สัตว์ประหลาด ๖

[ธสาคร]

ชื่อวิทยาศาสตร์ต้องเป็นภาษาละติน หรือหากตั้งชื่อวิทย์ตามชื่อสถานที่ ชื่อบุคคล ก็ต้องดัดนิดดัดหน่อยให้ฟังเป็นละตินเข้าไว้ เช่น siamเฉยๆไม่ได้ ต้องเป็น siamensis ,
หรือ japanเฉยๆไม่ได้ ต้องเป็น japonicus(เพศผู้)  japonica(เพศเมีย)  japonicum(เพศกลาง) //
โอ๊ย..ยืดยาว วุ่นวาย และยิ่งเข้าใจถึงรากศัพท์ยากขึ้นไปอีก //
หมายเหตุ เพศในที่นี้..ไม่ได้หมายถึงเพศของตัวสัตว์(ทำนองLion-Lioness) แต่หมายถึงเพศของคำศัพท์ (มีอย่างนี้ด้วยนะ ซึ่งผมก็ไม่ทราบรายละเอียด)
.
ประเทศลาวตั้งชื่อวิทย์ให้นกปรอดหัวโล้นว่า Nok hualon // อืม..เรียบง่ายเป็นมิตรกับมหาชนยิ่งนัก //
ถ้าถือตามธรรมเนียมเดิม นกตัวนี้จะได้ชื่อวิทย์ประมาณว่า Neopycnonotus laoensis
โดยแยกความหมายดังนี้ Neo=ค้นพบใหม่ , Pycnonotus=ชื่อสกุลของนกปรอดทั่วไป แต่นกปรอดหัวโล้นที่ค้นพบใหม่นี้ พบว่ามีความแตกต่างมากพอที่จะแยกไปไว้สกุลใหม่ , Laoensis=ประเทศลาว //
ซึ่งที่ผมกล่าวมา เป็นการตั้งชื่อสปีชีส์ โดยให้เกียรติการค้นพบแก่ประเทศตนเอง //
แต่นักวิทยาศาสตร์คงเห็นว่า นกชนิดนี้มีหัวโล้น อันเป็นรูปลักษณ์ที่น่ารักน่าชัง จำง่าย จึงไม่ใช้"ลาวเอนซิส" แต่เลือกใช้ hualon //
ซึ่งโดยธรรมเนียมการตั้งชื่อวิทย์ เราต้องแปล"หัวโล้น"ให้เป็นภาษาละตินเสียก่อน คือแปลได้ว่า gymnocephalus // gymno=เปลือยเปล่าไม่มีสิ่งปกคลุม  cephalus=หัว //
แต่พี่ลาว เล่นฟาด Nok hualon ดิบๆ โดยไม่ปรุงแต่งเลย // เอวัง จบประเด็นสัตว์ประหลาดครับ
.

[เพ็ญชมพู]

เป็นการตั้งชื่อที่ประหลาด แหกกฎเกณฑ์เดิมที่ชื่อวิทยาศาสตร์มักจะใช้คำศัพท์ละติน (โดยเฉพาะชื่อ genus ส่วน species มีบ้างที่ใช้ภาษาอื่น เช่นภาษาไทย *)

ขอเสริมเป็นความรู้เล็กน้อยเรื่อง ชื่อวิทยาศาสตร์ มีหลักเกณฑ์สำคัญดังนี้

๑. ชื่อวิทยาศาสตร์เป็นระบบทวินาม โดยทั่วไปประกอบด้วยคำศัพท์ละติน ๒ คำ คือ สกุล (genus) และ ชนิดหรือสปีชีส์ (species)

๒. ชื่อวิทยาศาสตร์จะถูกพิมพ์ด้วยตัวเอน เช่นในกรณีนกปรอดหัวโล้น (bare-faced bulbul) ต้องเขียนด้วยตัวเอนดังนี้ Nok hualon หากเป็นการเขียนด้วยลายมือควรขีดเส้นใต้ลงไปแทน

๓. คำศัพท์คำแรก (ชื่อสกุล) ต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ นอกจากนั้นใช้อักษรตัวเล็กทั้งหมด

* ตัวอย่างชื่อ species ที่ทับศัพท์ภาษาไทย อยู่ในเฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาโดย ดร.โดม ประทุมทอง

[เพ็ญชมพู]

คุณเทาชมพูเคยแนะนำทากทะเลชนิดหนึ่ง ไว้ในกระทู้ สัตว์ประหลาด ซึ่งนอกจากรูปร่างที่ประหลาดแล้ว ชื่อวิทยาศาสตร์ยังแปลกอีกด้วย คือมีชื่อสกุลทับศัพท์ภาษาไทย

ทากทะเลชนิดใหม่ของโลก ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aiteng ater ชื่อสกุล Aiteng มาจากภาษาไทยว่า ไอ้เท่ง พบได้ในอ่าวไทย เป็นพันธุ์ประหลาดที่ไม่เหมือนกับทากพันธุ์อื่น ๆ ตรงที่เป็นทากทะเลที่กินเฉพาะแมลงเป็นอาหาร (ในขณะที่พันธุ์อื่น ๆ กินสาหร่ายและไข่สัตว์น้ำเป็นอาหาร) ชื่อ "ไอ้เท่ง" นี้มาจากชื่อตัวละครที่เป็นที่นิยมในหนังตะลุงที่เล่นกันในทางใต้ของไทย "ไอ้เท่งที่มีตาถลนใหญ่นั้นทำให้เรานึกถึงตัวทากที่เราพึ่งค้นพบ" นักวิจัยกล่าว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ novataxa.blogspot.com

[เพ็ญชมพู]

ตัวอย่างชื่อ species ที่ทับศัพท์ภาษาไทย เพิ่มเติม จากเฟซบุ๊ก นี่แหละชีวะ

[เพ็ญชมพู]

 

[เทาชมพู]

    ภาพนี้มีคำบรรยายว่า
    "พบปลาสเตอร์เจียนขนาดใหญ่ 4 เมตร (13 ฟุต) ในแม่น้ำเคนเนเบก รัฐเมน  สหรัฐอเมริกาทำให้มองเห็นปลาขนาดใหญ่ที่ยังคงอาศัยอยู่ในน่านน้ำได้ ปลาสเตอร์เจียนซึ่งรู้จักกันในนาม “ฟอสซิลที่มีชีวิต” มีชีวิตอยู่มานานกว่า 200 ล้านปีแล้ว
    ไม่รู้ว่าภาพจริงหรือตัดต่อ ฝากคุณเพ็ญชมพูเช็คด้วยค่ะ

[เพ็ญชมพู]

ปลาตัวนี้ คุณเทาชมพูเคยพามาเยือนกระทู้ สัตว์ประหลาด แล้วเมื่อ ๘ ปีก่อน โดยไม่ทราบว่าเป็นตัวอะไร และเคยมาเยือนหรือไม่

วิสัชนา

สัตว์ประหลาดตัวใหญ่อยู่ใต้น้ำ
แปลกเหลือล้ำรูปกายให้ฉงน
ตัวอะไรเคยไหมหนามาเยี่ยมยล
หากใครสนจะเฉลยเอ่ยวาจา

สัตว์ตัวนี้คือปลาหนาผองเพื่อน
เคยมาเยือนหลายครั้งอย่ากังขา
"คาเวียร์" เป็นชื่อไข่ใช้เรียกมา
"สเตอร์เจียน"น้องปลาให้มาชิม

น้องสเตอร์เจียนตัวที่คุณเทาชมพูพามาโชว์ตัวนี้มีขนาดยาวประมาณ ๒ เมตร ถ่ายที่แม่น้ำเฟรเซอร์ (Fraser River) รัฐบริติชโคลัมเบีย แคนาดา

ข้อมูลจาก SturgeonHunter / Fraser River Charters

[เทาชมพู]

อ้าว งั้นคำบรรยายภาพก็เท็จน่ะซี บอกว่าอยู่ในอเมริกา
ขอบคุณค่ะ

16 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สัตว์ที่อาศัยอยู่ภายในลำธารในเมืองจุนดิไอ รัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล กำลังเผชิญกับความเดือดร้อนเป็นอย่างหนัก เมื่อถูกย้อมกลายเป็นสีฟ้าทั้งหมดจากเหตุรถบรรทุกสีย้อมผ้าชนกับเสาไฟฟ้าทำสารเคมีรั่วไหลลงลำธาร ซึ่งพบว่าเป็ดและห่านที่อยู่บริเวณทะเลสาบดังกล่าวถูกย้อมสีขนเป็นสีฟ้า  ขณะที่ปลาบางตัวที่ตายแล้วก็ลอยอยู่บนผิวน้ำโดยมีร่องรอยของสีย้อมสีฟ้าติดอยู่

จากรายงานพบว่าเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองจุนดิไอ บริษัทสิ่งแวดล้อมรัฐเซาเปาโล ได้เริ่มดำเนินการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำและประเมินระดับของการปนเปื้อนแล้ว ขณะที่หน่วยงานของเมืองและรัฐ ร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชนได้ระดมกำลังเพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของเทศบาลระบุว่า สีย้อมที่รั่วไหลออกมาเป็นสารเคมีอินทรีย์ที่มีกรดอะซีติกเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนและอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

https://www.naewna.com/inter/884688

[เพ็ญชมพู]

อ้าว งั้นคำบรรยายภาพก็เท็จน่ะซี บอกว่าอยู่ในอเมริกา

ภาพถ่ายปลาสเตอร์เจียนยาว ๒ เมตร จากบริติชโคลัมเบีย ที่จับภาพได้เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ โดยส่วนใหญ่ไม่ได้กล่าวถึงข้อมูลที่ถูกต้องของปลาตัวนี้ ผู้คนต่างโพสต์ภาพดังกล่าวบนโซเชียลมีเดีย โดยรายงานว่าพบเห็นปลาตัวนี้ที่ อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง ยุโรป และเอเชีย ปลาตัวนี้ยังถูกส่งกลับมายังแคนาดา พร้อมอ้างว่าพบเห็นบนถนนในเมืองกาติโน รัฐควิเบก หลังจากเกิดน้ำท่วม

จากบทความเรื่อง One sturgeon photo, several false narratives โดย AFP Canada

[เทาชมพู]

ปลาชนิดนี้กินได้ด้วยหรือ 

[เพ็ญชมพู]

ในเมืองไทยก็มีปลาสเตอร์เจียน แต่เป็นคนละพันธุ์กับ สเตอร์เจียนขาว (white sturgeon - Acipenser transmontanus) ตัวที่อยู่ในแม่น้ำเฟรเซอร์ ที่แคนาดา ที่เมืองไทยเป็นพันธุ์ สเตอร์เจียนไซบีเรีย (Siberian sturgeon -  Acipenser baerii)  

ปลาเลี้ยงจากโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยดำ อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เอาไปนึ่ง จิ้มน้ำจิ้มสามรส น่าอาหย่อย

[เพ็ญชมพู]

คำถามที่ค้างคา เมื่อ ๑๑ ปีก่อน

ไปเจอสัตว์ประหลาดตัวนี้   อยู่ที่วัดมหาธาตุ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
ไม่เคยเห็นลักษณะนี้มาก่อน ไม่ทราบว่าเป็นตัวอะไรค่ะ
คุณเพ็ญชมพูเคยเห็นไหมคะ

ครั้งนั้นวิเคราะห์ว่าอาจเป็น เกียรติมุขหรือหน้ากาล (ซ้าย) ก่อนที่มันจะกินตัวเองเหลือแต่ศีรษะและแขน หรืออาจเป็น ตัวเหนียน (ขวา) ส่งตรงจากเมืองจีน



ได้เห็นภาพ ตัวมอม ประดับผนังด้านนอกพระอุโบสถแห่งวัดเกตการาม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคำอธิบายว่า

"ลวดลายปูนปั้นรูปมอม สล่าผู้สร้างมักจะออกแบบตามจินตนาการของตัวเอง มอมบางตัวมีลักษณะคล้ายกับลิง บางตัวมองดูก็คล้ายแมว บางตัวก็ดูองอาจ ผึ่งผายราวสีหราช แต่บางตัวอาจมองคล้ายกับกิ้งก่าหรือตุ๊กแกไปก็มี มอมที่ปั้นเต็มตัวประดับตามบันได เช่นที่วัดบุพพาราม วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดป่าดาราภิรมย์ เป็นต้น"

ตัวมอมที่ผนังด้านนอกพระอุโบสถ วัดเกตการาม อำเภอเมือง เชียงใหม่ มี ๘ หาง เหมือนสัตว์ประหลาดแห่งวัดมหาธาตุ อำเภอสรรคบุรี ชัยนาท เสียด้วย

ก็ดูเข้าเค้าอยู่

ภาพจาก คุณ moon fleet

[เทาชมพู]

อาจจะตัวมอมอย่างคุณเพ็ญชมพูว่า
หรือว่าจะญาติของตัวเพ็นโนซอรัส ที่ปราสาทเขมร?

คลิปนี้กำลังฮือฮา   แต่ชาวเรือนไทยคงดูออกว่า เป็นสัตว์ประหลาดพันธุ์ AI
https://www.facebook.com/reel/1472228630417083

[เพ็ญชมพู]

พญานาคพันธุ์ AI ของคุณเทาชมพู

[เทาชมพู]

มอมกับเพ็นโนซอรัส