จริงๆแล้วทั้ง IBM และ Mac ก็อยู่ใต้กฎหมายสิทธิบัตรอันเดียวกันนะครับ เพียงแต่สองเจ้านี้เลือกหนทางต่างกัน
เรื่องซอฟท์แวร์นี่ไม่ต่างกัน คือเปิด API ให้คนมาเขียนโปรแกรมให้ตามสบาย
แต่เรื่องฮาร์ดแวร์ IBM ยอมให้ผลิตได้ ด้วยความมั่นใจว่า ตลาดเปิดทำให้อัตราการโตสูงเป็นทวีคูณ และโดยรวม IBM จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากกว่าอยู่แบบงุบๆงิบๆเหมือนที่ Apple ทำ
จะว่าไปก็ตลก เพราะโมเดลเดียวกันนี้ Apple เคยทำมาก่อนแล้วสมัยยังเป็น Apple II ซึ่งทำให้มี Apple II Compatible ออกมาเพียบ
ทีนี้มาดูผลที่เกิดขึ้นกันบ้าง
IBM โตเป็นเจ้าตลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เครื่อง IBM Compatible กลายเป็นของประจำบ้าน (ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อสามัญเป็น PC อย่างที่เรียกในปัจจุบัน) ส่วน Mac ห่อตัวใช้กันอยู่ในกลุ่มเล็กๆ
Apple ซึ่งคงรู้สึกเสียดายว่าตักตวงประโยชน์จาก Apple II ไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย มาถึง Mac ก็เลยไม่ให้สิทธิ์ใคร ทำตัวเป็นระบบปิด แต่ความจริงแล้วมีช่วงหนึ่ง Apple ก็เคยให้้สิทธิ์คนอื่นทำเครื่อง Compatible อยู่พักนึงนะครับ(ไม่รู้ว่าเห็น IBM โกยเงินแล้วน้ำลายไหลหรืิเปล่า) แต่เข้าใจว่ามีปัญหาเรื่องการควบคุมคุณภาพและภาพลักษณ์(?) สุดท้ายก็เลิกให้สิทธิ์ กลับไปทำเองหมดเหมือนเดิม
ส่วน IBM ที่ฟู่ฟ่าสุดๆ จนในที่สุดเจอเครื่อง Compatible ครองตลาด ไอ้ที่หวังว่าจะได้ชื่อ IBM Compatible เป็นตัวนำ ชาวบ้านเขาก็หันมาเรียกเป็น PC ไปหมด สุดท้าย IBM ต้องขายกิจการส่วน PC ให้เจ๊ก Lenovo ไปแล้ว ผันตัวเองไปทำธุรกิจ IBM จักรกลธุรกิจข้ามชาติ หากินกะคนรวยสบายกว่ากันแยะเลย
และปิดฉากธุรกิจนี้ไปแบบที่เรียกว่าจบเห่ และสบายใจได้เลยว่าจะไม่มีพ่อค้าหน้าไหนกล้าเดินรอยตาม IBM อีกแน่ๆ
ก็สิทธิบัตรเขาไม่ได้บังคับว่าห้ามเปิดนี่ครับ เจ้าของเลือกได้ว่าจะเอาไง IBM เลือกเปิด แล้วเป็นอย่างนี้ แสดงให้ดูว่าเปิดโล่งโจ้งแล้วต้องจบแบบนี้ และนี่คือสภาพที่ไม่มีสิทธิบัตรนั่นเอง รายใหญ่อย่าง IBM ยังมีโอกาสตักตวงผลประโยชน์ช่วงแรกๆไปได้บ้าง แต่ถ้าเป็นรายเล็กๆหมดสิทธิ์รอดแน่ ทำแทบตาย ยังไม่ทันได้กินเลยโดนคนอื่นจ้วงกินเรียบ ต้องนั่งร้องไห้โฮๆ แล้วใครมันจะไปทำล่ะคร้าบ... ไม่จูงใจเลย
ในขณะที่ Mac อยู่อย่างลุ่มๆดอนๆมาตลอดเกือบ ๒๐ ปีนี้ แต่ Mac ก็ยังเป็น Mac นะครับ
ผมเสียดายเหมือนกันที่ระบบของ Mac ไม่เปิด เพราะที่จุดเริ่มต้น Mac เหนือกว่าแบบคนละเรื่องเลย ระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกแบบ USB นั้น Mac มีของคล้ายๆกันนี้ใช้มาราวๆชาตินึงมาแล้ว ผมยังเคยทะลึ่งเอาคียบอร์ดมาต่อพ่วงกันสามตัวซ้อนมาแล้ว ตื่นเต้นดีมาก
Mac OS และ เมาส์ ก็เป็นต้นฉบับให้ Window$ ลอกไปใช้จนมีคดีความเป็นเรื่องเป็นราวมาแล้ว (โดยประสบการณ์ที่เคยศึกษา API ของทั้งสอง OS นี้ ถ้าบอกว่าไม่ได้ลอก สู้บอกผมว่าควายออกลูกเป็นลิงได้ยังน่าเชื่อกว่าเป็นไหนๆ) ถึงแม้จอบส์จะขมายไอเดียทั้งสองอย่างมาจากแล็บ Xerox ที่พาโลอัลโตอีกทีก็เถอะ
จะให้แจ๋ว ต้องคุยกันต่อเรื่องแนวคิด Open Source และ GPL ที่กำลังแรงในช่วงหลายปีนี้ครับ เป็นการใช้กฎหมายลิขสิทธิ์อย่างน่าสนใจมากครับ