับ  และมั่นใจว่ามันต้องเพราะอย่างแน่นอน

The Crystals


Them


The Rolling Stones


John Paul Young


Norman Greenbuam


Stevie Wonder


Culture Club


Linda Ronstadt


Carly Simon


Bangles


Toto



คิดได้เท่านี้  ลองฟัง intro ของแต่ละเพลง  เฉพาะ intro นะ แล้วถามความรู้สึกของตัวท่านผู้อ่านว่า  มีเพลงไหนที่ฟังแล้วอยากฟังต่อเหมือนผมหรือไม่

หมายเหตุ - ศิลปินเหล่านี้ผมเคยเอ่ยถึงผลงานอื่น ๆ ของพวกเขาไปแล้ว  หรือบางคนกำลังจะเอ่ยถึง

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 305  เมื่อ 13 ก.พ. 25, 18:22

ย้อนกลับไปที่นักร้อง Giorgio เจ้าของเพลง Son of my father  นี่ถ้ายุค อตน. ไม่เกิดผมก็ไม่มีทางรู้ว่าเธอคือ Giorgio Moroder  เจ้าพ่อ Producer ที่อำนวยการผลิตเพลงดัง ๆ ให้กับนักร้องมากมาย  ชื่อเสียงของเธอดังสุดขีดในยุค disco  เธอได้รับการขนานนามว่า Father of disco  ลูกรักที่สนับสนุนชื่อเสียงให้กับเธอคือ Donna Summer  แทบทุกเพลงดังตั้งแต่ต้นเลยมาจากฝีมือของ GM ทั้งนั้น
https://www.reurnthai.com/index.php?topic=5361.msg183321;topicseen#msg183321
(ความคิดเห็นที่ 745)

อีกหนึ่งศิลปินที่ ได้รับแรงผลักดันจาก GM จนดังกระหน่ำคือวง Blondie



คอนักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุครู้จักชื่อวงนี้ดี  จำได้ว่าเพลงแรกของวงที่วิทยุเปิดให้ฟังคือเพลงนี้



แล้วก็มาเพลงนี้



แล้วก็ถึงคิวที่วงจะแตะความดังด้วยเพลงแรกนี้  ทำนองเหมาะสำหรับจะฟังเฉย ๆ หรือเต้นไปด้วยก็สบายมาก







แล้วชื่อเสียงของวงนี้ก็แตะลมบนด้วยเพลง Call me กับเพลงนี้



หลังจากเพลงต่อไปนี้จู่ ๆ เพลงของวงฯ ก็หายไปจากความทรงจำของผม



หมายเหตุ – วงนี้เคยมาเปิดการแสดงที่บ้านเราด้วยนะ  รู้สึกจะที่ รร. แอมบาสเดอร์

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 306  เมื่อ 14 ก.พ. 25, 18:29

อ้อ... ผมนึกชื่อศิลปินได้อีกคู่หนึ่งที่ร้องเพลงเพลงเดียวกันแล้วก็ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน

เนื่องจากผมเขียนไว้นานแล้ว  ตอนนั้นไม่ได้คิดถึง หัวข้อ แบบนี้  ขี้เกียจปรับปรุงก็จะยกมาลงแบบนี้เลย

เอาคนแรกนะ  อีกคน อุ๊บอิ๊บ ไว้ก่อน  ส่วนจะเป็นเพลงอะไรก็เชิญเดา

นักร้องหญิงแนว country อีกคนที่ดังในยุคผีเพลงสิงผมคือ Juice Newton

นักฟังเพลงฝรั่งชาวไทยร่วมยุคต้องรู้จักเธอดีกับเพลง ‘crossover’ เพลงนี้



ใคร ๆ ต้องคิดว่านั่นเป็นเพลงแรกของเธอที่ได้ยินในบ้านเรา  แต่ถ้าคร่ำหวอดอยู่กับเพลงฝรั่ง (เช่นผม อิ๊ อิ๊...) จะรู้ว่า  วิทยุบ้านเราเปิดเพลงของเธอมาก่อนหน้านี้แล้ว  คือเพลงนี้



ผมมารู้เมื่อมีข้อมูลเพิ่มขึ้นว่ามันเป็นเพลงที่ไม่มีความดังในบ้านเธอเลย  ผมคาดว่าที่วิทยุบ้านเรานำมาเปิดเป็นเพราะความทันสมัยต่อเหตุการณ์ของเหล่าดีเจ  เพลงไหนเข้าอันดับ billboard ก็หามาเปิดให้ฟังเลย  จะดังหรือไม่ดังก็อีกเรื่อง  ในยุคปลาย 70s นี่  ความทันสมัยเริ่มขยับตัวแล้วนะ  สังเกตจากแผนกแผ่นเสียงของห้างเซ็นทรัลสีลม  จะนำตารางจากนิตยสารเพลง billboard มาแปะไว้ให้ดู  นิตยสารจะออกทุกวันศุกร์  วันนั้นหลังจากเลิกเรียนผมต้องบึ่ง (รถเมล์) มายืนอ่านเป็นประจำทุกอาทิตย์  ศุกร์ไหนตะกายขึ้นไปถึงแผนก ฯ แล้วไม่เห็นมีแปะไว้  แหม... มันโมโหเดือด อุตส่าห์โคลงเคลงมาตั้งเกือบชั่วโมง

เพลง Angel of ฯ นี่เป็นเพลงนำร่องความดังของเธอ  มันดังระดับแผ่นเสียงทองคำ  ต่อจากเพลงนี้คือเพลงแผ่นเสียงทองคำแผ่นที่ 2 นี้ที่พาความดังของเธอพุ่งต่อไปอีก



และเพลงนี้ที่ตอกย้ำความดังของเธอ



album แผ่นนี้คลอด single ออกมา 3 เพลงซึ่งติด top 10 ในอันดับเพลง pop ทั้งหมด  ซึ่งไม่ธรรมดาสำหรับศิลปินที่ไม่ได้เล่นเพลงแนว pop

ที่อเมริกา album แผ่นนี้คลอด 3 single แต่ในบ้านเรามันคลอดออกมา 4 single เพลงที่ 4 คือเพลงนี้ที่บ้านเราเปิดบ่อยไม่แพ้ 3 single นั่น

(ผมว่าเพลงเด่นมากพอที่จะตัดเป็น single ได้  มันคงเป็นเพลงในหน้า B ของ single ใด single หนึ่ง)


มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 307  เมื่อ 15 ก.พ. 25, 18:32

Juice Newton ยังคงสนุกกับความสำเร็จในอันดับเพลง pop ต่อไปอีก 2-3 เพลงก่อนจะ ‘กลับบ้าน’



(เพิ่งเคยเห็น MV เพลงนี้  ตลกดีแฮะ)



(ต้นฉบับของเพลงนี้เป็นของ Brenda Lee)


เพลงสุดท้ายของเธอที่ผมได้ยินวิทยุบ้านเราเปิด

(ต้นฉบับเป็นเพลงดังระดับ classic ในยุคปลาย 60s ของวง The Zombies)


ควันหลง...

The Zombies เป็นวงดังจากอังกฤษในยุคปลาย 60s  เพลงดังของวงนี้มาอาละวาดในบ้านเราครบทุกเพลง  ตอนผีเพลงเข้าสิงผม  เพลงเหล่านี้เข้ามาออกันอยู่ในลำโพงวิทยุหมดแล้ว





และเพลงนี้ที่เพราะมาก  และดังที่สุด  ต่อจากนั้นพวกเขาก็ยุบวง

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 308  เมื่อ 16 ก.พ. 25, 18:18

ก่อนไปต่อ  ขอแฉลบไปที่เพลง She’s not there ของวง The Zombies  ต้นฉบับนั้นดังสนั่นในปลาย 60s  อย่างที่เล่าไปแล้ว  อย่างไรก็ตามอีกราว 10 ปีต่อมา  มีศิลปินปลุกชีพเพลงนี้ให้กลับมาดังบนอันดับเพลงอีกครั้ง  วิทยุบ้านเรา  ต้อนรับกันเฮฮา


(นักร้องนำคือ Greg Walker  ร้องได้สะใจโก๋มาก)


ชื่อของวงดัง Santana  เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีท่ามกลางนักฟังเพลงฝรั่งประเภท ‘เฮ้ว’  ในต้น 70s  ทุกคลื่นรายการเพลงฝรั่งประเภท ‘เฮ้ว’  พร้อมใจกันเปิดเพลงเหล่านี้









และเพลงนี้ที่รายการวิทยุรายการหนึ่งนำ (ตอนต้น) มาเป็นเพลงเปิดรายการ

(ตอนต้นของเพลงเพราะมาก  โดยส่วนตัวฟังทีไรนึกถึงตอนบ่ายแก่ ๆ (น่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รายการเพลงที่ว่าออกอากาศ) สมัยวิ่งเล่นกับหมาในบ้านคุณยาย)


ในปี 1999 วงกลับมาดังระเบิดเถิดเถิงด้วย 2 - 3 เพลงนี้   แต่เพลงแรกดังที่สุด  ขนาดตอนนั้นผม ‘ส่งใบลาออก’ แล้วยังได้ยินมาจากทุกทิศทุกทาง

(นักร้องนำคือ Rob Thomas)





(นักร้องนำ 2 เพลงนั่นคือ... ใครก็ใม่รู้  เลิกสนใจ)
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 309  เมื่อ 17 ก.พ. 25, 18:10

กลับไปที่  Juice Newton ปีเดียวกันกับที่เธอส่งเพลง It’s a heartache (นี่คือคำตอบ) เข้าไต่อันดับ billboard  มีนักร้องหญิงอีกคนที่ส่งเพลงเดียวกันลงแข่ง




ผลปรากฏว่าฉบับจากเสียงแหบ ๆ ของ Bonnie Tyler เข้าวินแบบหายห่วง  ฉบับของเธอขึ้นถึงอันดับที่ 3 และได้แผ่นเสียงทองคำ  ในขณะที่ฉบับของ JN ขึ้นไปถึงแค่อันดับที่ 86 ก็หมดแรง

นั่นเป็นเพลงแรกที่วิทยุบ้านเราแนะนำให้รู้จักกับนักร้องเสียงแหบจากฝั่งยุโรป  ความจริงเธออยู่ในวงการเพลงมานานกว่านี้  เพลง It’s ฯ เป็นเพลงแรกที่พาเธอไปสู่ความสำเร็จระดับสากล

หลังจากนั้นเธอก็หายไปจากลำโพงวิทยุบ้านเราอีกนาน  อีกหลายปีต่อมาเธอกลับมาดังแบบฉุดไม่อยู่กับเพลง power ballad นี้



ปีต่อมาเธอเข้าร่วมร้องเพลงในหนังดังสนั่นโลกชื่อ Footloose  บ้านเราต้อนรับเพลงนี้

ผมได้ยินทั้งทางลำโพงโรงหนังกับลำโพงวิทยุ


ผมซื้อแผ่นเสียงของ BT   แผ่นที่มีเพลง It’s ฯ  น่ะ  ฟังแล้วงั้น ๆ ไม่ถูกหู  ยกเว้นเพลงนี้ที่น่าฟัง



ย้อนกลับขึ้นไปโน่นนนน  ก่อนเธอจะดังด้วยเพลง It’s ฯ  วิทยุเคยเปิดเพลงนี้  คอนักฟังเพลงฝรั่งอาจเคยได้ยิน



ตอนได้ยินเสียงของ BT ครั้งแรก  ผมแปลกใจว่าทำไมเสียงถึงแหบแห้งปานนั้น  ก็ได้แค่อยากรู้  สมัยนั้นข้อมูลหายาก  มันมาไม่ถึง  ในยุค Wikiฯ  ผมถึงได้รู้

In the spring of 1977, Tyler underwent an operation to remove vocal cord nodules and was advised by her doctor to rest her voice for six weeks. Tyler screamed in frustration one day, resulting in a permanent raspy tone.


ทำให้นึกถึง Kim Carnes ไม่รู้แหบแบบไหนมีเสน่ห์กว่ากัน

Carnes' voice has been described as "distinctively raspy" and "throaty", leading to comparisons to the voices of Rod Stewart and Bonnie Tyler. In 1993, Keith Tuber of Orange Coast magazine referred to Carnes as "The Queen of Rasp 'n' Roll" in one of his articles.


(รู้สึกตอนลงผลงานของเธอจะลืมเอ่ยถึงเพลงนี้นะ  มันมาก่อนเพลง Bette Davis eyes เพลง signature ของเธอ)
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 310  เมื่อ 18 ก.พ. 25, 18:08

ย้อนไปที่ Bonnie Tyler ออกเพลง Total eclipseฯ  เข้าไต่อันดับ billboard ในปี 1983  ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเพลงดังนี้คือ Jim Steinman (composer, lyricist and record producer)  ในปีนั้น JS ผลิตเพลง style เดียวกัน (power ballad) อีกเพลงให้กับวง pop เชื้อชาติ Australia ที่กำลังดังในช่วงเวลานั้นคือ วง Air Supply




(MV มี 2 ฉบับ  ผมเคยเห็นแต่ฉบับแรก)


ทั้ง 2 เพลงจากการอำนวยการผลิตโดย JS ไต่อันดับแข่งกันอย่างขะมักเขม้น  บ้านเราได้ฟังกันหูชา  ในที่สุดเพลงของ BT แตะอันดับ 1 ก่อน  เพลงของวง AS เลยเกาะอันดับ 2 แล้วคอยขึ้นอันดับหนึ่งต่อไป  แต่ปรากฏว่าเพลงของ BT มีกำลังแรงมาก  เกาะอันดับ 1 อยู่ถึง 4 อาทิตย์  เพลงของวง AS มีแรงเกาะคอยขึ้นอันดับ 1 อยู่แค่ 3 อาทิตย์ก็หมดแรง  เพลงของ AS เลยขึ้นได้สูงสุดที่อันดับ 2

เหตุการณ์นี้ดังนะ  ในตอนนั้นหนังสือ Starpics ก็ลงเรื่องลุ้น  ในเล่มจะลงตาราง billboard ให้เป็นประจำแต่ไม่ค่อยทันสมัยเพราะ  นิตยสาร bb  ออกรายสัปดาห์  แต่ นส. SP ออกรายเดือน  ช่วง 'ช่องว่าง' นั้น  เพื่อการลุ้นผมก็หมั่นไปเดินตามแผงหนังสือแล้ว หน้าด้าน หยิบหนังสือเพลงหัวต่าง ๆ ที่ออกวางตลาดต่างเวลากันมาเปิดดูตารางฯ  แล้ววางกลับคืนบนแผง  ก่อนเดินจากไปแบบไม่รู้ไม่ชี้

วง Air Supply นี้ในยุคของมันเป็นวงที่ ‘ร้อน’ ระดับหนึ่ง  วงทำสถิติไว้ว่านอกจาก single แรกจะติด top  5 ใน billboard แล้ววงยังสามารถนำ single ต่อ ๆ มาติด top 5 ได้อีก 7 เพลงติดต่อกันภายในเวลา 3 ปี  ในจำนวนนี้มี 2 เพลงสามารถคว้าแผ่นเสียงทองคำได้

เริ่มจากเพลงแรก













และเพลงโปรดของผม



ทุกเพลงคือเพลงฮิตในบ้านเรา  จากนั้นกระแสความดังของวงก็แผ่วลง  แต่วิทยุบ้านเรายังคงปั่นความดังต่อไปอีก 2 เพลงก็ถึงเพลงดังสุดขีด Making loveฯ  จากนั้นหมดยุคของวง AS



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 311  เมื่อ 19 ก.พ. 25, 18:25

วง Air Supply มาจาก Australia  ในยุคนั้นศิลปินจากประเทศนี้ที่ข้ามมาดังในอเมริกายังมีอีก  จะเป็นใครบ้าง  ผมก็นึกอยู่หลายตลบ  นึกออกรายเดียวคือ Men at Work  ผลงานของวงนี้ไม่ถูกหูหวานแหววของผม  ยกเว้น 2 เพลงนี้



และเพลงนี้ที่ดังจนผมจำเป็นต้องจำชื่อศิลปินได้

(จิงมั้ย  ดังมาก)


อย่างไรก็ตามหัวหอกของศิลปินจาก Australia ที่ข้ามมาสร้างชื่อเสียงในอเมริกา  ในยุคผม  ผมว่าไม่ใช่ใคร  แฟนผม Helen Reddy  (นำเสนอผลงานของเธอไปแล้วในกระทู้ของ อ. เทาชมพู) ในยุคต้น 70s  ผลงานของเธอครองตลาดเพลงทั้งบ้านเราและบ้านเขา (อเมริกา) เลยละ



บางคนคิดว่าน่าจะเป็น Olivia Newton John หรือ The Bee Gees  ก็ขอบอกว่าไม่ใช่เพราะทั้ง 2 รายเกิดที่อังกฤษแต่ครอบครัวอพยพไปปักหลักที่ Australia  

สำหรับศิลปินจาก Australia แท้ ๆ ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาบุกอเมริการายต่อมาที่มีผลงานดังแบบไม่ใช่ one hit wonder  ก็คือวง The Little River Band  วงถือกำเนิดในกลางยุค 70s  ช่วงนั้นผีเพลงมัดผมไม่ปล่อย  ทุก single ของวงที่ดังและผ่านออกมาจากลำโพงวิทยุโดนหูผมดักไว้หมด

4 เพลงแรกที่เพราะและดังมาก









(โดยส่วนตัว  เพลงนี้เพราะที่สุด)


ในช่วงเวลานั้น รายการวิทยุคลื่นหนึ่ง ออกอากาศตอนเช้า ดีเจเป็นผู้ชาย (จำได้ขนาดนี้แน่ะ  ทีบทเรียนนะ  จำปุ๊บลืมปั๊บ) เปิดเพลงนี้เป็นประจำอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง  ดีเจบอกรายละเอียดว่าชื่อเพลง I’m coming home ร้องโดย Birtles & Goble (ตอนนั้นความจำเป็นภาษาไทย)  เพลงเพราะถูกใจ  กาลเวลาผ่านไปหวือ ๆ ผมมีข้อมูลมากมายถึงรู้ว่า  2 คนนี้คือสมาชิกของวง LRB นี่เอง

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 312  เมื่อ 20 ก.พ. 25, 18:11

พักหูมาฟังเพลงเพราะในยุค golden oldies กันนิ  เพลงเหล่านี้  ถ้าติดรายการฯ  จะได้ยินแทบทุกวัน

Paris Sisters



Teddy Bears



ต่อยอดด้วย  เพลงที่เพราะจัง



Patience and Prudence



Poni Tails



Rosie & Originals



Ruby & Romantics

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 313  เมื่อ 21 ก.พ. 25, 18:31

เขียนถึงวงจากออสเตรเลีย  ทำให้คิดถึงวงเชื้อชาติเดียวกันอีกวงคือ Sherbet  วงนี้เป็นขวัญใจของขาร็อคชาวไทยเลยละ  ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนแรกที่นำเพลงของพวกเขามาเปิดออกอากาศทางวิทยุ  แต่เป็นการตัดสินใจที่เยี่ยมยอด  แค่เพลงแรก  อนาคตของวงในบ้านเราก็ไปโลด  แม้เพลงของพวกเขาจะไม่ผ่านด่านทั้งที่อเมริกาและอังกฤษ (เข้าได้เพลงเดียว)  แต่พวกมันเรียงแถวเข้าไปอยู่ในใจนักฟังเพลงฝรั่งชาวไทย  ฮิตขนาดที่ต้องเชิญวงเข้ามาเปิด concert ถึง 2 ครั้ง (ถ้าจำไม่ผิด)

เพลงแรกนี้ถ้าใครไม่เคยได้ยิน  ไม่ใช่คอนักฟังเพลงฝรั่ง











หมายเหตุ – เขียนมาถึงตรงนี้แล้วอดสงสัยไม่ได้ว่า เวลาส่งเพลงลงอันดับ billboard นี่  เขาอาศัยหลักอะไรบ้าง  พวกมันถึงไต่กันขะมักเขม้น  บางเพลงก็ไปโลด  ในขณะที่บางเพลงก็ตะกายอยู่นั่นแล้ว  บางเพลงก็แป้ก (ผันด้วยวรรณยุกต์ตัวนี้รึเปล่า)  ที่ผมรู้มานานคือความถี่ของเสียงโทรศัพท์จากคนฟังที่ชอบเพลงนั้น ๆ กับ ‘เงินใต้แผ่น (single)’ ก็คือการติดสินบนเหล่าดีเจนั่นแหละ  เงินหนา  ดีเจก็เปิดบ่อย  (ซึ่งก็ไม่แน่เสมอไป  ที่โดนดีเจหักหลังก็มีเยอะ)  พอเปิดบ่อย  คนฟังก็มีโอกาสได้ยินบ่อย  ความชอบหรือไม่ชอบเพลงนั้น ๆ คือการเริ่มต้นของการไต่อันดับ

จากที่สังเกต  บางเพลง  เอาตัวอย่างจากเพลงของวง Sherbet นี่แหละ  ผมว่ามีสิทธิ์ไต่อันดับ ฯ ได้อย่างแน่นอน  แต่กลับไม่เป็นที่สนใจเลย  ในขณะที่บางเพลง ‘เหม็นเพราะเลย’  กลับไต่เอา ๆ

มันน่าจะมีองค์ประกอบมากกว่านี้

(หมายเหตุ ยังมีนักร้องจาก Australia อีกคนที่ข้ามไปดังที่อเมริกาและส่งอานิสงค์ความดังมาที่เมืองไทยด้วยคือ หนุ่มหล่อสุดขีด (ในยุคนั้น  ความจริงตอนนี้ 70 กว่าแล้วก็ยังดูเท่) Rick Springfield  ผมเอ่ยถึงเธอไปนานแล้ว)


โจบบบบ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 314  เมื่อ 22 ก.พ. 25, 17:53

ปรากฏว่า  ยัง โจบบบ... ไม่สนิท

มานึกได้ว่า  อีกราว 20 ปีต่อมา  คือต้น 90s ก็มีเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นในบ้านเราอีกครั้ง  คือวงดนตรีที่ไม่มีเพลงดังในอันดับ billboard ของอเมริกาหรือในประเทศอังกฤษ  แต่มาดังสุดขีดในบ้านเรา

วง Michael Learns to Rock เป็นวง soft rock จาก Denmark  ส่งเพลงหลายเพลงเข้ามาสิงสถิตย์อยู่ในใจนักฟังเพลงชาวไทยอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง  ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าเป็นวงจากแดนไกลโพ้น  นึกว่าถ้าไม่มาจากอเมริกาก็อังกฤษ  เพราะพวกเขาร้องเพลงด้วยภาษาอังกฤษ  พอถึงยุค อตน. แล้วถึงร้อง อ๋อ... มิน่าข้อมูลในปูมที่ผมมีอยู่ (ทั้งฝั่งอเมริกาและฝั่งอังกฤษ) ไม่ได้เอ่ยชื่อวงนี้เลย  เพลงของพวกเขาดังวนเวียนอยู่ในถิ่นของตัวเองคือ Scandinavia

อยากรู้จังว่าคลื่นไหนแนะนำเพลงของพวกเขาให้พวกเราฟัง  ช่างสรรหาดีจัง  นี่เป็นเพลงแรก

(ดังมาก ๆ นะ  ทั้งเสียงเพลงเฉย ๆ และ MV)


ต่อจากนั้นเพลงอื่น ๆ ก็เรียงคิวกันเข้ามา









ไม่ได้ฟังมาหลาย 10 ปี  เพลงเพราะนะ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 19 20 [21] 22 23 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.168 วินาที กับ 19 คำสั่ง