สืบเนื่องจากกระทู้
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1616.0ที่สนทนากันเมื่อ ๔ ปีก่อน
ดิฉันพบ"สนุกนิ์นึก" ที่ตัวเองเขียนต่อจนจบ จากพระนิพนธ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ที่ทรงค้างเอาไว้ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๒๙
ส่วนที่แต่งต่อตอนจบ แต่งไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๙ เมื่อมีประชุมทางวิชาการ ๑๐๐ ปีนวนิยายไทย ระหว่างวันที่ ๓๐ กรกฎาคม-๑ สิงหาคม ๒๕๒๙ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยศิลปากร
จุดมุ่งหมายก็คือเพื่อจะดูว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นหรือนวนิยายกันแน่
ได้วิเคราะห์เอาไว้ท้ายเอกสารเมื่อเขียนต่อเรื่องนี้จนจบแล้ว ถ้ามีสมาชิกอยากอ่านก็จะนำมาลงให้ภายหลัง
สนุกนิ์นึก ลงในหนังสือ วชิรญาณวิเศษ เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๙ ผู้แต่งคือพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าคคณางค์ กรมหลวงพิชิตปรีชากร
เรื่องนี้นับว่าเป็นการเริ่มต้นของวรรณกรรมไทยที่ได้รับอิทธิพลตะวันตกในยุคแรก แม้ว่ารูปแบบการเขียนยังเป็นแบบเก่า คือเล่าติดต่อกันไปเหมือน สามก๊ก และ ราชาธิราช ไม่มีการใช้เครื่องหมายคำพูด หรือการขึ้นบรรทัดใหม่เมื่อมีบทสนทนา ฯลฯ อย่างวิธีการเขียนนิยายปัจจุบัน แต่แนวคิดนั้นได้รับแนวตะวันตก คือแนวสัจนิยม (realism) มาอย่างเห็นได้ชัด
เนื้อเรื่องของ สนุกนึก บรรยายถึงพระสงฆ์หนุ่มๆ ๔ รูปพูดคุยกันว่าเมื่อสึกแล้วจะออกไปประกอบอาชีพต่างๆกัน เช่นทำราชการ และค้าขาย ผู้ที่ยังลังเลไม่สึกก็มีอุบาสิกาเตรียมมาจัดการให้สึกเพื่อจะเอาไปเป็นลูกเขย ข้อสำคัญคือฉากในเรื่องระบุว่าเป็นวัดบวรนิเวศ
ข้อนี้เอง เมื่อลงตีพิมพ์ก็เกิดเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้น เพราะคนอ่านเข้าใจว่าเป็นเรื่องจริงเนื่องจากคนไทยยังไม่คุ้นกับกลวิธีการแต่งแบบสมจริงเช่นนี้ กลายเป็นเรื่องให้วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆจนสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ขณะนั้นทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศเดือดร้อนพระทัยว่าทำให้วัดมัวหมอง ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงกริ้วและกล่าวโทษกรมหลวงพิชิตปรีชากรพอประมาณแล้วก็ทรงไกล่เกลี่ยให้เรื่องยุติลงเพียงแค่นั้น เป็นอันว่าสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯก็ไม่ติดพระทัยจะกล่าวถึงเรื่องนี้อีก ส่วน สนุกนิ์นึก ก็ค้างอยู่เพียงตอนแรก ทิ้งปัญหาไว้ให้นักวิชาการถกเถียงกันว่าเรื่องนี้เป็นนวนิยายหรือเรื่องสั้นกันแน่ และยังไม่มีคำตอบตายตัวมาจนปัจจุบัน
เพราะเหตุนี้ สนุกนิ์นึก จึงไม่จบ หลังจากนั้นแม้ไม่มีเหตุการณ์อื้อฉาวใดๆเกิดขึ้นอีก วชิรญาณวิเศษยังออกตีพิมพ์อยู่จนกระทั่งถึง พ.ศ. ๒๔๓๗ เรื่องสั้นแนวอื่นแพร่หลายสืบต่อมาไม่ขาดสาย แต่เรื่องทำนองเดียวกับ สนุกนึก ไม่ได้ปรากฏออกมาอีกเลย