ภาพลักษณ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรตามหลักฐานที่ปรากฏ
แตกต่างไปจากภาพของเจ้าชาย กวีเอก นักรัก หนุ่มรูปงามในอุดมคติมากทีเดียวครับ
ตามหลักฐานที่เห็นเจ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ท่านนี้จะออกไปทาง มาเฟีย จอมกร่าง ลูกนักการเมืองใหญ่
ที่นิยมการท่องเที่ยวและขยันเสาะหา ดารา นักร้อง พริตตี้สาวๆมาไว้ใกล้ตัวมากกว่า
จากพฤติกรรมจอมกร่างของท่านในหลายๆคราว ยากที่จะเชื่อได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับยอดกวีที่ฝากผลงานไว้
เป็นกาพย์และโคลงอันเยี่ยมยอด ที่เหลือตกมาให้เราได้ศึกษากันในปัจจุบัน
ผมคิดว่าจิตใจนิสัยของแต่ละคนสามารถสื่อออกมาผ่านบทกวีได้บ้างแต่ก็ไม่น่าจะตายตัวว่านิสัยแบบไหนแล้วจะต้องแต่งสำนวนออกมาแบบนั้นตลอด กวีหลายๆคนก็ใช้ว่าจะมีอุปนิสัยที่ดีนัก แต่ก็สามารถแต่งบทประพันธ์ที่ไพเราะได้
ตัวอย่างเช่นเพลงยาวเรื่องตีเมืองพม่า พระราชนิพนธ์ของกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงใช้สำนวนภาษาที่ดุดัน แข็งกร้าว สอดคล้องกับที่กล่าวกันว่าทรงมีพระอุปนิสัยดุดัน แต่ในบางครั้งก็ปรากฏว่าพระองค์ทรงใช้สำนวนที่แตกต่างออกไปอย่างในนิราศกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เสด็จไปปราบพม่าเมืองนครศรีธรรมราชก็ทรงใช้ภาษาบรรยายถึงนางอันเป็นที่รักได้ผิดกันเป็นคนละคนเลย
นอกจากนี้ในเรื่องอุปนิสัยของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเท่าที่ปรากฏนอกจากเรื่องเคยไปลอบทำร้ายกรมขุนสุเรนทร์พิทักษ์ในผ้าเหลืองหรือหาเรื่องเจ้าสามกรม จะตัดสินเลยว่าทรงมีอุปนิสัยอย่างที่ว่ามาทั้งหมดจนไม่น่าจะแต่งบทกวีที่ไพเราะได้ ความเห็นส่วนตัวผมว่ายังมีหลักฐานไม่เพียงพอครับ
ผิดถูกอย่างไรขออาจารย์ทั้งหลายชี้แนะด้วยครับ