เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14 15 ... 32
  พิมพ์  
อ่าน: 66167 รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว [2]
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 180  เมื่อ 18 ส.ค. 23, 14:28

ผมสังเกตว่าสมัยเด็ก ๆ ผมได้ยินเพลงในยุคปลาย 60s น้อยกว่าเพลงในยุคต้น 60s  สำหรับเพลงในยุคต้น 60s  ผมได้ฟังจากรายการ golden oldies เป็นประจำ  คือมีรายการประจำที่เล่นเพลงพวกนี้  แล้วยังไม่นับรายการอื่น ๆ ในคลื่นอื่นประปราย  แต่เท่าที่จำได้รายการที่เปิดเพลงปลาย 60s  เป็นประจำนี่ไม่มีเลย  ตอนนั้นมีแต่รายการเปิดเพลงต้น 60s แล้วก็ข้ามไปยุคปัจจุบันของตอนนั้นคือต้น 70s  

ผมมาได้ยินเพลงปลาย 60s (ทั้งจากฝั่งอเมริกาและยุโรป) อย่างเป็นล่ำเป็นสันเอาตอนโตแล้วจากรายการหนึ่งของคลื่น soft 105 ที่ดำเนินการโดยต่างชาติอย่างที่เคยเล่าไปแล้ว  รายการนี้เติมช่องว่างให้กับฐานการฟังเพลงของผม  เนื่องจากผมพบรายการนี้เอาในช่วงหลังของยุค 2530s  (ไม่รู้ว่าเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไร) ซึ่งนักฟังเพลงฝรั่งร่วมรุ่นกับผมก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้วแล้วคงมุ่งความสนใจไปที่หน้าที่การงานหรือพักผ่อนในคลับบาร์ ฯลฯ มากกว่ามานั่งฟังเพลงจากรายการที่ว่าเหมือนผม  ก็ไม่ประหลาดใจอะไรที่เพลงในยุคปลาย 60s ที่ผมนำเสนอนั้นส่วนใหญ่จะไม่คุ้นหูกันเลย

ผมจะขอย้ำ (อยู่เนือง ๆ)  ว่าเพลงในยุคปลาย 60s ที่นำเสนอนี้ได้รับมาจากรายการในคลื่น soft 105 เกือบทั้งนั้น

นี่ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ผมติดใจ





และนี่คืออีกหนึ่งวง one hit wonder จากอังกฤษ  


ถ้าไม่มี youtube ผมก็จะไม่รู้หรอกว่าวงนี้เก๋ที่มีมือกลองเป็นผู้หญิง  และถ้าไม่มี Wikiฯ ก็จะไม่รู้ว่าในยุคนั้นคนยกย่องในความสามารถของเธอมาก

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 181  เมื่อ 19 ส.ค. 23, 14:28

วง Queen คือใครมาจากไหน  นักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุครู้จักกันดี  ไม่ต้องพล่ามมากมาย  ผมไม่ใช่แฟนของวงนี้  แต่ความที่หูติดกับลำโพงวิทยุก็สังเกตได้ว่า  เพลงของพวกเขาเข้ามาจับหูนักฟังเพลงฯ ก็จากเพลงนี้



เพลงข้างบนนี้ครองหน้าปัดวิทยุทุกคลื่นเพลงฝรั่งอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง  ไม่เคยชอบเพลงของวงนี้ก็ต้องชอบจนได้  จากนั้นเพลงของพวกเขาก็เป็นขวัญใจของเหล่าดีเจชาวไทย (และพี่ชายผม)



แล้วเพลงนี้ก็เข้ามาอยู่ในใจผม



แต่เพลงนี้ทำเอาเลี่ยนไปเลยยยย



เป็นวงตำนานวงหนึ่งของโลกดนตรี  ชีวิตของพวกเขาเพิ่งมีคนเอามาสร้างเป็นหนังซึ่งดังมากได้ทั้งเงินและรางวัล



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 182  เมื่อ 20 ส.ค. 23, 14:37

ความดังของวงคู่ The Righteous Brothers  จัดอยู่ในช่วงหลังของยุค 60s ที่บ้านเขาความดังของพวกเขาเป็นตำนาน  ที่บ้านเราความดังของพวกเขาก็ไม่ใช่ย่อย  ดีเจบ้านเราเปิดเพลงของพวกเขาเป็นประจำ






และเพลงนี้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขามากที่สุด



ในยุคนั้นคือ ปี 1965 มันเป็นเพลงเพราะเพลงหนึ่ง  แล้วก็จบไป  แต่มันกลับมาฟื้นชีพเป็นเพลงดังกระหึ่มโลกเมื่อหนัง Ghost ออกฉายในปี 1990



Soundtrack เพลงนี้เป็นการนำมาร้องใหม่  มันไต่อันดับได้ดีและได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว  ในขณะเดียวกันในปีนั้นต้นสังกัดของวงในยุค 60s  ก็นำเพลงฉบับเก่ามาออกตลาดแข่ง  แล้วก็ขายได้ดีไม่แพ้กัน  วงนี้เลยสร้างสถิติเป็นศิลปินแรกที่มีเพลงเดียวกันแต่ต่างฉบับกันไต่อยู่ในอันดับเพลงพร้อม ๆ กัน  และดังทั้งคู่

นี่ถ้าไม่มี Wikiฯ ผมคงแยกไม่ออก  มันคล้ายกันมาก

นี่เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมได้ฟังจากวิทยุ



นำเสนอ





บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 183  เมื่อ 21 ส.ค. 23, 14:32

ฟังเสียงร้องของวง The Righteous Brothers แล้วทำให้นึกถึงอีกวงหนึ่งในยุคเดียวกันที่นอกจากน้ำเสียงแล้วแนวเพลงก็คล้ายกัน  คือวง The Walker Brothers  ถ้าไม่มีปูมเพลงของ Joel Whitburn  ผมจะไม่รู้เลยว่าวงนี้เป็นวงอเมริกัน  แต่ย้ายไปขุดทองที่อังกฤษตั้งแต่เป็นวัยรุ่น  แล้วอยู่ที่นั่นมาตลอดจนกลายเป็นคนอังกฤษ  ผลงานของพวกเขาจึงดังที่อังกฤษมากกว่า  ผมก็เลยคิดว่าเป็นศิลปินจากอังกฤษ
 
นี่เป็นเพลงดังทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแล้วข้ามมาดังในบ้านเราด้วย  ได้ยินมาตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ มันเป็นเพลงเดียวที่ผมได้ยินจากวิทยุ



จนกระทั่งข้อมูลข่าวสารทันสมัยและรวดเร็วขึ้น  ผมได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชื่อ Walker Brothers ว่าเข้าใจผิดมาตั้งแต่ต้น  คือนึกว่าเป็นพี่น้องจากสกุล Walker  เคยเห็นรูปขาวดำจาก นส. SP และ I.S. Song Hits มาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าหน้าตา 3 หนุ่มคล้ายคลึงกันแถมหล่อปานกันหมด  ยังเคยเพ้อเจ้อว่าถ้ามีพี่หล่อ ๆ แบบนี้คงน่าภูมิใจไม่หยอก

ความจริงแล้ว 3 คนนี้เป็นแค่เพื่อนสนิทกัน  แต่นึกสนุกอุปโลกน์ชื่อ Walker ขึ้นมาแล้วติ๊ต่างว่าเป็นพี่น้องกัน

เพลงที่นำเสนอข้างบนเป็นเพลงอันดับ 1 ที่อังกฤษ  วงนี้ยังมีเพลงอันดับ 1 จากฝั่งอังกฤษอีกซึ่งไม่เคยได้ยินทางวิทยุตอนเด็ก ๆ   มาได้ยินตอนโตแล้วแต่ยังทางวิทยุเช่นกันคือ soft 105



นำเสนอเพลงที่มาพบทีหลังแล้วถูกใจ







เพลงนี้ถูกใจที่สุดตอนพบนั้นมี clip ให้ดูและชัดด้วย  ผมยัง copy เก็บไว้เลย  ตอนนี้หายไปแล้ว



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 184  เมื่อ 22 ส.ค. 23, 14:28

ข่าวการตายของ Scott (Engel) Walker นักร้องนำของวง The Walker Brothers ดังมากในอังกฤษ  ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนอเมริกัน  แต่ที่อเมริกาลงข่าวน้อยมาก  ส่วนผมได้รับข่าวทาง yahoo










ดู MV ของเธอไปเรื่อย ๆ พบว่าตอนหนุ่ม ๆ เธอมีเอกลักษณ์  คือเท่สุดขีด  เมื่อบวกกับน้ำเสียงแบบ romantic แถมอ่านเรื่องราวอันยาวยืดและหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อว่าคนที่มีผลงานดังเพียงนิดหน่อยจะมีเรื่องราวให้คนเขียนถึงได้มากขนาดนี้  ขอบข่ายความสามารถของเธอกว้างขวางมาก  อ่านแล้วผมขออนุญาตหลงรักน้าก็อต (ตอนหนุ่ม ๆ) ครับ

‘…Walker was known for his emotive voice and his unorthodox stylistic path which took him from being a teen pop icon in the 1960s to an avant-garde musician in the 21st century. He was described by the BBC upon his death as "one of the most enigmatic and influential figures in rock history. Many artists have expressed their admiration for Walker or cited him as an influence, including David Bowie, Leonard Cohen, Radio Head และอื่น ๆ อีกมากมาย...’


(Soundtrack ชิงรางวัล Oscar จากหนังเรื่อง Les Parapluies de Cherbourg (The Umbrellas of Cherbourg) ปี 1967)


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 185  เมื่อ 23 ส.ค. 23, 14:31

ขอพูด (คือเขียน) อย่างอุบาทว์ว่า  หลังจากเช็คอายุแล้ว 'ใกล้' เข้าไปทุกที  เลยคอยจนกระทั่งฝันเป็นจริง  เพียงแต่ช้าไปนิดเลยไม่ทันเข้ากลุ่ม  ไม่เป็นไร

ข่าวเพิ่งเข้ามาเมื่อ 2 วันก่อน (แต่ติดพันเลยเลื่อนมาเป็นวันนี้) ว่า สมาชิกครึ่งหนึ่งของวงคู่ที่มีเพลงโด่งดังไปครึ่งค่อนโลกในยุคต้น 60s ชื่อ Paul & Paula ในที่สุดก็ออกเดินทางไปแล้ว
 
ผมมั่นใจว่าถ้าผมไม่รู้เรื่องก็แสดงว่าไม่มีนักฟังเพลงฝรั่งในบ้านเราคนไหนรู้เรื่องเช่นกัน  ในกรณีนี้ผมเพิ่งมารู้ว่าชื่อวง Paul & Paula นั้น  ไม่ได้เป็นชื่อจริงของสมาชิกวง  เป็นแค่ชื่ออุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อการค้า  โดยตั้งใจให้สอดคล้องกับชื่อตัวละครในเพลงดังของพวกเขา

Paul นั้นชื่อจริงคือ Ray Hildebrand (1940 – 18 Aug. 2023) ส่วน Paula นั้นความจริงเธอชื่อ Jill Jackson

เพลงดังของวงนี้คือ Hey, Paula  เป็นขาประจำของรายการ Golden Oldies บ้านเรา



นั่นเป็นเพลงฮิตเพลงเดียวของวงฯ  แต่สถานะของวงฯ ไม่อยู่ในข่าย one hit wonder เพราะยังมีอีกเพลงที่เข้า top 10  ผมไม่เคยได้ยินเพลงนี้



เหมือนเป็นลาง  ความดังของวงฯ ลดลงเรื่อย ๆ  ช่างคล้องกับเนื้อเพลงที่ออกต่อมาว่าความสัมพันธ์ของ ‘Paul & Paul’ นั้นเริ่มร้าวฉานลง



นำเสนออีกเพลง  วงนี้มีผลงานน้อยมากเพราะความนิยมลดลงเร็ว



Wikiฯ เล่าว่า 2 หนุ่มสาวนี้เป็นเพียงเพื่อนกัน  พบปะกันขณะกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย (สำหรับคนอเมริกันในยุคต้น 60s นับว่าเจ๋งไม่หยอกนะผมว่า)  หลังจากเพลง Hey, Paula ดังคับฟ้า  แต่อีก 2 – 3 singles ต่อมา  ความนิยมลดลงอย่างรวดเร็ว  RH ก็ลาออกจากวง แล้วกลับไปตั้งหน้าเรียนต่อจนจบปริญญาเนื่องจากมองเห็นแต่ทางตันในวงการเพลง

บั้นปลายเธอหันหน้ามาทางศาสนาฯ แล้วอัดเพลงเกี่ยวกับศาสนา


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 186  เมื่อ 24 ส.ค. 23, 14:23

ป้วนเปี้ยนอยู่ในยุค golden oldies ต่ออีกหน่อย  

Jimmy Jones… เพลงของนักร้องคนนี้เป็นขาประจำของรายการ golden oldies  ถ้าไม่เช่นนั้นผมคงจำไม่ได้แม่นยำ  2 เพลงนี้มักจะเปิดคู่กัน  มั่นใจว่านักฟังเพลงฯ ร่วมรุ่นทุกคนต้องจำได้


นักฟังเพลงฝรั่งยุคหลังคงคุ้น ๆ  เนื่องจากในปลายยุค 70s  นักร้อง James Taylor นำมาร้องใหม่โดยใช้ทำนองต่างออกไปแบบหน้ามือตัวเองเป็นหลังมือชาวบ้าน  กลายเป็นเพลง romantic ที่เปิดกันจนเลี่ยนไปเลย




พอเพลงต่อ ๆ มา (ข้อมูลจาก ปูมเพลงของ Joel Whitman) ท่าคนฟังจะเริ่มเบื่อกับความจำเจ  เพลงเหล่านี้เลยแป๊กในอันดับเพลง  อนาคตของ JJ ก็พลอยดับไปด้วย






บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 187  เมื่อ 25 ส.ค. 23, 14:28

ชื่อ Richie Valens นี้ดังพอประมาณสำหรับนักฟังเพลงฯ บ้านเรา  แต่ถ้าเป็นเพลงของเธอละก็ดังสุด ๆ ในรายการ golden oldies เธอเป็นตำนานหน้าหนึ่งของวงการเพลงที่บ้านเขาทั้ง ๆ ที่ตายตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20  ตายพร้อมนักร้องดัง ๆ อีก 2-3 คน  เรื่องราวของเหตุการณ์นี้นำไปสร้างเป็นหนัง เอ่ยถึงในสารคดี เนื้อเพลง ฯลฯ


(Clip จากในหนัง La Bamba  เล่าประวัติของเธอโดยเฉพาะ  เสียงร้องเพลงเป็นของวง Los Lobos)






และเพลงที่เปิดเป็นประจำในรายการ golden oldies





บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 188  เมื่อ 25 ส.ค. 23, 17:01

รู้จักทั้งเพลง La Bamba และ Donna แต่ไม่รู้เลยว่านักร้องอายุสั้นขนาดนี้   เพิ่งมารู้นี่ละค่ะ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 189  เมื่อ 26 ส.ค. 23, 14:20

Bill Haley เขียนเท่านี้  นักฟังเพลงฯ อาจทำหน้างง  ถ้าต่ออีกหน่อยว่า & the Comets ก็ยังคงงงอยู่แต่เปิดเพลงนี้ละก็ เย้...



Wikiฯ บอกว่าเพลงนี้ถือเป็น The first Rock and Roll record to top the Pop Charts in both the US and UK  ก่อนหน้า Elvis Presley 1 ปี  แต่พอ EP มาถึง  วงนี้ก็ดับทันทีเป็นเพราะภาพพจน์ของวงคือการนำเสนอทางรูปลักษณ์ล้าสมัยไปในทันที

นำเสนอเพลงฮิตอื่น ๆ  เพลงแรกนี้บ้านเราเอามาเปิดแน่นอน








บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 190  เมื่อ 27 ส.ค. 23, 14:10

Otis Redding  เป็นชื่อที่นักฟังเพลงฯ ไม่คุ้นหูเพราะพวกเราชอบแค่ ‘ฟัง’ เพลง  ไม่สนใจชื่อเสียงเรียงนามคนร้อง  ที่บ้านเขานั้นเธอดังขนาดนี้...

An American singer and songwriter. He is a great singer in the history of American popular music and a seminal artist in soul music and rhythm and blues. Nicknamed the "King of Soul", Redding's style of singing gained inspiration from the gospel music that preceded the genre. His singing style influenced many other soul artists of the 1960s...

OR เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 1967 ในขณะที่ความดังยังค้างอยู่บนยอด  เพลงข้างล่างนี้เป็นเพลงเดียวของเธอที่ได้ยินทางวิทยุ  แต่เพราะเกินบรรยาย  เพลงออกมาหลังจากเธอตายไปแล้ว



OR จัดเป็นศิลปินประเภท one hit wonder  แต่ทำไมบ้านเขาถึงยกย่องปานนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  นำเสนอเพลงที่มารู้จักทีหลัง  เป็นเพลง soul ที่จับใจผมมาก





บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 191  เมื่อ 28 ส.ค. 23, 14:18

Jim Croce คนนี้ก็ตายเพราะเครื่องบินตกเช่นกันแต่คนละช่วงเวลา  ก่อนตายเธอฝากความดังไว้แน่นหนาจนหาคนลืมเธอได้ยาก  มีอยู่ช่วงหนึ่งดีเจบ้าเพลงนี้กันพร้อมเพรียง  วันหนึ่งจะต้องได้ยินเพลงนี้อย่างน้อย 2 ครั้ง  แต่ผมก็ไม่เบื่อ  มันเพราะจริง ๆ



มันเป็นเพลงที่พวกเราผีเพลงฝรั่งทุกคนรู้จักและรักที่จะฟัง  รวมถึงรักที่จะเรียนเล่นกีต้าร์กับเพลงนี้  แต่มันไม่ใช่เพลงดังที่สุดที่บ้านของเธอ   เพลงนั้นคือ Time in a bottle ที่มีคนไทยเอามาแปลงเป็นเพลงไทย ใคร ๆ ฟังแล้วก็บอกว่าเพลงนี้เพราะจัง  แต่มีน้อยคนที่รู้ว่าไปเอาทำนองมาจากเพลงของชาวบ้าน (ไม่รู้จ่ายค่าลิขสิทธิ์เค้ารึเปล่า)



เพลงของ JC ในบ้านเราดังอยู่ 2 เพลงเท่านั้น  ผมซื้อแผ่นเสียงของเธอ  ถ้าชอบแนวนี้ยังมีอีกเช่น













แต่เพลงอันดับ 1 เพลงนี้ (อีกเพลงคือ TIAB ข้างบน) ผมไม่เคยได้ยินทางวิทยุ  มาได้ยินจากในแผ่นฯ



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 192  เมื่อ 29 ส.ค. 23, 14:32

ก่อนหน้า Cher เฉย ๆ  ในยุคปลาย 60s เธอเป็นครึ่งหนึ่งของ Sonny and Cher

เพลงที่ดังที่สุดของวงคู่นี้เป็นเพลงที่ผมไม่เคยชอบเล้ยยย  พยายามแล้วพยายามอีก  เนื่องจากผมเป็นโรคบ้าของดัง  แต่ไม่เป็นผล



แต่เพลงเหล่านี้ซึ่งดังเพียงระดับหนึ่ง  ผมกลับชอบมากกว่า  ท่าเหล่าดีเจจะรู้สึกเหมือนผม  เพราะได้ยินบ่อยกว่าเพลงแรก







นำเสนอ







ช่วงกำลังดัง  เป็นช่วงที่ 2 คนนี้เป็นผัวเมียกัน  ชีวิตในวงการบันเทิงรุ่งโรจน์มาก  เป็นเจ้าของรายการทีวีโชว์  เล่นหนัง ฯลฯ  การแต่งงานจบด้วยการหย่าในปี 1975  จากนั้น SB ก็เบนเข็มชีวิตไปทางการเมือง...
A member of the Republican Party, Bono served as the 16th mayor of Palm Springs, California, from 1988 to 1992, and served as the U.S. representative for California's 44th district from 1995 until his death in 1998.


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 193  เมื่อ 30 ส.ค. 23, 14:21

ไม่จำเป็นต้องเป็นนักฟังเพลงฝรั่งของแท้ก็ต้องรู้จักวง The Monkees  ชื่อเสียงของพวกเขาแผ่กระจายไปในทุกสื่อไม่ว่าจะในด้านเสียงเพลง รูปลักษณ์ และการแสดง  หนังทีวีของพวกเขาเคยเข้ามาฉายในบ้านเราช่วงหนึ่ง  สมาชิกบ้านผมดูกันเป็นประจำ  

เพลงติดหูที่สุดในบ้านเราคือเพลงนี้  เพราะเป็นเพลงเปิดเรื่องของหนังทีวี  ได้ยินทุกอาทิตย์  เฮ้ ๆ เดอะ มังกี้... ร้องกันให้ขรมทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน



เหล่าสิ่งพิมพ์เชียร์ Davy Jones กันพร้อมเพรียง  สาว ๆ บ้านผมกรี๊ดกร๊าดกับ Peter Tork   ‘น่าร้ากกกก’  แต่ผมชอบ Michael Nesmith  กรี๊ดกร๊าดอยู่เงียบ ๆ ตามลำพัง  แต่ไม่มีใครเอ่ยถึง Micky Dolenz (obviously!!)

แล้วก็มาเพลงนี้ ได้ยินทุกวันทางวิทยุ เสียงร้องของ Davy Jones มันไม่ใช่ single  แต่ดัง (ในบ้านเรา) มากกว่า singles



เพลงฮิตสุด ๆ ในบ้านเขาซึ่งก็เข้ามากระหน่ำหูในบ้านเราแม้ไม่อื้ออึงเท่าเพลงข้างบน













รถของพวกเขาในหนังทีวี  แล้ววันหนึ่งผมก็ได้มาเป็นเจ้าของ 1 คัน







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 194  เมื่อ 31 ส.ค. 23, 14:19

พูดถึงหนังทีวี  มีชุดที่นำเสนอวง The Monkees  ต่อมาอีกไม่นาน  2-3 ปีต่อมา  พวกเราก็ได้กรี๊ดเฮกับหนังทีวีชุดใหม่ชื่อ The Partridge Family หรือ ภาษาไทยว่าแม่หม้ายลูกติด  บรรยากาศของหนังชุดนี้ก็คล้ายกันเบา ๆ สอดแทรกเพลงเพราะ ๆ

หนังชุดเรื่องนี้เหนือกว่าเรื่อง TM ในด้านที่นอกจากมีดาราหนุ่ม (ที่ผมว่าไม่เห็น) หล่อให้สาว ๆ ได้กรี๊ด  ยังมีดาราสาวสวยให้หนุ่ม ๆ ได้ครางไม่น้อยหน้ากัน

ดาราหนุ่มก็คือ David Cassidy  ส่วนดาราสาวก็คือ Susan Dey ส่วนตัวแม่หม้ายนั้นคือนักแสดงระดับ Oscar ชื่อ Shirley Jones ที่ในชีวิตจริงคือแม่เลี้ยงของ DC


เพลงเปิดเรื่องก็เพราะ  แม้ไม่ติดหูเท่า


ใน series ชุดนี้  ครอบครัวนี้เป็นนักดนตรีกันทั้งหมด  แต่ในความเป็นจริงมี DC คนเดียวที่เป็นศิลปินเพลงมืออาชีพ  ความดังของหนังและเพลงทำให้มีแผ่นเสียงของคณะนี้ออกมาขาย  มีเพลงเพราะ ๆ  แต่ที่ดังที่สุดทั้งบ้านเขาและบ้านเราคือ



นั่นเป็นเพลงเดียวที่วิทยุเอามาเปิดให้ได้ยินในบ้านเรา  ความจริงยังมีเพลงอื่นที่น่าฟังเช่น เพลงแผ่นเสียงทองคำแผ่นที่ 2 ของวง











เอ๊ะ... ดู ๆ ไป David Cassidy ก็หน้าตาน่ารักดีนะ  ทำไมตอนนั้นผมไม่ชอบเอาเล้ยยย

มีต่อ... อีกนิด
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14 15 ... 32
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 19 คำสั่ง