มีความเคลื่อนไหวเรื่องลิขสิทธิ์ที่น่าจับตามอง เกิดในอินเตอร์เนตไทย
และในตลาดต้าปลีกที่ต้องพึ่งเสียงเพลง
เรื่องแรกคือ อากู๋ออกมาปิดช่อง ไม่ให้เปิดเพลงที่แกลอกต่างด้าวมาทำขายในสื่อที่แกไม่ได้ตังค์
หมายความว่า แกปิดรูหูชาวบ้านด้วยความโลภ ซึ่งใครที่เป็นกุนซือให้แกในเรื่องนี้ สมควรถูกยึดเมีย
ถ้าแกกุนฯ ตัวเอง ก็ต้องแถมเบิ๊ดกระโหลกอีกปุ๊หนึ่ง
เดิมทีน้น พวกที่เล่นบล๊อค ชอบเอาเพลงกเฬวระมาประดับจอ โดยไม่เสียเงินให้อากู๋ เพราะคิดไปว่า ก็ฉันมิได้ให้ดาวน์โหลดนี่
เปิดฟังเล่นจะเป็นไร
อากู๋แกเห็นว่า ช่องทางนี้ จะทำให้คนไม่มาซื้อของที่แกทำ แกก็เลยลุกขึ้นมาผสมปูน เทปิดรูระบายนี้เสีย
ทำให้เกิดความเดือดร้อนอลหม่านไปพักหนึ่ง
แต่ผมคิดว่าคนที่จะหายนะแท้จริงแล้ว ก็คืออากู๋
เพราะคนเขาก็ต้องไปหาเพลงอื่น ที่มีให้เลือกเกลื่อนกลาด มาแทนที่ของกู๋แก....
ของอย่างนี้ มันเข้าทฤษฎีควอนตั้มครับ คือจู่ๆ มันก็กลายสภาพ เกิดโดยมิเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปทีละน้อย
หมายความว่า จากข้าวสุกเป็นข้าวสาร มันเกิดปุ๊ปปั๊ปเลย ไม่มีผลต่อเนื่องให้คอยแก้ตัว
เรื่องที่สองคือ ธุรกิจรีดไถจากกฏหมายลิขสิทธิ์
ทำง่ายๆ โดยให้หน้าม้าคนหนึ่ง เอาซีดีลิขสิทธิ์ไทย ไปให้ร้านค้า เช่นร้านกาแฟเปิด บอกว่าชอบเพลงนี้
แล้วก็มีตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมลิขสิทธิ์และตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์บุกเข้ามา
แจ้งข้อหาละเมิด เพราะถือว่าเปิดเพลงเพื่อการค้าโดยไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น ลากตัวไปโรงพัก เจรจาเงินค่าเสียหายสักหกหมื่อน
ต่อรองได้นิดหน่อย ภายในสามชั่วโมง(มักจะมาจับบ่ายแก่ ผู้ต้องหาจะได้รีบวิ่งหาเงิน เพื่อไม่ต้องเข้ากรง) ก็จบเรื่อง
สรุปว่า ทำรายได้วันละห้าหกหมื่น
ดูตัวอย่างผู้เสียหายที่นี่ครับ
http://www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&cateid=04&action=view&id=026635และวิธีการป้องกันตัวเอง ที่นี่
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6479145/X6479145.html