เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ขอประเดิมด้วย Lord Jim งานของ Joseph Conrad (ใครเคยไปรับประทานอาหารที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล คงจำห้องลอร์ด จิม ได้นะคะ มาจากชื่อหนังสือเรื่องนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 20 ก.ย. 25, 09:52
|
|
เริ่มด้วยโจเซฟ คอนราด (Joseph Conrad) ฟังชื่อเหมือนเป็นคนอังกฤษ แต่ความจริงมีเชื้อสายโปแลนด์ เขาเกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 1857 ที่เมืองเบอร์ดีชิฟ (Berdychiv) ในยูเครน (ขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย) ชื่อเดิมคือ โฆเซ็ฟ เทโอโดร์ คอนราด คอแรนโควสกี (Józef Teodor Konrad Korzeniowski) พ่อแม่ของเขาเป็นนักชาตินิยมโปแลนด์ ครอบครัวจึงถูกทางการรัสเซียเนรเทศ ทำให้คอนรอดเติบโตท่ามกลางความลำบากยากจน พอเป็นหนุ่ม เมื่อก็เริ่มอาชีพลูกเรือ ออกเดินทางทางทะเลไปกับเรือสินค้า ไต่เต้าขึ้นเป็นลำดับจนเป็นกัปตันเดินเรือ ชีวิตและประสบการณ์ทางทะเลกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการเขียนนิยาย ผลงานของคอนราดมักเน้นจิตใจมนุษย์ที่ซับซ้อนทั้งด้านศีลธรรมจรรยา และความขัดแย้งภายใน เช่นเรื่อง Heart of Darkness ซึ่งเป็นผลงานโดดเด่นชิ้นหนึ่งในวงวรรณกรรมอังกฤษ ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่อง Apocalypse Now ความสามารถทางภาษาของคอนราด ซึ่งเป็นจุดเด่นของผู้ยึดอาชีพนักเขียน คือแม้ภาษาอังกฤษจะไม่ใช่ภาษาแม่ แต่เขาก็สามารถเขียนได้อย่างลึกซึ้งและงดงาม ไม่แพ้ชาวอังกฤษเจ้าของภาษา เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 1924 ที่ประเทศอังกฤษ อายุ 67 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 20 ก.ย. 25, 10:14
|
|
มาเริ่มกันที่ Lord Jim ที่มาของชื่อห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติในโรงแรมโอเรียนเต็ล(หรือแมนดาริน โอเรียนเต็ลในปัจจุบัน) ตั้งเป็นเกียรติแก่โจเซฟ คอนราดผู้เคยมาพักในปี 2431) ตัวเอกของเรื่องนี้ คือจิม (Jim) ชายหนุ่มชาวอังกฤษ รูปหล่อ เขามีความฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็น “วีรบุรุษ” เพราะโตมากับนิยายผจญภัย จึงใฝ่ฝันว่าจะได้แสดงวีรกรรมในสถานการณ์อันตราย เมื่อโตเป็นหนุ่ม จิมได้งานในบริษัทเดินเรือ เป็นเจ้าหน้าที่บนเรือพาณิชย์ชื่อว่า Patna เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อเรือบรรทุกผู้โดยสารเป็นผู้แสวงบุญชาวมุสลิมกว่า 800 คน เดินทางไปยังนครเมกกะ วันหนึ่ง ขณะเรือแล่นอยู่กลางทะเล ก็เกิดชนเข้ากับสิ่งกีดขวางอย่างแรง จนโครงสร้างของเรือเสียหายหนัก ทำท่าจะจมมิจมแหล่ จิมและเจ้าหน้าที่ผิวขาวคนอื่นๆ เข้าใจว่าเรืออับปางแน่ ไม่มีทางรอด ด้วยความตื่นตระหนกบวกรักตัวกลัวตาย จิมกับนายเรือคนอื่นๆก็หนีลงเรือเล็ก ทิ้งผู้โดยสารทั้งหมดไว้เบื้องหลัง แต่…โชคชะตาเล่นตลกร้าย เรือ Patna ทั้งที่ทำท่าจะจมมิจมแหล่ ก็ไม่ยักจม กลับประคองตัวเอาไว้ได้จนวันรุ่งขึ้น มีเรือผ่านมาช่วยผู้โดยสารรอดไปได้ทั้งหมด ความจริงจึงถูกเปิดเผย นำคดีขึ้นสูู่ศาล ในฐานะเจ้าหน้าที่เรือซึ่งมีกฎเกณฑ์เข้างวดบังคับ มิให้ทิ้งหน้าที่หนีภัย (เราคงเห็นในหนังหลายเรื่องว่ากัปตันเรือจะไม่ยอมหนี ถ้าเกิดเรือล่ม แต่จะจมไปพร้อมกับเรือ) จิมจึงถูกพิจารณาคดี ตัดสินโทษถูกเพิกถอนใบอนุญาตเดินเรือ ชื่อเสียงของเขาพังยับเยิน ไม่มีอนาคตทางอาชีพนี้อีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
superboy
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 21 ก.ย. 25, 10:46
|
|
มาจองที่นั่งครับอาจารย์ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 21 ก.ย. 25, 12:44
|
|
เปิดภาพพระเอก Jim ผู้ฝันไว้วัยไม่เดียงสาว่าจะเป็นฮีโร เติบโตขึ้นมาเพื่อจะได้พบความจริงว่าไม่ใช่ เมื่อตัวเองไม่ผ่านการพิสูจน์ยามต้องเผชิญสถานการณ์วิกฤต เรื่องดูจะออกแนว ความผิดพลาดพลั้งครั้งอดีต การกอบกู้ฟื้นคืนตน การแก้ไขและชดใช้ในอนาคต (ท่านโจจะจัดการชดใช้ให้ยุติธรรมหรือไม่,อย่างไร)
เวอร์ชั่นหนังนำแสดงโดย Peter O'Toole พระเอกจาก Lawrence of Arabia ให้ลุคเหมาะสมกับบทพระเอกฮีโรมีปม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 22 ก.ย. 25, 11:22
|
|
มาต่อเรื่อง Lord Jim ที่ค้างไว้ค่ะ ดูซิว่า Joseph Conrad จะใจดีกับความคาดหวังของคุณหมอ SILA ไหม เมื่อโลกเดิมของจิมพังไม่เหลือชิ้นดีแล้ว พระเอกของเราก็ใช้ชีวิตเร่ร่อนในดินแดนตะวันออกของยุโรป คือในมหาสมุทรแปซิฟิก พยายามล้างมลทินในใจ หางานทำใหม่ สุดท้ายไปอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลที่ชื่อว่า Patusan ลืมบอกไปว่าเรื่อง Lord Jim เล่าผ่านสายตาของชาวเรือคนหนึ่งชื่อมาร์โลว์ ซึ่งมาผูกมิตรกับจิมในตอนนี้ จิมเล่าเรื่องราวของเขาให้เขาฟัง มาร์โลว์เกิดความเห็นอกเห็นใจ ประกอบกับรู้สึกว่ามีหัวอกคล้ายๆกัน ก็ช่วยเขาหางานทำหลายอย่าง ในที่สุด มาร์โลว์ก็พาจิมไปประจำการที่ Patusan ในตอนแรก จิมถูกโจรในพื้นที่จับตัวไป แต่หาทางหนีรอดไปได้ ในเมื่อจิมสู้และปราบโจรท้องถิ่นได้สำเร็จ เขาก็กลายเป็นวีรบุรุษในสายตาชาวบ้าน ชะตากรรมเริ่มดีขึ้นเมื่อเขาพบสาวน้อยคนสวยลูกครึ่งพื้นเมืองชื่อจูเวล และตกหลุมรักเธอ เธอเป็นลูกเลี้ยงของคอร์นีเลียส ผู้จัดการสถานีการค้าคนก่อน ซึ่งเป็นคนใหญ่โตในท้องถิ่น จิมได้รับการยอมรับนับถืออย่างสูงจากชาวบ้าน ชาวเมืองต่างไว้วางใจ พึ่งพาเขาในการบังคับใช้ความยุติธรรม เวลามีคดีขัดแย้งกัน ถึงกับเรียกเขาว่า Lord Jim คำนี้ ถ้าหากว่าเมือง Patusan เป็นชาวเมืองไคฟงที่มีเจ้าเมืองชื่อเปาบุ้นจ้ิ้น จิมก็คงจะได้รับชื่อใหม่ว่า "ใต้เท้าจิม" อย่างแน่นอน มาดูว่า ใต้เท้าจิมกอบกู้ชื่อเสียงเกียรติยศกลับมาได้ แล้วจะจบแฮปปี้เอนดิ้งได้หรือยัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 22 ก.ย. 25, 12:27
|
|
ลอร์ด จิมได้รับการยกย่องจากชาวพื้นเมือง คล้ายกับตัวละคร Kurtz ใน The Heart of Darkness ที่ เปรียบเป็นเทพเจ้าของชนพื้นเมืองในแอฟริกา และ มาร์โลว คนเดียวกันนี้, ในเรื่อง Heart of Darkness ไม่เป็นเพียงผู้เล่าแต่ยังเป็นตัวละครเอก
ภาพจากหนังปี 1993
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 22 ก.ย. 25, 12:54
|
|
วันหนึ่ง โจรสลัดชื่อ Gentleman Brown ล่องเรือมาถึงหมู่บ้าน พร้อมกับลูกน้อง เพื่อหาเสบียงเพ่ิมเติม เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างชาวบ้านกับโจร บราวน์ถอยไปหลบซ่อนตัวอยู่บนเนินเขา คอร์เนเลียสริษยาความสำเร็จของจิม จึงแอบไปพบกับบราวน์ เพื่อยืมมามาวางแผนร้ายร่วมกัน จิมไม่รู้เรื่องแผนการร้ายนี้ เพื่อให้การสู้รบยุติลงอย่างสันติ ไม่เปลืองเลือดเนื้อชาวบ้าน จึงตกลงปล่อยให้บราวน์ออกจากพื้นที่อย่างสงบ แต่คอร์เนเลียสกลับพาบราวน์ไปตามลำน้ำอีกสายหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่ค่ายของเดน วาริส บุตรชายของโดรามิน พันธมิตรคนสนิทที่สุดของจิม บราวน์หักหลังสัญญากับจิม เขาพาลูกน้องซุ่มโจมตีค่ายจนเดน วาริสเสียชีวิต จิมตระหนักว่าเขาพ่ายแพ้เล่ห์เหลี่ยมของโจรสลัด ทำให้ชีวิตล้มเหลวลงอีกครั้ง หลังจากครั้งแรกบนเรือ Patna แม้ว่าจูเอลวิงวอนให้จิมหาทางออกด้านอ่ื่น เขาก็เพิกเฉยต่อเธอ แต่ตัดสินใจเดินทางไปยังที่พักของโดรามิน ผู้กำลังโศกเศร้าที่เสียลูกชายไปเพราะความประมาทพลาดพลั้งของจิมเอง คำสุดท้ายของจิมคือ ให้โดรามินยิงเขาได้เลย เป็นทางเดียวที่เขาจะกอบกู้เกียรติยศคืนมา จิมเสียชีวิต แต่ไม่เสียศักดิ์ศรีของตัวเองดังเช่นครั้งแรก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 22 ก.ย. 25, 13:08
|
|
จุดมุ่งหมายของคอนราดที่เขียนเรื่องนี้ • Lord Jim เป็นเรื่องของคนที่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ แล้วพยายามใช้ทั้งชีวิตเพื่อแก้ไขความผิดพลาดของตน • คอนราดต้องการการสำรวจจิตใจเบื้องลึกของมนุษย์ จิมก็เช่นเดียวกับมนุษย์ทั่วๆไป เริ่มต้นด้วยความฝันที่จะมีชีวิตดีงาม มีศักดิ์ศรี แต่พอเผชิญภาวะวิกฤตเข้าจริงๆ ก็กลับทำไม่ได้ • จิมไม่ใช่คนเลว… แต่เป็น “คนที่เคยล้ม แล้วพยายามลุกขึ้นอย่างมีเกียรติ” เมื่อเขาพบว่าเขาทำผิดพลาดอีกครั้ง หลงไว้ใจโจร จนเป็นเหตุให้คนดีต้องเดือดร้อน เขาก็ขอชดใช้ความผิดด้วยชีวิต เพื่อรักษาเกียรติยศศักดิ์ศรีของเขาเอาไว้ ไม่ยอมเสียไปอีก แม้ต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
suriyan2538
อสุรผัด

ตอบ: 2
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 22 ก.ย. 25, 17:33
|
|
ขอบคุณมากครับอาจารย์ อ่านเพลินมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ชอบอ่านหนังสือ ชอบเขียน ปัจจุบันดูแลเว็บ Blind Living เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคนตาบอดออกสู่สังคมไทย
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 23 ก.ย. 25, 08:59
|
|
ขอบคุณมากครับอาจารย์ อ่านเพลินมากครับ
ยินดีค่ะ ดิฉันใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษปนอยู่ในประโยคภาษาไทยด้วย ไม่ทราบว่าทำให้คุณอ่านยากขึ้นหรือเปล่าคะ ต่อไปจะพยายามใช้ภาษาไทยอย่างเดียวค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 23 ก.ย. 25, 09:15
|
|
มาเล่าต่อถึงโจเซฟ คอนราด "ลอร์ดจิม" น่าจะเป็นงานที่อ่านง่ายกว่าเรื่องอื่นๆของเขา โดยเฉพาะเรื่องเอกที่ชื่อ "หัวใจมืด" (The Heart of Darkness) หรือถ้าจะแปลจริงๆก็น่าจะเป็นว่า "ใจกลางความมืดแห่งจิตใจมนุษย์" เรื่องนี้อ่านยาก และดาร์กมากค่ะ แม้ว่าเป็นนวนิยายขนาดสั้นก็ตาม ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อค.ศ. 1899 ผู้เล่าเรื่องคือกลาสีเรือชื่อมาร์โลว์ ซึ่งเป็นคนเดียวกับผู้เล่าเรื่องลอร์ดจิม ในเรื่องนี้เขาผู้เดินทางไปแอฟริกา โดยได้รับภารกิจให้ขับเรือกลไฟขึ้นไปตามแม่น้ำคองโก เพื่อไปพบชายคนหนึ่งชื่อ เคิร์ตซ์ (Kurtz) พ่อค้างาช้างในทวีปแอฟริกา ตอนนั้นแอฟริกาตกเป็นอาณานิคมของประเทศในยุโรป 3 ประเทศคืออังกฤษ ฝรั่งเศสและดัทช์ หรือฮอลแลนด์ เป็นยุคที่สยามรอดพ้นมาได้อย่างหวุดหวิดท่ามกลางประเทศรอบๆตกเป็นอาณานิคมไปหมดแล้ว น่ะค่ะ จุดมุ่งหมายที่มหาอำนาจในยุโรปเที่ยวยึดประเทศอื่นๆที่มีกำลังน้อยกว่า ก็คือสูบทรัพยากรจากประเทศนั้นๆ มาเพิ่มพูนให้ตัวเอง แต่มีข้ออ้างสวยหรูว่า ไปสร้างความเจริญให้ประเทศที่ยังป่าเถื่อนล้าหลัง แนวคิดนี้ชาวบ้านร้านถิ่นอย่างมาร์โลว์เองก็เชื่อเช่นนั้น มาร์โลว์ออกเดินทางพร้อมความคาดหวังว่าจะได้พบอารยธรรมและความยิ่งใหญ่ของชาวยุโรปในแอฟริกา แต่สิ่งที่เขาพบคือความโหดร้าย การเอารัดเอาเปรียบ และการทำลายล้างของลัทธิล่าอาณานิคม ยิ่งเขาเข้าใกล้ "ใจกลางป่า" หรือ หัวใจแห่งความมืด เขาก็ยิ่งเห็นถึงความโหดร้ายของมนุษย์ เขาพบเคิร์ตซ์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นชายที่มีอุดมคติ กลับกลายเป็นผู้นำลัทธิแห่งความรุนแรง ปกครองคนท้องถิ่น ราวกับเป็นเทพเจ้าแห่งความบ้าคลั่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 23 ก.ย. 25, 14:58
|
|
นิยายที่เล่าเรื่องราวของตัวเอกผู้ได้ก่อความผิดพลั้งแล้วต้องชดใช้ อ่านแล้วหนีไม่พ้นการตัดสินโดยผู้อ่านว่า การลงโทษ(โดยคนแต่ง) ต่อตัวเอกนั้นยุติธรรมหรือไม่ (ในขณะที่ตัวร้ายก็ถูกพิจารณาเช่นกันว่าสาสมหรือไม่) คนเขียนพิพากษาด้วยความยุติธรรมทางกวีนิพนธ์ poetic (in)justice ถูกใจหรือขัดใจแค่ไหน ความผิดครั้งแรกของ จิม หนักหนาแม้ในที่สุดแล้วไม่ได้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง เขาพยายามกู้คืนฟื้นฟูตัวตน ตามฝันจนได้เป็น"ลอร์ด" แต่โชคเคราะห์นำพาโจรมาถึงถิ่นแล้วเขาหลงเล่ห์โจรสลัด(ที่ไร้สัจจะ) กลายเป็นความผิดพลาดที่ น่าเศร้าของฮีโรซึ่งเขาได้เลือกที่จะรักษาสัจจะยอมรับผิดด้วยการเสียชีพแต่ไม่เสียสัตย์เหมือนพวกโจร ไม่ได้อ่านวรรณกรรมระดับโลกอย่าง Crime and Punishment แต่ได้อ่านอีกเรื่องที่กระทบใจคนทั้งโลกเช่นกัน อย่าง Les Miserables - เหยื่ออธรรม (โครงเรื่องก็มีความคล้ายลอร์ด จิม) ชื่อเรื่องไทยสื่อความหมายถึงความอยุติธรรมที่มีต่อตัวเอก Jean Valjean (และตัวละครอื่นๆ ก็เป็นผู้ประสบความอยุติธรรม) จากการตัดสินคดีขโมยขนมปังทำให้ต้องติดคุกหลายปี แม้เมื่อออกมากลับตัวได้โอกาสก่อกรรมดี มีตำแหน่งสูงเป็นที่รักของชุมชน แต่ก็ยังถูกเจ้า(หน้าที่)กรรมนายเวรตามล่า(เพราะผิดที่ละเมิดกฎไม่ไปรายงานตัวผู้ต้องโทษ) และจบลงแบบโศกนาฏกรรมเช่นกัน ในวรรณกรรม มีความ(อ)ยุติธรรม สำหรับผู้กระทำผิด?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 41639
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 23 ก.ย. 25, 15:12
|
|
แต่ละเรื่องที่คุณหมอ SILA ยกมา เป็นหนังสือที่เคยถูกกำหนดให้อ่าน และอ่านด้วยความทุกข์ทรมานใจไม่แพ้ตัวเอกในเรื่อง เพราะไม่ชอบเรื่องที่ผู้เขียนกระหน่ำซ้ำเติมชะตากรรมของตัวละครที่ตัวเองสร้างมากับมือ อย่างไม่มีความปรานีใดๆ (แนวเรื่องแบบนี้เขาเรียกว่าธรรมชาตินิยม หรือ Naturalism) จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าสามารถเดินเข้าไปในหนังสือได้ จะปฏิวัติคนเขียนเสียให้เห็นดำเห็นแดงกัน ไม่ปล่อยให้กลั่นแกล้งตัวละครอยู่ฝ่ายเดียว อีกเรื่องที่รันทดไม่แพ้เหยื่ออธรรม (Les Miserables) คือ Tess of the d'Urbervilles (เทสส์ผู้บริสุทธิ์)ค่ะ ไม่สัญญาว่าจะเล่าเรื่องพวกนี้ แต่ถ้ามีรายการคุณขอมา ก็อาจจะเล่าค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 23 ก.ย. 25, 17:01
|
|
ทั้ง Tess และ Jude อ่านเรื่องราวแล้วรันทดสุดๆ จนสงสัยว่า Thomas Hardy ผู้ประพันธ์ต้องผ่านอะไรมาในชีวิตขนาดไหนจึงเขียนออกมาได้โหดร้ายขนาดนั้น 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|