เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
อ่าน: 29134 จารึกอักษรพระปรมาภิไธยรัชกาลที่ ๕ - ๖ - ๗
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 22 เม.ย. 11, 09:10


แล้ว จอ สอ ร้อย ละครับ  แลบลิ้น

ถามอย่างนี้ ประสงค์จะลองของใช่ไหม ดอน
บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 22 เม.ย. 11, 13:51

ขอบพระคุณ คุณV_Mee ค่ะ

อักษรพระนามาภิไธย "มว" ในความเห็นที่ ๔๐ นั้นคือ อักษรพระนามาภิไธยย่อของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร  อักษรพระนามาภิไธยนี้ทรงใช้ในช่วงเวลาที่ยังทรงเป็นสมเด็จพระยุพราช  เมื่อเสด็จเสวยสิริราชสมบัติแล้วจึงทรงใช้อักษรพระนามย่อ ว.ป.ร.




ประวัติน้ำตกคลองเจ้า-น้ำตกธารสนุก-คลองสนุกน้อย... สนุกมากๆ เลยค่ะ ทรงมีพระอารมณ์ขันมากเลยนะคะ  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 25 เม.ย. 11, 16:43

จารึกอักษรพระปรมาภิไย จ.ป.ร.  ที่รัชกาลที่ ๕
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จารึกเป็นที่แรกครั้งแรก
คือสถานที่ไหน  เมื่อไร  และใครเป็นผู้ลงมือสลักอักษรพระปรมาภิไธยครั้งนั้น

บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 09:05

โอเค  ไม่มีใครสนใจตอบ

งั้นเราจะบรรเลงเอง   ส่วนใครจะเมตตาช่วยหาภาพมาประกอบก็ไม่ว่ากัน

จารึกอักษรพระปรมาภิไธย จ.ป.ร. ครั้งที่ ๑
ปีวอกฉศก  ๑๒๔๖  รัชกาลที่ ๕ เสด็จฯ จากกรุงเทพฯ
ด้วยเรือกลไฟพระที่นั่งเวสาตรี  เสด็จประพาสหัวเมืองชายทะเลตะวันออก
เสด็จฯ ไปประทับที่เกาะช้าง  แขวงเมืองตราด เมื่อวันอังคาร
แรม ๔ ค่ำ เดือน  ๓  (๐๓/๐๒/๒๔๒๗) เวลา ๕ โมงเช้าเศา
ประทับเรือพระที่นั่ง  เสด็จฯ เข้าคลองมะยม แล้วเสด็จฯ ขึ้นเขาไปประพาสน้ำตก
เสด็จฯขึ้นไปจนถึงน้ำตกชั้นสูง   ทรงพระราชหัตถเลขาเป็นอักษรพระปรมาภิไธย
จ.ป.ร.  ไขว้กันในกระดาษ  แล้วโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ
พระองค์เจ้าจิตรเจริญ  ทรงถ่ายแบบอักษรพระปรมาภิไธยนั้นลงที่แท่งศิลาใหญ่
ที่อยู่กลางลำธารหน้าน้ำตก  แลลงศักราช  ๑๒๔๖  ใต้อักษรพระปรมาภิไธยนั้นด้วย
แต่ยังไม่ได้ทันทรงสลักให้แล้วเสร็จ   ด้วยเป็นเวลาเย็นมากแล้วจึงได้เสด็จฯ กลับลงมา
รุ่งขึ้น  จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าชุมพล  กับพระเจ้าน้องยาเธอ
พระองค์เจ้าจิตรเจริญ  เสด็จขึ้นไปสลักอักษรพระปรมาภิไธยดังกล่าวจนเสร็จ
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 09:14

จารึกอักษรพระปรมาภิไธย จ.ป.ร. ครั้งที่ ๒

ปีกุนนพศก  ๑๒๔๙  เสด็จฯ ไปประพาสที่เกาะช้างอีก
เมื่อวันจันทร์  แรม ๕ ค่ำ เดือน  ๑๑   (๑๐/๑๐/๒๔๓๐)
เสด็จฯ โดยเรือพระที่นั่งเข้าคลองมะยม  เสด็จฯ ขึ้นเขาไปที่น้ำตกแห่งเดิม
ที่ได้ทรงจารึกอักษรพระปรมาภิไธยไว้ครั้งก่อน  คราวนี้  โปรดเกล้าฯ ให้
จารึกศักราช  ๑๒๔๙  ลงที่ใต้อักษรพระปรมาภิไธย จ.ป.ร.
แลเลขศก ๑๒๔๖   จากนั้น  เสด็จฯ ขึ้นเขาต่อไปจนถึงที่แห่งหนึ่ง
โปรดเกล้าฯ ให้จารึกอักษรพระปรมาภิไธย จ.ป.ร. แลเลขศก ๑๒๔๙
แล้วเสด็จฯ กลับ
บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 11:27

กำลังสับสนกับข้อมูลน่ะค่ะ ไม่ใช่ใม่สนใจจะตอบ.... ยิงฟันยิ้ม

จาก http://www.kohchangnews.com/index.php/2011-04-17-06-44-53/61-2010-08-31-00-51-26 และ
http://www.salakphet.com/th/index.php?option=com_content&view=article&id=22:whats-new-in-15&catid=30:2008-12-27-02-01-26&Itemid=34
บอกไว้ว่า

"การเสด็จประพาสของพระองค์ใน  จ.ศ. 1238 (พ.ศ. 2419)  นอกจากทรงจารึกพระปรมาภิไธย และปีที่เสด็จแล้ว พระองค์ทรงทำ " เกรน " หรือกองศิลา ไว้เป็นที่ระลึกแห่งหนึ่งใกล้ๆ บริเวณน้ำตก โดยทรง พระราชหัตถเลขาว่า " เราสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าแผ่นดินสยาม รัชกาลที่ 5 ได้มาถึงที่นี้ 2 ครั้งๆ หนึ่งเมื่อปีระกา เบญจศก จุลศักราช 1235 กับครั้งนี้วัน 4 ฯ 2 ค่ำ ปีชวด อัฐศก ศักราช 1238 เราทั้งปวง บรรดาที่มาพร้อมกันได้ลงชื่อไว้ท้ายหนังสือนี้ " เสร็จแล้วพับแผ่นกระดาษนั้นบรรจุในกล่องตลับยาสูบเงินนอก แล้วใส่ลงในถ้วยน้ำชาที่มีตราประจำ พระองค์ พร้อมเอาจานปิดทับข้างบนไว้ วางถ้วยลงบนพื้นหินและเอาหินก้อนเล็กก้อนใหญ่วางทับไว้ ต่อมา มีการค้นหาเกรนแห่งนี้แต่ไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด

นอกจากนั้นยังปรากฏจารึกพระปรมาภิไธย " จ.ป.ร. " ไว้ที่ชั้น 2 ใน จ.ศ. 1246 (พ.ศ. 2427) , จ.ศ. 1249 (พ.ศ. 2430) , จ.ศ.1251 (พ.ศ. 2432) และ จ.ศ. 1263 (พ.ศ. 2444) และที่ชั้น 3 ร.ศ. 106 (พ.ศ. 2430)..."

และจาก http://www.trat.go.th/trat100/trat_100/king5.htm
บอกไว้ว่า

"สมเด็จพระปิยมหาราชได้เคยเสด็จประพาส และทรงเยี่ยมประชาชนจังหวัดตราดมาแล้วถึง ๘ ครั้ง คือ ครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ และต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๑๙,๒๔๒๕,๒๔๒๖,๒๔๒๗,๒๔๓๐,๒๔๓๒,๒๔๔๔ โดยลำดับ และถ้านับรวมครั้งล่าสุด คือหลังจากที่ได้เมืองตราดคืนมาในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ เข้าด้วยก็จะเป็น ๙ ครั้ง หลักฐานที่จะยืนยันข้อความนี้ ปรากฏอยู่ในพระราชนิพนธ์จดหมายเหตุเสด็จประพาสจันทบุรี ปี พ.ศ. ๒๔๑๙ และพระราชหัตเลขาเสด็จประพาสหัวเมืองชายทะเลตะวันออกปี ๒๔๒๕,๒๔๒๖,และปี ๒๔๒๗

ส่วนที่ปรากฎในจดหมายเหตุและพระราชหัตถเลขา ก็มีหลักฐานลายพระหัตถ์จารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร.ไว้ที่แผ่นหินที่น้ำตกธารมะยม และน้ำตกนนทรีย์ บนเกาะช้าง คือ ปี พ.ศ. ๒๔๓๐ ,๒๔๓๒,และ ๒๔๔๔ "



บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 12:05

และ http://watsaitong.blogth.com/page5/&thisy=&thism=&thisd=
เรียบเรียงจากหนังสือตามรอยเสด็จฯ เกาะช้างจังหวัดตราด ค้นคว้าวิจัยโดย นายอภิลักษณ์ เกษมผลกูล
บอกว่า

"พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้นตามหัวเมืองต่างๆ 24 ครั้ง เป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองตราดถึง12 ครั้ง ดังนี้
                      ครั้งที่ 1      พ.ศ. 2416 เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นผู้ตามเสด็จประพาสน้ำตกธารมะยม เกาะช้าง
และเกาะกระดาดทางฝั่งตะวันตก

                  ครั้งที่ 2      ต้นเดือนมกราคม 2420 เสด็จประพาสเกาะช้าง มีพระราชนิพนธ์เล่าว่า เกาะนี้เสือ ชุมนัก เสด็จขึ้นพลับพลาที่บ้านคลองนนทรี พักผ่อนกิริยาบทแล้วเสด็จปีนเขาเพื่อทอดพระเนตรน้ำพลุ คลองมะยม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ทำกองศิลา ด้วยทรงอนุสรณ์ให้ทราบว่าได้เสด็จ มาถึงที่นี้ถึงสองคราว จากนั้นเสด็จประพาสเกาะกระดาด ทรงพระสำราญกับการเดินป่า มีพระราชหัตถเลขาว่าที่นี่มีกวางและเนื้อทรายชุกชุมมาก

                  ครั้งที่ 3      เดือนกุมภาพันธ์ 2423 สันนิษฐานว่าเป็นการเสด็จเพื่อทรงรำลึกถึงพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีที่เสด็จทิวงคต เพื่ออนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ ที่เคยเสด็จประพาสชายทะเลด้วยกัน เสด็จไปที่น้ำตกธารมะยม เกาะช้าง และเกาะกระดาด

                  ครั้งที่ 4      เดือนกุมภาพันธ์ 2424 เสด็จเกาะกงไปทอดพระเนตรวัดคงคาราม หรือวัดเกาะปอ เสด็จกลับเกาะกระดาด เกาะช้าง และเข้าไปตามอ่าวสลักเพชร นายติ้น หลวงสลักเพชรพัฒนกิจ กราบถวาย รายงาน วันรุ่งขึ้น เสด็จพระราชดำเนินประทับ ณ. ตัวเมืองตราด เสด็จฯ ตามเส้นทางคลองบางพระ ขึ้นทอดพระเนตรบ้านเรือนราษฎร ทรงซื้อผ้า และพระราชทานผ้าแก่ผู้ตามเสด็จ นับเป็นครั้งแรกที่เสด็จเยือนตัวเมืองตราด

                  ครั้งที่ 5      เดือนธันวาคม 2425 เสด็จประพาส เกาะช้าง จอดเรือบรรทมที่คลองพร้าวและอ่าวสลักเพชร จากนั้นจึงเสด็จไปเกาะหมาก และเกาะกระดาด

                       ครั้งที่ 6      เดือนธันวาคม 2426 การเสด็จครั้งนี้มีพระราชประสงค์เพื่อพักพระราชภารกิจ หลังจากทรงหายจากอาการประชวร มีสมเด็จพระศรีพัชรินพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชินี และ ข้าราชบริภารฝ่ายใน ตามเสด็จประพาสน้ำตกธารมะยม บ้านหลวงสลักเพชร จากนั้นเสด็จไปเกาะหมาก และเกาะกระดาด

                        ครั้งที่ 7      เดือนกุมภาพันธ์ 2427 เสด็จเกาะช้าง ราษฎรบ้านสลักคอก ขอพระบรมราชานุญาตให้ ประทับรอยพระบาทสร้างพระอุโบสถ พระราชทานชื่อวัดว่า วัชคามคชทวีป เสด็จไปยังน้ำตกธารมะยมทรงโปรดให้จารึก พระปรมาภิไธยย่อ จปร. 1246 ไว้เป็นครั้งแรก รุ่งเช้าเสด็จพระราชดำเนินไปที่แหลมงอบ และในปีนี้ได้พระราชทานพระบรมสาทิสลักษณ์ทรงเครื่องต้น ให้กับพระยาตราด ปัจจุบันพระบรมสาทิสลักษณ์นี้ประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วัดบุปผาราม

                  ครั้งที่ 8      เดือนตุลาคม 2430 ประพาสเกาะกระดาด เกาะกูด เกาะช้าง น้ำตกธารมะยม ทรงลุยน้ำในลำธารข้ามแก่ง พระราชทานนามว่า “ แก่งทรงลุย ” รุ่งเช้าเสด็จประพาสเมืองตราด ถวายผ้าพระกฐิน ที่วัดบุรินทรประดิษฐ์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งวิทยาลัยสารพัดช่างตราด ส่วนพระประธานวัดบุริน ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ. ศาลาการเปรียญวัดแหลมงอบ

                  ครั้งที่ 9      26 กุมภาพันธ์ 2432 ประพาสเกาะช้าง เกาะกระดาด ที่ลำธารน้ำตกธารมะยม ทรงโปรดต้นเฟิร์น กล้วยไม้ และช้างน้าว ที่ออกดอกเหลืองอร่าม เสด็จถึงยอดเขาน้ำตกธารมะยม โปรดให้ผูกผ้าทำธง พระราชทานชื่อยอดเขาว่า ธัชกูฎ

                  ครั้งที่ 10      มีนาคม 2443 ประพาสน้ำตกธารมะยมเกาะช้าง เกาะกระดาด และแหลมงอบ ทอดพระเนตรโรงทหาร และวัดสุวรรณาเขต ชาวบ้านเรียกวัดแหลมงอบ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา

                  ครั้งที่ 11      1 มีนาคม 2444 ประพาสเกาะช้าง เกาะกูด ต่อมาเสด็จเมืองตราด เมืองจันทบุรี หลังจากเสด็จครั้งนี้แล้ว อีก 2 ปีเศษ เมืองตราดก็ตกเป็นของฝรั่งเศส....ด้วยความโทรมมนัส ตรอมตรมในพระราชหฤทัย..ยิ่งนักทำให้ล้นเกล้าพระปิยะมหาราชว่างเว้นการเสด็จ เยือนเมืองตราดนานถึง 6 ปี

                      ครั้งที่ 12      13 พฤศจิกายน 2450 เสด็จกลับจากยุโรปได้เสด็จมาปลอบขวัญชาวเมืองตราดก่อนกลับคืนสู่พระนคร ทรงขึ้นฝั่งที่บ้านท่าเรือจ้าง และเสด็จตามถนนเข้าตลาดขวาง ไปท้ายตลาดใหญ่ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา พระวิมลเมธาจารย์อ่านคำถวายพระพรชัยมงคล มีพระราชดำรัสตอบปลอบขวัญ แล้วพระราชทานพระแสงราชศาสตราวุธประจำเมือง นับเป็นการเสด็จประพาสจังหวัดตราด ครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในพระชนม์ชีพ หลังจากนั้นอีก 3 ปี พระองค์ก็เสด็จสวรรคต"

บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:19

จารึกอักษรพระปรมาภิไธย จ.ป.ร. ครั้งที่ ๓

ปีชวดสัมฤทธิศก  ๑๒๕๐  เสด็จประพาสหัวเมืองทะเลฝั่งตะวันตก
เสด็จฯ ไปที่เกาะพงัน เมื่อวันศุกร์  แรม ๙ ค่ำ เดือน ๙  (๓๑/๐๘/๒๔๓๑)
เสด็จฯ ไปตามลำธารถึงสถานที่แห่งหนึ่ง  มีศิลาก้อนใหย่  ๒ ก้อนตั้งเหลื่อมกัน 
ดูเหมือนกับอิงพิงกันอยู่   โปรดเกล้าฯ ให้จารึกอักษรพระปรมาภิไธย จ.ป.ร.
กับเลขศักราช  ๑๒๕๐  ไว้ที่ก้อนศิลาก้อนหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องหมายว่าได้เคยเสด็จประพาศ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:24

ปรมมือดังๆให้คุณ ดีดี

วันนี้วันพระ อย่าลืมติดกัณฑ์เทศน์นะครับ ผมขอฝากเทียนไขแท้ ทำด้วยขึ้ผึ้งจากป่าโคราช หนัก ๒ บาท กึ่งเฟื้อง ฝากไปด้วย



บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:29

ปรมมือดังๆให้คุณ ดีดี

วันนี้วันพระ อย่าลืมติดกัณฑ์เทศน์นะครับ ผมขอฝากเทียนไขแท้ ทำด้วยขึ้ผึ้งจากป่าโคราช หนัก ๒ บาทฝากไปด้วย

ปรบมือให้หนูไมคะ  ฮืม  งงอ่ะ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:32

ปรมมือดังๆให้คุณ ดีดี

วันนี้วันพระ อย่าลืมติดกัณฑ์เทศน์นะครับ ผมขอฝากเทียนไขแท้ ทำด้วยขึ้ผึ้งจากป่าโคราช หนัก ๒ บาทฝากไปด้วย

ปรบมือให้หนูไมคะ  ฮืม  งงอ่ะ

คห.66 เอามาลงสรุปให้อ่านไงครับ จะได้ไว้เทียบกับของคุณหลวง สนุกดี
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:38

ผมขอฝากเทียนไขแท้ ทำด้วยขึ้ผึ้งจากป่าโคราช หนัก ๒ บาท กึ่งเฟื้อง ฝากไปด้วย

ทำไมต้องป่าโคราช
ส่วนไหนของโคราชน่ะคุณไซมีส

ไอ้ผมอยู่บ่อยๆ ยังไม่เคยเจอป่าใหญ่หนใดเลย
นอกจากดงพญาไฟ (ดงพญาเย็น)
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 15:47

เทียนขี้ผึ้ง ๒ เล่ม  ที่คุณไซมีสเอามาให้คุณดีดีนั้น
จะให้เอามาทำน้ำมนต์  หรือลนน้ำมันพรายไม่ทราบ

ส่วนคุณอาร์ท  ผมสงสัยว่า เมืองโคราชนี่
เขาส่งส่วยขี้ผึ้งหรือเปล่า  ผมความจำไม่ค่อยดี
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 16:00

เทียนขี้ผึ้ง ๒ เล่ม  ที่คุณไซมีสเอามาให้คุณดีดีนั้น
จะให้เอามาทำน้ำมนต์  หรือลนน้ำมันพรายไม่ทราบ

ส่วนคุณอาร์ท  ผมสงสัยว่า เมืองโคราชนี่
เขาส่งส่วยขี้ผึ้งหรือเปล่า  ผมความจำไม่ค่อยดี

ผมขอฝากเทียนไขแท้ ทำด้วยขึ้ผึ้งจากป่าโคราช หนัก ๒ บาท กึ่งเฟื้อง ฝากไปด้วย

ทำไมต้องป่าโคราช
ส่วนไหนของโคราชน่ะคุณไซมีส

ไอ้ผมอยู่บ่อยๆ ยังไม่เคยเจอป่าใหญ่หนใดเลย
นอกจากดงพญาไฟ (ดงพญาเย็น)


พอทั้ง ๒ ท่านเลย ของทำบุญใยต้องถามที่มา  ฮืม
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 26 เม.ย. 11, 16:08

^  เผอิญคุณทำบุญแล้ว  กรรมการ ปปช.สองคนไปเห็นเข้าเลยสงสัย
อยากสะกดรอยตามไปดูสักหน่อย  ก็ถ้าบอกที่มาได้  ก็รอดตัว
แต่ถ้าตอบไม่ได้  เห็นจะต้องพิสูจน์ตนเองอีกหลายครั้งนะ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.059 วินาที กับ 20 คำสั่ง