และ
http://watsaitong.blogth.com/page5/&thisy=&thism=&thisd=เรียบเรียงจากหนังสือตามรอยเสด็จฯ เกาะช้างจังหวัดตราด ค้นคว้าวิจัยโดย นายอภิลักษณ์ เกษมผลกูล
บอกว่า
"พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้นตามหัวเมืองต่างๆ 24 ครั้ง เป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองตราดถึง12 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2416 เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นผู้ตามเสด็จประพาสน้ำตกธารมะยม เกาะช้าง
และเกาะกระดาดทางฝั่งตะวันตก
ครั้งที่ 2 ต้นเดือนมกราคม 2420 เสด็จประพาสเกาะช้าง มีพระราชนิพนธ์เล่าว่า เกาะนี้เสือ ชุมนัก เสด็จขึ้นพลับพลาที่บ้านคลองนนทรี พักผ่อนกิริยาบทแล้วเสด็จปีนเขาเพื่อทอดพระเนตรน้ำพลุ คลองมะยม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ทำกองศิลา ด้วยทรงอนุสรณ์ให้ทราบว่าได้เสด็จ มาถึงที่นี้ถึงสองคราว จากนั้นเสด็จประพาสเกาะกระดาด ทรงพระสำราญกับการเดินป่า มีพระราชหัตถเลขาว่าที่นี่มีกวางและเนื้อทรายชุกชุมมาก
ครั้งที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ 2423 สันนิษฐานว่าเป็นการเสด็จเพื่อทรงรำลึกถึงพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีที่เสด็จทิวงคต เพื่ออนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ ที่เคยเสด็จประพาสชายทะเลด้วยกัน เสด็จไปที่น้ำตกธารมะยม เกาะช้าง และเกาะกระดาด
ครั้งที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ 2424 เสด็จเกาะกงไปทอดพระเนตรวัดคงคาราม หรือวัดเกาะปอ เสด็จกลับเกาะกระดาด เกาะช้าง และเข้าไปตามอ่าวสลักเพชร นายติ้น หลวงสลักเพชรพัฒนกิจ กราบถวาย รายงาน วันรุ่งขึ้น เสด็จพระราชดำเนินประทับ ณ. ตัวเมืองตราด เสด็จฯ ตามเส้นทางคลองบางพระ ขึ้นทอดพระเนตรบ้านเรือนราษฎร ทรงซื้อผ้า และพระราชทานผ้าแก่ผู้ตามเสด็จ นับเป็นครั้งแรกที่เสด็จเยือนตัวเมืองตราด
ครั้งที่ 5 เดือนธันวาคม 2425 เสด็จประพาส เกาะช้าง จอดเรือบรรทมที่คลองพร้าวและอ่าวสลักเพชร จากนั้นจึงเสด็จไปเกาะหมาก และเกาะกระดาด
ครั้งที่ 6 เดือนธันวาคม 2426 การเสด็จครั้งนี้มีพระราชประสงค์เพื่อพักพระราชภารกิจ หลังจากทรงหายจากอาการประชวร มีสมเด็จพระศรีพัชรินพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชินี และ ข้าราชบริภารฝ่ายใน ตามเสด็จประพาสน้ำตกธารมะยม บ้านหลวงสลักเพชร จากนั้นเสด็จไปเกาะหมาก และเกาะกระดาด
ครั้งที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ 2427 เสด็จเกาะช้าง ราษฎรบ้านสลักคอก ขอพระบรมราชานุญาตให้ ประทับรอยพระบาทสร้างพระอุโบสถ พระราชทานชื่อวัดว่า วัชคามคชทวีป เสด็จไปยังน้ำตกธารมะยม
ทรงโปรดให้จารึก พระปรมาภิไธยย่อ จปร. 1246 ไว้เป็นครั้งแรก รุ่งเช้าเสด็จพระราชดำเนินไปที่แหลมงอบ และในปีนี้ได้พระราชทานพระบรมสาทิสลักษณ์ทรงเครื่องต้น ให้กับพระยาตราด ปัจจุบันพระบรมสาทิสลักษณ์นี้ประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วัดบุปผาราม
ครั้งที่ 8 เดือนตุลาคม 2430 ประพาสเกาะกระดาด เกาะกูด เกาะช้าง น้ำตกธารมะยม ทรงลุยน้ำในลำธารข้ามแก่ง พระราชทานนามว่า “ แก่งทรงลุย ” รุ่งเช้าเสด็จประพาสเมืองตราด ถวายผ้าพระกฐิน ที่วัดบุรินทรประดิษฐ์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งวิทยาลัยสารพัดช่างตราด ส่วนพระประธานวัดบุริน ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ. ศาลาการเปรียญวัดแหลมงอบ
ครั้งที่ 9 26 กุมภาพันธ์ 2432 ประพาสเกาะช้าง เกาะกระดาด ที่ลำธารน้ำตกธารมะยม ทรงโปรดต้นเฟิร์น กล้วยไม้ และช้างน้าว ที่ออกดอกเหลืองอร่าม เสด็จถึงยอดเขาน้ำตกธารมะยม โปรดให้ผูกผ้าทำธง พระราชทานชื่อยอดเขาว่า ธัชกูฎ
ครั้งที่ 10 มีนาคม 2443 ประพาสน้ำตกธารมะยมเกาะช้าง เกาะกระดาด และแหลมงอบ ทอดพระเนตรโรงทหาร และวัดสุวรรณาเขต ชาวบ้านเรียกวัดแหลมงอบ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา
ครั้งที่ 11 1 มีนาคม 2444 ประพาสเกาะช้าง เกาะกูด ต่อมาเสด็จเมืองตราด เมืองจันทบุรี หลังจากเสด็จครั้งนี้แล้ว อีก 2 ปีเศษ เมืองตราดก็ตกเป็นของฝรั่งเศส....ด้วยความโทรมมนัส ตรอมตรมในพระราชหฤทัย..ยิ่งนักทำให้ล้นเกล้าพระปิยะมหาราชว่างเว้นการเสด็จ เยือนเมืองตราดนานถึง 6 ปี
ครั้งที่ 12 13 พฤศจิกายน 2450 เสด็จกลับจากยุโรปได้เสด็จมาปลอบขวัญชาวเมืองตราดก่อนกลับคืนสู่พระนคร ทรงขึ้นฝั่งที่บ้านท่าเรือจ้าง และเสด็จตามถนนเข้าตลาดขวาง ไปท้ายตลาดใหญ่ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา พระวิมลเมธาจารย์อ่านคำถวายพระพรชัยมงคล มีพระราชดำรัสตอบปลอบขวัญ แล้วพระราชทานพระแสงราชศาสตราวุธประจำเมือง นับเป็นการเสด็จประพาสจังหวัดตราด ครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในพระชนม์ชีพ หลังจากนั้นอีก 3 ปี พระองค์ก็เสด็จสวรรคต"