สัตว์ประหลาด ๖

[เพ็ญชมพู]

ตัว  Capybaras เคยมาหรือยังคะ  
มันคือสัตว์พันธุ์ไหน   ภาษาไทยเรียกว่าตัวอะไรคะ

เคยมาหลายครั้งแล้วหนอ

ไม่เคยเห็นสัตว์ชนิดนี้  มันคือตัวอะไรคะ

ตัวนี้เคยพามาหรือยังคะ
เป็นตระกูลเดียวกับตัวอะไร  ดูไม่ออก

เจ้าตัวพวกนี้น่าจะเคยมาเยือนกระทู้แล้ว  แต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร
เห็นปุ๊บ นึกถึงคุณเพ็ญชมพูปั๊บ  ว่าต้องรู้จักแน่นอน
เลยเก็บภาพเอามาฝากค่ะ

คาปิบารา (capybara) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hydrochaeris hydrochaeris สัตว์พื้นถิ่นของอเมริกาใต้ เป็นสัตว์ฟันแทะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก  ขนาดเท่าหมู โตเต็มที่ยาวถึงเมตรกว่า และหนักเกือบ ๘๐ กิโลกรัม ชอบอยู่เป็นฝูงราว ๒๐ ตัว กินหญ้าและพืชนํ้าเป็นอาหาร

ชื่อภาษาไทยบางคนเรียกว่า "กะปิปลาร้า" (เลียนเสียงชื่อเรียกภาษาอังกฤษ) บ้างก็เรียกว่า "หมามะพร้าว" เนื่องจากมีลักษณะขนและสีผิวที่คล้ายกับผลมะพร้าว

[เทาชมพู]

ขอบคุณค่ะ สงสัยว่ากะปิปลาร้าพวกนี้คงไม่ถูกปากเท่าไหร่  เลยไม่เคยจำได้สักทีว่ามาเยือนกระทู้หลายหนแล้ว
ส่ง MV มาให้ดูกัน

[เทาชมพู]

ขอแถมความน่ารักของ Capybaras ให้อีกหน่อย   เพิ่งรู้ว่ามันนอนหลับใต้น้ำได้ด้วย
https://www.youtube.com/shorts/RYDYO8_1on0

[เพ็ญชมพู]

[ภศุสรร อมร]

แมงมุมในวงศ์ Myrmarachne ครับ
ลักษณะทางกายภาพละม้ายคล้ายคลึงกับมดทุกประการ
ใช้กลยุทธ์หมาป่าในหนังแกะเพื่อจับมดกินได้ง่าย
พบกระจายในเอเชียทั่วไป
อาหารหลักก็หนีไม่พ้นมดนั้นเอง

[ภศุสรร อมร]

ตัว tenrec ครับ พบได้เฉพาะในมาดากัสการ์ กินหนอนและแมลงเป็นอาหารหลัก หน้าตาแค่คล้ายสัตว์จำพวกเม่นเท่านั้น แท้จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวดองกันแต่อย่างใด เจ้า tenrec ถูกจัดอยู่ในกลุ่มวงษ์ของตัวเองภาขใต้กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกตังหาก
ปรากฏการณ์นี้ที่ว่าสัตว์ที่ไม่ได้เป็นญาติในกลุ่มเดียวกัน หน้าตาจะละม้ายคล้ายกันนั้น ไม่ใช้เรื่องแปลกในทางชีวภาพ
มีชื่อเรียกในทางสัตว์ววิทยาว่า convergent evolution ตามหลักวิวัฒนาการแล้ว สัตว์จะปรับกายภาพ หน้าตาและนิสัยให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อให้ตนเองนั้นได้เปรียบในการพ้นจากศัตรู หาอาหาร และขยายพันธุ์ได้มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากยีนส์กลายพันธุ์ สัตว์บ้างชนิดอาจจะเกิดมาสีเข้มหรือบางกว่าเพื่อนเป็นต้น  ดั่งเช่นแมลงกิ่งไม้ที่วิวัฒนาการจัดสรรให้มันมีหน้าตาเหมือนกิ่งไม้เพื่อที่จะซ้อนตัวจากศัตรูสัตว์นักล่าได้เร็วขึ้น สัตว์ที่ได้เปรียบก็จะอยู่รอด มีโอกาสขยายพันธุ์และให้กำเนิดซึ่งรุ่นต่อไป เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่สัตว์สองชนิตที่อยู่กันคนละฟากโลกที่ไม่เกี่ยวกันเลยจะหน้าตาเหมือนกัน เพราะว่ามันก็ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมไกล้เคียงกัน หาอาหารในแบบไกล้เคียงกัน ตัว tenrec นั้นชอบมุดดินเพื่อหาแมลงเช่นเดียวกับสัตว์จำพวกเม่น จึงมีลักษณะคล้ายกันโดยบังเอิญเนื่องด้วยปัจจัยทางสภาพแวดล้อม

หากยกตัวอย่างมนุษย์ ทุกวัฒนธรรมที่อยู่ไกล้น้ำมักมีเรือทั้งนั้น ขนาดเผ่าพื้นเมืองในอเมริกาใต้ยังใช้เรือที่มีลักษณะคล้ายเรือแจว ทั้งๆที่ไม่ได้มีการเกี่ยวข้องกับเรามาอย่างน้อยเป็นหมื่นปี เหตุนี้เนื่องด้วยมีปัจจัยทางธรรมชาติ และในการดำรงชีพไกล้เคียงกันนั้นเอง

[ภศุสรร อมร]

ปลา Lamprey ครับ ถือว่าเป็นหนึ่งในสกุลปลาที่เก่าแก่ที่สุดในปัจจุบัน มีฟอสซิลของมันหลงเหลือจากเมื่อเกือบ 300 ล้านปีก่อน
ไม่มีฟัน แต่จะใช้ปากดูดอาหารเข้าไป

[เพ็ญชมพู]

แมงมุมในวงศ์ Myrmarachne ครับ ลักษณะทางกายภาพละม้ายคล้ายคลึงกับมดทุกประการ

Myrmarachne เป็นชื่อสกุล (genus) ของ ant mimicking spider ซึ่งมีอยู่หลายชนิด (spicies)

ตัวของคุณภศุสรรคือ แมงมุมมดดำ Myrmarachne albocincta ส่วนตัวข้างล่างคือ แมงมุมมดแดง Myrmarachne plataleoides

ถ้าลองนับขาดู           ก็จะรู้ว่าแปดขา
แมงมุมแปลงกายมา    เพื่อเหตุผลกลใดฤๅ    



แลนี่คือเหตุผล มดตัวจริง (ซ้าย) กำลังตกเป็นเหยื่อของมดปลอม (ขวา)

[เพ็ญชมพู]

ตัว tenrec ครับ พบได้เฉพาะในมาดากัสการ์ กินหนอนและแมลงเป็นอาหารหลัก หน้าตาแค่คล้ายสัตว์จำพวกเม่นเท่านั้น แท้จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวดองกันแต่อย่างใด

Tenrec สัตว์เฉพาะถิ่นของเกาะมาดากัสการ์ มีอยู่มากมายหลายชนิด แต่ตัวที่ละม้ายคล้ายคลึง เม่นแคระ (hedgehog) ที่สุดคือ lesser tenrec (Echinops telfairi)



ส่วนภาพของคุณภศุสรร คือ lowland tenrec (Hemicentetes semispinosus)

[ภศุสรร อมร]

เพิ่มเติมอีกชนิต แมลงมวนหน้าตาคล้ายมด Myrmecoris gracilis
การที่สัตว์ชนิดหนึ่งหน้าตาคล้ายอีกชนิด ภาษาอังกฤษวิชาการเรียกว่า false mimic, จุดประสงค์หลักมีอยู่สองประการ

1. ปลอมแปลงให้ดูคล้ายสัตว์มีพิษเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากศัตรูนักล่า
2. ปลอมแปลงเป็นสัตว์พวกเดียวกันเพื่อล่าเหยื่อ

สถานภาพการปลอมตัวของมวนและแมงมุมนี้ถูกเปิดเผยในชื่อทางวิทยาศาสตร์ของมัน
Myrmex ในภาษากรีกโบราณก็คือมด

[ภศุสรร อมร]

อีกข้อที่น่าสนใจคือทำไมเกาะต่างๆ มักมีสัตว์แปลกประหลาดเฉพาะถิ่นที่ไม่พบที่อื่น ซึ่งนักวิชาการได้ให้นามปรากฎกานตร์นี้ว่า island endemism
สัตว์หลายชนิดที่พบบนเกาะขนาดใหญ่เช่นมาดากัสการ์หรือฮาวาย มักไม่พบในถิ่นอื่น หรือไม่ก็มีรูปร่างใหญ่หรือเล็กกว่าสัตว์บนแผ่นดินใหญ่ ( Island dwarfism/ gigantism) นิสัยกิริยาก็ไม่เหมือนสัตว์ชนิดเดียวกันซึ่งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ เช่นนกบางชนิดที่อยู่บนเกาะไม่สามารถบินใด้ เนื่องด้วยไม่มีศัตรูใดมาล่า จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีปีกเผื่อบินหนีอีกต่อไป จุดนี้เห็นได้ชัดในเกาะนิวซีแลนด์ ซึ่งนกหลายชนิดทั้งน้อยใหญ่ก็ไม่สามารถบินได้เช่นกัน เกาะหลายแห่งนั้นเป็นสถานที่ซึ่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมานาน สัตว์จึงมีสถานที่และเวลาเพียงพอที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปให้เข้ากับสภาพความเป็นอยู่ในเกาะนั้น นานเข้าชนิดใหม่ก็จะเกิดขึ้น โดยไม่มีอิทธิพลจากโลกภายนอก เปรียบเสมือนเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่มีชีวิด
ยกตัวอย่างนอนผีเสื้อกลางคืนสกุล eupithecia, พบได้ในเกาะฮาวาย ดักกินแมลงเป็นอาหาร

[เพ็ญชมพู]

ปลา Lamprey ครับ ถือว่าเป็นหนึ่งในสกุลปลาที่เก่าแก่ที่สุดในปัจจุบัน มีฟอสซิลของมันหลงเหลือจากเมื่อเกือบ 300 ล้านปีก่อน
ไม่มีฟัน แต่จะใช้ปากดูดอาหารเข้าไป

ปลาแลมเพรย์มีอยู่มากมายหลายชนิด พบได้ทั้งลำธารในน้ำจืด และในทะเล กระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก ทั้งยุโรปตอนบน, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, แอฟริกาตะวันตก, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ชิลี, ออสเตรเลีย และเกาะแทสมาเนีย

ชนิดที่บรรยายในคลิปข้างล่างนี้คือ ปลาแลมเพรย์ทะเล หรือ ปลาแลมเพรย์ทะเลสาบ (sea lamprey, lake lamprey) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Petromyzon marinus

[ภศุสรร อมร]

เคยได้ยินว่าแลมเพรยชนิดนี้แพร่พันธุ์ได้เร็วมากนะครับคุณเพ็ญ มีข่าวว่ากำลังคุกคามทะเลสาบหล่ายแห่งในทางเหนือสหรัฐ
อย่าว่าแต่แลมเพรย์เลย ปลาในสกุลปลาช่อน ก็ถือว่าเป็นสัตว์ต่างถิ่นที่รุกรานในหลายพื้นที่ของอเมริกา แต่ที่หนักสุดเห็นจะเป็นงูหลามในรัฐฟลอริด้า

[เทาชมพู]

น้องอ๋อ ของคุณเพ็ญชมพู หรือปลาออร์ฟิช (ปลาพญานาค) โผล่หน้าตามาให้ดูอีกแล้ว

ปลาทะเลลึกที่แทบไม่มีใครเคยพบเห็น ลักษณะคล้ายกับงูใหญ่ ถูกพบลอยตายบนพื้นผิวทะเล นอกชายฝั่งเมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และถูกนำขึ้นฝั่งเพื่อทำการศึกษา ทั้งนี้ตามข้อมูลเชื่อว่าตลอดกว่า 100 ปีที่ผ่านมา เพิ่งเป็นครั้งที่ 20 เท่านั้น ที่มีคนพบเห็นมันลอยน้ำตายในแคลิฟอร์เนีย

ปลาออร์ฟิช หรือที่คนไทยเรียกว่า "ปลาพญานาค" ความยาว 12 ฟุต (3.6 เมตร) ถูกพบเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว โดยกลุ่มนักดำน้ำน้ำตื้นและนักล่องเรือคายัค ในแถบชายหาดลา จอลลา โคฟ ทางเหนือของแซนดีเอโก จากคำแถลงของสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปป์ส

ตามข้อมูลของ เบน ฟราเบิล ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการประมง พบว่าหนนี้เป็นเพียงแค่ครั้งที่ 20 เท่านั้น ที่มีคนพบเห็นซากปลาออร์ฟิช ลอยเกยตื้นในแคลิฟอร์เนีย นับตั้งแต่ปี 1901 เป็นต้นมา

ถ้อยแถลงของสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปป์ส เน้นว่าปลาออร์ฟิช มีชื่อเสียงเป็นตำนานในด้านการพยากรณ์เตือนภัยหายนะทางธรรมชาติหรือแผ่นดินไหว แม้ไม่มีข้อพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างมันกับหายนะทางธรรมชาติก็ตาม

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปลา ชี้แม้เจอปลาออร์ฟิช ไม่มีข้อมูลยืนยันบอกเหตุแผ่นดินไหว แต่ในทางวิทยาศาสตร์ชี้ ปลาที่อาศัยก้นทะเลลึก จะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสั่นสะเทือนใต้น้ำ

ปลาออร์ฟิช สามารถโตได้สูงสุด มีความยาวมากกว่า 6 เมตร และปกติใช้ชีวิตอยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทรเที่เรียกว่า เขตทะเลเปิดระดับกลาง (mesopelagic zone) บริเวณที่แสงส่องลงไปไม่ถึง

กลุ่มนักดำน้ำพากันนำปลาออร์ฟิชตัวดังกล่าว ขึ้นฝั่งโดยใช้แพดเดิ้ลบอร์ด จากนั้นเคลื่อนย้ายมันไปยังท้ายรถกระบะ ทั้งนี้บรรดานักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิทยาศาสตร์การประมงเซาต์เวสต์ขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) และสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปป์ส ได้ทำการชันสูตรซากของมันในวันศุกร์ (16 ส.ค) เพื่อสรุปถึงสาเหตุการตายของมัน

[ภศุสรร อมร]

เป็นภาพน่าตะลึง ปลานี่ภพได้ยากนัก แอบคิดว่าตำนานมังกร พญานาคต่างๆ อาจจะมีเค้าแห่งความจริง มาจากการที่คนโบราณได้ปลาชนิดนี้รึเปล่า?