รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว [2]

[เทาชมพู]

[เทาชมพู]

เพลงแห่งความหลัง ที่ลุงๆป้าๆ ตาๆยายๆ จำได้ดี

[เทาชมพู]

[เทาชมพู]

ขอเชิญท่านอื่นๆมาร่วมรำลึกค่ะ

[nathanielnong]

ขอเชิญท่านอื่นๆมาร่วมรำลึกค่ะ

ท่านนี้ขอผ่านครับ  ขณะที่รู้จักชื่อมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ แต่จำไม่ได้เลยว่าตอนเด็ก ๆ เคยได้ยินเพลงของเธอทางวิทยุบ้างรึเปล่า  แม้แต่เพลงยอดนิยม I leftฯ ก็มาได้ยินตอนโต  หรือจะเป็นเพราะเธอเป็น crooner ซึ่งไม่อยู่ในแนวก็ไม่รู้  เช็คจากปูมของ JW เธอออก singles มาเยอะมาก  มีอยู่เพลงนึงมาได้ยินตอนโตแล้วและไม่ใช่ที่เมืองไทย




แต่ที่จำได้ไม่ลืมคือ  TB ดังมากในปี 1994 ได้รางวัล Grammy สาขา Album of the year จากชุด Live on MTV Unplugged (รางวัลแจกในปี 1995) ที่ดังเพราะช่วงเวลานั้นไม่ใช่ยุคเพลงของเธอแล้ว  แต่ผลงานกลับแซงหน้าคู่แข่งแนวปัจจุบันเช่น rap บ้าง hip hop บ้างขึ้นไปคว้ารางวัลได้สำเร็จ

[nathanielnong]

ฟังเพลง Fly me to the moon ของ Tony Bennett แล้วนึกถึงอีกฉบับหนึ่งที่ได้เคยยินมาแต่เก่าก่อน  มาจากวงประสานเสียงชายล้วน
 
ในรายการ golden oldies  ดีเจเปิดเพลงแนวนี้เนือง ๆ ในตอนนั้นผมจำได้แต่เพลงกับเสียงร้อง  แล้วก็คิดว่าเป็นผลงานของศิลปินเดียวกัน  จนกระทั่งมาได้ปูมของ JW  ถึงมารู้ว่า  เฮ้ย... มี 2 วงนี่หว่า

นี่คือวงแรก

วง The Four Lads








เพลงดังที่สุดของพวกเขา  ผมเพิ่งมาเคยได้ยินตอนซื้อแผ่น CD



(หมายเหตุ – สมาชิกดั้งเดิมตายกันเกลี้ยงไปหมดแล้ว)

[nathanielnong]

แล้วก็มาถึงวงฝาแฝดชื่อ The Four Aces  ฟังเพลงของ 2 วงนี้แล้ว  ก็ควรอยู่หรอกที่จะคิดว่าเป็นผลงานของศิลปินเดียวกัน
 

จำได้แม่นเลยว่า  ดีเจเปิดเพลงนี้แล้วตามด้วยฉบับของ Caterina Valente  ผมหลงรักฉบับของ CV มากกว่า





อีกหนึ่งเพลงดังที่สุดของพวกเขา  ผมเพิ่งมาเคยได้ยินตอนซื้อแผ่น CD



(หมายเหตุ – สมาชิกดั้งเดิมตายกันเกลี้ยงไปแล้วเช่นกัน)

[nathanielnong]

Earth, Wind & Fire เป็นวงผิวสีที่เล่นเพลงหลากหลายแนว  แต่แนวที่ถูกใจดีเจบ้านเราคือแนว pop/jazz  นักร้องนำซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งด้วยคือ Maurice White  เพลงของวงฯ เข้ามาดังอย่างสม่ำเสมอตลอดยุค 70s



เพลงนี้กระหึ่มจริง ๆ



เพลงโรแมนติกที่เปิดบ่อยจนกลายเป็นเพลงโหล

(ใช่ปะ)


นำเสนอ

[nathanielnong]

The Emotions เป็นวง girl group ที่มีประวัติมายาวนาน (เพิ่งรู้…  แบบว่าอ่านจาก Wikiฯ น่ะ  ตอนนั้นสมาชิกวงหน้าตาเป็นอย่างไร  ยังไม่รู้เลย)  มีการเปลี่ยนคนเปลี่ยนแนวมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาประสบความสำเร็จในที่สุดกับเพลงดังเพลงนี้ที่กระหน่ำหูผมในปลายยุค 70s


เพลงเพราะแบบนี้ก็สมควรที่จะดังเสียที


จากเพลงดังนี้  วงฯ ก็กบดานไปชั่วขณะก่อนจะผงาดขึ้นมาอีกครั้งในอีก 2 ปีต่อมากับเพลงคู่  เกิดจาก 2 วงร้องคู่กัน  อีกวงคือ Earth, Wind & Fire  เพลงดังสนั่นทั้งทางวิทยุและในบาร์ disco




The Emotions (วง 3 พี่น้อง); Pamela Hutchinson (กลาง) ตายปี 2020 อายุ 61

[nathanielnong]

เมื่อสองวันก่อนพูดถึง Maurice White แล้วต้องตามด้วย Barry White  ถึงจะมี ‘last name’ เหมือนกันแต่มิได้เกี่ยวดองกันอย่างไร  นั่นเป็นเพราะชื่อ BW เป็นแค่ชื่อในวงการฯ เท่านั้น

ข้อมูลจาก Wikiฯ  บอกว่า BW เข้ามาในวงการฯ ตั้งแต่ยุค 60s  แต่มาดังกระหึ่มในยุค 70s  เธอเป็นศิลปินที่มีความสามารถหลากหลาย  เอกลักษณ์ของเธอคือตัวอ้วนเสียงทุ้มต่ำและแต่งตัวแบบ classic  เสียงแบบนี้ไม่น่าไปได้ดีแต่ก็ไปได้ดีกับเพลงแนว disco  

สองเพลงนี้เป็นขาประจำ  ได้ยินทุกครั้งที่ไปดิ้น



หมายเหตุ - 2 เพลงนี้ออกมาก่อนยุค disco ระบาดเสียอีก


ความสามารถของเธอในฐานะ producer  ส่งเพลงนี้กระจายไปทั่วรวมถึงเมืองไทย

(2.55 เสียงตอบมาทางปลายสายฯ คือเสียงของ BW  เสียงเอกลักษณ์แบบนี้กระจายอยู่ที่ไหนก็รู้ว่าคือใคร)


ส่วนความสามารถทางด้าน conductor ก็ฝากไว้กับผลงานอมตะอันดับ 1 billboard ที่มีคนซื้อลิขสิทธิ์ไปสอดแทรกอยู่ในงานประเภทต่าง ๆ  ที่พวกเราคุ้นเคยก็โฆษณาอดีตสายการบินยี่ห้อหนึ่ง

(เห็นท่า conductor แกว่ง 'ไม้เรียว' ทีไรอดสงสัยไม่ได้สักทีว่า  ไอ้ที่แกว่ง ๆ ไปมานี่มันให้ความสำคัญกับวงอย่างไร)

[nathanielnong]

วันนี้เก็บตกการตายของศิลปินเพลงที่ผมรู้จักดี 2 คน เพลงของพวกเขายังอยู่ในยุคของดีเจวิทยุ  ทั้งสองตายในวันเดียวกัน (Wikiฯ บอกมาน่ะ) คือ 26 ก.ค. 2023

คนแรกคือนักร้องหญิงจากประเทศ Ireland ชื่อ Sinead O’Connor (1966 – 2023) เธอมีเพลงดังมาก ๆ ในปี 1990  วิทยุต่างก็พร้อมใจกันเปิดเพลงนี้  ชื่อนี้คอนักฟังเพลงฝรั่งคงจำไม่ได้  แต่ถ้าได้ดู clip จะร้อง อ๋อ


Wikiฯ บอกว่า Billboard ยกย่องเพลงนี้เป็นเพลงอันดับ 1 ประจำปีนั้น


เพลงของเธอมาดังที่บ้านเราเพลงเดียว  รวมถึงที่อเมริกา เธอจึงนับเป็นศิลปินประเภท One hit wonder  อย่างไรก็ตามช่วงนั้นสื่อนำข่าวของเธอมาให้ผมอ่านเนือง ๆ  เป็นข่าวเกี่ยวกับความ ‘ปากกล้า’  Wikiฯ รวบรวมมาให้อ่านดังนี้

In 1999, O'Connor was ordained as a priest by the Irish Orthodox Catholic and Apostolic Church, an Independent Catholic sect that is not recognised by the Roman Catholic Church. She consistently spoke out on issues related to child abuse, human rights, racism, organised religion, and women's rights. Throughout her music career, she spoke about her spiritual journey, activism, socio-political views, as well as her trauma and mental health struggles. In 2017, O'Connor changed her name to Magda Davitt. After converting to Islam in 2018 she changed it to Shuhada' Sadaqat but continued to record and perform under her birth name.

[nathanielnong]

คนที่ 2 อายุมากกว่าและมีความเป็นมาแต่เก่าก่อนกว่า  ที่สำคัญคือตอนมีชีวิตอยู่ดังกว่า (ที่อเมริกา)  คือ Randy Meisner (1946 – 2023)  เธอเป็น 1 ในศิลปินผู้ร่วมก่อตั้งวง The Eagles  แต่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ตลอดรอดฝั่ง  อย่างไรก็ตามเมื่อ วงฯ ได้รับการเสนอชื่อเข้า Rock and Roll Hall of Fame  ชื่อของเธอก็ได้รับการจารึกพร้อมคนอื่น ๆ ด้วย  เมื่อ RM ลาออกจากวงฯ  คนที่เข้ามาแทนคือ Timothy B. Schmit ที่ส่งเพลง So much in love มาครองใจนักฟังเพลงฯ ชาวไทย

ปกติ singles ของวงฯ จะเป็นเสียงร้องของไม่ Glenn Frey ก็มือกลอง Don Henley  แต่ในปี 1975 วันหนึ่งวิทยุก็เปิด single ใหม่ของวงฯ  แต่เสียงร้องแปลกไป  ไม่ใช่เสียงที่ผมคุ้นหู  ตอนนั้นไม่มีแหล่งให้ค้น  รู้แค่ว่านี่แหละเพลงใหม่ของ 'อีเกิ้น'  singles ต่อ ๆ มาหลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงร้องแบบนี้อีกเลย  เพลง Take it to limit นี้จึงเด่นที่สุดในหูของผม  

จนกระทั่ง อตน. เจริญพันธุ์แล้วนั่นแหละ  ผมถึงได้รู้ว่าเจ้าของเสียงร้องของเพลงนี้คือ RM นั่นเอง  RM นับเป็นสมาชิกผู้เริ่มก่อตั้งวง ฯ คนที่ 2 ที่ตาย

[nathanielnong]

เมื่อวานเปิดเพลงของ Sinead O’Conner  ก็เลยมีควันหลง  ความจริงควันหลงนี้เขียนไว้นานแล้ว  อยู่ในคิว  แต่เหตุการณ์มันต่อเนื่องก็เลยลัดคิวขึ้นมา

เพลง Nothing compares 2 U ผู้แต่งคือศิลปินมากความสามารถชาวอเมริกันนามว่า  Prince   บางคนคงรู้จัก  อย่างน้อยก็จากภาพการแต่งกายที่หรูหราของเธอตามหน้านิตยสารแนวบันเทิง
  
P เข้ามาในวงการเพลงในปลายยุค 70s  เพลงของเธอจึงเริ่มดังในยุค 80s  อันเป็นช่วงเวลาที่ผีเพลงกำลังจะลาจากการสิงสู่ในร่างผมแล้ว  อย่างไรก็ตามยุคนั้นวิทยุยังครองตำแหน่งสื่อการจายเสียงเพลงแบบฟรีอยู่ผมจึงได้ยินเพลงของเธอตามคลื่นต่าง ๆ อยู่เนือง ๆ  เพลงแรกที่จำได้คือ



มาถึง 2 เพลงนี้ที่ทำให้สถานภาพศิลปินของเธอขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่คนหนึ่งของวงการเพลง





ความเพราะของเพลงฉุดยอดขายของ album  ขึ้นไปค้างอยู่บนอันดับ 1 ของตาราง Billboard และค้างอยู่นานร่วม 24 อาทิตย์  แถมยังมีคนนำ concept ของ album ไปสร้างเป็นหนังที่ออกมาดังด้วย  ปรากฏการณ์เหล่านี้ลากผมออกไปซื้อแผ่นเสียงของเธอมาฟังจนได้ซึ่งก็ฟังได้แค่ 2 เพลงนั้น  แนวเพลงของเธอล้ำหน้าแนวที่ผมชอบไปเยอะ  แม้จะไม่ถูกหูแต่ผมก็ไม่เสียดายเงินซื้อ  เพราะความที่มันดังมาก  ผมกลับภูมิใจเสียอีกที่ได้ครอบครองแผ่นฯ นี้ (แล้วในที่สุดก็ขายไป) คนเรามีความบ้าหลายแบบ

ตัวอย่างหนัง



นำเสนอตัวอย่าง music video ที่เลิศ ๆ









(ภาพแผ่นเสียงจากคลังอากู๋ )

[nathanielnong]

วง The Manhattan Transfer เป็นวงร้องประสานเสียง มีศูนย์กลางอยู่ที่ Tim Houser  (หัวล้าน ... 1941 – 2014)

ข้อมูลบอกว่าวงนี้มีประวัติมายาวนานร้องเพลงหลากหลายแนว  แต่มาดังสนั่นกับแนว jazz ในต้นยุค 80s   เพลงนี้เป็นขาประจำในรายการของ Nite Spot  ผมรู้จักชื่อวงฯ นี้เป็นครั้งแรกก็จากเพลงนี้

นี่เป็นเพลงนำมาร้องใหม่  ศิลปินต้นฉบับชื่อ The Ad Libs อยู่ในยุค 60s  วิทยุบ้านเราก็เปิดประปราย

นี่เป็นเพลงเดียวที่ผมเคยได้ยิน  รายการ Nite Spot คงเอาเพลงอื่นมาเปิดอีก  และผมคงไม่ชอบเลยจำไม่ได้

นำเสนออีก 1 เพลง  



2 เพลงนี้ได้รางวัล Grammy ทั้งคู่  สาขา pop และสาขา jazz  สร้างสถิติให้สถาบัน Grammy และกับวงนี้  ปีนั้นเป็นปีทอง  ความดังล่องลอยมาถึงหูผมทางหนังสือ Starpics  หน้าปกแผ่นเสียงที่เห็นนี่วางอยู่แทบทุกร้านฯ  วงนี้ยังคว้ารางวัล Grammy ในปีอื่น ๆ อีก  รวมเป็น 11 รางวัล

เป็นต้นว่าจากเพลงนี้

[nathanielnong]

Bob Crewe คนนี้คนไทยรวมถึงผมไม่รู้จัก (ชื่อ)  อ่านจาก wikiฯ  เธอเป็นมนุษย์เก่งสารพัด... an American songwriter, dancer, singer, manager, and record producer เคยร่วมงานกับศิลปินมากหลายจาระไนไม่หมด  ตั้งแต่ยุค 60s ขึ้นมาจนถึงช่วงสุดท้ายของตัวเอง  ประมาณว่าอ่านแล้ว...  หูยยย... คนหรือหุ่นยนต์ตั้งโปรแกรมวะเนี่ย

ย้อนขึ้นไปเมื่อกี้ว่าพวกเรารวมถึงผมไม่รู้จักเธอ  แต่ถ้าฟังเพลงนี้แล้วจะร้อง อ๋อ... (รวมถึงผมด้วย)  มันดังออกมาทางวิทยุตั้งนานแล้ว



ฉบับของเธอไม่ใช่ต้นฉบับ  ต้นฉบับมาจากนี่... 



อย่างไรก็ตามปีนั้น (1967) หลังจาก BC ออก single เพลงนี้  อีกไม่กี่เดือน Andy Williams ก็ออกฉบับเสียงร้องแต่ไปได้ไม่ดีในอันดับเพลง  ผมว่าบ้านเราน่าคุ้นเคยกับฉบับของ AW มากกว่า BC นะ



ในปี 1999 ก็มีคนนำฉบับของ AW มาใส่ในโฆษณารถ fiat