เอ่ยถึงวง ‘super’ soul ในยุค 60s จบไปแล้ว 2 วง รวมกับศิลปินประเภทเดี่ยวและวง เช่น Fontella Bass, Mary Wells, Marvin Gaye, Stevie Wonder, The Temptations, The Supremes, Martha & the Vandellas, The Marvelettes และอื่น ๆ อีกไปก่อนหน้ากี่รายก็ขี้เกียจนับ ทำให้นึกถึงสารคดี 2 เรื่องที่เคยดูมานานแล้ว
เรื่องเหล่านี้เคยลงในกระทู้เกี่ยวกับหนังของคุณ SILA ตอนนั้นยังเป็นกาฝาก ฝากงานไว้ที่โน่นที่นี่ ตอนนี้มีรังของตัวเองแล้ว เลยไปยกเอามาลงใหม่ คาดว่าน่าจะมีผู้อ่าน (กระทู้นี้) หลายท่านที่ยังไม่เคยอ่านงานพวกนี้ เนื้อหาของสารคดียังคงอยู่ในหมวดเพลงที่จ่าหัวไว้ตั้งแต่ต้น เป็น Yesterday once more ของผม (ไม่ใช่ของวงการเพลงฝรั่งบ้านเรา)
Hitsville, the making of Motown (2019) เป็นสารคดีเล่าเรื่องราวการถือกำเนิดของบริษัทผลิตแผ่นเสียงชื่อดังของอเมริกา Motown ที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นสังกัดที่ผลิตนักร้องผิวดำออกมาสู่ตลาดผู้บริโภคที่ล้วนมีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก ศิลปินที่ว่าก็คือเหล่าศิลปินที่ผมนำผลงานของพวกเขามาลงให้ฟัง ผลงานทั้งหมดนั้นก็รวบรวมมาจากที่ได้ฟังทางวิทยุในครั้งเด็ก ๆ นั่นแหละ

(บริษัท Motown Rec. ในยุคแรกเริ่มเป็นบ้านเล็ก ๆ 2 ชั้น Barry Gordy ผู้ก่อตั้งยืนเล่นกีตาร์ นั่งริมซ้ายคือ Smokey Robinson นักร้องนำคณะ The Miracles ที่ต่อมาแยกตัวเป็นศิลปินเดี่ยว ผมเพิ่งนำผลงานของเธอและวงของเธอมาลงไปหยก ๆ ผู้หญิง 3 สาวคือวงอมตะ The Supremes มี Diana Ross นั่งติดกับ SR ผู้ชายอีก 2 คนที่เหลือคือนักแต่งเพลงมือฉมังของ บ.)
ผมชอบดูสารคดีแบบนี้เป็นที่สุด เล่าเรื่องราวในอดีตของวงการเพลงในแง่มุมต่าง ๆ หรือเล่าเรื่องราวในอดีตของวงการหนังในแง่มุมต่าง ๆ ได้ความรู้และได้รับรู้เรื่องราวแปลก ๆ มากมาย จนอดนำมาเล่าไม่ได้ เช่น
นักฟังเพลงฝรั่งยุคเก่าชาวไทยรุ่นเซียนคงเคยได้ยินเพลง Dancing in the street (1965) แต่ต้องเซียนของแท้ถึงจะรู้ว่าต้นฉบับของเพลงนี้ร้องโดยคณะนักร้องหญิงชื่อ Martha & the Vandellas ผมเพิ่งมารู้จากสารคดีนี้ว่า นักร้องนำ Martha Reeves ต้องต่อสู้หนักกว่าจะได้ขึ้นมาผงาดในวงการเพลง สารคดีนี้ที่ดำเนินเรื่องโดย Barry Gordy ซึ่งเป็นประธานผู้ก่อตั้ง Motown เล่าว่า MR เข้ามาทดสอบเสียงร้องอยู่หลายหนแต่ไม่ประสบผล จากคติว่า ตื้อเท่านั้นถึงจะครองโลก ในที่สุดเธอก็ได้มีโอกาสเข้ามาเหยียบในบริษัทฯ หากไม่ใช่ในฐานะนักร้องแต่เป็นหน้าที่เลขาฯ
จากตอนหนึ่งในสารคดี.. "She (= MR) came to audition a few times. I (director ของ บ. Motown) would find nice ways of saying, 'Martha, you know, come back later.'" Reeves added, "And I must have looked like I was gonna cry or something, cos he said, 'Answer this phone. I'll be right back.' This "right back" was four hours."
ในตอนนั้น บ. Motown กำลังไต่เต้า ทุกอย่างพร้อมมูลขาดแต่นักร้องที่ยังมีไม่มาก บริษัทฯ ก็ฆ่าเวลาระหว่างตามหานักร้องมาเข้าสังกัดด้วยการอัดแต่เสียงดนตรีไว้ก่อน ซึ่งผิดกฎของ ‘สหภาพ’ ที่กำหนดไว้ว่าเมื่อไรที่อัดเพลงจะต้องมีเสียงนักร้องด้วย (นอกจากตั้งใจทำเพลงบรรเลงออกขายจริง ๆ)
วันหนึ่ง จนท.ของ สหภาพ ฯ ก็เข้ามาตรวจโดยไม่บอกกล่าวในขณะที่ บ. กำลังอัดเพลงต้นแบบโดยปราศจากนักร้อง ทุกคนตระหนกกลัวโดนปรับ BG จึงตะโกนว่าหาใครซักคนมาถือไมค์โดยด่วน แล้วก็มีหญิงสาวพุ่งเข้ามาทำหน้าที่นี้ทันที วินาทีนั้นเปลี่ยนอาชีพของ MR ไปอย่างสิ้นเชิง
เกร็ดต่อมาเกี่ยวกับนักร้องที่นักฟังเพลงฝรั่งบ้านเรารู้จักดีเหมือนเพื่อนสนิท Stevie Wonder ผู้มีความสามารถรอบตัว สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลายตั้งแต่กลองแบบต่าง ๆ หรือหีบเพลงเป่า เปียโน ออร์แกน ฯลฯ เธอนำเพลงขึ้นถึงอันดับ 1 (Fingertips Part 2 - 1963) ขณะที่มีอายุเพียง 12 ขวบ เลยได้สมญานามว่า Little Stevie Wonder คำว่า Wonder เข้ามาแทนนามสกุลจริงคือ Morris ความดังของพ่อหนูอยู่ยงคงกระพันถึงบัดนี้ซึ่งต่อมาเมื่อโตขึ้นก็ตัดคำว่า Little ออก
เพลง Mickey’s Monkey ของนักร้อง Smokey Robinson และวง The Miracles ศิลปินคู่บุญของ BG เพลงนี้ผมไม่เคยได้ยินทางวิทยุมาก่อน วิทยุอาจเปิดแต่ไม่รู้ผมไปอยู่ที่ไหน มาได้ยินตอนโตแล้วครั้งแรกจากซี้คลาสสิคชาวอเมริกันของผม ตอนนั้นฟังแล้วเฉย ๆ จนกระทั่งได้มารู้เบื้องหลังของเพลงจากสารคดีนี้ว่า ฉบับอัดลงแผ่นเสียงใช้ backup จากการระดมศิลปินชั้นนำของ บ. เช่น The Miracles, Martha & Vandellas, The Temptations, The Marvelletes, Mary Wilson (1 ในสมาชิกของวง The Supremes) รู้แล้วต้องไปหาฉบับเต็ม ๆ มาฟังอีกที คราวนี้เพราะชะมัด แล้วก็สงสัยว่าทำไมตอนนั้นถึงรู้สึกเฉย ๆ หว่า
นี่คือ คณะ The Jackson 5 และหนูน้อย Michael Jackson มาทดสอบเสียงในปี 1968 ตอน BG เห็นครั้งแรกเขาอุทานว่า ‘What is that?’
หนึ่งในเพลงชุดแรก ๆ หลังจากได้รับการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินแล้ว
มีต่อ...