ผมชอบประชิดทีละหลายๆ มุมครับ เลยจำไม่ค่อยได้แล้วว่าเป็นยังไง แบบว่าอ่อนเลขมากๆ
ท่านอาจารย์พูดเรื่องมุมประกอบ 180 องศา ดูท่าทางแล้ววรยุทธทางด้านคณิตท่านอาจารย์เทาฯน่าจะเหนือกว่าผมประมาณ 2 ขั้น
ดูข้อสอบเอ็นสะท้านยุคนี้แล้วมันก็เห็นปรัชญาการศึกษาของเราว่าคงยากที่จะก้าวพ้นกรอบวิธีคิดแบบเดิมๆ ได้ ที่จริงปัญหามันมีมากกว่ายอดของภูเข้าน้ำแข็งที่โพล่ออกมาให้เราดูกัน
มาต่างประเทศผมโชคดีมากได้มีโอกาสเห็นระบบการเรียนประถมที่อังกฤษนี่ แม้จะไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุดในโลก เพราะผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่ใช่ทุกคนประสบผลสำเร็จ ฝรั่งที่ไปเละเทะตอนเป็นวัยรุ่นก็มีไม่น้อยแต่ผมก็พอเห็นความแตกต่างหลายๆ อย่าง
โรงเรียนที่ผมได้เห็นนี้เป็นโรงเรียนประถมรัฐบาล อยู่นอกตัวเมือง เทียบกับเมืองไทยก็จะเป็นระดับโรงเรียนวัดประจำตำบลนอกเขตเทศบาล ในอำเภอธรรมดาที่ไม่ใช่อำเภอเมืองแถวประมาณจังหวัดตากหรืออุทัยธานีประมาณนั้น
ขนาดชื่อโรงเรียนยังเป็นชื่อโบสถ์ประจำหมู่บ้านเลย เรียกแบบไทยๆ ก็ต้องเรียกโรงเรียนวัดเซนต์จอห์น
แต่ละชั้นเรียนมีห้องเรียนเดียว นักเรียนห้องละ 20 กว่าคนไม่ถึง 30 ทำให้โรงเรียนประสบปัญหาได้รับงบประมาณน้อยลงจนทำให้ต้องยุบชั้นเรียน ป 3 ป 4 ป 5 ป 6 จาก 4 ชั้นให้เหลือ 3 ชั้นเรียนควบกัน เหลือแค่ชั้น 3-4, 4-5, 5-6
แต่แม้กระนั้น ห้องสมุดและคอมพิวเตอร์เรียกได้ว่าไม่ด้อยกว่าโรงเรียนในลอนดอนแต่อย่างใด ผลทดสอบปีที่แล้วและทุกๆ ปีที่ผ่านมานักเรียนโรงเรียนนี้ทำข้อสอบมาตรฐานได้สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของประเทศอังกฤษ และสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของเมืองด้วย เรียกได้ว่ามาตรฐานไม่ด้อยกว่าโรงเรียนอื่นๆ ในประเทศนี้ั้ไม่ว่าจะในเมืองใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าแต่อย่างใด
ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะผู้คนแถวโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลาง มีอาชีพการงานทำเป็นส่วนใหญ่ สิ่งแวดล้อมจึงค่อนข้างดี ไม่ค่อยมีคนชั้นต่ำๆ หรือจนๆ ที่กินสวัสดิการรัฐ เด็กส่วนใหญ่เลยมีพื้นฐานครอบครัวที่ค่อนข้างดี
ค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองมีแต่ค่าอาหารกลางวัน หนังสือเรียน สมุด เครื่องเขียนไม่เคยต้องซื้อ โรงเรียนมีให้หมดครับ ตาเด็กไทย 7 ขวบ ที่ผมมาอาศัยบ้านแม่เค้าอยู่ด้วยเสียแต่ค่านมกับอาหารกลางวันเท่านั้น
สัปดาห์ที่แล้วเพิ่งได้ไปคุยกับคุณครูของเด็กชาย 7 ขวบ ห้องเรียนเค้ามีเด็กนักเรียน 27 คนเท่านั้น แต่มีครู 2 คน
ครูจะวางเป้าหมายให้เด็กแต่ละคนว่าแต่ละเทอมเด็กควรจะต้องพัฒนาคณิคศาสตร์ การอ่าน การเขียน วิทยาศาสตร์ ได้ถึงเป้าหมายระดับไหน เด็กแต่ละคนจะมีเป้าไม่เท่ากันแล้วแต่ระดับพื้นฐานแต่ละคน
เป้าหมายพวกนี้เป็นความลับ จะไม่มีการเปิดเผยให้เด็กอื่นหรือผู้ปกครองเด็กคนอื่นทราบ การเรียนที่นี่จะเลื่อนชั้นไม่มีการสอบ ไม่มีการเปรียบเทียบลำดับที่ในห้องเรียน ทุกคนมีหน้าที่ทำให้ถึงเป้าที่ควรจะได้ของแต่ละคนเท่านั้น ดังนั้นเด็กแต่ละคนจะไม่ต้องแข่งกับคนอื่น แข่งกับตัวเองเท่านั้น
ครูจะประเมินผลจากงานหรือการบ้านที่ทำในโรงเรียน เช่นการอ่านครูจะให้เด็กอ่านหนังสือให้ฟังแล้วถามความเข้าใจ เพียงเท่านี้ครูก็จะประเมินเด็กได้แล้วว่ารู้หรือไม่รู้
ผมเคยไปนั่งดูการสอนในวัน open day ครูก็มีจิตวิทยาดีมาก สอนหนุก เรียนเหมือนเล่นเกมส์ เด็กๆ ชอบไปโรงเรียนกันทุกคน
ครูที่นี่มีรายได้สูงพอที่จะมีคุณภาพชีวิตแบบคนชนกลางที่นี่ได้ ทำให้สามารถทุ่มเทให้กับเด็กๆ ได้ดี ไม่ต้องไปหาสอนพิเศษ ขายตรง หรือทำตำแหน่งวิชาการ การวัดผลงานดูจะระดับความสำเร็จในการพัฒนาของเด็กนักเรียนของตน
พ่อแม่ก็มีหน้าที่ด้วย เช่นทาง ร.ร. จะให้เด็กเลือกหนังสือกลับมาอ่านทุกวัน พ่อแม่ต้องฟังและเซ็นต์ชื่อลงสมุดบอกว่าวันไหนอ่านเล่มไหน ผลการอ่านเป็นยังไงบ้าง ดังนั้นถ้าพ่อแม่ไม่สนใจ ไม่ร่วมมือ ลูกก็จะเรียนล้าหลังหรือพัฒนาช้ากว่าเพื่อนได้
คุณภาพการสอนแม้ไม่วิชาการจ๋าแบบบ้านเรา แต่ผมเชื่อว่าโรงเรียนวัดเซนต์จอห์นแห่งนี้ดีไม่น้อยกว่าโรงเรียนนานาชาติเอกชนค่าเทอมแพงที่สุดปีละเป็นล้านในไทยเลย ตอนนี้เห็นตาเด็กไทยคนนี้เรียนมีความสุข มองกลับไปที่เมืองไทยคิดไม่ออกเลยว่าถ้าหมอนี่ต้องกลับไทยจะไปเรียนที่ไหน จะปรับตัวได้หรือไม่ วิธีคิด วิธีจัดการเรียนการสอน มันต่างจากโรงเรียนที่ผมเรียนสมัยประถม หรือโรงเรียนปัจจุบันที่ลูกพี่ลูกน้องของหมอนี่เรียนอยู่ในไทยจริงๆ
แต่เท่าที่พูดคุยกับพ่อแม่ชาวเอเชียส่วนใหญ่ เช่นจีน เกาหลี ส่วนใหญ่จะไม่ปลื้มระบบการสอนของอังกฤษครับ เค้ามองว่ามันอ่อนวิชาการไป
ผมหละอิจฉาชีวิตตาเด็กคนนี้ยิ่งนัก และที่น่าอิจฉามากไปกว่านั้น มีเด็กผู้หญิงฝรั่งหน้าตาน่ารักแถวบ้าน ชื่ออีหนูเจสสิกา ชอบมาเล่นกับหมอนี่แทบทุกวันหลังเลิกเรียนหรือวันหยุด เรียกได้ว่าติดแจเป็นขาประจำมาบ้านผมเลยทีเดียว ขนาดวันหยุดไหนไปข้างนอก กลับมาแล้วต้องแวะมาหาไอ้หนุ่มที่บ้าน เดือนที่แล้ววันเกิดสาวเจ้า ไอ้หนุ่มเป็นคนเดียวที่รู้ว่าอีหนูอยากได้ของขวัญอะไรมากที่สุด ผมสังเกตุการณ์ดูแล้วมันยังกะหนังเรื่องแฟนฉันยังไงยังงั้นเลยครับ
รูปประกอบเรื่อง เป็นรูปแอบถ่ายตอนที่พาสองคนนี้ไปเดินดูเป็ดที่ริมคลองแถวบ้านเมื่อปีที่แล้วครับ เจ้าตัวเด็กหนะไม่ได้คิดอะไรกันหรอกครับ แต่ผู้ใหญ่เห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้