"ส่วนการที่เถรวาทจะไปยืมพระโพธิสัตว์ มหายานมาใช้ในชาดก 500 พระชาติ ก็ไม่แปลกอะไร
เถรวาทเกิดในสมัยหลัง ก่อนเข้ามาที่ทวารวดี ไม่ใช่มหาสังฆิกะที่ยึดตัวบทจากยุคเริ่มแรก
การมีพระโพธิสัตว์ก็แปลกดีครับ ผสมผสานกันอย่างไรไม่รู้"ข้อความข้างต้น ถอดสมการออกมาแล้ว ทำความวายป่วงแก่ความรู้ดังนี้
1 เถรวาทจะไปยืมพระโพธิสัตว์มหายานมาใช้ในชาดก 500 พระชาติคุณเป็นคนแรก(ในโลก) กระมัง ที่ยืนยันว่าชาดก 500 พระชาติเป็นของมหายาน แล้วเถรวาทยืมมาใช้
นี่เป็นเรื่องใหญ่กว่าข้อเสนอเรื่อง ร. 4 สร้างจารึกพ่อขุนราม เสียอีกนะครับ
ตามตำราปกติ ท่านบอกว่า มหายาน มาแยกตัวออกไปจากเถรวาทแล้วมาได้พระเจ้ากนิษกะเป็นอัครนูปถัมภก
เมื่อราวพ.ศ. 600 กึ่ง หรือร่วมสี่ร้อยปี หลังพระเจ้าอโศก
ผู้ซึ่งเถรวาทนับเป็นธรรมราชาผู้ทรงอุปถัมภ์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์แรก สมัยอโศกนี่ ยังไม่มีมหายานนะครับ
แล้วศิลปะสมัยอโศกนี่แหละ ที่มีรูปประดับมหาสถูปสาญจี เป็นเรื่องราวในนิบาตชาดกแล้ว (ดูรูป)
http://fog.ccsf.cc.ca.us/~jcarpent/images/Indus%20and%20Buddhist%20Art/Monkey_jataka.jpgยิ่งกว่านั้น ทั้งอนุทวีปอินเดีย ศิลปะที่เก่าแก่ที่สุด ก็คือพุทธศิลปะแห่งสาญจีนี่เอง
(อาจจะรวมถ้ำโลมาสฤาษี ที่เก่ากว่านิดหน่อย แต่ไม่มีรูปชาดก เอาไว้ในกลุ่มนี้ก็ได้)
เก่าแก่ก่อนมีศิลปะในศาสนาอื่นใดทั้งสิ้น แล้วอย่างนี้ จะไปยืมชาดกมาจากใครได้ครับ
2 มหาสังฆิกะยึดตัวบทจากยุคเริ่มแรกตรงนี้ยิ่งกว่าเรื่อง ร. 4 บวกกับเรื่องเถรวาทยืมมหายานอีก
น้องๆ ที่เรียนมาว่า มหายานคือฝ่ายที่ขอแยกตัวออกไปจากเถรวาท เพราะเหตุผลสำคัญคือ
ต้องการแก้ไข
คงงงเต๊กว่า จะเชื่อท่านวรณัยดีใหมหนอ ผมก็ขออนุญาตแนะนำว่า ท่านคงเบลอไปชั่วขณะ
ผมก็เลยยืมความจากวิกีมาแปะให้อ่าน เพราะอ่านง่าย เผื่อว่าคนที่ไม่เชื่อถ้อยคำของผม
อาจจะสะดวกใจเชื่ออินตะระเนตมากกว่า
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99"หลังจากพระพุทธองค์ปรินิพพานได้ 100 ปี อันเป็นช่วงเวลาที่มีการสังคายนาครั้งที่ 2
ได้มีคณะสงฆ์กลุ่มหนึ่งเรียกว่า มหาสังฆิกะ ซึ่งมีจำนวนมาก ได้แยกตนออกไปต่างหากจากกลุ่มเถรวาทเดิม
การแยกตัวของมหาสังฆิกะนี้มีมูลเหตุจากความเห็นที่แตกต่างเรื่องหลักปฏิบัติของภิกษุ หลังจากนั้นมหาสังฆิกะ
ได้แยกกลุ่มนิกายย่อยออกไปอีก 18 นิกาย เนื่องจากมีทัศนะ อุดมคติ การตีความหลักธรรม และวัตรปฏิบัติที่แตก
ต่างกัน หลังจากนั้นภิกษุบางรูปในนิกายทั้ง 18 นี้ ได้แยกตนออกมาตั้งคณะใหม่โดยถือปรัชญาและหลักจริยวัตร
ของตน กระทั่งในราวพุทธศตวรรษที่ 5 จึงได้เกิดกลุ่มคณะสงฆ์และคฤหัสถ์ที่เรียกตนเองว่า "มหายาน" ขึ้น
แม้จะมีที่มาไม่แน่ชัด แต่สันนิษฐานได้ว่าพัฒนาจากนิกายมหาสังฆิกะ ผสมผสานกับปรัชญาของนิกายพุทธศาสนา
อื่นทั้ง 18 นิกาย รวมทั้งนิกายเถรวาทด้วย ก่อกำเนิดเป็นลัทธิมหายาน"
สั้นๆ แค่นี้ น่าจะพอ