พระองค์เจ้าบวรเดชเมื่อเข้าไปเป็นใหญ่ก็เปลี่ยนแผนของพระยาศรีสิทธิสงคราม ซึ่งวางกลยุทธไว้ว่าจะใช้วิธีจู่โจมจับคนสำคัญในคณะรัฐบาล ซึ่งขณะนั้นมีที่พักรวมกันอยู่ในวังปารุสกวัน โดยจะใช้ทหารหัวเมืองชั้นในที่อยู่ในคาถาของตนเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน จี้รถไฟมาลงที่สถานีจิตรลดาแล้วตรงเข้ายึดวังปารุสก์ โดยทหารในพระนครอีกส่วนหนึ่งที่คุยๆกันไว้แล้ว อย่างพันตรีหลวงวีรโยธา ผู้บังคับกองพันทหารราบที่๖ (ปัจจุบันคือพล.๑) ซึ่งตั้งอยู่หลังวังปารุสก์นั่นเอง จะเข้าสกัดหากมีฝ่ายรัฐบาลเคลื่อนพลออกมาต่อสู้ แต่พระองค์เจ้าบวรเดชทรงเห็นว่าถ้าบุกเข้าตีรังแตนตรงๆอย่างนั้น คงจะได้มีเลือดตกยางออกแน่ ทรงมีแนวความคิดแค่ให้ระดมกำลังทหารหัวเมืองมาแสดงพลังให้มากที่สุด โดยยึดดอนเมืองเป็นฐาน เอากำลังพลที่เยอะกว่าขู่ให้ทหารฝ่ายรัฐบาลใจฝ่อ หลังจากนั้นจึงทำการเจรจาบีบให้รัฐบาลถอดใจลาออก จะได้จบกันไปโดยดีแบบไม่มีใครเสียเลือดเนื้อให้พระเจ้าอยู่หัวต้องเสียพระทัย
สมมุตินะคะ สมมุติว่าคณะกู้บ้านกู้เมืองตกลงทำตามแผนของพระยาศรีสิทธิสงคราม ซึ่งดูๆก็น่าจะแผนเดียวกับของคณะราษฎร์ที่จู่โจมสายฟ้าแลบ จับตัวพระบรมวงศานุวงศ์ไปคุมขังไว้เป็นตัวประกัน
เปลี่ยนเป็นว่าคราวนี้ ฝ่ายพระยาศรีฯ ตีรังแตนจับพระยาพหลฯ พระยาทรงสุรเดช พระยามโนปกรณ์ฯ หลวงพิบูลฯ พระยาฤทธิ์อัคเนย์ และใครต่อใครที่เป็นหัวหอกของคณะราษฎร์ได้สำเร็จเรียบร้อย เอาไปคุมขังไว้ที่วังปารุสก์กันเป็นทิวแถว
พอได้หัวใจของผู้บริหารประเทศไปอยู่ในกำมือแล้ว ก็ยื่นคำขาดให้รัฐบาลยอมแพ้
อย่างนี้พอจะยึดอำนาจได้สำเร็จไหม?
ท่านนวรัตนคิดเห็นอย่างไรคะ