เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 300 เมื่อ 12 ม.ค. 18, 10:18
|
|
ตอบคุณนริศ ถ้างั้นวัดหน้าพระเมรุก็ต้องอยู่นอกกำแพงเมือง อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ พม่าจึงตั้งค่ายอยู่ที่นั่น พระเจ้าเอกทัศก็ส่องกล้องข้ามแม่น้ำไปเห็นค่ายพม่าได้ไงคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Koratian
|
ความคิดเห็นที่ 301 เมื่อ 12 ม.ค. 18, 10:40
|
|
เรียนท่านนริศ ท่านอาจารย์เพ็ญชมพู
ในความจริงนั้นกำแพงเมืองตรงพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ติดแม่น้ำลพบุรี พม่ามาอยู่ฝั่งวัดหน้าพระเมรุจะมองเห็นหลังคาพระที่นั่งฯ ตรง ๆ ไม่ใช่จากมุมเฉียงครับ จากวัดหน้าพระเมรุ พระที่นั่งสรรเพชญ พระที่นั่งวิหารสมเด็จ จะถูกพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์บังครับ การที่พม่าเอาปืนใหญ่ยิงพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์จนได้รับความเสียหายได้ เป็นลางไม่ดีของพระเจ้าเอกทัศน์โดยตรง
หม่อมน้อยเลี่ยงที่จะไม่ให้มีฉากไทยปล่อยให้พม่าเอาปืนมาจ่อยิงพระราชวัง โดยสามสหายแสดงบทบาทอะไรไม่ได้ จึงแต่งภูมิสถานเกาะอยุธยาใหม่ ให้มีแนวกำแพงและแม่น้ำเพิ่มขึ้นไปทางเหนือ วัดหน้าพระเมรุ กับพระราชวังจึงอยู่ใจกลางเมือง พม่าเข้ามาจ่อยิงพระราชวังไม่ได้ เพราะติดแนวแม่น้ำ กำแพงชั้นนอก และป้อมสามสหายที่สมมุติขึ้นใหม่ครับ จะเห็นว่าตามท้องเรื่องสามสหายก็พยายามประจำการอยู่ที่ป้อมเพื่อปกป้องเขตเศรษฐกิจพิเศษหลังป้อมอย่างเต็มที่
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 302 เมื่อ 12 ม.ค. 18, 10:49
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Koratian
|
ความคิดเห็นที่ 303 เมื่อ 12 ม.ค. 18, 11:29
|
|
อธิบายใหม่ครับ
ถ้าผมไปปักเสาธงไว้ 4 เสา 1= วัดหน้าพระเมรุ 2= พระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ 3= พระที่นั่งสรรเพชญ 4= พระที่นั่งวิหารสมเด็จ เป็นแนวเกือบตรงตามแผนที่
แล้วให้เพื่อนไปถ่ายรูปวิวเมืองอยุธยา เห็นแนวแม่น้ำและกำแพงเมืองขนานกับแนวเสาธงได้ตามรูป แม่น้ำกับกำแพงเมืองนี้ควรจะอยู่ตรงใหนของเกาะเมืองอยุธยาครับ
อย่างน้อยก็ต้องวางตัวตามแนวถนนอยุธยา-อู่ทอง ใช่ไหมครับ
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Koratian
|
ความคิดเห็นที่ 304 เมื่อ 12 ม.ค. 18, 11:49
|
|
เมื่อมีแนวแม่น้ำและกำแพงเมือง ป้อมสามสหายที่หม่อมน้อยสร้างขึ้นใหม่
จึงทำให้อลองพญายืนตะลึง เพราะสายลับพม่าไม่ได้รายงานไว้ก่อนว่ามีกำแพงและแม่น้ำขวางไว้ตรงนี้ด้วย สามสหาย มีป้อมปราการสมมุติขึ้นมาให้แสดงบทบาทป้องกันพระนคร ทำให้พม่าลากปืนใหญ่มาตั้งยิงที่จุด 1 ไม่ได้ พระราชวังจุดที่ 2 จึงปลอดภัย ไม่เสียหาย ไม่ต้องถ่ายทำฉากซ่อมหลังคาพระที่นั่งฯ
เรื่องศึกอลองพญาก็เอวังด้วยประการทั้งปวง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 305 เมื่อ 12 ม.ค. 18, 12:43
|
|
จึงทำให้อลองพญายืนตะลึง เพราะสายลับพม่าไม่ได้รายงานไว้ก่อนว่ามีกำแพงและแม่น้ำขวางไว้ตรงนี้ด้วย
ยังงี้นี่เอง สายลับพม่าทำงานแย่มากถึงมากที่สุด ยังงี้ต้องยืมเครื่องประหารของท่านเปามาให้อลองพญาใช้ โชคดีนะเนี่ย คุณคนโคราชไม่ได้นั่งยานเวลาของโดเรมอนกลับไป ไม่งั้นอลองพญาสืบข่าวได้ อาจเปลี่ยนจุดยิงทันเวลา ให้ต้องซ่อมฉากหลังคาพระที่นั่งเป็นการใหญ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 306 เมื่อ 12 ม.ค. 18, 19:08
|
|
ดูคลิปตอนที่ 8 และ 9 จบแล้วค่ะ
มีหลายฉากที่อลังการ รวมทั้งเสื้อผ้าตัวละครฝ่ายพม่าด้วย เป็นจุดแข็งของเรื่อง ส่วนจุดอ่อนก็คือบทละคร ที่ยังไงๆก็ไม่เข้ากันระหว่างพล็อตปัจจุบันและอดีต ยังไม่รวมพล็อตเรือนแม่บุษบาบรรณที่ผลุบๆโผล่ๆ ไม่เฉลยออกมาสักทีว่าบ้านของนางคือดินแดนหลงมิติ หรือว่าศาลชั่วคราวของสัมภเวสีกันแน่ ตัวละครบางตัวสามารถตัดออกไปได้โดยไม่เสียเนื้อเรื่อง อย่างเช่นคุณพวงแก้วที่ออกมากี่ฉากๆก็ไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่องสักที ในเมื่อเธอเป็นเจ้านายสตรีของอยุธยากลับชาติมาเกิด ทำไมถึงไม่มีบทของเธอในภาคอดีตก็ไม่เข้าใจ มีแต่บทของสินจัยซึ่งไม่มีภาคปัจจุบัน ที่น่าเสียดายคือ บทของคุณบุญมา นายสุดจินดาหรือกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท ที่ถูกตัดออกไปเสียเฉยๆ มีนายบุนนาคมาแทน ที่จริงสามสหายจะกลายเป็นสี่สหายก็ไม่น่าจะยาก เสียดาย 2 คือเจ้านายสตรีที่ควรจะมีบทบาทแทนสินจัย คือเจ้าฟ้าพินทวดี พระราชธิดาพระเจ้าบรมโกศ และเป็นพระพี่นางของพระเจ้าเอกทัศน์ เจ้านายพระองค์นี้ทรงรอดจากกรุงแตกมาได้ มีพระชนม์ยืนยาวมาจนถึงรัชกาลที่ 1 ทรงมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์โบราณราชประเพณีของเจ้านายสมัยอยุธยาให้สืบทอดมาจนถึงรัตนโกสินทร์ เช่นพระราชพิธีโสกันต์ เจ้าฟ้าพินทวดีมีพระชนม์เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ถ้าจะเติมบทเข้าไปให้ทรงรอบรู้ในโหราศาสตร์ หรือมีความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นที่เกรงพระทัยของพระเจ้าเอกทัศน์และพระเจ้าอุทุมพร ก็ทำได้ไม่ขัดเนื้อหา ดีกว่าไปเอาเจ้านายสตรีที่สิ้นพระชนม์ไปตั้งนมนานก่อนเปิดเรื่อง ให้มีชีวิตขึ้นมาเล่นบททั้งๆไม่มีจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 307 เมื่อ 13 ม.ค. 18, 10:09
|
|
พล็อตเรือนแม่บุษบาบรรณที่ผลุบๆโผล่ๆ ไม่เฉลยออกมาสักทีว่าบ้านของนางคือดินแดนหลงมิติ หรือว่าศาลชั่วคราวของสัมภเวสีกันแน่ สัมพันธ์กันแน่แท้ เรือนของแม่บุษบา กับเรือนมยุรา ใต้คาถาบันดาลดล
ผนึกเรือนเอาไว้ โดยใช้ไสยเวทมนตร์ เวลาล่วงผ่านพ้น เปิดอีกทีมีเรื่องราว(บุษบาบรรณ) เธอทั้งวาป ไปปรากฎตัวให้นายวายุ อดีตเจ้าฟ้าสุทัศน์ฯ เห็นที่หอประชุมคุรุสภา และอีกหลายๆครั้ง ถอดจิตออกจากร่าง เป็นแนวทางอธิบาย เรื่องราวประหลาดหลาย อาจคลี่คลายอีกไม่นาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 308 เมื่อ 13 ม.ค. 18, 11:24
|
|
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องอธิบายซ้ำอีกทีว่า เจ้าของเรื่องเรือนมยุราไม่อนุญาตให้ทำ แจ้งผู้บริหารของทรูแล้ว ตกลงกันแล้วว่าไม่ทำ แต่ไม่ทราบว่าเนื้อเรื่องบางส่วนของเรือนมยุรายังเข้าไปแทรกอยู่ในศรีอโยธยาได้อย่างไร โดยไม่มีการแก้สคริปต์
ใครเป็นคนรับผิดชอบ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anna
|
ความคิดเห็นที่ 309 เมื่อ 15 ม.ค. 18, 17:25
|
|
กรณีนี้ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือเปล่าคะ เจ้าของเรือนมยุราฟ้องได้ไหมคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 310 เมื่อ 15 ม.ค. 18, 17:46
|
|
ก็น่าคิดเหมือนกันค่ะ ในกรณีละเมิดลิขสิทธิ์ ฟ้องกรมทรัพย์สินทางปัญญาค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Naris
|
ความคิดเห็นที่ 311 เมื่อ 16 ม.ค. 18, 14:10
|
|
ผมไม่แม่นเรื่องกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเสียด้วยสิครับ จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คงไม่ถนัดครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 312 เมื่อ 16 ม.ค. 18, 18:15
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 313 เมื่อ 16 ม.ค. 18, 18:15
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 314 เมื่อ 16 ม.ค. 18, 18:33
|
|
เพลงไทยเดิมที่แม่ลูกจันทน์ (หรือชื่ออะไรก็ตาม) ขับกล่อมพิมานในตอนนี้ คือเพลง "นกจาก" เนื้อร้องมาจากพระอภัยมณี ตอนพระอภัยเป่าปี่สะกดทัพนางละเวง สุนทรภู่แต่งขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3
"พระโหยหวนครวญเพลงวังเวงจิต ให้คนคิดถึงถิ่นถวิลหวัง ว่าจากเรือนเหมือนนกที่จากรัง อยู่ข้างหลังก็จะแลชะแง้คอยเอย ถึงยามค่ำย่ำฆ้องจะร้องไห้ ร่ำพิไรรัญจวนหวนละห้อย เมื่อยามดึกดาวก็เคลื่อนเดือนก็คล้อย น้ำค้างย้อยเย็นฉ่ำที่อัมพร"
ในสมัยอยุธยาตอนปลาย กวีเอกของเรายังไม่เกิด แต่ในเรือนแม่บุษบา บ่าวรู้จักเพลงนี้ดี เดาว่าเจ้าของเรือน นอกจากจะล่องหนไปค้นหนังสือประวัติศาสตร์สมัยธนบุรี ที่หอสมุดแห่งชาติแล้ว คงจะถอดจิตพาบ่าวไปฟังมโหรีเพลงไทยเดิม ในโครงการดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อยู่บ้างเป็นแน่ ฤๅมิฉะนั้น นางก็พ่วงไวไฟจากบ้านใกล้ๆ เปิดยูทูปฟังเพลงเป็นประจำ
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|