เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
อ่าน: 19933 ข้อสังเกตและเกร็ดบางประการ จาก "หนึ่งในร้อย" ของ ดอกไม้สด
พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่
มัจฉานุ
**
ตอบ: 74


 เมื่อ 03 ต.ค. 24, 23:45

หนึ่งในร้อย เป็นนวนิยายเรื่องใหญ่ของ ดอกไม้สด (ม.ล.บุปผา นิมมานเหมินท์)
เป็น 1 ในหนังสือ 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน
และบัดนี้ ก็กำลังกลายเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง 3

เมื่อผมได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้ ก็มีข้อสังเกตและเกร็ดบางอย่าง
ที่น่าจะอภิปรายขยายความได้
โดยปกติ เมื่อมีกระแสละครโทรทัศน์มา ก็คงจะมาวิพากษ์ละครเป็นหลัก
แต่ครั้งนี้ขอกล่าวถึงฉบับนวนิยายของ "ดอกไม้สด"
เพราะผมคงไม่มีอะไรจะกล่าวสำหรับละครเวอร์ชั่นนี้
(ได้ยินมาว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการบ่นกันระนาว แต่ก็นะ ชาวเราก็ชอบอะไรกันแบบนี้แหละ)


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 04 ต.ค. 24, 14:30

นวนิยาย  หนึ่งในร้อย  จากเว็บวัชรญาณ   
หนึ่งในร้อย   อ่านฟรี
บันทึกการเข้า
พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่
มัจฉานุ
**
ตอบ: 74


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 05 ต.ค. 24, 21:32

หนึ่งในร้อย (พ.ศ.2525)
ออกอากาศ : ช่อง 5
บทประพันธ์ : ดอกไม้สด
ผลิตโดย : รัศมีดาวการละคร
บทโทรทัศน์ : สุภาว์ เทวกุล
กำกับการแสดง : กัณฑรีย์ นาคประภา

นำแสดงโดย
ภิญโญ ทองเจือ : พระยาอรรถคดีวิชัย
ศิวพร บุณยเกียรติ : อนงค์
สมมาตร ไพรหิรัญ : ชัด
ปาริฉัตร สัชฌุกร : จันทร
สุมาลี ชาญภูมิดล : ช่วง
ผดุงศรี โสภิตา : ชด
สีดา พัวพิมล : ช้อย
วุฒิ คงคาเขตร : ศักดิ์
วิชา วัชระ
อิทธิฤทธิ์ สิงหรัตน์
ทรงวิทย์ จิรโสภิณ “หมอซ้ง” : ประสิทธิ์
ศักดิ์ รอดริน : แสวง
พีระวัตร เพชรกล้า : จำลอง
วิเชียร ทั้งสุข
ราม มารุต
อมร ศตะเมฆ : สมพงษ์
นพ. อนุพงศ์ เพ็ญจันทร์
สมบัติ เปี่ยมบริบูรณ์
เกียรติ ศิริทรัพย์
นภาพร หงสกุล
ณัฐนี สิทธิสมาน
ดวงใจ แผนสมบูรณ์
มนัส บุณยเกียรติ : คุณนายชื่น (แม่ของวิชัย ชด ช่วง ช้อย และชัด)
เฉลา ประสพศาสตร์
รำไพ ปรีเปรม
กัณฑรีย์ นาคประภา สิมะเสถียร


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่
มัจฉานุ
**
ตอบ: 74


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 05 ต.ค. 24, 21:46

https://youtu.be/yiJgNxnhwIE?si=qJK3S31yJ4dkmnZB
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 06 ต.ค. 24, 11:39

    ไปดูละครเรื่องนี้้ทาง Netflix แล้ว  ขอตัวไม่วิจารณ์  แค่ตั้งข้อสังเกตถึงการแต่งกายในเรื่อง
     ละครย้อนยุคของไทย ถ้าไม่ใช่อยุธยา หรือรัตนโกสินทร์ตอนต้น  แต่เป็นช่วงรัชกาลที่หกหรือเจ็ดลงมา จนถึงหลังสงครามโลก    จะต้องมีสัญลักษณ์เสื้อผ้าให้รู้ว่าเป็นยุคอดีตนะจ๊ะ   คือหมวก(แบบที่หาซื้อได้ทั่วไปในปัจจุบัน) ทั้งชายหญิง  กระโปรงบานฟูสำหรับฝ่ายหญิง   ส่วนฝ่ายชายถ้าแต่งกายลำลองต้องมีสายดึงกางเกง  ไม่มีเข็มขัด  ถ้าแต่งหรูคือสูทสีเสื้อกั๊ก(vest) อยู่ข้างใน

ความจริงแฟชั่นที่เห็นในเรื่องนี้มาจากหลายยุคสมัยของไทยปะปนกัน    ออกมาเป็นยุคละครพีเรียดของไทย     แต่ที่แน่ๆคือไม่ใช่ยุคที่ "ดอกไม้สด" เขียนไว้ในนวนิยายเรื่องนี้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 06 ต.ค. 24, 11:40

"หนึ่งในร้อย" ที่เคยทำเมื่อพ.ศ. 2525 แต่งกายใกล้เคียงกว่าค่ะ


บันทึกการเข้า
พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่
มัจฉานุ
**
ตอบ: 74


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 06 ต.ค. 24, 18:12

ตั้งข้อสังเกตเรื่องคอสตูมเหมือนกันเลยครับ ถ้าตามนิยายจริง ๆ พระเอกก็คงต้องนุ่งผ้าม่วงสวมราชประแตนให้เห็นบ้าง หรืออย่างนางเอกก็คงไว้ผมซิงเกิลถ้าแม่จะเป็นสาวนำสมัย ณ ตอนนั้นจริง ๆ

แต่พอทราบว่าเปลี่ยนเซตติ้งเป็นยุค พ.ศ.2490 ก็มีข้อสังเกตอีกครับ ยกตัวอย่างจากภาพถ่ายเก่า ๆ หรือแม้แต่ใน พล นิกร กิมหงวน ระบุว่า ผู้ชายในไทยยุคนั้นเวลาแต่งสูทไปทำงานหรือไปติดต่อราชการ พูดง่าย ๆ คือนอกบ้าน จะนิยมแต่งสูทเป็นสีขาวหรือสีอ่อน เช่น น้ำตาล เทา หรือสีไข่ไก่ ไม่นิยมแต่งสูทสีดำหรือสีเข้ม ยกเว้นไปต่างประเทศ

แม้กระทั่งในงานศพหรือไว้ทุกข์ เคยอ่านเจอสามเกลอตอนพ่อแสนงอน ซึ่งเขียนในปี 2490 ระหว่างประกาศไว้ทุกข์รัชกาลที่ 8 สวรรคตว่า ผู้ชายสวมสูทขาว เสื้อขาว กางเกงขายาวสีขาว แต่ผูกเนคไทสีดำ และพันแขนทุกข์ (ซึ่งปัจจุบันนี้ยังเห็นอยู่ในการแต่งกายผู้ชายในงานศพที่เป็นทางการ)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 06 ต.ค. 24, 18:55

     ใช่ค่ะ  คนรุ่นพ่อดิฉันนิยมสวมสูทขาว เวลาไปงานที่เป็นทางการ  ถ้าเป็นงานศพต้องพันแขนทุกข์และเนคไทดำไม่มีลวดลาย รองเท้าหนังหุ้มส้นสีดำ  ไม่สวมหมวก    นโยบายสวมหมวกของไทยเลิกไปตั้งแต่จอมพลป. พ้นจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดในปี 2488  
     ผู้ชายไทยยุคพ.ศ. 2490  สวมหมวก  ไม่สวมเสื้อกั๊ก  และไม่ใช้สายดึงกางเกง (suspender)  เพราะกางเกงทั่วไปออกแบบให้มีเข็มขัดสอดในหูกางเกง รัดเอวไว้แล้ว    ไม่มีฝรั่งคนไหนคาดทั้งเข็มขัดและสายดึงกางเกงพร้อมกัน    
     ความจริง สมัย 100 ปีก่อน  สายดึงกางเกงเขาใช้ในโอกาสสำคัญเช่นการแต่งทักซีโด   ไม่ใช่เอาไว้แต่งอยู่บ้านหรือแต่งลำลองเดินไปเดินมาตามถนน  และย้อนหลังไปมากกว่านั้น ชาวไร่ชาวนาอเมริกันยุคปลายศตวรรษที่ 19 นิยมใช้สายดึงกางเกงมากกว่าเข็มขัด  เป็นส่วนหนึ่งของชุดทำงาน


บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 817


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 07 ต.ค. 24, 09:14

ผมเข้าไปอ่านตามลิงก์ที่อาจารย์เทาชมพูลงไว้หลายตอนแล้ว นิยายเรื่องนี้ค่อนข้างไม่ใจดีกับคนอ่าน

แม่ชื่อชื่น มีลูกสาวสี่คนชื่อ ช่วง ชด ชิด ช้อย มีลูกชายสองคนชื่อ ชัด วิชัย  ลังเล ไม่ว่าอย่างไรผมจำตัวละครสลับแน่นอน

ส่วนเรื่องละครผมยังไม่ได้ดู แต่เข้าใจดีว่าคนสร้างต้องการดึงดูดคนดูซึ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่กว่าผมเยอะมาก ฉะนั้นนิยายต้องถูกปรับเปลี่ยนเยอะมากตามกันไปด้วย โดยส่วนตัวผมไม่มีปัญหาถ้าไม่ได้เปลี่ยนเนื้อเรื่องหลัก แต่คนอื่นยังไงไม่ทราบนะครับ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 07 ต.ค. 24, 09:46

    ระหว่างรอคุณเจ้าของกระทู้มาตั้งข้อสังเกตและเล่าเกร็ด   ขอเล่าเนื้อเรื่องย่อให้อ่านไปก่อนพลางๆค่ะ
    พระเอกเรื่องนี้ชื่อ "วิชัย" เป็นผู้พิพากษาอยู่ต่างจังหวัด มีบรรดาศักดิ์เป็น "พระอรรถคดีวิชัย"  เขาพ่อม่ายภรรยาตายมาหลายปี ไม่มีลูก     ทางบ้านซึ่งอยู่ในกรุงเทพประกอบด้วยมารดาม่ายชื่อนางศรีวิชัยบริรักษ์  หรือคุณนายชื่น  เธอมีบุตรชายหญิง  6  คน คือวิชัย  รองลงมาคือน้องสาวอีก 4 คนช่ื่อ ช่วง  ชด ชิด และ ช้อย  ปิดท้ายด้วยชัด เป็นนายทหารยศนายร้อยตรี
    ชัดเป็นหนุ่มรูปหล่อ คารมดี  เที่ยวเก่ง  มีเพื่อนสาวคนสนิทชื่อ อนงค์  เป็นลูกสาวพระยาที่มีฐานะร่ำรวยมาก บิดามารดาถึงแก่กรรมไปแล้ว   ตัวเธอเองก็เป็นสาวเปรี้ยวล้ำยุคในพ.ศ. 2477   มีหนุ่มมาติดมากมายรวมทั้งชัดด้วย  ทำให้พี่ชาย 4 คนของอนงค์คือ สมพงษ์  แสวง  จำลอง และ ประสิทธิ์ อยากจะหาคู่ที่เหมาะสมให้น้องสาวได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาไปเสียที   แต่อนงค์ก็ยังไม่ตกลงปลงใจกับใครจนแล้วจนรอด
    เหตุการณ์ในเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อวิชัย หรือพระอรรถคดีวิชัยย้ายจากต่างจังหวัดมาประจำอยู่ในกรุงเทพฯ ก็เท่ากับต้องมารับภาระในฐานะหัวหน้าครอบครัว  เพราะบิดาเสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังรุ่นหนุ่ม   แต่อำนาจอันแท้จริงอยู่ที่คุณนายชื่นผู้เต็มไปด้วยอคติ รักลูกไม่เท่ากัน  ลูกคนโปรดคือชัด ไม่ว่าทำผิดถูกอย่างไรก็ได้รับการยกเว้นเสมอ   ส่วนวิชัยเป็นลูกที่คุณนายเรียกร้องเอาแต่ใจทุกอย่าง แต่ไม่รักเท่าที่ควร
    วิชัยมีนิสัยตรงกันข้ามกับแม่และน้องชาย   เป็นคนใจเย็น อดทน   ดำรงชีวิตอยู่ในศีลในธรรมทุกประการ  เป็นลูกที่รักและเคารพเทิดทูนแม่ยิ่งกว่าสิ่งใด   เป็นพี่ที่ห่วงใยและเสียสละให้น้องได้ทุกอย่าง    เป็นเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตรกับทุกคนที่เขามีโอกาสสมาคมด้วย  
    
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 07 ต.ค. 24, 10:02

ในตอนแรกที่รูู้จัก   อนงค์เห็นว่าวิชัยเป็นคนเชย ล้าสมัย  น่ารำคาญ  ผิดกับชัดที่เป็นหนุ่มหล่อปราดเปรียว  มีเสน่ห์ต้องตาต้องใจสตรี    แต่ถึงกระนั้นอนงค์ก็มีสติและปัญญามากพอจะไม่รีบร้อนตกลงปลงใจรับชัดเป็นคู่   ทั้งๆพี่ชายและคนอื่นๆเข้าใจว่าอนงค์จะเลือกใครไม่ได้นอกจากร้อยตรีชัด   เมื่อข่าวนี้แพร่ไปถึงหูคุณนายชื่น   คุณนายก็ตั้งข้อรังเกียจอนงค์อย่างมาก  ว่าเป็นผู้หญิงเสียหายเกินกว่าจะควรมาเป็นสะใภ้
    น้องเขยของวิชัยป่วยหนักถึงแก่กรรม   วิชัยรับช้อยน้องสาวและลูกเล็กมาอุปการะ ทั้งที่คุณนายชื่นไม่เห็นด้วย    ในงานศพของน้องเขยวิชัยได้พบน้องสาวของผู้ตายชื่อจันทร  เป็นหญิงสาวสวย กิริยามารยาทเรียบร้อย  ทำให้วิชัยถูกใจทันที จนกลายเป็นหลงรัก  จึงไปมาหาสู่อยู่เสมอ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสจะคืบหน้ามากกว่านี้ 
   วันหนึ่งชัดมีโอกาสพบจันทร  ในเมื่อจันทรเป็นสาวสวยอ่อนหวาน ถูกใจชัดทันที  จันทรเองก็เกิดถูกใจชายหนุ่มรูปหล่อมีเสน่ห์อย่างชัด  จึงตกลงรับรักเขาเช่นกัน       วิชัยมิได้ผิดสังเกต  เพราะปีักใจเชื่อว่าชัดรักอยู่กับอนงค์   จู่ ๆ ชัดกับจันทรก็มาสารภาพกับวิชัยว่ารักและอยากแต่งงานกันทันที     วิชัยเสียใจมาก แต่เก็บซ่อนความรู้สึกไว้  จึงตกลงเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอจันทรให้ชัด คุณนายชื่นโกรธมากเพราะต้องการให้ชัดแต่งงานกับ หญิงอื่นที่คุณนายหมายตาไว้   แต่ในเมื่อชัดเป็นลูกรัก   คุณนายชื่นจึงเบนความโกรธมาที่วิชัย ประณามเขาสาดเสียเทเสียที่ช่วยให้ชัดขัดใจแม่    วิชัยซึ่งอกหักอยู่แล้ว ต้องฝืนทำหน้าที่เถ้าแก่แล้วยังถูกแม่ทำร้ายด้วยวาจาอีก  ก็ถึงกับป่วยหนักด้วยอาการทางใจ
    อนงค์เฝ้าสังเกตความประพฤติของวิชัยมาเงียบๆนานแล้ว     ซาบซึ้งความดีและเสียสละของเขา  เห็นเขาเป็นชายผู้ประเสริฐที่ถูกคนรอบข้างแม้แต่แม่บังเกิดเกล้าเอาเปรียบสารพัดอย่าง   ก็เกิดเห็นใจจนตัดสินใจเขียนจดหมายสารภาพรักกับวิชัย ยอมให้เขาเห็นว่าหล่อนเป็นผู้หญิงใจง่ายที่ขอผู้ชายแต่งงาน
   ในตอนแรก วิชัยตกใจมากกับการกระทำของอนงค์   ตีราคาหล่อนในทางต่ำอยู่พักใหญ่ กว่าสติจะกลับคืนมา   พิจารณาแล้วเห็นว่าอนงค์ไม่ใช่ผู้หญิงที่สิ้นไร้ผู้ชายสนใจ  จนเป็นฝ่ายต้องรุกเพื่อหาสามีให้ได้  ตรงกันข้าม อนงค์เป็นหญิงสาวที่มีพร้อมทุกอย่าง มีผู้ชายมากมายพร้อมจะขอแต่งงาน แต่หล่อนกลับเป็นฝ่ายปฏิเสธเอง    เมื่อหล่อนเลือกเขา ก็แสดงว่าอนงค์มองเห็นความดีงามของเขาจึงตัดสินใจเลือกเขาเป็นคู่ครอง
    นิยายเรื่องนี้ก็จบลงด้วยความสุข   พระอรรถคดีวิชัยก็ได้หญิงสาวที่ทั้งสวย รวยและฉลาดในการมองคน  เป็นภรรยา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 07 ต.ค. 24, 16:47

คำสารภาพรักของอนงค์

“ดิฉันติดใจในความดีอย่างประเสริฐของคน ๆ หนึ่ง เธอเป็นคนดีอย่างประหลาด ซื่อสัตย์ เที่ยงตรง มีศีลธรรมอย่างสูงและมีศรัทธาในการเสียสละอย่างแรงกล้า ดูเหมือนไม่มีสิ่งใดที่ใครเขาขอแล้วเธอไม่ให้แต่คน ๆ นี้มีเสียอยู่อย่างหนึ่ง คือทั้งขาดความระแวงและความระวัง เพราะเช่นนั้นเมื่อเธอรักผู้หญิงคนหนึ่งก็ถูกคนรักซ้อน เมื่อเธอรู้ความจริงนั้นเธอมีทางที่จะขัดขวางต่อสู้เพื่อความรักของเธอได้ง่าย แต่เธอไม่ทำกลับสละหญิงนั้นให้เขาไป”

และอีกตอนหนึ่ง

"ตัวบุคคลไม่ชนะใจอนงค์ได้ง่าย ๆ หรอกค่ะ แต่ความดีในตัวบุคคลนั่นแหละอนงค์เห็นแล้วก็รักจับจิตจับใจ และเพื่อที่จะได้ความดีนั้นมาคุ้มครองตัวอนงค์เพื่อความสุขใจภายหน้า อนงค์ขออุทิศทุก ๆ สิ่งให้แก่บุคคลที่เป็นเจ้าของความดีเมื่อท่านได้​ให้อะไรใคร ๆ เขามากแล้ว ท่านจะไม่ยอมรับสิ่งที่เขาให้ท่านด้วยความเคารพบูชาอย่างสูงหรือคะ”
บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 526


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 07 ต.ค. 24, 17:04

    ใช่ค่ะ  คนรุ่นพ่อดิฉันนิยมสวมสูทขาว เวลาไปงานที่เป็นทางการ  ถ้าเป็นงานศพต้องพันแขนทุกข์และเนคไทดำไม่มีลวดลาย รองเท้าหนังหุ้มส้นสีดำ  ไม่สวมหมวก    นโยบายสวมหมวกของไทยเลิกไปตั้งแต่จอมพลป. พ้นจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดในปี 2488  
    

ชุดสูทสากลสีชาวสมัยนั้นเรียกว่าชุดสากลชาร์คสกิน shark skin ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 07 ต.ค. 24, 17:21

ชุดสูทสากลสีชาวสมัยนั้นเรียกว่าชุดสากลชาร์คสกิน shark skin ครับ
เคยได้ยินคำนี้ในนิยายเก่าๆ แต่ไม่รู้ความหมาย  เพิ่งรู้นี่ละค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 07 ต.ค. 24, 18:05

 ยิ้ม


บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 20 คำสั่ง