Yesterday Once More...

[nathanielnong]

อ้ะ... เดินเล่นในป่ากันต่อ...

คราวแล้วเอ่ยถึงหนังเรื่อง Footloose (1984)  หนังและเพลงจากหนังเรื่องนี้ดังสนั่นในบ้านเรา  เพลงเอกของเรื่องที่เปิดกันแทบทุก สถน. เพลงฝรั่งร้องโดยนักร้องชายสุดหล่ออีกคนหนึ่งของผม (ถ้าไว้หนวดเครา) เธอคือ Kenny Loggins



ชื่อ KL นี้ผมได้ยินมาก่อนหน้ากับเพลงนี้ที่เธอร้องคู่กับ Stevie Nicks



เนื้อเพลง Whenever ฯ นี้  เป็นการแต่งร่วมกันระหว่าง KL กับ Melissa Manchester (นำเสนอไปในตอนต้นของกระทู้นี้)  MM เอาเพลงมาร้อง (เดี่ยว) ใน album รวมเพลงฮิตของเธอซึ่งผมว่าเพราะกว่าฉบับ single ของ KL  ที่ในตอนต้นเพลงฟังแล้วขนลุก  

(เอาฉบับที่เธอร้องในรายการ Muppet Show มาให้ดู  ตอนนี้มาฉายในบ้านเราด้วยนะ)

ในปีต่อมา KL ได้รางวัล Grammy ที่เปรียบเสมือนรางวัล Oscar ทางการแสดงกับเพลงนี้

(ผมรู้ข่าวนี้ในตอนนั้นเลยละ  เพราะอ่านจากนส. Starpics  ความจริง นส. ลงข่าวรางวัลนี้ทุกปี  แต่ทำไมผมจำได้แม่นเฉพาะปีนี้ที่ KL ได้ก็ไม่รู้  เพลงนี้ผมจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินทางวิทยุรึเปล่า)

ปีต่อมาผมก็ได้ยินเพลงนี้ที่เปิดบ่อยระดับหนึ่งตาม สถน.ฯ ต่าง ๆ  ผมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันเป็นเพลงอยู่ในหนัง Caddychack ที่กำลังฉายในบ้านเรา  ผมชอบมากนะเพลงนี้  จังหวะเร้าใจ  



แล้วก็มาถึง Footloose เพลงอันดับหนึ่งของเธอ  ก่อนจะหายไปจากลำโพงวิทยุแป๊บนึงแล้วกลับมาพร้อมกับ 3 เพลงจากในหนังที่ทยอยกันเข้ามาฉายในบ้านเรา (ข้อมูลบอกว่า KL ร้องเพลงให้กับหนังต่าง ๆ เกิน 10 เรื่อง) แต่ผมไม่ดูซักกะเรื่อง อีกทั้งมันเป็นยุคปลาย ๆ  ผีเพลงเริ่มเบื่อสิงร่างผมแล้ว  เลยบอกไม่ได้ว่าเพราะรึเปล่า







แถม...



มีต่อ…

[nathanielnong]

ก่อนหน้านี้ Kenny Loggins มีชื่อเสียงในฐานะศิลปินประเภทคู่  คู่กับเพื่อนชื่อ Jim Messina  ชื่อ JM นี้ผมรู้จักเมื่อวง Loggins & Messina ถือกำเนิด  เมื่อมีข้อมูลก็ได้รู้ว่าเธอคร่ำหวอดอยู่ในวงการเพลงมานาน  เคยเป็นสมาชิกวงดัง ๆ ในยุค 60s  มาก่อนเช่น Buffalo Springfield, Poco  ก่อนจะมาจับคู่กับ KL

ผลงานของวงนี้ที่บ้านเราเปิด  ผมจำได้เพลงเดียว  และไม่ใส่ใจด้วย  เนื่องจากไม่เพราะถูกหู  เลยจำได้แค่ชื่อเพลง  ที่จำได้เพราะ  ตะขิดตะขวงใจว่าทำไมไม่ใช้คำว่า 'doesn't' กลับไปใช้คำว่า 'don't'  ซึ่งผิดหลักไวยากรณ์  เป็นเจ้าของภาษาแท้ ๆ  แหม...

(ผมเพิ่งมารื้อฟื้นทำนองเอาในยุค youtube)

พอมีข้อมูลก็รู้เพิ่มเติมว่า  วงนี้ร้องเพลงอยู่ 2-3 เพลงที่ Anne Murray เอามาร้องและดังในวงกว้าง  เพลงเหล่านี้แต่งโดย KL







แถม...



มีต่อ...

[nathanielnong]

ข้อมูลบอกว่ายุครุ่งของวงคู่ Loggins & Messina อยู่ในต้น 70s  อย่างที่บอกเพลง (single) ของวงนี้ไม่รุ่งในบ้านเรา  ผมว่ามีน้อยคนที่จำ single ดังที่สุดของวงที่ชื่อ Your mama don’t dance ได้  ขนาดผมเป็นผีเพลง  ยังนึกทำนองไม่ออก  จำได้แต่ชื่อ

อย่างไรก็ตาม  ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น  มีวงคู่ชายอีกวงชื่อ Seals & Crofts  วงนี้ก็มีเพลงเข้ามาดังในบ้านเรา  ทำนองน่าจะถูกหูนักฟังเพลงฝรั่ง  เพราะเพลงนี้ดังกระหน่ำ

ผมเอาฉบับ acoustic มาให้ฟังก่อน  ให้เห็นหน้าตาของพวกเธอ in action



ทีนี้มาฟังฉบับ single ที่วิทยุเปิดกระหน่ำหูผมในช่วงเวลานั้น



วงนี้มีเพลงดังระดับ top 10 อยู่ 2 เพลง  เพลงที่ 2 นั้นไม่เคยได้ยินทางวิทยุ  แต่เพลงนี้ซิเก๋มาก  เพลงนี้ไม่ได้เป็น single  เป็นแค่ร่องหนึ่งใน album  ดีเจเจ้าของแผ่นฯ คงเห็นเพราะเลยเอามาเล่นให้ผมฟัง  ซึ่งก็เพราะจริง ๆ และลืมไม่ลงอีกเช่นกัน  ตอนที่อยู่ในช่วงแสวงหา  ใครต่อใครก็ตามหาเพลงนี้กันให้จ้าละหวั่น


จบเรื่องวง S&C ตรงนี้


ครึ่งหนึ่งของสมาชิกวง Seals & Crofts คือ James (Jim) Seals  มีน้องชายชื่อ Danny Seals น้องคนนี้ก็ตั้งวงดนตรีของตนเช่นกัน  โดยชวนเพื่อนนักเรียนชื่อ John Coley ตั้งวงชายคู่เหมือนกัน  Danny Seals ใช้ชื่อในวงการ ฯ ว่า England Dan Seals  ส่วน John Coley ใช้ชื่อในวงการ ฯ ว่า John Ford Coley  วงนี้ใช้ชื่อว่า England Dan & John Ford Coley  คุ้นหูแล้วใช่มั้ยล่ะ
 
ชื่อเสียงของวงนี้ดังมากในช่วง 70s ครึ่งหลัง  เพลงของพวกเขาได้รับนิยามว่า soft rock  ทุก single ดัง  วิทยุบ้านเราให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นโดยเฉพาะ 2 เพลงแรกระดับแผ่นเสียงทองคำ





เพราะมากและคุ้นหูมากใช่มั้ย  ก็มันดังจะตาย

ยังมีอีกหลายเพลง  ลงหมดจะยาวไป  พรุ่งนี้ฟังต่อนะ  อย่าลืม 'tune in'...

[nathanielnong]

มาฟังเพลง soft rock แสนเพราะที่หาฟังไม่ได้อีกแล้วในยุคนี้  นำเสนอโดย England Dan & John Ford Coley  เพลงพวกนี้ผมคัดมาจากแผ่น The Best of


(ปกหน้าและปกหลัง  ไอเดียน่ารักดี)


แผ่นเสียงที่จั่วหัวว่า The Best of… นี่  หมายถึงแผ่นรวมเพลงเด็ดของศิลปินนั้น ๆ เพลงในแผ่นไม่จำเป็นต้องเป็น single ทุกเพลง อาจเป็น album track หรือ single ที่ไม่ดังแต่เจ้าของแผ่นคิดว่าเป็นผลงานที่ดีเลิศของตน  ก็เอามารวมไว้  เหมาะสำหรับศิลปินที่มีเพลงฮิตน้อยไม่พอเอามารวมเป็นแผ่นรวมเพลงฮิต

ส่วนแผ่นเสียงที่จั่วหัวว่า (ชื่อศิลปิน)’s Greatest Hits ก็หมายถึงแผ่นรวม single ดัง (ตามแต่ศิลปินเจ้าของแผ่นจะคิดว่า  เพลงไต่ขึ้นไปถึงอันดับที่เท่าไรถึงเรียกว่าดัง) ล้วน ๆ ของตน

แผ่นเสียงทั้ง 2 แบบ  ออกมาเพื่อขัดตาทัพ  จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่  ต้องการเปลี่ยนแนวเพลงของตนเป็นแนวใหม่  กำลังหาแนวอยู่  หรือยังไม่พร้อมที่จะออกแผ่นใหม่ ฯลฯ  อย่างไรก็ตาม  แผ่นเสียงทั้ง 2 แบบ  เป็นที่รอคอยของนักสะสม  ผมมีเป็นกะตั๊ก  คุ้มเงินดีออก

อ้ะ... ฟังเพลง  ไม่ว่าจะ single (ที่วิทยุบ้านเราเปิดทุกเพลง) หรือ album track  ของวงนี้  เพราะหมด
















ตบท้ายด้วยเพลงที่ไม่ได้รวมอยู่ในแผ่น The Best  รู้สึกจะเป็น soundtrack หนังนะ  วิทยุเปิดเพลงนี้บ่อยไม่แพ้เพลงอื่น ๆ



หลังจากยุบวง England Dan Seals ออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว  ผมเคยได้ยินเพลงหนึ่งของเธอทางวิทยุ  เป็นผลงานที่ลืมไม่ลง  มั่นใจว่าสิงห์นักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุคก็ลืมไม่ลงเช่นกัน



มีต่อ...

[nathanielnong]

กลับมาที่ Kenny Loggins สุดหล่อของผม  นี่ถ้าผมเป็นผู้หญิง  ผู้ปกครองคงส่ายหัวแล้วกุมขมับ  ประมาณว่า  ทำไมลูกสาวฉันร่านจัง  เห็นคนหล่อเป็นไม่ได้  

ในปี 1993 Kenny Loggins เปิดการแสดงสดในป่า giant redwoods เมือง Santa Cruz อเมริกา  จากการแสดงสดครั้งนี้  เธอทำเป็นแผ่นเสียงออกขาย  และทำ VDO ออกขายไปพร้อมกัน  ผมพบงานชิ้นนี้ทาง youtube  ถึงกับต้องมนตร์  บรรยากาศสวยมาก  นึกถึงสำนวนว่า 'เสื่อผืนหมอนใบ'  ผมอยากสั่งซื้อ VDO  แต่ไม่มีเครื่องเล่นเสียแล้ว
 
นี่คือตัวอย่าง





(นักร้องรับเชิญ Michael McDonald นักร้องนำวง Doobie Brothers)















KL มีลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ในวงการเพลงเหมือนกันชื่อ Dave Loggins  ความดังของเธอน้อยมาก  แต่ยังมีเพลง top 5 อยู่ 1 เพลง  คือเพลงนี้



หมายเหตุ – ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินต่าง ๆ ที่ผมฝอยมานี่  มารู้เอาตอนมีข้อมูลแล้วนะ  ตอนนั้นเอาแค่จำชื่อเพลง/ศิลปินให้ถูกต้องก็พอแล้ว


มีต่อ...

[nathanielnong]

กลับไปที่เพลง Whenever I call you friend ที่ Kenny Loggins ร้องคู่กับ Stevie Nicks นะ  



ผมจะเริ่มจากตรงนี้...

Stevie Nicks เป็นศิลปินหญิงอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนี้  ก่อนหน้านี้เธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของวงในตำนาน Fleetwood Mac  มาปี 1981  ความขยันของเธอ ในขณะที่ยังเป็นสมาชิกของวงฯ อยู่  เธอก็หันมาลองงานเดี่ยวของตัวเอง  เพลงจากงานแรกก็ปรากฏว่าดังสนั่น  single แรกนี้เธอร้องคู่กับหัวหน้าวง Tom Petty & the Heartbreakers (ผมไม่รู้จักผลงานของศิลปินคนนี้เอาเลย  ตอนนั้นได้ยินแต่ชื่อ  วิทยุต้องเปิดเพลงของเธอบ้าง  แต่ผมจำอะไรไม่ได้)



วิทยุคลื่นเพลง rock ทุกคลื่นพร้อมใจกันเปิดเพลงนี้  ผมละโกยสี่ตีนออกไปหาซื้อแผ่นเสียง  จะได้ฟังบ่อยเท่าที่ต้องการ

Album แผ่นนี้คลอด single ได้ตั้ง 4 เพลง  เพลงที่ 2 นี้เธอร้องคู่กับ Don Henley หนึ่งในแกนนำของวง The Eagles  ดังในบ้านเราเหมือนกัน



Single ที่ 3  ทำนองแปลกประหลาด  ผมฟังแล้ว  เพลงอะไรวะ  เพราะเพลงยาวมากมั้ง  ผมเลยจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินทางวิทยุรึเปล่า



มาติดใจเพลงที่ 4



ในแผ่นฯ นี้ยังมีอีกเพลงที่ผมชอบมาก  



สำหรับ album ต่อ ๆ มา  ความนิยมในเพลงของเธอก็ถดถอยตามหลักของ ไตรลักษณ์ ผมสนใจฟังอยู่เพลงเดียว



ใครที่ชอบดูหนังทีวีฝรั่งคงจำหนังชุดเรื่อง American Horror Story ได้  ชุดที่ 3 ของเรื่องนี้  รู้สึกจะชื่อ coven (2014 - สนุกมาก)  มี SN มาเป็นดารารับเชิญ  เธอเป็น White Witch อายุ 70 ปีที่ฝักไฝ่ในดนตรี  นี่เป็นการแสดงเรื่องแรกของเธอ







มีต่อ...

[nathanielnong]

นักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุคทุกคนรู้ดีว่า Stevie Nicks เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง Fleetwood Mac  วงระดับตำนาน  วงนี้ก่อตั้งมานานแล้ว  แต่ SN เพิ่งเข้ามาสบทบในปี 1974  การเข้ามาร่วมวงของ SN ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแนวทางของวงอย่างใหญ่โต  album ของวง 2 แผ่นที่ออกตลาดหลังจาก SN เข้ามาเป็นสมาชิกดังถล่มทลายและยังกวาดรางวัลไปเป็นเข่ง  ตรงนี้แหละที่ผมว่าเป็นจุดที่วงการเพลงฝรั่งทางวิทยุบ้านเราเริ่มให้การสนใจวง FM

แต่ก่อนอื่น... ย้อนไปก่อนหน้านี้ ในปลาย 60s (เวลาของมัน) วิทยุเปิดเพลงบรรเลงนี้  มันฟังเนิบนาบ 

(ตอนนั้นไม่รู้ชื่อวง  ตอนนี้ฟังแล้ว  บรรยากาศเก่า ๆ กลับมาหมด) 

ต่อไปนี้คือเพลงในยุคสนั่นโลกของวง FM หลังจากได้ SN มาร่วมแล้ว  วิทยุบ้านเราเปิดทุกเพลง

(ฉบับ single ทอนให้สั้นกว่านี้)



(เสียงร้องของ Christine McVee ตอนนี้ตายไปแล้ว  ผมลงเรื่องของเธอไปแล้วในกระทู้ก่อน)





นั่นเป็นเสียงร้องของ Lindsey Buckingham  เริ่มแรกเธอไม่ได้อยู่วง FM  แต่เป็นศิลปินคู่กับ SN  ร่วมกันกัดก้อนเกลือกิน 

เมื่อสมาชิกคนหนึ่งของวง FM ลาออก  คือมือกีต้าร์ชื่อ Bob Welch  เธอออกงานเดี่ยว  เพลงจากผลงานชุดแรกเข้ามาดังพอประมาณ (แต่ขอโทษ  เพราะเด็ดขาดไปเลย) ในบ้านเรา   





Mick Fleetwood หัวหน้าวง FM ได้เห็นฝีมือเกากีต้าร์ของ LB (Buckingham is known for his fingerpicking guitar style) เกิดความถูกใจเลยออกปากชวนเธอมาเข้าร่วมวง  LB บอกโอเคแต่มีข้อแม้ว่าต้องเอา SN มาร่วมด้วย (เพราะตอนนั้นกำลังคั่วกัน)  วง FM ก็เลยมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นทีเดียว 2 คน

ตอนเด็ก ๆ ภาพของ LB ที่เห็นในรูปตามหนังสือฯ มีภาพนี้เป็นต้น (ส่วนใหญ่ขาวดำ) มีหนวดเครา  ผมคิดในใจ  โคตรหล่อเลย (เอาอีกละ...)


(สังเกต - กางเกงทรง maude  ในยุค 70s ฮิตกระหน่ำ  มาคู่กับกางเกงทรง dave  ขาลีบ  กางเกงทรง maude มี 2 แบบ  แบบเอวธรรมดากับแบบเอวต่ำ  ในยุคฮิต  ซิปวีนัสถึงกับผลิดซิปสั้นจู๋ไว้ใช้กับกางเกงแบบเอวต่ำ)


ในกาลเวลาต่อมาเธอเปลี่ยนลุค  ผมเห็นแล้วอยากหาทางบอกว่า  พี่ลินไว้หนวดไว้เคราดีกว่าจ้ะ หนูจะได้ฝันถึงต่อไป... เธอเคยออกผลงานเดี่ยว  ผมได้ฟังครั้งเดียว  ไม่ติดใจ



มีต่อ...

[nathanielnong]

Album ต่อมาของวง Fleetwood Mac หลังจาก Lindsey Buckingham และ Stevie Nicks เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกจัดเป็น album ประวัติศาสตร์แผ่นหนึ่งของวงการเพลงฝรั่ง  เพลงติดอันดับ 1 เพลงเดียวของวง  อยู่ใน album นี้  มันฟังเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ  แต่ยิ่งฟังยิ่งเพราะ

(เพลงนี้)



(หล่อมั้ยล่ะ พี่ลินของผม  เวลาสวมหนวดเครา  ดูฝีมือ finger picking ของเธอ (1.37) – เพิ่งรู้จากที่เห็นใน clip นี่แหละว่าร้อง 2 คน  สมัยฟังจากลำโพงวิทยุนึกว่าร้องคนเดียว  เสียงคล้ายกันจัง)



(โฉมหน้า album ประวัติศาสตร์  ความจริง album นี้คลอด single ออกมา 4 เพลง  อีกเพลงคือ Go your own way ผมเอาไปลงไว้ในคราวที่แล้วเพื่อต้องการเปิดตัว LB)


Fleetwood Mac เงียบหายไปเกิน 1 ปี (เป็นเรื่องผิดปกติ  ปกติศิลปินจะออกผลงานปีละครั้ง)  ก่อนกลับมาพร้อม album คู่  ราคาแพงระยับ  single แรกมีความแหวกแนว  แหวกแนวอย่างไรฟังดู


(ปรากฏว่าหูผมกระดิกกับเพลงนี้  ทำนองแปลกดี  ตอนนั้นฟังทางวิทยุก็ติดใจแล้ว  เสียงกลองและกีต้าร์มันมาก  ต่อมาเมื่อฟังจากลำโพงชั้นดี  อื้อฮือ...   สรุปจาก Wikiฯ ว่ามันเป็น experimental song (แปลไม่ถูก) ผมสงสัยมาตั้งแต่ได้ยินเพลงนี้เป็นครั้งแรกว่า  เนื้อเพลงมันเกี่ยวกับงาช้าง (tusk) ตรงไหน  ปรากฏในเวลาต่อมาว่าเปล่า…  I've recently read Mick Fleetwood's autobiography, where he takes up quite a bit of time to explain the album "Tusk" and the song of the same name. "Tusk" was an inside joke between the band members before a song was written. "Tusk" was, in fact, a reference to the penis.)


Single ต่อมาเป็น ballad เนิบนาบเช่นเคย  ก็ยังเพราะอยู่



บอกตามตรงว่า ผมไม่ใช่แฟนเพลงของ Fleetwood Mac  ฟังและจำได้เฉพาะ single ที่ถูกหู  เพลงท้าย ๆ ที่ผมชอบคือ 2 เพลงนี้

(ผมว่า SN หน้าสวย  แต่เสียงไม่เพราะนะ)



(จากรูปถ่ายที่เห็นในช่วงนั้นคาดว่าพี่ลินเปลี่ยนเป็นลุคนี้ถาวรแน่นอน  เลยตัดสินใจเลิกตาม  แล้วหันไปวิ่งไล่เหยื่อหล่อรายอื่นต่อไป)


นี่เป็นเพลงสุดท้ายของวงที่ผมได้ยิน  จากที่ไหนก็จำไม่ได้  ยุค อตน. มีแหล่งให้ฟังบานเบอะ  ที่หูกระดิกกับเพลงนี้เพราะเป็นเพลงโปรด  ได้ยินและต่อมาชอบมาตั้งแต่อยู่ชั้น ม.ศ. ต้น  เพลงนี้แต่งโดย Bob Dylan  มีคนนำไปร้องใหม่เยอะแยะ  ฉบับนี้เป็นเสียงของ Lindsey Buckingham  ผมว่าเพลงนี้ใคร (นักร้อง) ร้องก็เพราะ



ฉบับที่ผมติดใจและเพียรพยายามหาชื่อคนร้องมาตั้งแต่เด็กๆ



มีต่อ...

[nathanielnong]

จำได้จากการอ่านมานมนานว่า วงการเพลงที่บ้านเขาในยุค ‘นั้น’ นอกจากยกย่องในฝีมือของ Stevie Nicks แล้ว  ยังยกย่องในความสวยน่ารักด้วย  ในยุคนั้นยังมีศิลปิน rock หญิงที่ดังและสวยน่ารักตีคู่กันมา  คือ Nancy Wilson ครึ่งหนึ่งของแกนวง Heart 

NW เป็นน้องสาวของหัวหน้าวงคือ Anne Wilson  วงนี้เล่นเพลง rock แบบหนัก ๆ เลย  ผมต้องออกตัวก่อนว่าจำได้แต่ชื่อเพลงเสียเยอะ  ไม่เคยจอดฟังแบบจนจบ  เพราะ ‘หนัก’ ไป   หนักอย่างไร  ลองฟังดู
 
เพลงนี้ผมว่าเป็นเพลงแรกที่วิทยุแนะนำให้รู้จักวง Heart  ตอนนั้น ‘พบแล้วผ่าน’  มาจนกระทั่งแก่  เริ่มคิดถึง  หาฟังจาก youtube พบว่า  ‘เพราะ’  เป็นเพลง rock ชั้นเยี่ยมเลยก็ว่าได้  แสดงว่าประสบการณ์ที่สะสมมาตามทางทำให้ชีวิตผมกร้านขึ้น  ขนาดฟังเพลงที่ไม่เคยชอบในสมัยเด็กแล้วพบว่าเพราะ (ยังมีอีกหลายเพลงเลยละ)



(นี่แหละ NW  ผู้คนยกย่องเธอในด้านนี้ ... Wilson has been lauded for her guitar playing, noted for its blending elements of flamenco and classical guitar styles with hard rock. In 2016, Gibson ranked Wilson the eighth-greatest female guitarist of all time.)



(เพลงนี้ได้ยินบ่อยรองลงมาจาก Magic man)


อย่างไรก็ตาม  ผมก็อุตส่าห์ซื้อแผ่นเสียงของวงมาฟัง มันเป็นแผ่นคู่  ไม่รู้บ้าป่าว  แพงจะตายชัก เพียงเพื่อจะฟัง 3 เพลงนี้ที่สมัยเป็น single วิทยุเปิดไม่บ่อย  แต่ฟังแล้วติดใจ สามเพลงนี้มารวมกันอยู่ในแผ่น Greatest Hits/Live นี้





เพลงนี้เพราะมาก  ฉบับอัดใน studio ยิ่งเพราะกว่านี้



(ไม่ใช่แผ่นชนิด gatefold  เป็นซองหนา ๆ มี 2 แผ่นเสียงแยกใส่ในซองกระดาษแข็ง  รูปเพียบ   ยัดอยู่ข้างใน  ได้ดูรูปก็เพลินดีเหมือนกัน)






กลางยุค 80s  หนังเพลงเรื่อง Footloose ออกฉาย  พี่สาวของวงคือ Ann Wilson หาลำไพ่พิเศษด้วยการร้องเพลงคู่ลงในหนัง  เพลงนี้ดังทีเดียว  จำได้ว่าเพลงนำร่องมาก่อนตัวหนังจะเข้าฉายเสียอีก



มีต่อ...

[nathanielnong]

ประมาณว่าเพิ่งนึกได้  ยังไม่สาย  เลยแทรกลงตรงนี้  เพลง Tell it like it is ที่วง Heart ร้องให้ฟังไปเมื่อวาน  เป็นการนำมาร้องใหม่  ต้นฉบับเป็นเพลงในยุค 60s  ร้องโดย Aaron Neville  เป็นเพลง soul เกรด เอ ‘The version of the song recorded in 1966 by Aaron Neville was inducted into the Grammy Hall of Fame’  แน่นอน  มีหรือที่วิทยุบ้านเราจะเพิกเฉยไม่นำมาเปิดให้ฟัง 


มีน้อยคนกล้าเอามาร้องใหม่  Ann Wilson  เป็นคนหนึ่งที่กล้า  และทำออกมาเป็นเพลง rock ballad ชั้นดี  ได้ดีด้วย ‘Record World commented that Ann Wilson's "sensitive vocal" gives the song "a woman's point of view" and that Nancy Wilson "adds hot guitar passion’ ทั้ง 2 ฉบับติด top 10 ทั้งคู่

ชื่อเสียงของวง Heart เงียบเหงาไปชั่วระยะหนึ่ง  ล่วงเข้าครึ่งหลังของยุค 80s  อันช่วงเวลาที่ผีเพลงเริ่มคลายตัวออกจากผมแล้ว  วงนี้ก็กลับมาใหม่  คราวนี้ดังกว่าเดิม  ทั้ง album และ single  ทั้ง 2 ประเภทสามารถแตะอันดับ 1 ได้  ส่วน single อันดับ 1 (ในที่สุด) มีถึง 2 เพลง  เพลงแรกนี้จากเสียงของ Nancy Wilson





อีกเพลงที่บ้านเราให้การต้อนรับ



แถมเพลงซึ้งในฉบับ rock ballad 

[nathanielnong]

ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนละเนี่ย  ดูม้วนเชือกก่อน  ยังอยู่ดีกินดี  ยังมีเหลืออีกเยอะ  แต่ผมชักเป็นห่วงป้า Roberta Flack  ไม่รู้แกจะงอนรึเปล่า  ต้องสาวเชือกกลับไปหา  ระหว่างที่ผมกลับไปแอบดูป้า  ฟังเพลงในยุค golden oldies ที่จำได้  เพลิน ๆ ไปก่อน

The Orlons



The Penguins



The Playmates



ต่อยอดด้วย



Shep & Limelites ฉบับนี้คือต้นตำหรับ



Silhouettes



The Tams



ต่อยอดด้วย...

[nathanielnong]

ผมพบป้า Roberta Flack เปลี่ยนจากท่านอนกระดิกตีนเป็นนั่งตาลอยขณะฮัมเพลง Making Love  พอเห็นหน้าผม  ป้าบอก  หายหัวไปเลยเอ็ง  ท่าจะมันมากซีนะ  โม้น้ำลายแตกฟอง  เอาเหอะ... ตามสบาย  ข้าตายไปแล้ว  ตายซ้ำไม่ได้  อย่าลืมกลับมาละกัน

เอ้า...  ป้า Roberta Flack บอกว่า ตามสบาย  งั้นเราออกท่อง ‘memory lane’ กันต่อ...

ย้อนไปที่ Single จาก album เดี่ยวแผ่นแรกของ Stevie Nicks เพลงแรกที่เธอร้องคู่กับ Tom Petty ฯ นั่น  อย่างที่บอกว่า  ผมไม่คุ้นกับ TP เลย  รู้จักแต่ชื่อ  ไม่รู้วิทยุเปิดเพลงอะไรของเธอบ้าง  แต่ single ที่ 2 ที่เธอร้องคู่กับ Don Henley นั้น  



ผมรู้จัก DH เป็นอย่างดี  เธอไม่ได้เป็นโคตรเหง้าศักราชอะไรกับผมหรอก  ที่รู้จักเพราะเธอคือหนึ่งในแกนนำของวง The Eagles  วงดนตรีชั้นนำที่นักฟังเพลงฝรั่งบ้านเราทุกคนรู้จัก  single ดังของวงนี้มาจากเสียงร้องของ 2 คน (ยกเว้น Take it to limit เป็นเสียงของ Randy Meisner)  อีกคนคือ Glenn Frey สุดหล่อตลอดกาลของผม  ผมเคยเสนอเพลงจากเสียงของ GF ไปแล้ว (คือเธอตายไปแล้ว)  
https://www.reurnthai.com/index.php?topic=7342.msg184883;topicseen#msg184883
(ความเห็นที่ 141 ละ 142)


ตอนนี้ก็จะเสนอ เพลงดังของวงฯ ที่มาจากเสียงของ DH  ที่วิทยุเปิดให้ฟังนะ

เพลงนี้มีคนนำมาร้องใหม่มากมาย  แต่นี่คือต้นฉบับ  ที่เก๋คือมันไม่เคยออกเป็น single  แต่ดังจนต้องนำมารวมในแผ่นรวมเพลงฮิตที่ปกติจะมีแต่ single



นี่เป็น 2 เพลงอันดับ 1 ชุดแรกของวง (1974)





เพลงอันดับ 1 เพลงที่ 4 ก็มาจากเสียงของเธอ  เพลงนี้ดังสลบทั่วโลกที่ฟังเพลงฝรั่ง (เพลงที่ 3 คือ New kid in town เป็นเสียงร้องของ GF)



อีกเพลงดัง เป็น single ที่ 2 ต่อจาก Heartache tonight (GF)  ของ album ดัง The Long Run



แล้วก็เพลงนี้



single ที่ออกในช่วงเทศกาล



เหล่านี้เป็นเพลงดังจากเสียงร้องของ DH ถ้าบวกเพลงจากเสียงร้องของ GF ด้วย  ตลอดยุค 70s บ้านเราจะอบอวลไปด้วยเสียงเพลงต่าง ๆ จากวง The Eagles  ที่วิทยุเอามาเปิดให้ฟัง

มีต่อ...

[nathanielnong]

Jesse Colin Young (1941 – March 16, 2025) 

เธอเป็นสมาชิกวง The Youngbloods  วงนี้มีวงจรชีวิตอยู่ปลายยุค 60s  ผมว่าไม่มีใครรู้จักสักชื่อที่เอ่ยมา  เอางี้... เพลงนี้ดังมากในบ้านเรา  มันมาก่อนผีเพลงเข้าสิงผม  แต่ดังนานจนกระทั่งผีเพลงเข้าสิงผมแล้ววิทยุก็ยังเปิดอยู่  เป็นเสียงของเธอละ

[nathanielnong]

อ้ะ... ฟังผมฝอยต่อ

ความจริงเพลง (single) ของวง The Eagles ไม่ได้ผูกขาดว่ามาจากเสียงร้องของ Glenn Frey กับ Don Henley เท่านั้น  สมาชิกคนอื่นก็ได้ส่งเสียงร้องด้วยเหมือนกัน  แต่ว่า single ดัง ๆ ส่วนใหญ่มาจากเสียงของ 2 คนที่ว่า

เพลงนี้มาจากเสียงของ Randy Meisner เป็นเพลงที่ดังไม่น้อยที่บ้านเขา  แต่ดังมากที่บ้านเรา 

รู้มาจากการอ่าน... นี่เป็นเพลงเอกของ RM  เธอร่วมแต่งเนื้อด้วย  แต่เธอไม่มีความมั่นใจในการร้อง  โดยเฉพาะช่วงขึ้นเสียงสูงในตอนท้ายเพลง  เพื่อน ๆ ก็ช่วยให้กำลังใจ  ปรากฏว่าแต่ละครั้งที่วงออก concert แล้ว RM ร้องเพลงนี้  ถึงช่วงดังกล่าวของเพลง  แฟน ๆ กรี๊ดกันอย่างบ้าคลั่ง (ตั้งแต่ 3.33 ใน clip เป็นต้นไป ฟังไปเรื่อย ๆ  และที่ 4.33 สังเกตว่า GF ยิ้มแบบ ‘เห็นมั้ย  ใคร ๆ ก็ชอบ  กูบอกมึงแล้วว่ากล้าหน่อย’)  แต่ปรากฏว่าเธอไม่แฮปปี้กับการร้องแบบนี้  ลงท้ายเลยคัดง้างกันอันเป็นผลให้ RM ลาออกจากวง

ทีนี้มาฟังฉบับ single  RM กรีดเสียงสูงในตอนท้ายเพลงได้สะใจมาก  ผมว่าเป็นช่วงที่เยี่ยมที่สุดของเพลง



ใน clip แสดงสดข้างบนนี้ ที่ 0.53 จะเห็นหนุ่มผมยาวโพกผ้า  นี่ก็คืออีกหนึ่งสมาชิกใหม่ของวงแต่เก่ามาจากที่อื่น  เธอชื่อ Joe Walsh (เข้ามาแทน Bernie Leadon สมาชิกดั้งเดิม) ก่อนหน้านี้เธออยู่ในวงชื่อว่า James Gang  นอกจากเล่นเครื่องดนตรีแล้วยังทำหน้าที่ร้องนำด้วย  ผลงานของวงนี้เป็น rock ประเภทดุเดือด  ซึ่งผมจะวิ่งหนีหางจุกตูดถ้าหมุนคลื่นมาเจอเพลงของวงนี้  อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ด้วยเหตุผลอันใด  ผมกลับจำเพลงนี้ได้... เพลงเดียว



ที่จริงฉบับอัดใน studio ฟังเพราะกว่าฉบับสด  แต่อยากให้เห็น JW ในยุคนั้น



พอเข้ามาเป็นสมาชิกวง TE  ผมนึกไม่ออกว่า  เพลงอะไรบ้างที่ JW ร้องตัดเป็น single (อาจจะไม่มี) นอกจากเพลงนี้  เป็น single ประสานเสียง  แต่ท่อนร้องเดี่ยวเป็นเสียงของเธอ  เพลงนี้รวมอยู่ในแผ่น Live แผ่นเสียงคู่ที่ออกในปี 1980

(ตอนซ้อม)



(ฉบับออกแสดงบนเวที)



ปกหน้า/หลัง และ gatefold


2 ซองในใส่แผ่นเสียง หน้า/หลัง


poster รูปขนาดยักษ์ 1 รอยพับเท่ากับประมาณ 1 ซองใส่แผ่นเสียง  ขนาดโดยรวมประมาณ 6 ซองใส่แผ่นเสียง  กางออกมาแล้วสะใจ


อีก single หนึ่งของวง TE ที่เสียงนักร้องนำไม่ใช่เสียงผูกขาดของ 2 หนุ่ม  เป็นเสียงของสมาชิกใหม่ (แต่เก่ามาจากที่อื่นเช่นกัน) Timothy B. Schmit  ซึ่งเข้ามาแทน Randy Meisner 

TBS ส่งเพลงดังในนาม TE  คือเพลงนี้ที่ดังทั้ง 2 ฝั่งฟ้า (อีกฝั่งหนึ่งคือบ้านเรา)

(ที่ 4.06 พี่เก็นหล่อจนอยากสลบแล้วซบลงบนตัก  คนต่อมาคือ Don Felder สมาชิกดั้งเดิม)


รวมถึงเพลงนี้



มีต่อ...

[nathanielnong]

หลังจาก The Eagles ยุบวง  สมาชิกต่างก็ออกไปหาเงินต่อในฐานะศิลปินเดี่ยว  ที่วิทยุเปิดเพลงของพวกเขาในบ้านเรามี 3 คน

Timothy B. Schmit ดังในบ้านเรากับเพลงนี้... มีเพลงเดียว



ที่บอกว่า TBS เป็นสมาชิกใหม่ของวง The Eagles  จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนเก่าแก่ในวงการเพลง  เธอเคยอยู่กับวง Poco  อันเป็นวง super group  หมายถึงสมาชิกของวงแต่ละคนล้วนมีที่มาที่ไปกันทั้งนั้น  คือมาจากวงดังวงอื่น  หรือออกไปเข้ากับวงดังวงอื่น  สมาชิกดั้งเดิมของวง Poco นี้ก็มาจากวง super group อีกวงที่ยุบวงไปแล้วชื่อ Buffalo springfield  ที่แปลกเก๋ (คืออ่านมาตอนแก่  ตอนนั้นไม่รู้ลึกขนาดนี้) คือ แรกเริ่ม Randy Meisner คือหนึ่งในสมาชิกของวง Poco  ต่อมาเธอลาออกไปเข้ากับวง The Eagles   วง Poco ก็รับสมาชิกใหม่คือ TMS   ต่อมา RM ลาออกจากวง TE  สมาชิกใหม่ที่เข้ามาแทน RM คือ TBS

ผมไม่เล่าผลงานของวง Poco ในบ้านเขา  มันเป็น Yesterday once more ของผม  แต่จะเล่าว่า  วิทยุบ้านเราเปิดผลงานของวงนี้อยู่ 2-3 เพลง  ล้วนน่าฟังทั้งนั้น





นี่เป็นเพลงดังที่สุดทั้งในบ้านเขาและบ้านเรา



เพลงนี้ไม่ดังในบ้านเขา  แต่บ้านเราเปิดบ่อย 



มีต่อ...