เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7
  พิมพ์  
อ่าน: 12870 จุดจบของอาชีพนักเขียน
superboy
พาลี
****
ตอบ: 224


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 16 พ.ค. 24, 12:12

อย่าใช้คำว่านักเขียนเลยครับอาจารย์ แค่อ่านแล้วไม่สนุกเลยนึกสนุกอยากเขียนเองบ้างเท่านั้น เดี๋ยวนี้การลงนิยายออนไลน์ง่ายกว่าเสียภาษีหลายร้อยเท่า

วงการหนังสือในปัจจุบันผมไม่ค่อยได้ตามข่าวไม่มีความเห็น แต่นิยายออนไลน์หรืออีบุ๊กเข้าไปอ่านยามว่างบ่อยครั้งเหมือนกัน ปีนี้ผมทดลองเขียนนิยายให้สั้น กระชับ เนื้อหาไม่ซับซ้อน เดินเรื่องด้วยคำพูดหรือสถานการณ์ แต่ละตอนไม่ยาวเกินไป เนื้อหาสัก 20-25 ตอนแล้วจบ เน้นมาที่พระเอกนางเอกตบตีกันทั้งเรื่อง ไม่มีดราม่าจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เนื้อเรื่องไม่ต้องสมจริงนักก็ได้ วางขายราคาต่ำกว่าคนอื่นเล็กน้อย

ถ้าผมทำได้ตามนี้และมีผลงานเดือนละหนึ่งเล่ม น่าจะพอขายได้เรื่อยๆ สะสมแฟนคลับทีล่ะนิดทีล่ะหน่อย เขาวิเคราะห์กันว่านิยายรักชายหญิงยอดขายเยอะที่สุด นิยายวายแข่งกันมากที่สุด แต่นิยายยูริคู่แห่งโหดที่สุด ผมเลยทดลองเขียนนิยายวายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ได้ก็ดีไม่ได้ค่อยว่ากันใหม่ ส่วนนิยายเขียนโดยเอไอไม่ได้อยู่ในความคิดเลยสักนิด นอกจากปกเอไอซึ่งเป็นเรื่องดราม่าระหว่างนักเขียนกับนักวาดปกมาได้สักพักหนึ่ง

ถ้าไม่สำเร็จปีหน้าผมจะกลับไปเขียนนิยายจีน 

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 16 พ.ค. 24, 13:45

  ลองตอบอย่างนี้ ก็แสดงว่าคุณ superboy เป็นมืออาชีพมานานแล้วซิคะ     จะแนะนำให้ชาวเรือนไทยเข้าไปอ่านบ้างไหม   ยอดคนอ่านในเรือนไทยก็มีไม่น้อยเหมือนกัน

   ตอนนี้ มองเห็นความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในวงการประพันธ์ หลายด้านด้วยกัน  เช่นการเปลี่ยนจากกระดาษเป็นหน้าจอ ฯลฯ
    แต่เรื่องที่อยากพูดในนี้คือการแบ่งกลุ่มคนอ่านแยกออกไปชัดเจนกว่าครั้งใดๆ    เมื่อก่อนแบ่งกว้างๆเช่นเรื่องบู๊สำหรับผู้อ่านชาย เรื่องรักและครอบครัวสำหรับผู้อ่านหญิง   แต่เดี๋ยวนี้ มีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายกลุ่ม  เรามีนิยายวาย (สำหรับชายรักชาย) นิยายยูริ (สำหรับหญิงรักหญิง) นิยาย 18+,20+  ที่ทำให้คำว่าอีโรติกอ่อนความหมายลงไปมาก   คนอ่านมีทางเลือกมากขึ้นว่าจะอ่านประเภทไหนที่ถูกรสนิยมตนเอง    
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 17 พ.ค. 24, 20:55

ผมทดลองให้ GPT-3.5 แต่งโคลง ปรากฏว่าไม่ได้ความครับ แต่งออกมาไม่เป็นโคลง ไม่รู้จักฉันทลักษณ์ใดๆ

พอลองให้ GPT-4 แต่งบ้าง ให้ผลดังนี้ครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 17 พ.ค. 24, 20:58

เห็นได้ว่า GPT-4 ถึงจะยังแต่งโคลงได้ไม่ดีนัก ยังผิดๆถูกๆอยํ่ แต่ดีกว่า GPT-3.5 มาก และเมื่อเทียบกับ GPT-4o ที่คุณวศินใช้ เห็นได้ว่า GPT-4o ทำได้ดีขึ้นมาก
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 17 พ.ค. 24, 21:14

ใจฟูขึ้นมาหน่อยว่า AI แต่งโคลงผิดฉันทลักษณ์  เอก-โท ถือว่ายังใช้ไม่ได้
แต่นึกขึ้นมาได้ว่าอาจเกิดจากคำสั่งผิดเอง
ถ้าป้อนฉันทลักษณ์ที่ถูกต้องให้  มันก็คงหาคำมาแต่งได้ถูกต้อง
นึกมาถึงตรงนี้ ใจก็หายฟู  กลับแฟบตามเดิม

มีข่าวดีและข่าวร้ายอยํ่ในเรื่องนี้ครับ

ข่าวดีคือ ระบบ AI ที่ใช้ในปัจจุบัน ไม่มีการเขียนคำสั่งให้ AI ทำตาม ดังนั้นการแก้คำสั่งเพื่อให้ AI ทำงานให้ถูกต้องจะไม่เกิดขึ้นครับ

ข่าวร้ายคือ AI ปัจจุบันใช้แนวคิดของสมองจำลอง ในสมองจำลองนี้มีพื้นฐานจากเซลล์ประสาทจำลองจำนวนมากมาต่อๆกัน การสอนให้ AI ทำสิ่งต่างๆใช้วิธีป้อมข้อมูลจำนวนมากเข้าไปให้สมองเทียมนี้เรียนรู้ ถึงวันนี้บอกได้เลยว่าความซับซ้อนของสมองเทียมนี้สูงมาก ถึงแม่ว่าจะยังซับซ้อนน้อยกว่าสมองมนุษย์มาก แต่สมองเทียมของ AI ทุกวันนี้ก็ซับซ้อนเสียจนเราไม่สามารถทำความเข้าใจได้แล้วว่ามันทำงานยังไง (เช่นเดียวกับสมองมนุษย์) ความเก่งของ AI นั้นมีปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่ความซับซ้อนของสมองเทียม(จำนวนเซลล์ประสาทจำลอง และรูปแบบการจัดเรียงต่อกันของแต่ละเซลล์), วิธีที่เรียนรู้ และที่สำคัญคือขนาดของชุดข้อมูลที่ใช้เรียนรู้ (Datasets)

ขนาดของชุดข้อมูลนี้เห็นได้ชัดจากความสามารถทางภาษาไทยของ 3.5 มาถึง 4 ซึ่งผมแน่ใจว่าเขาต้องได้ชุดข้อมูลภาษาไทยชุดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมมากมาสอน AI แต่ชุดข้อมูลพวกนี้ก็เป็นตัวแทนของผลิตผลของคนไทยเอง การแต่งโคลงกลอนฉันทลักษณ์ผิดๆเพี้ยนๆทำให้ AI แต่งเพี้ยนตาม ผมมั่นใจว่าถ้าเขาคัดกรองเอาเฉพาะโคลงกลอนของกวีที่แต่งดีๆไปสอน AI มันก็จะแต่งได้เก่งไม่แพ้กันครับ

ที่น่ากลัวคือจาก GPT3.5 ซึ่งเป็น generative AI ตัวแรกที่เผยแพร่ออกมา จนถึง 4o ในตอนนี้ จะเห็นได้ว่ามีความสามารถเพิ่มขึ้นมากในเวลาเพียงแค่ปีเศษเท่านั้นเอง

จาก AI นักเขียนที่มีความสามารถพอๆกับมนุษย์โดยเฉลี่ยในตอนนี้ เราจะได้เห็น AI ที่มีความสามารถระดับบรมครู หรือเหนือกว่าในอีกไม่ช้านานแน่นอนครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 17 พ.ค. 24, 21:39

จาก AI นักเขียนที่มีความสามารถพอๆกับมนุษย์โดยเฉลี่ยในตอนนี้ เราจะได้เห็น AI ที่มีความสามารถระดับบรมครู หรือเหนือกว่าในอีกไม่ช้านานแน่นอนครับ

สวัสดีค่ะคุณม้า  รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะโผล่เข้ามาร่วมวงสักที   เพราะเรื่อง AI  คุณม้าต้องมีข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังแน่ๆ
อ่านแล้วไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจมากกว่ากัน
ไม่รู้ว่าอีกไม่นานจะต้องถือพวงมาลัยดอกไม้สดไปนั่งไหว้ AI หรือไม่
แต่ที่ดีใจคือ ตอนนี้มีงานนอกเรือนไทย  ทำไปปวดหัวไป  เพราะต้องจับโน่นชนนี่ให้ออกมาเป็นชิ้นบริบูรณ์  ราวกับต่อจิ๊กซอว์ขนาดยักษ์  
ทำไปก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าสั่ง AI ให้มันทำแทนเราได้ก็จะดี   แค่ออกคำสั่งประโยคเดียวให้ไปหาโน่นหานี่ มาเข้ากันได้ดีเป๊ะๆ  แค่นี้ก็นั่งสบายปล่อยให้ AI ทำงานรับใช้ในเสี้ยววินาทีเสร็จแล้ว    ไม่ต้องมาเหนื่อยทำเอง กินเวลาหลายวัน

อยากมีโอกาสสั่ง AI ตัวใหม่ ให้แต่งนิราศเรื่องใหม่ของสุนทรภู่ ให้ออกมาเหมือนเป๊ะๆ จนผู้เชี่ยวชาญจับไม่ได้ว่าสมองกลแต่ง  แต่นึกว่าไปค้นพบต้นฉบับซุกซ่อนในหอสมุดที่ไม่มีใครเคยอ่านมาก่อน
หรือสั่งให้แต่ง Harry Potter ภาคลูกของแฮรี่  ให้สนุกกว่าภาคเดิม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 17 พ.ค. 24, 21:53

  พิมพ์ไปแล้วเกิดสงสัยขึ้นมาอีกข้อ
  งานทางศิลปะ (รวมวรรณกรรมด้วย) เป็นงานที่เกิดจากอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล    คนที่แต่งกลอนสุภาพอย่างสุนทรภู่ได้ถูกต้อง หาได้ไม่ยาก  แต่พลังทางวรรณศิลป์อย่างสุนทรภู่ยังไม่มีใครมีเหมือน   ข้อนี้ถ้าไปถามคนอังกฤษ คงต้องยกเชคสเปียร์แทนสุนทรภู่ 
  ถ้าให้ AI แต่งชิ้นงานอย่างพระอภัยมณีภาค 2  ให้ยิ่งใหญ่เหมือนภาค 1   หรือแต่งโรมิโอกับจูเลียตภาค 2 ยังไงก็ได้ให้หนุ่มสาวสองคนนี้ฟื้นขึ้นมา อย่างแนบเนียนเพื่อดำเนินเรื่องต่อไปให้ซาบซึ้งตรึงใจเท่ากับเจ้าของเดิมแต่ง    คุณม้า และท่านอื่นๆ คิดว่า AI มีศักยภาพทำได้ไหม
  ดิฉันยังอยากจะสั่ง AI ตัวใหม่ที่เก่งเป็นบรมครู ให้แต่งสามก๊กแข่งกับหลอกว้านจง  ทำยังไงให้โจโฉเป็นพระเอกให้ได้ ส่วนเล่าปี่เป็นผู้ร้ายชนิดไม่มีข้อแม้    รสชาติการอ่านคงแปลกตาน่าตื่นเต้นขึ้นมากนะคะ
   และ AI พัฒนาถึงขั้นวาดรูปแซงขึ้นหน้าแวนโกะและปิดกัสโซได้หรือเปล่า
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12608



ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 21 พ.ค. 24, 09:35

ChatGPT 4o นอกจากจะทำให้วงการนักเขียนสะเทือนแล้ว ยังมีอีกหลายวงการที่ต้องสะเทือนไปด้วย

บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1344


ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 21 พ.ค. 24, 21:04

  พิมพ์ไปแล้วเกิดสงสัยขึ้นมาอีกข้อ
  งานทางศิลปะ (รวมวรรณกรรมด้วย) เป็นงานที่เกิดจากอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล    คนที่แต่งกลอนสุภาพอย่างสุนทรภู่ได้ถูกต้อง หาได้ไม่ยาก  แต่พลังทางวรรณศิลป์อย่างสุนทรภู่ยังไม่มีใครมีเหมือน   ข้อนี้ถ้าไปถามคนอังกฤษ คงต้องยกเชคสเปียร์แทนสุนทรภู่ 
  ถ้าให้ AI แต่งชิ้นงานอย่างพระอภัยมณีภาค 2  ให้ยิ่งใหญ่เหมือนภาค 1   หรือแต่งโรมิโอกับจูเลียตภาค 2 ยังไงก็ได้ให้หนุ่มสาวสองคนนี้ฟื้นขึ้นมา อย่างแนบเนียนเพื่อดำเนินเรื่องต่อไปให้ซาบซึ้งตรึงใจเท่ากับเจ้าของเดิมแต่ง    คุณม้า และท่านอื่นๆ คิดว่า AI มีศักยภาพทำได้ไหม
  ดิฉันยังอยากจะสั่ง AI ตัวใหม่ที่เก่งเป็นบรมครู ให้แต่งสามก๊กแข่งกับหลอกว้านจง  ทำยังไงให้โจโฉเป็นพระเอกให้ได้ ส่วนเล่าปี่เป็นผู้ร้ายชนิดไม่มีข้อแม้    รสชาติการอ่านคงแปลกตาน่าตื่นเต้นขึ้นมากนะคะ
   และ AI พัฒนาถึงขั้นวาดรูปแซงขึ้นหน้าแวนโกะและปิดกัสโซได้หรือเปล่า

ณ วันนี้ศักยภาพ AI ในการแต่งชิ้นงานแบบเชคสเปียร์หรือสุนทรภู่ยังไปไม่ถึงครับ  แต่เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น ผมเชื่อว่าอีกไม่นานก็คงทำได้ เพราะพัฒนาการของ AI ก็คือการเรียนรู้ที่เรียนรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก generation ของมัน ที่แต่ละเจนก็ใช้เวลาไม่นานด้วย ตอนนี้เราอยู่ที่  GPT-4o แต่ใน lab ของ OpenAI  ไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว  ที่ยังไม่มีตัวที่ใหม่หรือฉลาดกว่านี้ อาจจะเพราะเค้ากำลังหาทางควบคุมมันอยู่ก็ได้ เพราะมันอาจจะเก่งจนน่าตกใจ หลอนน้อยลง ข้อมูลแม่นยำมากขึ้น จนคนเราจะหาทางไม่ให้คนตกเป็นทาสแบบไม่รู้ตัวได้ยาก

ในอนาคตอันใกล้นี่ทุกคนคงมีจาวิสส่วนตัวที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย คุยตอบโต้ได้เหมือนในหนัง และคงมีคนที่คบหาหรือมี  AI เป็นเพื่อนมากกว่าจะคบคน เพราะ AI มันฉลาดจนรู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน ตอบโต้ยังไงเราถึงชอบ และจะปั่นเงินจากเราแบบไหนเนียน ๆ

โดยส่วนตัวพวก AI เฉพาะทางที่พัฒนาให้ฉลาด ๆ เช่นอ่านฟิล์ม Xray อ่านอัตราการเต้นหัวใจจากใบหน้า หรือ  self-driving นี่ผมยินดีมาก ๆ แต่พวก generative AI นี่บอกตรง ๆ ว่าผมกลัวมันจริง ๆ ครับ

บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 21 พ.ค. 24, 21:51

ChatGPT 4o นอกจากจะทำให้วงการนักเขียนสะเทือนแล้ว ยังมีอีกหลายวงการที่ต้องสะเทือนไปด้วย
ดูคลิปนี้แล้ว ตกงานกันอีกหลายอาชีพเชียวละค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 21 พ.ค. 24, 22:02

  ตอนตั้งคำถามก็กลัวอยู่เหมือนกันว่า คำตอบคือ อีกไม่นาน AI จะพัฒนาได้ถึงขั้นรับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมกันบ้าง  คุณประกอบมาช่วยทำให้ความกลัวกลายเป็นความจริง
  ดิฉันก็คงจะมี AI ประจำตัวมาตอบในเรือนไทยให้  แทนที่จะต้องไปค้นคว้าหาคำตอบเอง ก็ถามเจ้า AI ว่าช่วยตอบให้ที   ไหนวิเคราะห์ซิว่าลุงวอลต์ ดิสนีย์แกเก่งยังไงถึงเอาการ์ตูนมาแซงหน้าพระเอกนางเอกคนจริงๆในฮอลลีวู้ดไปได้หมด     AI คิดไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็เจาะลึกถึงสมองทุกส่วนของดิสนีย์ตามประวัติการรักษา ที่มันไปขุดเอามาได้ ให้คำตอบถูกต้องแม่นยำทั้งหลักศิลปะและการแพทย์
  แสดงว่าเทาชมพูจะตกงาน  เพราะ GPT PG (pinkandgrey) แย่งงานไปแล้ว


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 28 พ.ค. 24, 10:33

ใครเคยใช้ ChatGPT 4o บ้าง  ขอเอาผลงานมาให้ดูกันหน่อยได้ไหมคะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 29 พ.ค. 24, 11:31

   ไปเจอ FB ของคุณIsriya Paireepairit

    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อความบรรทัดเดียวที่สั่นสะเทือนวงการ AI คือ อ.ยาน Yann LeCun ออกมาโพสต์ว่า "ถ้าคุณเป็นนักเรียนที่อยากทำเรื่อง AI ยุคถัดไป ก็อย่ามาทำเรื่อง LLM เลย"
     ข้อความสั้นๆ ประโยคเดียว แต่พอคนโพสต์เป็น อ. Yann อิมแพคมันเลยสูงมาก สารภาพว่าผมเห็นข้อความนี้ตอนแรกก็อึ้งๆ ไปเล็กน้อย แต่พอมานั่งทบทวนดูก็ถือว่าไม่เกินคาด เมื่อเทียบกับสิ่งที่แกพูดบ่อยๆ ในช่วงหลัง (เพียงแต่ไม่คิดว่าแกจะพูดออกมาตรงๆ ขนาดนี้)
     สำหรับคนนอกวงการอาจไม่รู้จักว่า อ. Yann เป็นใคร ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของแกคือ Chief AI Scientist ของ Meta (ชื่อในอดีตคือ Facebook AI Research หรือ FAIR) อธิบายง่ายๆ ว่าเป็นผู้นำสูงสุดในสายงานวิจัย AI ของ Meta/Facebook นั่นเอง
อ. Yann ถือเป็นหนึ่งในสาม Godfathers of AI ของวงการ หากใครเริ่มเข้าสู่วงการ AI น่าจะเคยเขียนโค้ดฝึก AI ให้อ่านลายมือภาษาอังกฤษ ที่เทียบได้กับ Hello World ของวงการโปรแกรมมิ่ง เจ้าฐานข้อมูลลายมือ MNIST ก็สร้างโดย อ. Yann นี่ล่ะ ทุกวันนี้เรายังต้องดาวน์โหลดลายมือจากเว็บส่วนตัวของแกกันอยู่เลย
เมื่อคนระดับ อ. Yann ออกมาวิจารณ์เรื่อง LLM ที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตา ต้นเหตุของโพสต์นี้มาจากแกไปพูดงาน VivaTech ที่ฝรั่งเศส (แกเป็นคนฝรั่งเศส) และบอกว่า LLM เป็นเกมของยักษ์ใหญ่เท่านั้น เราไม่สามารถประดิษฐ์คิดค้นอะไรเกี่ยวกับ LLM ได้เองลำพังอีกแล้ว เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
เรื่องนี้ก็ตรงกับที่ผมคิด และเคยเขียน/พูดตามเวทีต่างๆ ไว้ประมาณนึงว่า LLM มันเป็นเกมของยักษ์ใหญ่ระดับโลก ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลทั้ง GPU/ข้อมูล/นักวิจัย มีบริษัทที่ทำได้จริงจังอยู่ไม่เกินนิ้วมือข้างเดียว และตอนนี้ดูเหมือนจะเหลือแค่สองขั้วคือ Google vs OpenAI/Microsoft ยืนซัดกันอยู่เท่านั้น บริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นก็หมดสิทธิต่อกรแล้ว
แต่ถ้าใครติดตาม อ. Yann มา น่าจะเคยเห็นสิ่งที่แกวิจารณ์ข้อจำกัดของ LLM อยู่บ่อยๆ (แม้ Meta ของแกก็ทำโมเดล Llama) ว่ามันไม่มี "ตรรกะ" "เหตุผล" "การวางแผน" อะไรมากนัก มันเป็นแค่เครื่องมือพยากรณ์คำที่เก่งมากๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น
ชาว Prompt Engineer อาจกรีดร้องกับสิ่งนี้ และอาจตั้งแง่กับ อ. Yann ว่า LLM มันเก่งฉกาจเบอร์นี้แล้ว ถามอะไรตอบได้ แต่งกลอนได้ เขียนโปรแกรมได้ ยังจะเรียกร้องอะไรอีก อ. อิจฉาที่ OpenAI ทำโมเดลได้เก่งกว่าตัวเองใช่ไหมเลยออกมาแซะเขาเสียๆ หายๆ อะไรแนวๆ นี้
เผอิญว่า อ. Yann แกน่าจะเป็นสาย "คนจริง" แกเลยเสนอสถาปัตยกรรม AI ที่น่าจะมีความฉลาด มีความเข้าใจต่อโลกภายนอก มีปัญญา มีเหตุผล ทัดเทียมกับมนุษย์ขึ้นมาได้จริงๆ มาได้สักพักหนึ่งแล้ว (ตั้งแต่ต้นปี 2022) โดยมีชื่อเรียกรวมๆ ว่าเป็น autonomous intelligence
autonomous intelligence ของ อ. Yann นั้นเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ มีโมดูลชิ้นส่วนต่างๆ ทำงานร่วมกัน เช่น หน่วยควบคุม (configurator), หน่วยรับข้อมูลภายนอก (perception) และที่สำคัญที่สุดคือ ตัวสร้างโมเดลของโลก (world model) เพื่อพยากรณ์ว่าโลกภายนอกจะเปลี่ยนไปอย่างไร แล้วโมเดลจะสั่งการให้ทำอะไร
สถาปัตยกรรมของ อ. Yann นั้นซับซ้อนมาก (แกบอกว่ารวบรวมความคิดทั้งชีวิตมาทำเรื่องนี้) ผมพยายามอ่านงานเขียน-ดูคลิปแกบรรยายตามที่ต่างๆ แล้วพบว่ามันไกลเกินกว่าสติปัญญาของผมจะเข้าใจได้แล้ว พลังวัตรไม่พอ 555 หากใครสนใจลองดูคลิปตามลิงก์ในคอมเมนต์ ซึ่งเป็นคลิปที่ อ. Yann เองแนะนำให้ดู
กล่าวโดยสรุปคือ ในโลกที่เราพูดคำว่า AI กันจนเฝือ และโมเดลภาษา LLM เริ่มมาถึงข้อจำกัดของมันแล้ว (หลังพัฒนาแบบก้าวกระโดดในช่วง 2 ปีนี้) ก้าวต่อไปของ AI ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปทางไหนต่อ แต่อย่างน้อย อ. Yann ในฐานะหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของโลกสายวิจัย ก็มีข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่ มีพิมพ์เขียวว่ามันควรเป็นอย่างไร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่พวกเราๆ ต้องศึกษากันต่อไปนั่นเอง
(ใครที่สนใจ อ. Yann วิจารณ์ข้อจำกัด LLM ลองดูจากสไลด์ที่ผมแคปจอมาจากในคลิป น่าจะเห็นภาพรายละเอียดมากขึ้น)

https://www.facebook.com/markpeak/posts/pfbid0NvTiAcao4QuFzHNNv1zsUWKF1SKJtoQs535atUUdQkirAVKBNRPaXBeoH376eY7Pl
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 29 พ.ค. 24, 11:33

LLM  คือ  โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model, LLM) เป็นรูปแบบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชนิดหนึ่งที่โมเดลถูกเทรนด้วยข้อมูลข้อความมากมายมหาศาลจากอินเตอร์เน็ต สร้างเป็นโมเดลภาษา Language Model ให้สามารถมีความเข้าใจความหมายข้อความตามบริบท (Context) และสร้างข้อความที่สอดคล้องออกมาได้

อ่านรายละเอียดได้ที่

https://www.bualabs.com/archives/4402/what-is-large-language-model-llm/
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33609

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 29 พ.ค. 24, 11:49

จากลิ้งค์ข้างบนนี้
เนื่องจาก Instruction Tuned LLM สามารถรับคำสั่งจากผู้ใช้ผ่านข้อความภาษาธรรมชาติเหมือนการพูดคุยปกติ ทำให้คุณภาพของผลลัพท์หรือคำตอบที่ได้นั้น ขึ้นกับคำถาม หรือ Prompt ค่อนข้างมาก เช่น ถ้าเราให้ LLM “เขียนรีวิวร้านกาแฟ อาหารอร่อย บรรยากาศดี”

โมเดล LLM สามารถตอบได้หลายแบบมาก อาหารอร่อย นี่หมายถึง อาหารคาว หรือ ของหวาน แล้วกาแฟอร่อยไหม บรรยากาศดียังไง สว่างสดใส มินิมอล หรือบรรยากาศสงบ ร่มรื่น จะเขียนยาว หรือสั้น เขียนเป็นทางการ หรือสำหรับโพสต์ลงโซเชียล เป็นคำบรรยาย หรือเป็นข้อ ๆ


เขียนรีวิวได้ ก็น่าจะพัฒนาเป็นเขียนเรื่องสั้นได้  จากนั้นก็เป็นนวนิยายขนาดสั้นได้
ลองสมมุติดู
เขียนนวนิยาย 20 ตอนจบ ตอนละ 5 หน้า word file  ใช้ฟ้อนท์ Angsana 16  ภาษาไทย

เนื้อเรื่อง  ดร.ประกอบเดินลงอุโมงค์ลอดใต้ถนนในกทม. แต่พบว่าพอออกมากลับเป็นราชสำนักฮ่องเต้ถังไท้จง แห่งราชวงศ์ถัง  ตัวเองกลายเป็นองค์ชาย 14  ซึ่งป่วยหนักถึงตายแล้วฟื้นขึ้นมา   องค์ชายได้พบนางเอก เป็นคู่หมั้นกำลังจะต้องเข้าวิวาห์กับองค์ชาย 1  องค๋ชาย 14  จึงช่วยนางเอกไว้ได้   แล้วเข้าช่วยฮ่องเต้ที่กำลังจะถูกชิงบัลลังก์จากองค์ชาย 1 จนชนะ  ในตอนจบดร.ประกอบตัดสินใจอยู่ในอดีต ไม่กลับมาสอนนศ. อีก

ท่านผู้อ่านคิดว่ามันจะแต่งได้ไหมคะ 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 20 คำสั่ง