งานเขียนเรื่องต่อมาที่กล่าวถึงวีรกรรมของคุณหญิงโมคือ "สยามสงครามว่าด้วยกองทัพกรุงสยามทำศึกสงครามกับลาวเวียงจันทน์ เป็นมหายุทธการ จ.ศ. ๑๑๘๗ (พ.ศ. ๒๓๖๘)" เป็นหนังสือที่พระยาพิทักษ์เทพธานีคัดลอกมาจากฉบับของมองซิเออร์ฮาดูวิน กงสุลฝรั่งเศส เมื่อ ร.ศ. ๑๑๔ (พ.ศ. ๒๔๓๘) แต่นำมาถวายฯ เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ สมัยรัชกาลที่ ๖ ..........
งานเขียนเรื่องนี้ไม่ได้กล่าวถึงทั้งพระยาปลัดและคุณหญิงโมว่าได้รับความดีความชอบแต่อย่างใด ทั้งที่ได้กล่าวถึงบทบาทของทั้งสองท่านนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม งานเขียนนี้จะเน้นบทบาทของพระณรงค์สงครามมากกว่า เพราะเป็นทั้งผู้วางแผนการต่าง ๆ และผู้นำการรบด้วย ซึ่งทำให้ดูสมจริงที่จะได้รับความดีความชอบครั้งนี้ ในส่วนของวีรกรรมของคุณหญิงโม งานเขียนนี้ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน ดังที่กล่าวถึงบทบาทของคุณหญิงโมไว้ทุกครั้งเมื่อมีการสู้รบกับลาว
(ยังมีต่อ)
ต่อจากตอนที่แล้ว
คุณสายพินชี้ให้เห็นว่ามีงานเขียนอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีข้อความเดียวกับงานเขียนข้างบนคือ งานเขียนของ ก.ศ.ร. กุหลาบ เรื่อง "อานามสยามยุทธ" ในสยามประเภทสุนทโรวาทพิเศษ ซึ่งเริ่มพิมพ์ครั้งแรกสำหรับเรื่องนี้เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๐ (พ.ศ. ๒๔๔๔) และ "อานามสยามยุทธ" ที่พิมพ์เป็นเล่มเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔
งานเขียนเรื่องสยามสงครามฯ พระยาพิทักษ์เทพธานีอ้างว่าคัดลอกมาจากฉบับของมองซิเออร์ฮาดูวิน กงสุลฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๘ แต่นำมาถวายเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ ซึ่งมองซิเออร์ฮาดูวินนั้นเป็นรองกงสุลฝรั่งเศสที่กำกับดูแลจังหวัดน่านเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๘ (ร.ศ. ๑๑๔) ถ้าพระยาพิทักษ์เทพธานีคัดลอกมาจากฉบับของมองซิเออร์ฮาดูวินจริง ย่อมแสดงว่ามองซิเออร์ฮาดูวินอาจคัดลอกมาจากงานเขียนของผู้อื่นที่เขียนขึ้นก่อน พ.ศ. ๒๔๓๘ แล้ว ในขณะที่อานามสยามยุทธของ ก.ศ.ร. กุหลาบ อ้างว่าเรียบเรียงจากรายงานทัพญวน ๕๕ เล่ม ซึ่งเป็นสมุดไทยของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ทว่าไม่พบว่าหลักฐานที่ ก.ศ.ร. กุหลาบอ้างนั้นมีจริงหรือไม่ งานเขียนทั้งสองต้องมาจากต้นฉบับเดียวกัน เพราะมีข้อความสำนวนเดียวกัน แตกต่างกันเพียงตัวสะกดบางตัวที่ต่างกัน หรือการแทรกคำเข้าไปบ้างในฉบับของ ก.ศ.ร. กุหลาบ แต่การเพิ่มข้อความก็มีน้อยมาก จนแทบไม่เห็นความแตกต่าง
คุณสายพินให้ความเห็นว่า ผู้เขียนเรื่องที่เป็นต้นฉบับของงานเขียนทั้งสองคงต้องเคยอ่านทั้งพงศาวดารที่เป็นเอกสารหวงห้ามในหอหลวง ตลอดจนจดหมายเหตุในสมัยรัชกาลที่ ๓ ด้วย นอกจากนี้ผู้เขียนน่าจะรู้ถึงรายละเอียดของเหตุการณ์การสู้รบได้ดี ผู้เขียนอาจเป็นขุนนางผู้ใหญ่ที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ หรืออาจเป็นผู้ชอบคัดลอกเอกสารจากหอหลวงซึ่งเป็นมืออาชีพก็ได้ การเป็นผู้คัดลอกดูค่อนข้างจะมีน้ำหนัก เนื่องจากชื่อของกรมการเมืองหลาย ๆ คนที่ผู้เขียนมักเปลี่ยนแปลงให้แตกต่างไปจากพงศาวดาร
ไม่ว่าผู้เขียนจะเป็นใครก็ตาม สิ่งสำคัญที่ปรากฏก็คือ งานเขียนในส่วนนี้เป็นงานเขียนที่ให้ภาพการรับรู้แก่เรื่องนี้ได้ดี โดยจะพบงานเขียนที่ผลิตซ้ำในระยะหลังอ้างอิงหรือคัดลอกงานเขียนเหล่านี้ไปตีพิมพ์