เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 32
  พิมพ์  
อ่าน: 66202 รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว [2]
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 165  เมื่อ 01 ส.ค. 23, 15:15

เพลงของวง Booker T. & the M.G.’s นี้น่าจะคุ้นหูนักฟังเพลง ฯ เพราะมีดีเจวิทยุนำไปใช้ในช่วงเปิด/ปิด/คั่นรายการอยู่หลายเพลง  ลองฟังดู...

เพลงดังของพวกเขา



ส่วนเพลงนี้ที่บ้านเขาไม่ดังเท่าเพลงแรก  แต่มันดังกว่าในบ้านเรา  ได้ยินบ่อยมาก



เพลงนี้เคยผ่านหูผม



อีกหนึ่งเพลงดังที่บ้านเขาแต่ผมไม่เคยได้ยินทางวิทยุ



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 166  เมื่อ 02 ส.ค. 23, 14:31

ชื่อ Glen Campbell  ไม่ต้องตามด้วยส่วนขยายอะไร  นักฟังเพลงฯ ประเภทคอเพลงรู้จักชื่อนี้ดีทุกคน  เธอเริ่มต้นอาชีพร้องเพลงจากแนว country  ต่อมาโยคแนวมาทางเพลง pop  เธอก็เลยดังทั้งฝั่ง country และ ฝั่ง pop  ทำนองเดียวกับ Anne Murray

ในบ้านเราหลาย ๆ เพลงของเธอขับขานออกมาจากลำโพงวิทยุตั้งแต่ผมเด็ก ๆ ก็ในช่วงปลาย 60s  แต่ละเพลงล้วนเพราะ ๆ ทั้งนั้น  ลองฟังดูว่าจำกันได้บ้างรึเปล่า












ขาดไปเพลงนึง



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 167  เมื่อ 03 ส.ค. 23, 14:32

ชื่อของ Glen Campbell เข้ามาฝังอยู่ในความทรงจำของพวกเราอย่างเป็นทางการในปี 1975 กับเพลงดังสนั่นหวั่นไหวไปครึ่งค่อนโลกเพลงนี้

ผมจำได้ว่าเคยเห็น music video ชุดนี้ทางทีวีนะ  แต่ในรายการอะไรจำไม่ได้

และประดังกันเข้ามาด้วยเพลงเพราะ ๆ เหล่านี้  ที่ทำให้พวกเราลืมชื่อของเธอไม่ได้





(อันดับ 1 บนตาราง billboard เพลงสุดท้าย)

นี่เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมได้ยินทางวิทยุ  เคยได้ยินเพียงครั้งเดียว  แต่มันติดหูจัง  รออยู่เป็น 10 ปีกว่าจะสามารถหาฟังได้อีก



นี่เป็นเพลงของ GC ในยุคเก่าที่ผมเคยรู้แต่เพียงชื่อ  จากที่ไหนก็จำไม่ได้แล้ว  แล้วก็อยากรู้เหลือเกินว่ามันมีทำนองเป็นอย่างไร  เพราะชื่อเพลงเท่มากในความคิดของผม (ความจริงมีอีกเพลงคือ Jesus was a Capricorn แต่เจ้าของเพลงยังไม่ตาย) เพิ่งมาสามารถหาฟังได้เอาตอน youtube ถือกำเนิดแล้ว

(ก็ไม่เลวนะ  )

ส่วนนี่เป็นอีกหนึ่งเพลงดังในบ้านเรา (ไม่ใช่บ้านเขา)  เอา clip นี้มาให้ดูการเล่น guitar ระดับครูของเธอ



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 168  เมื่อ 04 ส.ค. 23, 14:42

อีกหนึ่งนักร้องแนว country ที่ดังมากคนหนึ่ง  เธอข้ามฟากมาสนุกสนานในตาราง pop เพียงประเดี๋ยวประด๋าวกับเพลงอันดับ 1 แผ่นเสียงทองคำเพลงนี้



ตามด้วย top 5 อีก 2 เพลง  เพลงแรกได้แผ่นฯ ทองคำ





3 เพลงนี้ออกติดตามกันมาเลยในปีนั้น  ประมาณว่าตีเหล็กตอนร้อน  อีก 2 ปีต่อมาเธอก็กลับมาใหม่ในเพลง ballad หวานจ๋อยที่ร้องคู่กับสาว country ชื่อดังทั้งในบ้านเขาและบ้านเราคือ Crystal Gayle  เป็นอีกหนึ่ง ‘เพลงโหล’ ในบ้านเรา

(หา clip ชัด ๆ ประเภท remastered ไม่ได้เลยแฮะ)

แต่สำหรับผม  เพลงโปรดเป็นเพลงที่เธอร้องก่อนหน้านี้  ผมพบเพลงนี้ในหนังชื่อเดียวกับเพลง  เป็นหนัง action สนุกสนานเล่นโดย Clint Eastwood กับ ลิงอุรังอุตังชื่อ Clyde



ผมไม่เคยได้ยินเพลงนี้ทางวิทยุเลย  มันติดหูและอยากฟังอีก  ก็เลยต้องซื้อตั๋วหนังเข้าโรงเพื่อไป ‘ฟังเพลง’ อีก 1 รอบ  โชคดีที่มันเป็นหนังที่สนุกมาก  ผมได้มีโอกาสฟังเพลงนี้อีกครั้งเมื่อเธอออกแผ่นฮิตแล้วมีมาขายในเมืองไทยในอีกไม่นานต่อมา

นำเสนอเพลงที่ผมมาพบว่าเพราะจากแผ่นเสียงรวมเพลงฮิตของเธอ





บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 169  เมื่อ 05 ส.ค. 23, 14:35

Gerry and the Pacemakers เป็นวงจากอังกฤษที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม  วงข้ามมาเก็บเกี่ยวความสำเร็จต่อที่อเมริกาในช่วงที่เรียกกันว่า British waves  หรือ British invasion  ซึ่งมีวง The Beatles เป็นหัวหอก  โดยเริ่มซัดเข้ามาตั้งแต่กลางยุค 60s  บ้านเรารับสถานการณ์นี้อย่างแข็งขัน  มีเพลงจากหลายวงอังกฤษที่ดัง ๆ มาเปิดให้ฟัง  แต่เท่าที่ค้นเหล่านักร้องนำของแต่ละวงก็ยังอยู่ดีกินดี  มีก็นักร้องนำ/หัวหน้าวงของวงนี้ Gerry Marsden

ประเดิมด้วยเพลงโปรดของผม  มันเป็นเพลงในหนัง (ซึ่งไม่เคยดู)  

เพลงนี้ฝังอยู่ในความทรงจำมาตั้งแต่ยังอยู่ชั้น ม.ศ. ต้นเลยละ  ได้ฟังทีไรก็มีความสุขอย่างประหลาด  ผมจำไม่ได้แล้วว่าทำอีท่าไหนถึงรู้ว่า Mersey นี้เป็นชื่อแม่น้ำอยู่ในประเทศอังกฤษ  พอโตขึ้นอีกหน่อยก็รู้เพิ่มขึ้นว่ามันอยู่ในเมือง Liverpool  

มีรายละเอียดพร้อมกับได้ฟังเพลงที่ทำให้มีความสุขก็ใฝ่ฝันว่าอยากไปเห็นกับตาจัง  แล้ววันหนึ่งในอนาคตก็ได้ไปเห็นกับตาจริง ๆ  ผมว่าแม่น้ำกว้างใหญ่กว่าแม่น้ำเจ้าพระยาของเรา  แม้ภาพที่เห็นจะเป็นในยุคปลาย ศต. ที่ 20  บรรยากาศมันแตกต่างไปจาก music video ของเพลงนี้  แต่ทำไงได้  มันโตไม่ทัน








วงนี้มีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกับวง The Beatles คือ Liverpool  4 เพลงที่ได้ยินทางวิทยุเป็นเพลงดังทางฝั่งอเมริกา  ไม่ใช่ทางฝั่งอังกฤษ  วงนี้ทำสถิติที่บ้านเขาว่ามี singles ติดอันดับ 1 ติดต่อกัน 3 เพลงเป็นครั้งแรก  แม้แต่วง The Beatles ยังทำไม่ได้  ผมเพิ่งมาเคยได้ยินตอนซื้อ cd ของพวกเขา




เพลงที่ 3 ก็คือ You’ll never walk alone

นำเสนอเพลงอื่นจาก CD รวมเพลงฮิต เพลงของวงนี้ฟังง่ายและเพราะ ๆ ทั้งนั้น







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 170  เมื่อ 06 ส.ค. 23, 14:26

อีกหนึ่งวงดังจากฝั่งอังกฤษที่เป็นลูกคลื่นซัดเข้าฝั่งอเมริกาในยุคเดียวกัน  บ้านเราเปิดเพลงนี้กันเกรียวกราว

เป็นเพลงประสานเสียงที่เพราะมาก  ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าช่วยกันร้อง  Wikiฯ บอกว่า  คนที่ร้องนำมี 2 คนคือมือ bass และมือกลอง  ตอนนี้มือกลอง (Dave Munden, 1943-2020) ม่องไปแล้ว



เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายของวงฯ ที่ผมเคยได้ยินจากทางวิทยุ  ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเป็นของวงนี้เพราะทำนองคนละแนวกันเลย  มารู้ตอนมีปูมเพลงของ Joel Whitburn 

นำเสนอ


โดยส่วนตัว  ผมว่าคนที่เล่นกลองแล้วสามารถร้องเพลงได้พร้อมกันด้วยนี่เป็นความสามารถที่น่าทึ่งมาก







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 171  เมื่อ 08 ส.ค. 23, 14:49

Roger Miller เป็นศิลปินแนวเพลง country  เธอมีเพลงดังในอันดับเพลง pop คือเพลงนี้  และมันเป็นเพลงเดียวที่วิทยุบ้านเราที่ยึดกับอันดับเพลง pop เป็นหลักเอามาเปิดให้ฟัง  เพลงคุ้นหูใช่ปะ




นำเสนอเพลงดังอื่น ๆ ที่ไม่รู้มามีใครเอามาเปิดที่บ้านเรารึเปล่า













บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 172  เมื่อ 09 ส.ค. 23, 14:11

เอ่ยถึงเพลง If I had a hammer  นักฟังเพลงฯ ทุกคนจะนึกถึงวง Peter, Paul and Mary  แต่ถ้าเป็นแฟนรายการ golden oldies  ดีเจของรายการนี้จะเปิดฉบับเสียงร้องของ Trini Lopez แทน  จากข้อมูลของ Joel Whitburn ฉบับของ TL ออกทีหลังฉบับของ PP&M  แต่ดังกว่า




นำเสนอเพลงอื่นที่ไม่รู้ว่าบ้านเรานำมาเปิดบ้างรึเปล่า





2 เพลงนี้ต้นฉบับเป็นของวง folk ประสานเสียง (ที่จะนำเสนอในโอกาสต่อไป) แต่เธอเอามาดัดแปลงทำนองเหมือนกับที่ทำกับเพลง If I had a hammer ฟังเพลินไม่น้อย







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 173  เมื่อ 10 ส.ค. 23, 14:42

คอเพลงฝรั่งรุ่นเดียวกับผมจะต้องเคยได้ยินเพลง Mockingbird จากนักร้อง 2 ผัวเมีย (ในตอนนั้น) คือ James Taylor กับ Carly Simon



แต่ผมเก่งกว่าหน่อย (ขออนุญาตยกหางตัวเอง) เนื่องจากฟังเพลง (ฝรั่งอย่างจริงจัง) มาตั้งแต่ยังอยู่ชั้นประถมปลาย  เลยรู้ว่าเพลงฉบับนี้เป็นการนำมาร้องใหม่ (ได้ดีกว่าเดิมนะผมว่า)  ต้นฉบับนั้นเป็นของ วงคู่พี่น้อง Inez & Charlie Foxx



วงนี้อยู่ในกลุ่ม one hit wonder  ดังเพลงเดียว  เลยค้นจาก youtube มาให้ฟังอีก





บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 174  เมื่อ 11 ส.ค. 23, 14:30

ชื่อ Jewel Akins  นี้ในตอนที่รายการ golden oldies เปิดเพลงของเธอผมจำไม่ได้หรอก  โถ... ชื่อเพลงก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ  พอได้หนังสือ Golden Oldies มา  ผมก็เอามาเปิด ๆ ดู   บางเพลงอ่าน ๆ เนื้อไป  ทำนองก็ผุดขึ้นมาเองอย่างเพลงนี้



นี่เป็นอีกหนึ่งศิลปินแขนง one hit wonder  ผมลองค้นจากปูมของ Joel Whitburn   เธอมีเพลงติดอันดับฯ อยู่เพียง 2 เพลง  อีกเพลงคือเพลงนี้  เหมือนเพลงฝาแฝด  เท่าที่สังเกตศิลปินที่มีเพลงแรกดังแล้วย้อนรอยเดิมออกมาเป็นเพลงที่ 2 มักไปไม่รอด  เช่นรายนี้



แต่เพลงนี้เพิ่งเคยได้ยิน  ทำนองคุ้นเคย... เนอะ




บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 175  เมื่อ 13 ส.ค. 23, 14:41

เพลงต่างชาติบนอันดับ billboard ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเพลงนี้ผมว่าเป็นเพลงที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก  ผมละได้ยินมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก



ชื่อเพลงรวมถึงทำนองนี้ติดหูผมมาตลอด  สุกี้ยากี้  ตอนนั้นผมรู้ว่ามันเป็นชื่ออาหารของชาติญี่ปุ่น  แต่ไม่เคยกิน  พอรู้จักเพลงนี้ก็เลยคิดว่าเนื้อเพลงเล่าเรื่องการทำอาหารชนิดนี้  แล้วก็นึกถึงกาพย์เห่เครื่องคาวหวานของเรา  จนกระทั่ง อตน. เจริญพันธุ์ผมถึงรู้ว่าเข้าใจผิดมาตลอด

เพลงนี้มีชื่อต้นฉบับว่า "Ue o Muite Arukō" ซึ่งแปลว่า "I Look Up as I Walk" ... The lyrics tell the story of a man who looks up and whistles while he is walking so that his tears will not fall, with the verses describing his memories and feelings.

สำหรับเหตุผลที่ใช้ชื่อเพลงในภาษาอังกฤษว่า Sukiyaki เพราะ It was short, catchy, recognizably Japanese, and more familiar to English speakers.

ดังนั้นในเนื้อเพลงจึงไม่มีการกล่าวถึงอาหาร Sukiyaki เลย

อย่างไรก็ตาม บ้านเราไม่ได้เปิดเพลงของ KS เพลงนี้แต่เพลงเดียว  ถ้าเป็นนักฟังเพลงฯ ประเภทหูติดกาวกับลำโพงวิทยุเช่นผมจะต้องเคยได้ยินอีกเพลงของเธอ  เพลงนี้เป็น single ที่ 2 ที่ออกตลาดในอเมริกาแต่ไม่ดัง  2 เพลงนี้เป็นเพียง 2 เพลงในอันดับ billboard ของเธอ





ลืมเล่าว่า ข่าวการตายของ KS ด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 1985 นั้นดังมาก  ผมอ่านจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  ต่อมา นส. Starpics ก็ลงเรื่อง  ที่จริงน่ะตัวอุบัติเหตุดังระดับโลกอยู่แล้วเพราะ remains the deadliest single-aircraft accident in history with 520 people killed (Wikiฯ บอกมา  ผิดพลาดประการใด  เชิญไปด่า WIkiฯ) 


แล้วก็นึกถึงเพลงฝรั่งอีกเพลง  เพลงนี้ใช้ภาษาอังกฤษแต่คนร้องไม่ใช่ฝรั่ง  เพลงดังกระหน่ำหูนักฟังเพลงฯ ไม่น้อยหน้า  น่าเสียดายเธอยังอยู่ดีกินดี  เลยอดเขียนถึงเลย

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 176  เมื่อ 14 ส.ค. 23, 14:34

ย้อนไปก่อนหน้านี้  นำเสนอเพลงใช้ทำนองเพลง Sukiyaki แล้วใส่เนื้อร้องภาษาอังกฤษ  เปลี่ยนชื่อเพลงแล้วออกกระจายเสียงทางวิทยุ  นักร้องคือ Jewel Akins  เพลงไต่อันดับได้ไม่ไกล

มาต้นยุค 80s  มีเพลงที่ใช้ทำนองเดียวกับเพลง Sukiyaki กระจายเสียงออกมาจากลำโพงวิทยุอีก  เพลงใช้ชื่อ Sukiyaki เหมือนกันเสียด้วย  แต่เนื้อเพลงเป็นภาษาอังกฤษ  Wikiฯ บอกว่าความหมายของเนื้อเพลงแตกต่างจากต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น... The song's original lyrics had 3 possible interpretations: as the mindset of a man facing execution; as someone trying to be optimistic despite life's trials; or as the story of an ended love affair.

แต่คนแต่งเนื้อเพลงฉบับนี้แต่งเนื้อโดยใช้ตีความหมายว่า: "Me being the hopeless romantic that I am, I decided to write about a love gone bad.

สรุปแล้วไม่มีเพลง Sukiyaki ฉบับไหนมีเนื้อหาเล่าเกี่ยวกับอาหารชนิดนี้เลย




เพลง Sukiyaki ฉบับนี้ดังไม่น้อยหน้าต้นฉบับคือไต่ขึ้นไปได้ถึงอันดับ 3 และสามารถคว้าแผ่นเสียงทองคำมาได้

ความจริงวิทยุเปิดเพลงของวง A taste of honey มาก่อนหน้านี้แล้ว  ในปี 1978  เป็นเพลง disco ที่ผมว่าจื๊ดจืด  แต่บ้านเค้าคงคิดต่างเพราะมันไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 1 และสามารถคว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำ  และขายได้ดีต่อไปจนได้แผ่นเสียงทองคำขาวเพิ่มขึ้นมาอีกแผ่นเสียด้วย  เค้าว่ามันมีทำนอง disco ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเวลาระห่ำของยุค  แต่เวลาไปดิ้น  ผมจำไม่ได้ว่าเคยยินมัน  แต่อย่างว่า  ผมเป็นเด็กเรียน (แต่ไม่ได้หมายความว่าเรียนเก่ง) ไม่ใช่เด็กสิงบาร์





Perry Kibble (เล่น keyboards) คือ 1 ใน 2 ของผู้ก่อตั้งวงเสียชีวิตในปี 1999
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 177  เมื่อ 15 ส.ค. 23, 14:23

อีก 1 British wave… วง The Searchers มีสมาชิกเข้าออกมากมายตั้งแต่เริ่มตั้งวงเมื่อปี 1959  ซึ่งทำให้วงเต้นแร้งเต้นกาอยู่ในวงการเพลงมาได้ถึงยุคนี้ (2019)

ในวงจรการฟังเพลงของผม  ผมได้ยินเพลงของวงนี้มาตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าชอบเพลงฝรั่ง



จากนั้น 3 เพลงนี้ก็ตามมา







นำเสนอ







ปิดท้ายด้วยเพลงโปรดของผม



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 178  เมื่อ 16 ส.ค. 23, 15:10

ผมจำปีเริ่มต้นและปีจบไม่ได้  จำได้แต่ว่าในช่วงกลางของปี 2530s  มีคลื่นสถานีวิทยุที่กระจายเสียงเพลงฝรั่งมีความดังระดับหนึ่งชื่อว่า soft 105  ดำเนินการโดยทีมต่างชาติ  มีทั้งหญิงและชาย  แต่ก่อนจำชื่อสมาชิกได้มากกว่านี้  ตอนนี้จำได้คนเดียวคือ Jackie Russell

ไม่แน่ใจว่าการนำเสนอเพลงมีทั้งวันทั้งคืนรึเปล่า  แต่ความนิยมมีมากขึ้นจนทีมงานขยายสาขาออกไปเป็นคลื่นอื่นอีกเช่น soft 107 ฯลฯ  ความที่ไม่ใช่คนใน ‘พื้นที่’  เพลงที่พวกเขานำเสนอจึงมีพื้นมาจากความคุ้นเคยในเสียงเพลงท่ามกลางสิ่งแวดล้อมของพวกเขา  ทำให้เพลงที่พวกเขานำมาเปิดให้ฟังมีความแตกต่างจากเพลงฝรั่งที่นำเสนอโดยดีเจคนไทย  สำหรับผมมันช่วยขยายฐานความรู้เรื่องเพลงฝรั่งให้กว้างขึ้น 

ผมจะฟังรายการของพวกเขาในช่วงเช้าขณะขับรถไปทำงาน  และช่วงบ่ายวันอาทิตย์อันเป็นการกระจายเสียงเฉพาะเพลงเก่ายุคปลาย 60s  ซึ่งผมชอบมาก

มีอยู่เพลงหนึ่งที่ดีเจนำเสนอเป็นเพลงผมไม่เคยได้ยินมาก่อน  เพราะมากกก  ดีเจบอกชื่อเพลงกับคนร้องแต่ความที่ไม่คุ้นเคยเลยจำไม่ได้  น่าจะเป็นเพลงโปรดของดีเจเพราะเธอเปิดบ่อย แต่กี่ที ๆ ก็ฟังไม่ทัน  เพราะวิทยุเป็นเครื่องกระทัดรัดแบบมีหูหิ้ว  เสียงจึงไม่คมชัด  และเธอก็ไม่ได้เปิดเพลงนี้ตรงตามเวลา  มักจะโผล่มาตอนเผลอ

ในที่สุด ตามสันดานไม่ยอมปล่อย  ผมก็โทร. ไปหา 13 (เบอร์นี้ใช่ปะ) ถามหาเบอร์ของคลื่นนี้แล้วโทร. ไปถามอย่างเป็นกิจจะลักษณะ  คำตอบของชื่อเพลงเท่าที่จับได้คือ Gay  ส่วนชื่อนักร้องนั้น  คือ Clifford T. Ward (ตอนนั้นได้ยินไม่ชัดเจนอย่างนี้หรอก)  อย่างไรก็ตามทั้งชื่อเพลงและชื่อนักร้องเป็นชื่อที่ผม ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยได้ยินมาก่อน

ตอนนั้นผมมีปูมเพลงของ Joel Whitburn อยู่แล้ว  เอาข้อมูลที่ได้มาต่อยอด  ปรากฏว่าหาไม่เจอ  ผมเอะใจเลยย้ายไปขุดจากหนังสือข้อมูลของเพลงจากฝั่งอังกฤษ  คราวนี้เจอ  มันเป็นเพลงจากฝั่งอังกฤษที่ไม่ได้ข้ามไปดังที่อเมริกา  ที่บ้านเกิดเพลงของนักร้องคนนี้ก็ดังพอประมาณเท่านั้น  แต่เพลงนี้เพราะจริง ๆ มันอยู่ในยุคต้น 70s  อันเป็นช่วงที่ผมกำลังบ้าเพลงฝรั่งอย่างน่าขนลุก  ดีใจที่ได้ยิน  ทำนองแสนจะ ‘nostalgic’ สำหรับผม






อยากพล่ามต่อ...

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 179  เมื่อ 17 ส.ค. 23, 14:25

รายการเพลงที่ว่ายังเสนอเพลงอื่น ๆ ที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนอีก  เท่าที่ค้นคว้าเพลงเหล่านี้ล้วนเป็นเพลงจากฝั่งอังกฤษ  แสดงว่าทีมงานต้องมาจากประเทศนี้   

อีกเพลงที่ทำให้ผมต้องย้อนรอยเดิมคือ  โทร. ไปถาม  คราวนี้แม้จะได้คำตอบจากดีเจผมฟังแล้วยังบื้อ  ต้องบอกกลับไปว่าผมไม่ใช่ฝรั่งเลยแกะคำที่คุณบอกมานี้ไม่ออก  นั่นแหละเธอถึงสะกดให้ฟัง  ผมจดยิก  เพลงชื่อ Jesamine (ไม่ประหลาดใจว่าทำไมถึงฟังไม่ทัน  ผมรู้จักคำนี้  แต่เป็นคำที่มี ตัว s สองตัว  แม้จะอ่านออกเสียงเหมือนกันแต่คำที่ว่าไม่ใช่คำที่ใช้พูดทั่วไปในชีวิตประจำวัน  เลยนึกไม่ถึง) ร้องโดยคณะ The Casuals




ผมคว้าปูมของ Joel Whitburn  มาลองหารายละเอียดดูอีกครั้งก็ไม่พบเช่นเดิม  ต้องไปพลิกปูมเพลงทางฝั่งอังกฤษถึงพบชื่อวงนี้  มันเป็นวงที่ไม่ดังเอาเลย  เป็นวงประเภท one hit wonder ของที่บ้านเขาเสียด้วยซ้ำ  คือเพลง Jesamine นี้ขึ้นถึงอันดับ 2   และมีเพลงเดียวที่เข้า top 10  ดังนั้นแรงผลักดันที่จะข้ามมาขุดทองที่อเมริกาจึงไม่มี

ผมติดใจเพลงนี้มาก  เมื่อไรที่ได้ยิน  ไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่  เป็นต้องหยุดแล้วตั้งใจฟัง  ตะแรกผมคิดจะหาซื้อแผ่น CD   แต่ขี้เกียจไปเดินหาตามร้านในเมืองไทย  เลยลองเช็คที่ Amazon  ปรากฏว่ามีขายด้วย  แต่ราคาแพงชะมัด  สองจิตสองใจอยู่ 1 เพลา  เพราะไอ้ความที่เป็นวง one hit wonder นี่แหละ  แล้วในหนึ่งผมก็มาเห็นมันวางขายอยู่ในกรุงเทพฯ  ในร้านกิ๊กก๊อก  ก็เลยรีบจ่ายตังค์ซื้อมาฟัง  แล้วก็นึกดีใจว่าโชคดีที่ลังเลไม่สั่งซื้อให้ต้องเสียดายเงิน  เพราะเพลงอื่น ๆ ของวงไม่ถูกหูเอาเลย  ถ้าจะมีก็เพลงนี้




บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 32
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.097 วินาที กับ 19 คำสั่ง