สาสน์สมเด็จฯฉบับนี้บอกว่าฝัง แต่ฉบับข้างล่าง ลงวันที่ 13 ก.พ.2479 เล่าถึงพิธีพระราชทานเพลิง
คนสมัยก่อน เมื่อตายใหม่ๆจะรดน้ำศพแล้วสวดพระอภิธรรมสั้นๆ ก่อนจะรีบนำไปฝังก่อนที่กลิ่นจะออก รอเป็นปีจนศพเน่าเปื่อยแล้วแห้งสนิท จึงขุดขึ้นมาชำระ เพื่อที่จะทำพิธีฌาปนกิจ นอกจากศพในโกศที่ลองในเป็นภาชนะโลหะ จึงไม่ต้องฝัง แต่ผู้ที่ได้รับพระราชทานโกศส่วนใหญ่จะมีฐานะดีที่จะตั้งศพไว้ที่วัง หรือที่บ้านได้ ที่วัดก็มี แต่ก็จะเก็บไว้ร่วมปีจนศพแห้งแล้วจึงจะเผาเช่นกัน
พระศพของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์อยู่ในโกศไม้ ลักษณะเดียวกับโลงแต่วางทางตั้ง(บางครั้งเรียกว่าลุ้ง) ไม่น่าจะกันกลิ่นได้ ก็คงต้องนำไปผังเช่นเดียวกับศพที่อยู่ในโลง ครั้นถึงเวลาก็จะขุดขึ้นมาเปลี่ยนโกศ เพื่อพระราชทานเพลิง
[/u][/b]พระศพเจ้านาย ตั้งทำบุญที่วัดไม่ได้หรือคะ
ได้ครับ ส่วนใหญ่เป็นที่ศาลาพิเศษสำหรับบุคคลระดับVIP ที่วัดเบญจมบพิตร เช่น พระที่นั่งทรงธรรม และศาลาบัณณรสภาค
แต่พระศพของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์น่าจะปลงที่วัดเทพศิรินทร์ เพราะเห็นว่ามีพระราชทานเพลิงที่เมรุหลวงน่ะครับ
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ สำหรับคำอธิบายข้างบน
ขอเรียนถามเพิ่มอีกนิดนะคะ
ศพชาวบ้าน ก่อนเผา สัปเหร่อจะเปิดโลง ให้ญาติล้างหน้าศพด้วยน้ำมะพร้าว(ได้ยินคนเค้าเล่าน่ะค่ะ เพราะพยายามเลี่ยงสุดชีวิตที่จะต้องเข้าไปร่วมในเหตุการณ์จริง)
พระศพเจ้านาย ทำแบบนี้หรือเปล่าคะ ?