ความคิดของคุณคนน่าเบื่อก็คล้ายๆกับนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสมัยนี้แหละครับ ที่เห็นว่ากฎระเบียบอะไรที่ไม่ถูกใจตัวเองเป็นเรื่องโง่ๆ งี่เง่าไปหมด
ผมเห็นด้วยกับความเห็นของคุณเทาชมพูในความเห็นเพิ่มเติมที่ 52 ครับ คนสมัยนี้มักจะมีข้ออ้างให้กับตัวเองเสมอเวลาที่ตัวเองทำผิดกติกา เช่น ไปสนใจทำกับแต่งตัวให้ถูกระเบียบ ทำไม่ไม่รณรงค์ให้เด็กตั้งใจเรียน ฯลฯ เรียกว่าถ้ากฎไหนตัวเองไม่ชอบก็บอกว่าโง่ แล้วหาเหตุผลโดยการปัดสวะไปให้คนอื่นที่ทำความผิดขั้นร้ายแรงกว่า ผมขอเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่าพฤติกรรม “ปัดสวะ” ครับ คือปัดให้พ้นๆตัว ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ที่ค้านกับความคิดเห็นของตัวเอง เช่น "ฉันอยากจะแต่งตัวไม่สุภาพ ฉันอยากจะแต่งตัวโป๊ มาว่าฉันทำไม นู่นไปว่าคนไม่ข้ามทางม้าลายนู่น" ถ้าทุกคนมีความคิด “ปัดสวะ” กันหมด คุณคนน่าเบื่อ คิดว่าสังคมจะเจริญขึ้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นอีกหน่อยคุณก็จะเจอคำพวกนี้มากยิ่งขึ้น
“จ่ามาจับผมทำไม ผมแค่ไม่ข้ามทางม้าลายไม่ได้ขับรถชนใคร”
“สังคมมาประณามหนูทำไม หนูแค่ถ่ายภาพนู้ด ไม่ได้ขายตัวสักหน่อย ”
“มาว่าดิฉันทำไม ดิฉันแค่มีกิ๊ก ยังไม่ได้แย่งสามีใครเหมือนยายคนนั้น”
“มาว่าผมทำไม ถึงผมจะมีเมียน้อย แต่ก็ไม่ได้แย่งเมียใคร ผมไม่ผิดซะหน่อย”
หรือเมื่อเร็วๆนี้ที่ท้องสนามหลวง “ถึงดิฉันจะเป็นโสเภณี ถึงดิฉันจะผิดที่ขายตัว แต่อย่างน้อยดิฉันก็ไม่ได้ขายชาติ” ... ว่ากันไปนั่น
ในสังคมปัดสวะแบบนี้ จะมีคนเลวมั้ยครับนี่ หรือว่ากฎเกณฑ์ของสังคมและกฎศีลธรรมมันโง่งี่เง่าเอง
คนสมัยนี้มัวแต่ไปสนใจว่าใครผิดมากกว่าใคร ใครถูกมากกว่าใคร แต่ไม่เคยสนใจเลยว่าที่ตัวเองทำอยู่นะถูกหรือผิด!! ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ใครผิดกว่าใคร แต่มันสำคัญอยู่ที่ว่าสิ่งที่เราทำอยู่นะมันถูก หรือ มันผิด !! ถ้ามันผิด แม้ว่าจะเป็นเรื่องน้อยนิดก็ควรจะยอมรับและแก้ไข ไม่ใช่ปัดสวะว่าเป็นเรื่องโง่เง่า เรื่องเล็กน้อย ถ้าเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้ยังไม่มีกำลังต่อต้าน แล้วกิเลสหนักๆที่ยั่วยวนกว่าคุณจะเอากำลังที่ไหนไปต่อต้าน?
จะโทษคุณ ความเห็นเพิ่มเติมที่ 51 ที่มีความคิดน่าเบื่อมากๆแบบนี้อยู่ก็คงจะไม่ได้ เพราะสื่อสมัยนี้ก็ชี้ให้คนทำผิดกฎระเบียบกันอยู่แล้ว สังเกตดูละครไทยหลังข่าว และ ละครวัยรุ่น ตัวเอก ตัวดีที่สาวๆกรี๊ด มักจะต้องทำตัวเป็นคนที่แหกกฎ ต้องทำตัวผิดระเบียบ หรือไม่ก็ต้องเกเรนิดๆบ้างล่ะให้มันเด่นออกมา(ในทางไร้สาระ) ส่วนตัวละครที่ตั้งใจเรียน ทำตัวถูกระเบียบไม่สร้างปัญหา คนเขียนบทละครจะสร้างภาพให้เห็นว่าเป็นคนที่น่าเบื่อ ทั้งๆที่ในชีวิตจริง พวกที่ชอบแหกกฎนี่แหละที่น่าเบื่อที่สุด และสร้างปัญหาให้กับทุกฝ่าย และมักจะหวังพึ่งอะไรไม่ค่อยได้ (ก็จะหวังพึ่งอะไรได้ เรียนก็ไม่เรียน ความรู้ก็ไม่มี เอาแต่แหกกฎทำเทห์ไปวันๆ พอเกรดออกก็โวยหาว่าอาจารย์ลำเอียงทำนองว่า "ผมแต่งตัวไม่เรียบร้อยใช่มั้ยล่ะ เลยไม่ให้คะแนนผม ลำเอียงนี่หว่า" ... ว่าไปนั่น ... พวกนี้พบได้ตามสถานศึกษาทั่วไป)
อีกอย่างการแต่งกายผิดระเบียบของนิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้สมองของตัวเองซักเท่าไหร่ ทำตามแฟชันซะมากกว่า มันก็น่าขำที่นักศึกษาทำตามแฟชันได้แต่กลับจะเป็นจะตายที่จะทำตัวให้ถูกตามระเบียบ ถ้านักศึกษามีแนวคิดเป็นแบบตัวเอง ปฎิเสธเครื่องแบบจะแต่งตัวแบบไทยๆแบบเนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์ บอกว่า "ผมไม่แต่งหรอกครับเครื่องแบบมันสิ้นเปลือง ต่อไปนี้ผมจะห่มผ้าผืนเดียวมาเรียนก็พอ ตามแบบอย่างของท่านคานธี" ถ้าอย่างนั้นละก็พอจะบอกได้ว่าไอ้หมอนี่มีความคิดเป็นของตัวเองมีอุดมการณ์ แต่ที่เห็นในปัจจุบันเป็นเหยื่อแฟชั่นเสียมากกว่า แล้วคุณอยากให้ปัญญาชนของไทยมีภูมิต้านทานต่ำ ถูกจูงจมูกได้ง่ายๆอย่างนั้นหรือ? พอเห็นว่าเขาชอบกางเกงหลุดก้นโชว์ขอบกางเกงใน ก็ทำตามเขาไปเหมือนคนไร้สมอง อย่างนี้ทำไมคุณไม่ไปถามเขาบ้างล่ะว่าใส่กางเกงหรือกระโปรงเอวต่ำมันมีประโยชน์อะไร ที่จะใส่เครื่องแบบละก็ถามเอาถามเอา? จริงๆแล้วเด็กจะแต่งตัวตามแฟชั่นอย่างไรก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ ถ้ามันไม่ผิดกาละเทศะ แต่ให้ถูกสถานที่ถูกเวลา และก็กาลเทศะนี่แหละที่มหาวิทยาลัยอยากจะสอน เพราะเด็กสมัยนี้น่ะ มันขาดเอามากๆ
อ้อ คุณดูจะเข้าใจผิดหลายอย่างเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยนะครับ ระเบียบของมหาวิทยาลัย อย่างน้อยก็ที่ๆผมสอนอยู่ไม่ได้บังคับว่านิสิตจะต้องไว้ผมสั้นเป็นทหารเกณฑ์ จะไว้ผมยาว ผมทองผมม่วง หรือโกนหัว ก็ไม่มีใครว่า แค่ขอให้แต่ให้ถูกระเบียบ เสื้อไม่ให้สั้นรัดติ้วจนดูอุจาดตา กระโปรงไม่ให้เอวต่ำจนน่าเกลียด แล้วที่นักศึกษาคงจะลืมไปก็คือ มหาวิทยาลัยเช่น จุฬาฯ เป็นสถานที่ราชการ คำว่า “สถานที่ราชการ” แปลว่าอะไรคงไม่ต้องบอก เวลาคุณไปติดต่อสถานที่ราชการ ควรจะแต่งกายสุภาพหรือไม่ แล้วทำไม่สถานที่ราชการอื่นๆเช่นไปที่ว่าการเขตคุณทำได้ แต่ตัวเรียบร้อยได้ ครูบาอาจารย์คุณนั่งทำงานอยู่หรือเปล่า? แต่ทำไมสถานที่ๆอบรมสั่งสอนคุณกับไม่ยอมรับ ทำไมเวลาเรียนจบไปเข้าทำงานในบริษัทที่ต้องแต่งเครื่องแบบถึงแต่งให้ถูกระเบียบได้ หรือว่ากลัวถูกตัดเงินเดือน แต่ไม่กลัวอาจารย์ว่า? เวลาเข้าห้องสอบซึ่งบังคับว่าต้องแต่งตัวถูกระเบียบทำไมแต่งตัวถูกระเบียบได้ หรือว่ากลัวสอบตก โชคดีนะที่เรียนเมืองไทย ถ้าคุณเรียนที่มหาวิทยาลัย Oxford ละก็ เวลาเข้าห้องสอบคุณต้องใส่เสื้อครุยเข้าไปสอบด้วย (ผมก็ไม่เห็นมีเด็กอ็อกบริดจ์คนไหนออกมาบอกว่างี่เง่า เขาภูมิใจเสียด้วยซ้ำ)
สิ่งที่อธิการสอนให้แต่งตามระเบียบไม่ได้หมายความว่าอย่างอื่นไม่ได้สอน ผมก็ชี้แจงไปแล้วว่ามหาวิทยาลัยเห็นความสำคัญของผลงานของนิสิต ไม่ใช่ว่าคุณไม่เข้าเรียนแต่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วคุณจะได้เกรดเอ ถ้าคุณยังคิดอย่างนี้อยู่ก็ขอให้เปลี่ยนความคิดซะ มันคนละเรื่องกัน ในทุกสังคม กฎ กติกา เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมประชาธิปไตย มันทำให้เราใช้สิทธิของตนเองได้ โดยไม่เบียดเบียนสิทธิของคนอื่น มหาวิทยาลัยพยายามที่จะสอนให้คนรู้จักเคารพกฎ แน่นอน เราสอนให้เด็กรู้จักเคารพกฎจราจรด้วย รู้จักตั้งใจเรียนด้วยไม่ใช่ไม่สอน แต่นักศึกษาจะฟังหรือเปล่านั่นอีกเรื่อง คุณก็เห็นๆอยู่ขนาดเรื่องเล็กๆแค่ให้แต่งตัวถูกระเบียบยังไม่ยอมทำ แล้วเรื่องให้ทำถูกกฎจราจรซึ่งยากกว่าจะทำได้หรือ? ถ้าคนในสังคมเห็นความสำคัญของกฎและกติกา คงไม่มีใครจะมาแก้กฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ของตัวเองได้ง่ายๆหรอกครับ ที่บ้านเมืองเรามาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เพราะกฎหมายเราห่วย แต่เป็นเพราะคนในสังคมไร้วินัยที่จะปฎิบัติตามต่างหากถึงได้แก้รัฐธรรมนูญกันไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ กฎและระเบียบของราชการมันก็ไม่ได้งี่เง่านักหรอกครับ ระเบียบต่างๆเขาสร้างมาเพื่อกันปัญหาต่างๆ แต่คนที่ไม่รู้หน้าที่ ไม่มีวินัยในการทำงานต่างหาก ที่ก่อให้เกิดปัญหา
ผมเชื่อว่าต่อให้คุณแก้กฎแก้ระเบียบไปอีกกี่รอบ ตราบใดก็ตามที่ค่านิยมของคนยังไม่เปลี่ยน ยังไร้วินัยเหมือนเดิม กฎระเบียบก็เป็นแค่ตัวหนังสือ สิ่งสำคัญคือต้องสร้างให้คนในชาติมีวินัย รู้จักหน้าที่ของตนเอง และนั่นคือสิ่งที่มหาวิทยาลัยทำ นี่คื่อสิ่งที่การศึกษาจะสร้างขึ้น ไม่ใช่แค่ให้ความรู้ แต่ยังสอนนิสิตให้มีวินัยและสำนึกของพลเมืองที่ดี เพื่อที่จะเป็นกำลังของชาติ และหลายสิ่งที่เราสอนไม่ได้เขียนอยู่ในตำราและมันก็รวมถึงสิ่งที่คุณบอกว่ามันเป็นระเบียบโง่เง่านั่นเอาไว้ด้วย
ที่บอกว่าถ้าเครื่องแบบดีจริงทำไมไม่ให้อาจารย์แต่งเครื่องแบบ ... คุณทราบบ้างหรือเปล่าว่าคนที่เป็นครูบาอาจารย์น่ะมีกฎอะไรบ้าง ทั้งที่เป็นระเบียบของมหาวิทยาลัย ทั้งที่เป็นจรรยาบรรณของครู และทั้งที่ไม่ได้เขียนแต่เป็นสามัญสำนึกของคนที่เป็นครูที่ดี ทีมีหน้าที่ต้องอบรมนักเรียนให้เป็นคนดี? ถ้าคนเป็นครูเป็นอาจารย์นุ่งกระโปรงเอวต่ำมาสอน หรืออาจารย์ชายนุ่งเสื้อรัดๆ กางเกงเอวต่ำโชว์ขอบกางเกงในมาสอน คุณเอามั้ยล่ะ? สำหรับนิสิตนักศึกษาถ้าแค่หน้าที่ของตัวเอง และกฎง่ายๆที่แม้แต่เด็กมัธยมยังทำได้ ยังไม่มีความอดทนอดกลั้นพอที่จะทำ แล้วจะให้หวังอะไรได้