ย้อนเรื่อง "ข้าวโพดสาลี" ตามคุณตั้ง
รอยอินท่านว่า คำว่า "สาลี" ในสมัยอยุธยาและต้นรัตนโกสินทร์นั้นหมายถึง "ข้าว" และคำว่า "ข้าวโพดสาลี" ในเพลงกล่อมเด็กก็หมายถึง "ข้าว" อีกนั่นแหละ
คำว่า สาลี มาจากคำบาลีว่า สาลิ หมายถึง ข้าว. คำว่า สาลี ความหมายนี้ปรากฏในหนังสือไตรภูมิพระร่วงที่ว่า "ข้าวสาลีนั้นหากเป็นต้นเป็นรวงเอง เป็นข้าวสารแต่รวงนั้นมาเองแล" และในลิลิตโองการแช่งน้ำมีว่า
"แลมีค่ำมีวัน กินสาลีเปลือกปล้อน
บมีผู้ต้อนแต่งบรรณา เลือกผู้ยิ่งยศเป็นราชาอะคร้าว
เรียกนามสมมติราชเจ้า จึ่งตั้งท้าวเจ้าแผ่นดิน"
ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ คำว่า สาลี หมายถึง ข้าวเจ้า ดังที่อักขราภิธานศรับท์ให้ความหมายของสาลีไว้ว่า "สาลี, แปลว่าเข้าสาลี, คือเข้าเจ้า, บันดาเข้าเจ้าทุกอย่างนั้น, เขาเรียกเข้าสาลี"
คำว่า สาลี ที่ปรากฏในเพลงกล่อมเด็กว่า "วัดเอ๋ยวัดโบสถ์ ปลูกข้าวโพดสาลี ลูกเขยตกยาก แม่ยายก็พรากลูกสาวหนี โอ้ข้าวโพดสาลี ป่านฉะนี้จะโรยรา" ก็น่าจะยังแปลว่า ข้าว
ปัจจุบัน เมื่อใช้คำว่า สาลี เราจะนึกถึงข้าวสาลีและแป้งสาลี. ข้าวสาลีเป็นพรรณไม้ต่างประเทศ เมล็ดบดเป็นแป้ง ส่วนแป้งสาลีคือแป้งที่ได้จากข้าวสาลี บางคนเรียกว่าแป้งมี่ ใช้ทำขนมปังเป็นต้น
ที่มา :
บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.