เรื่อง เพชรพระอุมา ทราบแต่ว่า นำโครงเรื่องมาจาก KING SOLOMON'S MINES เขียนโดยนักประพันธ์อังกฤษ คือ SIR H. RIDER HAGGARD
พนมเทียนเขียนเล่าที่มาของโครงเรื่อง "เพชรพระอุมา" ไว้ดังนี้
"พล็อต" หรือที่มาของโครงเรื่อง
การจะเขียนนวนิยายขึ้นมาสักเรื่องหนึ่งก็ต้องมี "โครงเรื่อง" หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่า "พล็อต" นั่นเอง เรื่อง เพชรพระอุมา ก่อนจะลงมือเขียน ก็ต้องมีการวางโครงเรื่องเหมือนกัน นอกจากโครงนอกที่หยาบที่สุด คือ โครงใน ของเรื่องราวการผจญภัยในป่า ของพรานคนหนึ่ง
ที่นี้ พรานป่าคนนั้น รวมทั้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในป่าเหล่านั้น จะดำเนินไปอย่างไร นี่คือจุดสำคัญของเรื่อง ส่วนประกอบอันเป็นรายละเอียดต่าง ๆ ที่จะมาสนับสนุนการดำเนินเรื่องไปนั้น มีอยู่ครบถ้วนเต็มเปี่ยมแล้ว ศิลป์ของการล่าสัตว์ และพื้นภูมิประเทศในป่าดงพงไพร ที่ตนเองเคยผ่านมาก่อน พล็อตของเรื่องนี้ซิ จะเอายังไง ก่อนที่จะลงมือเขียน
เมื่อยังวัยรุ่น ตอนเป็นนักเรียนอักษรศาสตร์ ผมได้ไปพบกับหนังสืออ่านประกอบบทเรียนของญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งท่านเก็บเอาไว้ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนในแผนกภาษา ของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (สมัยที่ผมเรียนอักษรศาสตร์อยู่ในปี ๒๔๙๑-๒๔๙๒ นั้น เขาเลิกใช้หนังสือเล่มนี้กันแล้ว) ชื่อเรื่อง KING SOLOMON'S MINES เขียนโดยนักประพันธ์อังกฤษ คือ SIR H. RIDER HAGGARD มีเนื้อหาสำคัญของเรื่องเกี่ยวกับการเดินผจญภัยในป่าของพรานผิวขาวผู้หนึ่ง ซึ่งมีผู้จ้างวานให้ไปติดตามคนหายก่อนการออกเดินทางนั้น มีคนพื้นเมืองคนหนึ่งมาขออาสาสมัครเป็นคนใช้ติดตามไปด้วย และผลที่สุดเมื่อไปถึงดินแดนหลงสำรวจในป่าลึกนั้น ก็ปรากฏว่า เจ้าคนใช้ที่สมัครติดตามมานั้น แม้ที่จริงก็คือรัชทายาทของนครลับแล หลงสำรวจนั้น พรานนำทางกับคณะผู้ติดตามคนหาย ก็เลยช่วยกันต่อสู้กอบกู้บัลลังก์จากทรราชย์ ให้เจ้าคนใช้คนนั้นได้สำเร็จ พร้อมทั้งได้พบกับขุมทรัพย์ใหญ่แห่งนครนั้น
โครงเรื่องเพียง ๕-๖ บรรทัดแค่นี้เองแหละครับ (เฉพาะในภาคหนึ่ง) ที่ผมได้เอามาจากแนวโครงเรื่องเดิมของคิง โซโลมอนส มายน์ส ของ เซ่อร์ฯ แฮกการ์ด เพราะมันเป็นเค้าโครงเรื่องที่ดีมากในการจะนำมาเขียนถึงพฤติกรรม หรือปฏิบัติการเดินป่าของพรานในนวนิยายที่กำลังจะเขียนขึ้น เพราะจะทำให้พล็อตเรื่องมีจุดหมายที่แน่นอนลงไป ส่วนหน้าที่ในการสร้างบรรยากาศให้เป็นป่าแบบไทยความรู้สึกนึกคิด สิ่งแวดล้อมต่างๆ ของเรื่องเป็นหน้าที่ของผมเองที่จะต้องนำมาประสานกันให้กลมกลืนหมดจรด
ผมเคยทราบมาก่อนเหมือนกันว่า บทประพันธ์ของ แฮกการ์ด เรื่องนี้ นักแปลรุ่นพ่อคือ สมุทร ศิริไข ได้เคยแปลไว้ก่อนแล้ว และท่านผู้นี้ก็ใช่ใครอื่น แท้ที่จริงก็คือ บิดาของสุมิตร ศิริไข ผู้ช่วยบรรณาธิการของ นิตยสารจักรวาลปืน ในขณะนี้นั่นเอง ซึ่งเราเคยเป็นเพื่อนเรียนหนังสือมาด้วยกันแต่เล็ก ๆ จนกระทั่งโตขึ้น จับผลัดจับผลูอย่างไรไม่ทราบ เขาก็ได้มามีโอกาสร่วมงานอยู่ในกองบรรณาธิการของผม ปัจจุบันนี้ผมเรียกคุณพ่อเขาว่า "น้าหมุด" และ "น้าหมุด" คนนี้แหละ เป็นคนแรกที่สนับสนุนให้ผมก้าวเข้ามาสู่วงการนักเขียนเป็นครั้งแรก เมื่อ ๓๐ กว่าปีก่อนนี้ โดยนำเอาเรื่อง ปฐพีเพลิง ของผมไปนำลงในนิตยสาร เพลินจิตต์ ในยุคนั้น แต่ผมก็ไม่เคยมีโอกาสได้อ่านเรื่องแปลเรื่องนี้ของท่าน (ชื่อที่ท่านแปลกลับมาเป็นภาษาไทยคือ "สมบัติพระศุลี") ผมดันไปอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ อันเป็นหนังสือประกอบบทเรียนของญาติผู้ใหญ่ (คุณสุวรรณา คุปตาสา) ตั้งแต่สมัยยังเด็ก ๆ อยู่ดังได้กล่าวแล้ว และท่านคงไม่สงสัยนะครับ เพราะภาษาอังกฤษของผมสบายมาก มาตั้งแต่อายุเพียง ๑๔ ปีแล้ว ซึ่งก็จำพล็อตเรื่องคร่าว ๆ ดังกล่าวนี้ได้มาตลอด จะว่าผมเขียน เพชรพระอุมาภาคแรก ขึ้นมาโดยก๊อปปี้เค้าโครงเรื่องนี้ ผมก็ยอมรับ แต่รายละเอียดของโครงภายในและปลีกย่อยการดำเนินเรื่องต่างๆ นั้น เป็นของผมเองโดยบริสุทธ์ เอาแต่โครงเรื่องสั้น ๆ ของเขามาเท่านั้น ว่าจุดมุ่งหมายของเรื่องอยู่ในแนวทางนี้ แนวทางอย่างที่ได้เขียนออกมาแล้วมีเนื้อหาแค่ ๔-๕ บรรทัดนี่แหละ
บทประพันธ์เรื่อง คิง โซโลมอน'ส มายน์ส เป็นเรื่องที่ไม่ยาวครับ หนาแต่ปกแข็งเล่มเดียว ซึ่งครั้งแรก ผมก็กะ (อย่างที่บอกไว้ในฉบับก่อน) ว่าจะเขียนออกมาเป็นปกแข็งเพียง ๑ เล่ม หรือไม่เกิน ๒ เล่มเท่านั้น แต่แล้วในที่สุดโครงเรื่องมันก็กว้างใหญ่ไพศาลเป็นจำนวนถึงปกแข็ง ๕๓ เล่ม ดังได้เรียนแล้ว
เป็นอันว่า ท่านกระจ่างแจ้งละว่าโครงเรื่องย่อ ๆ เฉพาะภาคหนึ่งนั้น ผมได้มาจากไหน คราวนี้ ว่าถึงโครงเรื่องละเอียด ที่นำเรื่องให้ขยายกว้างไกลออกไปลิบลับ สมมติว่า ท่านได้อ่านนิยายผจญภัยของ แฮกการ์ด เรื่องนี้มาก่อนแล้ว (ถ้าหาต้นฉบับเดิมไม่ได้ ผมก็แนะให้ไปหาเรื่องแปล สมบัติพระศุลี ตามห้องสมุดต่างๆ อ่านดู) ท่านจะเห็นได้ชัดเจนว่า นอกจากพล็อตเรื่องสั้น ๆ นี้แล้ว อย่างอื่น ๆ จะไม่มีอะไรใกล้เคียงกันเลย แม้กระทั่งลักษณะอุปนิสัยของตัวละครในเรื่องทุกตัว ฉาก, สถานที่, พฤติกรรมที่มันเกาะเกี่ยวประสานกัน ในต้นฉบับเดิมนั้น คณะเดินทางไม่มีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย เป็นเรื่องผจญภัยล้วน ๆ ในกาฬทวีปของผมก็สร้างตัวเองฝ่ายหญิงของเรื่องขึ้นมา คือ ม.ร.ว.หญิง ดาริน วราฤทธิ์ เพื่อให้ร่วมเดินทางเป็น "ขมิ้นกับปูน" หรือ "คู่ปรับสำคัญ" ของพรานนำทางไปด้วย และตัวคนพื้นเมืองลึกลับที่มาสมัคร เป็นคนใช้ของคณะเดินทาง ในต้นฉบับเดิมของเรื่องเก่า จะไม่มีบทบาทอะไรมากนัก แต่ท่านที่อ่านนวนิยายเรื่องเพชรพระอุมาแล้วนั้น ท่านคงจะรู้จักแงชาย หรือ จักราช ดี โดยไม่ต้องอธิบายเปรียบเทียบอะไรมาก ว่าแพรวไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายขนาดไหน เชือดเฉือนหักเหลี่ยมเล่นเชิงกับ รพินทร์ อยู่ในทุกบททุกตอน ทำท่าจะเป็นตัวเอกสำคัญกว่าตัวรพินทร์เองเสียอีก ในนิยายเรื่องนี้ เหมือนมี "พระเอก" อยู่สองคน แงชายจะไม่ดูว่าเต็มไปด้วยเล่ห์ไหวพริบ เก่งกาจ น่ารักน่าชัง ถ้าหากไม่มีตัวรพินทร์ และแม้รพินทร์เอง ก็จะไม่เป็นพรานป่า ระดับ "จอมพราน" ไปได้เลย ถ้าหากไม่มีแงชายมาเป็นตัวช่วยเสริมบทให้ และท่านผู้อ่านบางท่านอาจชอบ "แงชาย" มากกว่ารพินทร์เสียอีก ดูคล้าย ๆ กับว่า ไม่ว่าจะฝีมือชั้นเชิงเขาเหนือรพินทร์ไปเสียหมดทุกอย่าง แต่แท้ที่จริงแล้ว เขายังด้อยกว่าในส่วนลึก ๆ ซึ่งในเนื้อหาของเรื่อง ท่านผู้อ่านคงจะดูดซับรับจินตนาการ ที่ผมเจตนาจะให้เป็นไปเช่นนี้ได้อยู่แล้ว
http://petprauma.com/content/inside02.htmlKing Solomon's Mines โดย SIR H. Rider Haggard
http://www.pagebypagebooks.com/H_Rider_Haggard/King_Solomons_Mines/