เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 34
  พิมพ์  
อ่าน: 86067 Yesterday Once More...
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 240  เมื่อ 19 ธ.ค. 24, 18:29

Hall & Oates เป็นวง duos อย่างเป็นทางการที่มีเพลงฮิตมาตลอดกว่า 10 ปี  ฮิตทั้ง 2 ฝั่งคือบ้านเขากับบ้านเรา  แต่ผมไม่ฟังเพลงของพวกเขาเท่าไร  แบบว่า ‘ร็อคมากไป’ สำหรับวัยรุ่นหวานแหววอย่างผม  เพียงแค่รู้จัก... ทุกเพลงที่วิทยุเปิด  เพลงแรกที่ได้ยินนั้นเพราะมาก  แต่เพลงต่อ ๆ มา  มันหนักหูขา pop จ๋าอย่างผม







วงมาดังระเบิดกับเพลงนี้  วิทยุเปิดทุกวัน



ต่อมาก็เพลงเหล่านี้





ผมว่าเพลงนี้เพราะที่สุดเพราะได้ฟังทุกวันจนเพราะ  และเป็นเพลงสุดท้ายที่ผมได้ยินทางวิทยุ



สมัยนั้นผมเรียกพวกเขาในใจว่า Hall & Ole (ชื่อลูกอม) ชื่อจริง ๆ ของพวกเขาคือ Daryl Hall กับ John Oates  รู้สึกตอนนี้กำลังทะเลาะกันอยู่นะ  เรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกันอะไรเทือกนี้  เสียดาย  ไม่น่ามีเรื่องแบบนี้ในตอนแก่ ๆ กันเลย

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 241  เมื่อ 20 ธ.ค. 24, 18:36

เสนอเพลงจากศิลปิน duo ทั้งอย่างเป็นทางการและรวมการเฉพาะกิจในยุค Yesterday once more ของผมกันต่ออีกหน่อย

Jenny Burton & Patrick Jude สองศิลปินแนว soul ที่ตอนนั้นไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน  เมื่อมีข้อมูลเพิ่มขึ้นก็หาชื่อเจอและพบว่าทั้ง 2 ไม่มีผลงานดังเลย  ทั้งสองมาร่วมร้องเพลงนี้เป็นเพลงในหนัง Beat Street  จำไม่ได้ว่ามาฉายบ้านเรารึเปล่า  มันถูกตัดออกเป็น single ซึ่งก็ไม่ดัง  แต่วิทยุบ้านเรายังอุตส่าห์เอามาเปิดให้ฟัง  เป็น soul ballad ที่เพราะไม่แพ้ใคร 



LeBlanc & Carr … เพลงนี้ซิ  พริ้วสบาย  ฟังทีไร  อารมณ์กระเจิดกระเจิง



Mouth & McNeal  เป็นคู่ผัวเมียจากประเทศ Netherlands  ในต้นยุค 70s คู่นี้เคยมาร้องเพลงให้เราฟัง  เป็นเพลงที่นักฟังเพลงฝรั่งทุกคนต้องรู้จัก  เพลงที่ว่าคือ How do you do?  มันดังจนกลายเป็นเพลงโหล 



หลังจากนั้น 2 ปีคือปี 1974  วง duo คู่นี้ก็ได้รับเลือกเป็นตัวแทนของประเทศเข้าประกวด Eurovision Song Contest  ช่วงนั้นการประกวดนี้ ‘hot’ มากในวงการเพลงฝรั่งบ้านเรา   ผมเตรียมเรื่องไว้แล้ว  ไม่รู้จะได้คิวลงเมื่อไร  รับรองว่าสิงห์นักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุคอ่านแล้วต้องมีความสุข  มีหลายเพลงที่เมื่อได้ฟังแล้วจะต้องร้องว่า ... เฮ้ย... เพลงนี้ฉันลืมไปแล้ว

สำหรับเพลงที่วงนี้ร้องในการประกวด  วิทยุก็นำมาเปิดให้ฟังเช่นกัน  แต่ไม่ฮิตเท่า



Lynsey de Paul & Mike Moran ก็จับคู่กันร้องเพลงเป็นตัวแทนของประเทศอังกฤษเข้าประกวด Eurovision Song Contest ในปี 1977  เป็นเพลงรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ในบ้านเราเพลงนี้ดังกว่าเพลงชนะเลิศ



อานิสงค์ของความดัง  วิทยุบ้านเราเปิดเพลงร้องเดี่ยวของ LDP ให้ฟังอีก  เพลงที่ 2 ดังในบ้านเรา  หลายคลื่นช่วยกันเปิด





ส่วน MM ผมมารู้ทีหลังว่าเธอถนัดด้านการเขียนเนื้อเพลงมากกว่า
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 242  เมื่อ 21 ธ.ค. 24, 18:09

Billy Preston & Syreeta ต่างเป็นศิลปินเดี่ยว  เพลงนี้ทั้งคู่มาร่วมกันทำงานเฉพาะกิจ  ผมว่าเป็นเพลงที่ละเมียดละมัยมาก  ฟังปั๊บติดใจทันที



จากที่รู้ BP มีเพลงดัง 2-3 เพลง  แต่ที่มาออกอากาศให้ฟังและจำได้คือ 2 เพลงนี้





ก่อนหน้านี้ ในยุค late 60s  เธอเคยร่วมงานกับ The Beatles  ใน 2 เพลงนี้ (เรื่องนี้มารู้เมื่อมีข้อมูลมากขึ้น  ตอนนั้นไม่รู้เรื่องหรอก)



(ที่ 2.36)


ส่วน Syreeta Wright เคยเป็นอดีตเมียของ Stevie Wonder  ผลงานของเธอไม่ดัง  แต่มีเพลงหนึ่งมาออกอากาศในบ้านเรา  ที่จำได้เพราะมันมาออกอากาศทางทีวีช่อง 3 ในรายการเพลงที่อุปถัมภ์รายการโดยยาสีฟันใกล้ชิดในยุค 70s โน่น  นับว่าทันสมัยมากนะ


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 243  เมื่อ 22 ธ.ค. 24, 18:15

Richard Marx กับ Donna Lewis  คู่นี้อยู่ปลายยุคของผม  เพลงอยู่ในหนังการ์ตูนเรื่อง Anastasia  ผมไม่ได้ดูเพราะแก่ไปแล้ว  แต่เพลงเปิดทางวิทยุบ่อยมาก  เพราะถูกใจ  เพิ่งมารู้เมื่อมีข้อมูลมากขึ้นว่าเพลงไม่ดังบนตาราง billboard เลย  ...‘ไรวะ



เนื่องจากคู่นี้เข้ามาในยุคปลายของผม  ผมจึงไม่สนใจมากนัก  ดูจากอันดับเพลง billboard  เพลง single ของ RM ติด top 10 เป็นว่าเล่น  แต่แปลกที่ผมจำไม่ได้สักเพลง  จำไม่ได้แม้แต่ชื่อเพลง  นอกจาก 2 เพลงนี้ดังจริง ๆ  ไม่สนใจก็ต้องจำได้





DL ก็เช่นกัน  มีเพลงนี้ที่ติดหูผม  ทำนองแปลกและดังทางวิทยุ


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 244  เมื่อ 23 ธ.ค. 24, 18:31

ในยุคหลัง  เกือบจะพ้นยุคของผมไปแล้ว  พบว่า Paul McCartney ชอบร้องเพลงคู่กับชาวบ้านเช่นกัน

กับ Stevie Wonder



กับ Carl Perkins  ผมเพิ่งรู้เนี่ยะ ว่าเพลงนี้ไม่ใช่ single เป็นแค่ album track  ผมว่าดีเจคงชอบเลยเอามาเปิดให้ฟัง  ผมก็เลยนึกว่าเป็น single



ควันหลง... CP เป็นนักร้องยุค golden oldies ในบ้านเรา  รายการนี้เปิดเพลงนี้ของเธอ



กับ Michael Jackson

(ผู้หญิงที่พูดโทรโข่งคือ Linda Eastman McCartney เมียคู่ทุกข์คู่ยากของ PM  อาชีพของเธอคือช่างภาพ  ในฝันเธอหลงใหล John Lennon  เมื่อได้มีโอกาสเจอตัว  เธอบอกว่าฝันสลายหายแว้บ  แต่กลับพบว่า PM น่ารักกว่ามาก เธอตายด้วยโรคมะเร็งในปี 1998)


(ตอนเพลงนี้ออก  คน ฮือฮา กันมาก  วิทยุเปิดกันกระหน่ำ)


หมายเหตุ - ผมจะกล่าวถึงผลงานของ PM ในโอกาสต่อไป  
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 245  เมื่อ 24 ธ.ค. 24, 18:38

ก็จะเก็บตกเรื่องผลงานของ Stevie Wonder ที่ตกหล่นไปจากคราวที่เอ่ยถึงเธอไปก่อนหน้านี้

SW ร้องเพลงคู่กับชาวบ้านมากมาย  แต่ล้วนไปเกิดขึ้นนอกยุคของผม  ในยุคผม  นอกจากเพลงที่ลงไปเมื่อวานแล้ว  เพิ่งนึกได้ว่ายังมีอีกเพลง  เธอร้องกับ Diana Ross, Smokey Robinson แล้วก็ Marvin Gaye

(เพลงนี้ออกมาจากลำโพงวิทยุในกลางยุคของผม  เพลงเพราะ  ตอนนั้นไม่รู้ความหมายของเพลง  มารู้ในยุค อตน. ว่า เพลงอุทิศให้กับพ่อของ Berry Gordy ผู้ก่อตั้ง บ. แผ่นเสียง Motown ที่ผมเลยเล่าถึงไปแล้ว)


Lionel Richie ก็ร้องเพลงคู่กับชาวบ้านมากมายเช่นกัน ส่วนใหญ่อยู่นอกยุคของผมอีกเช่นกัน  มีเพลงนี้เพลงเดียวที่อยู่ในยุคของผม  ดังจนเลี่ยน

(เอ... คุ้น ๆ ว่า  เคยลงเพลงนี้ไปแล้ว  ฟังอีกครั้งแล้วกัน  อย่างไรก็ตาม  ผลงานเดี่ยวของ LR ผมเอาไปรวมกับผลงานของวงของเธอ)


ส่วน Diana Ross (เอ่ยไปแล้วยัง  จำไม่ได้) ร้องเพลงคู่กับชาวบ้านมาตั้งแต่ผมยังตัวกะเปี๊ยก  เพลงดังสุดขีดในบ้านเรานี้  เธอร้องกับ Marvin Gaye 



แล้วก็เพลงนี้



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 246  เมื่อ 25 ธ.ค. 24, 18:35

แตกแขนงหน่อย  มาว่ากันที่ตัว Marvin Gaye ตำนานแห่งยุค 60s - ต้น 70s  เธอก็เคยร้องคู่กับศิลปินอื่น  เหตุเกิดในยุค 60s  ผมมาได้ยินในภายหลัง  คือ จากคลื่นย้อนยุคน่ะ

กับ Kim Weston



กับ Tammi Terrell









ควันหลงจากเพลงนี้ซึ่งชื่อ Ain’t no mountain high enough  ออกสู่ตลาดในปี 1967  ตอนนั้นผีเพลงยังหาตัวผมไม่เจอ  พอหาตัวเจอแล้วกระโดดเข้าสิง  มันเป็นยุค 70s  พอสิงปั๊บ  ผีเพลงก็พาผมท่องโลกแห่งเสียงเพลงฝรั่ง  เท่านั้นยังไม่พอ  คุณท่านยังพาผมย้อนกลับไปฟังเพลงในยุคเก่า ๆ  เพลง ANMHE ฉบับนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น  ระหว่างท่องเที่ยวอยู่อย่างเมามัน  ผมก็เจอเพลงนี้ร้องโดย Diana Ross  ลองฟังดู



เพลงนี้มีชื่อเหมือนกันคือ ANMHE  ตอนนั้นรู้แล้วก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า  เพลงชื่อหวือหวาแบบนี้ไม่น่าตั้งซ้ำกันได้เลย

กาลเวลาต่อมา  หูผมกระดิกภาษาอังกฤษบ้าง  ก็พอฟังออกว่า  เนื้อเพลงบางส่วนคล้าย ๆ กันแฮะ  แต่แค่สงสัย  เพราะไม่มีวัตถุดิบให้เปิดเปรียบเทียบ (ผมมีแต่ album ของ DR เท่านั้น  album ของ MG ยุคเก่า ๆ หาไม่ได้แล้วในเมืองไทย) อีกทั้งก็ไม่ได้เก่งฉกาจขนาดแกะคำได้หมด
  
อีกกาลเวลาต่อมา  ในยุค อตน.  ไม่มีอะไรหลบซ่อนอยู่ได้อีกต่อไป  ผมก็รู้ว่าที่สงสัยไว้นานแล้ว  มันจริง  คือ 2 ฉบับนั้นเป็นเพลงเดียวกัน  หูยยย... ทำนองต่างกันลิบลับ  ไม่บอกไม่ทางรู้

(หมายเหตุ – ขอย้ำแล้วย้ำอีกว่า  ผมไม่ใช่เด็กมหัศจรรย์  ตอนนั้นแค่รู้งู ๆ ปลา ๆ  ความสนใจประกอบกับการจิกไม่ปล่อย (ถ้าสนใจ)  ทำให้ความรู้ก็ค่อย ๆ เพิ่มพูนขึ้น)

กลับมาที่ Diana Ross ร้องเพลงคู่  เอาให้จบ...

กับ Michael Jackson

(เพลงอยู่ในละครเวทีเรื่อง The Wiz  บ้านเราได้ฟังแต่เพลง)


กับ Julio Iglesias
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 247  เมื่อ 26 ธ.ค. 24, 18:14

เผอิญไปอ่านเจอบทความที่น่าสนใจมาก  ต้องเวลาในการเรียบเรียงให้มันกระชับ (แต่ไม่แปลนะ  ไม่ว่างพอ)  สรุปแล้วเสร็จไม่ทัน  เลยคั่นรายการด้วย รายการเก็บตกเพลงในยุค Golden Oldies กันแป๊บ

Kalin Twins



Mitch Miller



New Christy Minstrels – กับเพลงต้นฉบับ  นักฟังเพลงฯ ส่วนใหญ่มาได้ยินทีหลังจากเสียงของ John Denver (นำเสนอไปแล้ว)



Newbeats



Nino Tempo & April Stevens - กับเพลงต้นฉบับ  นักฟังเพลงฯ ส่วนใหญ่มาได้ยินทีหลังจากเสียงของ 2 พี่น้อง Donny & Marie Osmond (รอคิว)



Paul & Paula (ชื่อจริงของคู่นี้คือ Ray Hildebrand + Jill Jackson)



The Ray Charles Singers



Tokens



และเพลงนี้
Singing Dogs

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 248  เมื่อ 27 ธ.ค. 24, 18:44

ได้อ่านข่าวจาก MusicRadar เกี่ยวกับที่มาของเพลง Wichita Lineman …

เพลงนี้เป็นเพลงเอกเพลงหนึ่งของ Glen Campbell เธอร้องไว้ในปลายยุค 60s  มันดังมากในบ้านเรา  ขนาดยุคผมมาทีหลัง  วิทยุยังเปิดเพลงนี้ให้ฟังอยู่บ่อย ๆ  เป็นเพลงที่เพราะมาก ๆ เพลงหนึ่ง  ทำนอง retro สุด ๆ



เพลงนี้แต่งเนื้อโดย Jimmy Webb (เกิด 1946) ... During his career, he established himself as one of America's most successful and honored songwriter/composers.

JW ได้รางวัล Grammy ครั้งแรกตอนอายุแค่ 21 ขวบ  จากการเขียนเนื้อเพลงเพลงนี้



สำหรับเนื้อเพลง WL ไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในปีของมัน  แต่กาลเวลาต่อมาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของเพลงนี้

In 2021, Rolling Stone magazine's list of the "500 Greatest Songs of All Time" ranked "Wichita Lineman" at number 206. Singer-songwriter Bob Dylan considered it "the greatest song ever written" and British music journalist Stuart Maconie called it "the greatest pop song ever composed."  BBC Radio described it as "one of those rare songs that seems somehow to exist in a world of its own – not just timeless but ultimately outside of modern music" In 2017, Billboard ranked it number three.

The single was inducted into the Grammy Hall of Fame in 2000. In 2019, the Library of Congress preserved the song in the National Recording Registry for being "culturally, historically, or aesthetically significant."

สำหรับที่มาของเนื้อเพลงมีดังนี้ ...

Jimmy Webb was driving through the high plains of north-west Oklahoma when the inspiration for his biggest-ever song came to him.

It was a scorching summer afternoon and as the Grammy award-winning songwriter drove, vast swathes of grassy landscape stretched for as far as the eye could see. The terrain was flat and featureless, except for telephone poles positioned at the side of the road all the way to the horizon.

In the distance, Webb noticed a man perched near the top of one of these poles. As Webb got closer he could see the man was holding a phone and talking into it. The image of this anonymous lone figure toiling in searing heat in this vast landscape stuck in his mind as he drove on.

Webb knew this utility worker was a ‘lineman’, employed to check the telephone lines. But he began to wonder if the man might actually be talking to his girlfriend far away, and what was going through his mind as he worked in total isolation out on the high plains.

“It was such a curiosity to see a human being perched up there,” he told Blender magazine in 2001, as reported by Michael Hann in the Financial Times, in “an area that’s real flat and remote, almost surreal in its boundless horizons and infinite distances”.

This image would inspire Jimmy Webb to write Wichita Lineman, a haunting, mercurial ballad that would become a massive mainstream hit for country crossover star Glen Campbell.

นี่คือเนื้อเพลง...

I am a lineman for the county
And I drive the main road
Searching in the sun for another overload.
I hear you singing in the wire.
I can hear you thru the whine
And the Wichita Lineman
Is still on the line.

I know I need a small vacation
But it don't look like rain.
And if it snows that stretch down south
Won't ever stand the strain.
And I need you more than I want you.
And I want you for all time.
And the Wichita Lineman
Is still on the line.

Guitar##

And I need you more than I want you.
And I want you for all time.
And the Wichita Lineman
Is still on the line.

ผมเช็คผลงานการเขียนเพลงอื่น ๆ ของ JW  พบว่าเธอแต่งเพลงที่มีคนนำไปร้องและเข้ามาดังในบ้านเราหลายเพลง







มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 249  เมื่อ 28 ธ.ค. 24, 18:02

ส่งข่าวตรงนี้...

'จาร ครับ Olivia Hussey ตายแล้วเมื่อวันศุกร์ครับ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 250  เมื่อ 28 ธ.ค. 24, 18:11

มานึกได้ว่า  ในยุคของผม  มีนักแต่งเพลง (และร้องด้วย) ที่มีผลงานดังชื่อ Jimmy อยู่ 2 คน  คนหนึ่งชื่อ Jimmy Webb ส่วนอีกคนชื่อ Jimmy Cliff  คนหลังมาจาก Jamaica 

วิทยุเคยเปิดเพลงของ JC อยู่เพลงหนึ่ง  มันเป็น soundtrack ของหนังตลกที่เข้ามาฉายในบ้านเราเรื่อง Cool Running 

(ต้นฉบับเพลงนี้อยู่ในต้น 70s  เป็นเสียงของ Johnny Nash  ดังกว่าฉบับนี้มาก)

แล้วมีอีกเพลงหนึ่งที่ JC แต่ง   Linda Ronstadt เอาไปร้องใหม่  เป็นเพลงอยู่ใน album ของเธอ  เธอร้องเพลงนี้ได้สะใจผมมาก



มาฟังเพลงจากผลงานการแต่งเนื้อร้องของ Jimmy Webb ที่วิทยุบ้านเราเคยเปิดกันต่อ...


นี่ไม่ใช่ต้นฉบับ  แต่เป็นฉบับที่นักฟังเพลงฯ บ้านเรารู้จักมากกว่า  ต้นฉบับนั้นอยู่ในปลาย 60s เป็นเสียงร้องของนักแสดงชาวอังกฤษชื่อ Richard Harris ฉบับนี้ผมไม่เคยได้ยินทางวิทยุมาก่อน  รู้จักแต่ชื่อคนร้อง









(เพลงนี้ไม่เคยออกอากาศทางวิทยุเพราะมันไม่ใช่ single  ผมได้ยินทางแผ่นเสียง  มีอีกฉบับจากเสียงร้องของ Linda Ronstadt  แต่ผมนำเสนอฉบับของ Judy Collins  ผมชอบ)



(เพลงนี้เป็น album track  วิทยุไม่เคยเปิด)

เพลงแต่งโดย JW ยังมีคนนำไปร้องอยู่เรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้  แต่ผมขอหยุดการนำเสนอแค่ภายในยุคของผม 





หมายเหตุ – จากประสบการณ์  พวกฝรั่งให้ความสำคัญกับเนื้อเพลง (lyrics) มาก  ถึงขนาดตั้งเป็นสาขาหนึ่งของการแจกรางวัล Grammy  สมัยยังขลุก ๆ กันอยู่เพื่อนฝรั่งชอบพร่ำเพ้อว่าเพลงนั้นเพลงนี้เนื้อเพลงกินใจอย่างโน้นอย่างนี้  ผมฟังแล้วก็เฉย  ๆ  ไม่ได้ตื่นเต้นไปกับพวกมัน  อาจเป็นเพราะว่าผมไม่ใช่ฝรั่ง  นั่นไม่ใช่ภาษาของผม  ผมไม่มีความสามารถในการหยั่งความลึกตื้นหนาบางของศัพท์ต่าง ๆ  เวลาฟังเพลง (ฝรั่ง) ผมไม่เคยสนใจเนื้อเพลงเลย  ผมสนใจทำนองมากกว่า 

เป็นที่รู้กันว่าผมบ้า Helen Reddy...  นานมาแล้ว ผมเคยบอกพวกมันว่าเพลง I am woman เจ๋งสุด ๆ  พวกมันอ้าปากค้าง (แบบที่ฝรั่งชอบทำกันเวลาแปลกใจน่ะ) แล้วถามผมว่า  แกชอบไปได้ไง  เพลงของผู้หญิง (ผมหมายถึงทำนอง  พวกมันหมายถึงเนื้อเพลง)
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 251  เมื่อ 29 ธ.ค. 24, 18:40

ต้องทันสมัยหน่อย  กะลังฮอทเรื่อง Olivia Hussey  ปั่นสด  คงต้องมีตกหล่นตามเคย...

ตอนหนัง Romeo & Juliet สร้างแล้วมาฉายในบ้านเรานั้น ผมไม่ได้ไปดู  เพราะกำลังตื่นตาตื่นใจกับโลกมนุษย์  (มาดูในยุค I/Ubc ทีวี)  มีพี่ ๆ ที่ไป  อย่างไรก็ตาม  จำได้ว่าหนังดังมาก  เพลงก็ดัง  ไม่ได้ดูหนัง  แต่ได้ฟังเพลง  เพราะมีที่นอนอยู่ในลำโพง  soundtrack เพลงของหนังที่วิทยุชอบเอามาเปิดให้ฟัง  เป็นเพลงฝรั่งชุดแรก ๆ ที่ผมเคยได้ยิน

เพลงบรรเลงนี้ใช้ชื่อว่า Love theme from Romeo and Juliet บรรเลงโดย Henry Mancini (ลงผลงานไปแล้วในกระทู้ศิลปินเพลงตาย)



ส่วนฉบับร้องก็อยู่ในหนังเหมือนกันชื่อ What is a youth ร้องโดย Glen Weston  เป็นใครก็ไม่รู้  ไม่รู้จัก



สำหรับฉบับร้องอีกฉบับที่ใช้ชื่อว่า A time for us นั้น  ผมว่าเป็นฉบับที่นักฟังเพลงฯ รู้จักเป็นอย่างดีที่สุด  ฉบับนี้ไม่ได้เป็น soundtrack  มีศิลปินมากมายนำไปร้อง เป็นต้นว่า



แล้วก็จำได้ว่า Olivia Hussey (ตอนเด็ก ๆ ชอบเรียกแผลงไปเป็น ‘ฮัดเช้ย’) เคยมาเล่นหนังไทย  คู่กับ Chris Mitchum (ลูกชาย Robert Mitchum  ดาราดัง (แต่ไม่หล่อเท่าลูก) ในยุคทองของ Hollywood) ที่กำกับโดยคุณฉลอง ภักดีวิจิตร  ข่าวนี้ดังมาก  ลงหน้าบันเทิงของไทยรัฐ  นึกได้แล้วก็ลองถามอากู๋ดู  จริงด้วย  หนังชื่อ ตัดเหลี่ยมเพชร (Great Friday)  ออกฉายในปี 1975






(รูปล่างซ้าย  จะเห็นแผ่นโปสเตอร์ขนาดยักษ์  ใช้ติดข้างฝา  เป็นความฮิตในยุคนั้น  มีขายเกลื่อนทั้งในร้านและข้างถนนในกรุงเทพฯ  รูป 2 สาวที่เห็นคือ Suzi Quatro ที่เพิ่งเล่าถึง)


เขียนแล้วนึกถึงหนังเพลงอีกเรื่องที่เข้ามาฉายหลังจากนั้นหน่อยชื่อ Fiddler on the roof  มีเพลงนี้ที่วิทยุเปิดให้ฟัง  ส่วนตัวอย่างหนังดูทางโฆษณาในทีวี



จากหนึ่งไปสอง  แล้วก็นึกได้อีก (2 ชุดนี้  นึกได้ กับ จำได้  เป็น package ของ Yesterday once more) ถึงเพลงจากหนังอีกเรื่องที่ได้ยินมาตั้งแต่ยังพูดภาษาคนไม่เป็น  พอพูดเป็นคิดเป็นก็หมดยุคไปแล้ว  ผมก็เลยไม่รู้ว่าเป็นเพลงชื่ออะไร  ไม่ต้องลึกลงไปถึงเป็นเพลงในหนังหรือเปล่า  มีแค่ทำนองก้องอยู่ในโสตประสาท  ความสงสัยนี้ติดตามมาจนกระทั่งยุค อตน.  ผมก็ลองถามอากู๋ดู  เนื่องจากในความทรงจำนั้น  ไม่มีความแม่น  ก็ใส่ keywords สุ่ม ๆ ลงไป  อย่างที่เคยบอก  สันดานจิกไม่ปล่อย  วันหนึ่งก็เจอ







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 252  เมื่อ 30 ธ.ค. 24, 18:42

เล่าเรื่องเพลงร้องคู่แบบรวมการเฉพาะกิจยังไม่จบเลย ช่างมันก่อน  เดี๋ยวค่อยกลับไป  อยากคุยถึงเพลงจากในหนังเพลงที่ได้ยินทางวิทยุอีก  

หนังเพลงเรื่องนี้ มนตร์รักเพลงสวรรค์ เป็นหนังโปรดของผม  ดูครั้งสุดท้ายจบไปเป็นครั้งที่เท่าไรก็เลิกนับไปแล้ว  ดูจบทีไรก็นึกดีใจที่มีคนสร้างหนังที่ให้ความบันเทิงอย่างสูงสุดมาประดับโลกที่นับวันจะโหดร้ายขึ้นเรื่อย ๆ

ผมได้ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกตอนที่หนังออกฉายทั่วโลกเป็นครั้งแรก  บ้านเราฉายที่โรงกรุงเกษม (เช็คกับ Wikiฯ แล้ว  ถูกต้อง  แสดงว่าความจำยังดี)  จนป่านนี้ยังสามารถจำรูปวาดขนาดยักษ์ของ Maria หิ้วกีต้าร์วิ่งนำฝูงเด็ก ๆ ที่ติดอยู่หน้าโรงได้อย่างชัดเจน

เป็นครั้งแรกในชีวิตน้อย ๆ ที่ได้ดูหนังยาวมากขนาดต้องมีการหยุดพักให้คนดูออกไปยืดเส้นยืดสายหรือเข้าห้องน้ำ  ผมยังเด็กมาก  ไม่ได้ปวดฉี่บ่อย  ก็นั่งกินขนมที่เอามาจากบ้านไปพลางดูวิวในโรงที่สว่างด้วยแสงไฟ  ดูคนในโรงลุกขึ้นไปทำธุระของตน  แล้วก็พยายามมองหาผู้ปกครองของตัวเองว่าเมื่อไรจะกลับมาจากไปส้วมเสียที  จะหาผมเจอหรือจะกลับมานั่งทันก่อนทางโรงจะปิดไฟรึเปล่าก็ไม่รู้

ผมไม่รู้ว่าหนังมาฉายที่โรงกี่ครั้ง  แต่ครั้งที่สองที่ผมได้ดู  ฉายที่โรงอินทรา  ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม. ปลายแล้ว  วันนั้นเป็นประสบการณ์ที่จำได้ไม่ลืม  คือผมลืมเอาแว่นสายตาไปด้วย  ไปนึกได้เมื่อถึงโรง  ครั้งที่ 2 นี่เลยได้ดูหนังมัว ๆ ตลอดเรื่อง  ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันควรจะสะใจเพราะโรงอินทรามีจอพิเศษกว้างกว่าชาวบ้าน  ยังจำเสียงมอเตอร์เลื่อนจอออกไปทั้ง 2 ข้าง ซ้ายขวา ได้  คิดไปถึงทีไร  มันช่างน่าเจ็บใจจริง ๆ

จากประสบการณ์ที่ได้ดูหนังมานับจำนวนเรื่องไม่หวาดไม่ไหวตั้งแต่จำความได้  มันเป็นหนังเพลงเรื่องเดียวที่มีเพลงติดหูผมทุกเพลงไม่มีเว้น (หมายถึงเฉพาะหนังเพลงที่นักแสดงยืนแหกปากร้องปาว ๆ แบบนี้)  แม้แต่เพลงใน Mary Poppins  ก็ยังไม่ติดหูครบทุกเพลง

เพลงใน TSOM เพราะทุกเพลง  ผมสามารถร้องตามได้ทุกเพลง  พอมาซื้อแผ่นเสียงก็ฟังจนปรุ  พอฉบับ cd ออกก็ซื้อมาเก็บไว้ฟังแทนแผ่น ฯ  ระบบเสียงที่พัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ฟังกับเครื่องเสียงบวกลำโพงชั้นนำ  เสียงกระหึ่ม  โดยเริ่มมาตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องเลยละ
















มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 253  เมื่อ 31 ธ.ค. 24, 18:33

หลังจากพักครึ่งเวลา  ออกไปยืดเส้นยืดสาย  กินน้ำปัสสาวะกันเรียบร้อยแล้วก็กลับมาฟังเพลงพร้อมฉากของเพลงนั้น ๆ จากหนัง The Sound of Music กันต่อ  เวลาวิทยุเปิดเพลงจากหนังเรื่องนี้  ดีเจจะเหมาทั้งแผ่นเลย  ไม่ว่าจะมาจากคลื่นไหน  ก็มันเพราะทุกเพลง  แต่โอกาสยากมากที่จะหมุนเข็มวิทยุมาเจอเพลงแรก ๆ ของหนัง  จนกระทั่งถึงยุค cassette tape นั่นแหละ  ผมถึงได้มีโอกาสได้ฟังอย่างเต็มอิ่ม

นี่เป็นเพลงโปรดของผม











จนกระทั่งถึงฉากสุดท้ายของเรื่อง

(ผมเคยอ่านเบื้องหลังการสร้างหนังเรื่องนี้  ล้วนสนุก ๆ  โดยเฉพาะฉากสุดท้ายนี้  แม่หนูคนสุดท้องที่ขี่หลัง Christopher Plummer นั้นคือตัวแสดงแทน  ตัวจริงนั้นระหว่างการถ่ายทำอ้วนขึ้นกว่าเดิมมากเพราะกินดีอยู่ดี  CP เลยไม่ยอมให้ขี่หลังเพราะกลัวหลังหัก  ส่วนภาพใบไม้ใบหญ้าที่ไหวยวบยาบนั้นไม่ใช่ลมบนเขาแต่เป็นใบพัดของ helicopter ที่วนถ่ายอยู่รอบ ๆ

ตามท้องเรื่องในหนังครอบครัว Von Trapp เดินข้ามภูเขา Alps ไปยัง Switzerland  แต่ในชีวิตจริง ครอบครัว ฯ แค่ ‘เดิน’ ไปยังสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดแล้วขึ้นรถไฟข้ามประเทศไปยัง Italy  ก่อนจะหลบหนีต่อไปยัง London

จากเรื่องราวที่เห็นในหนัง  ถ้าจะให้ครอบครัว ฯ เดินข้ามแดนจริง ๆ เป็นไม่ไหวเพราะไกลจาก Switzerland มาก  และถ้าเดินจริงบนเทือกเขานี้ก็จะไปลงที่ Germany เข้าปาก Hitler พอดี)


ทั้งหมดที่เล่ามาคือฉากที่นำเสนอเพลง  ยังมีฉากอื่นที่ชอบแต่เป็นฉากธรรมดาเช่น ตอนครอบครัว ฯ ไปแอบหลบพวกนาซีข้างในสุสานของโบสถ์  ดูทีไรก็ตื่นเต้นทุกที  แล้วตามด้วยฉากตลกที่ผ่อนคลายความตึงเครียด



Maria von Trapp ตัวจริง



หมายเหตุ - ยังมีเพลงจากหนังอีกเรื่องที่ดีเจเปิดที่เดียวทั้งแผ่นคือหนังเรื่อง The Singing Nun  ที่มีเพลงดัง Dominique  ชุดนี้เหมาร้องโดย Debbie Reynolds  ผมเคยนำเสนอไปนานแล้ว  แบบกระท่อนกระแท่น  เนื่องจากหนังไม่ดัง  เลยไม่มีใครสนใจเอาหนังมาย่อยเป็นฉาก ๆ (พร้อมเพลง) ลง youtube

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 254  เมื่อ 01 ม.ค. 25, 18:26

เก็บตกหนังเพลงอีกเรื่องที่มีเพลงมาดังทางวิทยุในบ้านเรา  หนังเรื่อง West Side Story  เรื่องนี้ออกฉายตั้งแต่ต้น 60s  แต่เพลงนี้มีเปิดออกอากาศมาถึงต้นยุคผม  ผมจำไม่ได้ว่าใครร้อง  จะเป็นเสียงผู้หญิงหรือผู้ชายก็นึกไม่ออก  มันเลือนลางมาก  ลองเปิด clip จากในหนังก็ไม่ใช่ฉบับที่อยู่ในความทรงจำ



ต่อมาอีกน้านนาน  ผมซื้อ cd ของศิลปินย้อนยุคเป็นวงประสานเสียงชื่อ The Four Lads  พวกเขาร้องเพลงนี้ด้วย  ฟังแล้วคลับคล้ายคลับคลา  แต่ไม่ฟันธง



ก็มาถึงเรื่องที่ตั้งใจจะเขียนถึงวันนี้  หนังถ่ายทำสวยมีเพลงเพราะอีกเรื่องที่ออกฉายในต้น 70s  ซึ่งผมก็ไม่ดูในตอนนั้นเช่นกัน (มาเก็บตกเอาในยุค I/UBC ทีวี) ชื่อเรื่อง Brother Sun, Sister Moon



เป็นหนังที่สวยมาก ๆ  ดูเพลิน (เสียดาย clip ฉากที่ผมว่าสวยสุดนี้ไม่มีคุณภาพ)



จำได้อีกเช่นกันว่าช่วงหนังฉายในบ้านเรา  วิทยุก็เปิดเพลงในหนังให้ฟัง  เป็นเสียงของนักร้องชาวอังกฤษชื่อ Donovan





Donovan เป็นหนึ่งใน British Invasion รุ่นแรกที่เข้ามาสร้างความประทับใจให้อเมริกา (รอคิวลง)  ผลงานดัง ๆ ของเธอผมมาได้ยินในภายหลัง  ทางวิทยุเช่นกัน  เพราะเพลงของเธอเข้ามาก่อนยุคผม  เริ่มจากเพลงนี้ที่ดังที่สุด



แล้วก็มาเพลงนี้



มีเพลงพวกนี้เป็นกับแกล้ม








บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 34
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.083 วินาที กับ 16 คำสั่ง