สำหรับหลักฐานพยานวัตถุทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดได้แก่ อัฐิธาตุจำนวน ๖ ชิ้น (แต่ยังจะมีอีกมากในบาตร) และทันตธาตุหน้าส่วนบน ๑ ชิ้น และตัวบาตรกับองค์ประกอบที่ประดับกระจกฝีมือระดับเครื่องราชูปโภค หรือสมณูโภคของพระมหาเถระชั้นสูงเท่านั้น
จากหลักฐานทั้งหมด คณะนักโบราณคดีพม่าเชื่อว่า โบราณสถานสิ่งก่อสร้างเหล่านี้มีความสัมพันธ์ต่อสายสกุลที่สำคัญยิ่งสายสกุลหนึ่ง ที่นิยมปลงศพด้วยการเผา ซึ่งไม่ใช่สายสกุลฝ่ายพม่าแน่ เพราะพม่านิยมการฝัง ที่จะเผาก็จะมีเฉพาะพระเถระเท่านั้น ส่วนชนชาติโยเดียนิยมการเผาศพเมื่อเผาแล้วก็จะนำอัฐิเข้าบรรจุในสถูปรายล้อมสถูปของบุคคลสำคัญในสายสกุล เมื่อพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้ว ไม่มีสายสกุลของชาวต่างชาติใดในพม่าที่จะใหญ่เท่าสายราชสกุลวงศ์ของพระเจ้าอุทุมพร ที่มีเจ้านายโยเดียได้ตามเสด็จไปด้วยนับร้อยนับพันพระองค์ ทั้งนี้ยังไม่รวมข้าราชบริพารอีกเป็นจำนวนมากอีกด้วย
อย่างไรก็ดี คณะทำงานได้ย้ำว่า ไม่มีหน้าที่ที่จะวินิจฉัยประเด็นดังกล่าว ข้อยุติจะต้องมาจากคณะกรรมการที่รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้น ตามโครงการที่จะบูรณาการร่วมกันระหว่างพม่ากับไทยเท่านั้น
ในเมื่อฝ่ายเอกชนไม่ได้จะเป็นจะตายในเรื่องที่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลทั้งสองประเทศ ผู้บริจาคทุนทรัพย์ก็เข้าใจอยู่แล้ว เงินทองโอนมาให้สมาคมสถาปนิกสยามเรียบร้อย สุดแล้วแต่ผู้เชี่ยวชาญของสมาคมจะตัดสินใจจะทำอะไรต่อไป ก็เชื่อใจเต็มร้อย
นักวิชาการฝ่ายไทยและฝ่ายพม่าในสมาคมจิตพรรณจึงนั่งคุยกันว่า การที่จะไปชี้แจงทุ่มเถียงในประเด็นเรื่องใช่ไม่ใช่พระบรมอัฐินั้น ก็เป็นประเด็นหนึ่ง แต่ที่สำคัญกว่าก็คือ ในเมื่อทางการพม่าได้มอบพื้นที่ถึง ๑ เอเคอร์ให้แล้ว ถ้ามัวแต่มาติดบ่วงเรื่องที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับทิษฐิของมนุษย์ ก็จะเป็นการเปล่าประโยชน์
แต่แรกเริ่มเลยที่รัฐบาลไทยจะเข้ามาตั้งให้สมาคมสถาปนิกสยามเป็นตัวแทน ทางคณะทำงานเคยคิดกันก็เพียงแต่ว่า หากขุดหาหลักฐานพบสิ่งของใดในสถูปที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับมหาเถระอุดุมบารา ก็จะนำไปบรรจุในสถูปใหม่ที่จะสร้างขึ้นในวัดใกล้ๆนั้น เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานของพระองค์
คุยกันใหม่ครั้งนี้ คนพม่าถามว่าคนไทยรู้จักอนุสรณ์สถานหรือเปล่า ในพม่ามีอนุสรณ์สถานของพระเจ้าบุเรงนองอยู่สี่ห้าแห่งทั่วประเทศ ที่ตั้งของอนุสรณ์สถานเหล่านั้นก็ไม่ใช่ว่าเกี่ยวข้องกับพระราชประวัติใดๆของพระองค์เลย ทำไมเราจึงจะไม่บูรณะโบราณสถานที่ค้นพบบนเนินลินซินที่ทางการของพม่ายกให้แล้วนี้ ให้เป็นอนุสรณ์สถานของมหาเถระอุดุมบารา อดีตกษัตริย์พระองค์หนึ่งของกรุงศรีอยุธยา ผู้ทรงมาใช้ชีวิตในพม่าถึง ๒๙ ปี จนกระทั่งเสด็จสวรรคตในฐานะพระอรหันต์ในความเชื่อถือศรัทธาของชาวพม่า
จริง…ทำไมคนไทยจะไม่รู้จักอนุสรณ์สถาน ยกตัวอย่าง ในเมืองไทยก็มีอนุสรณ์สถานของสมเด็จพระนเรศวรนับสิบแห่ง โดยไม่ได้ระบุว่า ณ จุดนั้นพระองค์ได้เคยเสด็จไปประทับพระบาทเช่นกัน
ถึงจุดนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงเห็นพ้องกันว่า จะดำเนินงานต่อไป ภายใต้ชื่อว่า “โครงการอนุรักษ์ปฏิสังขรณ์อุทยานประวัติศาสตร์มหาเถระอุดุมบารา” โดยฝ่ายพม่าจะเป็นผู้ดำเนินการ ฝ่ายเอกชนไทยจะเป็นผู้สนับสนุนในด้านการแบบก่อสร้างและเงินทุน ตามหลักการเดิมเป็นดีที่สุด แต่เมื่อไม่มีฝ่ายรัฐทั้งสองประเทศสนับสนุนแล้ว ก็จำเป็นต้องหาบุคคลที่รัฐบาลพม่าเกรงใจมาเป็นผู้นำ
คณะทำงานฝ่ายพม่าได้คนเชื้อสายโยเดียเข้ามาเป็นแนวร่วม และมีความเห็นว่าควรอาราธนาพระสงฆ์ผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นที่เคารพและศรัทธาของมหาชนชาวพม่าสักองค์หนึ่งมาเป็นองค์อุปถัมภ์ เพื่อที่จะยื่นขออนุญาตต่อทางราชการเมืองมัณฑะเลย์ ในการทำโครงการอนุรักษ์ปฏิสังขรณ์อุทยานประวัติศาสตร์มหาเถระอุดุมบาราดังกล่าวนี้ต่อไป