SILA
|
ความคิดเห็นที่ 885 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 10:43
|
|
เดินผ่านหอขนาดย่อมรายเรียงเป็นระยะระหว่างทาง ได้แก่ หอ Tower of Saint Francis และ Tower of the Corner of In Top และ หอ Puncjela Tower ซึ่งอยู่ถัดจากประตู Pile ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 886 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 10:46
|
|
ด้านซ้ายส่วนล่างของภาพแลเห็นบันไดขึ้นลงของทางเข้าขึ้นป้อมจากประตู Pile ชั้นใน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 887 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 10:48
|
|
จุดยุทธศาสตร์ที่สี่ทางทิศตะวันตก เป็นที่ตั้งของ ป้อมแกร่งทรงสวย Fort Bokar กับป้อมแยก St Lawrence ซึ่งอยู่เยื้องกัน ที่ฝั่งตรงข้าม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 888 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 10:51
|
|
สองป้อมคุ้มครองเมืองจากผู้รุกรานทางทะเลและปกป้องทางเข้าเมืองด้านตะวันตก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 889 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 10:54
|
|
Fort Bokar นี้เป็นหนึ่งในป้อมที่งามสุดด้วยงานสถาปัตยกรรมที่สง่าล้ำลงตัว ด้วยการผสมผสานกลมกลืนระหว่างความงามกับการใช้งาน เป็นผลงานระดับ masterpiece จากการออกแบบสร้างของนายช่าง Michelozzo อีกเช่นกัน (ภาพหยิบยืมจากเน็ท)
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 890 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 10:58
|
|
ป้อมทรงกลม(ค่อนข้าง)ทึบตัน สร้างขึ้นระหว่างปี 1461 - 1463 ระหว่างการสร้างทางการ ได้สั่งให้บ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียงจัดส่งวัสดุก่อสร้างรวมทั้งย้ายออกเพื่อมอบพื้นที่สำหรับตัวป้อม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 891 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 11:02
|
|
ขอบด้านบนสุดโค้งมนเกลี้ยง ตัวป้อมมีสองชั้นพร้อมช่องปืนใหญ่ - casemate fortress ส่วนล่างของป้อมคือ หอ Kalarinja Tower ตั้งชื่อตามอ่าวที่หอนี้ทำหน้าที่พิทักษ์ ป้อมรูปทรงกระบอกนี้ยื่นออกมาจากกำแพงตั้งตระหง่านบนโขดหินชายฝั่งคอยป้องกันประตู Pile ที่ตั้งของหอถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอันดับสองรองจากหอ Minceta มีหน้าที่ ป้องปรามศัตรูที่จะจู่โจมทางบกด้านตะวันตกร่วมกับป้อมที่อยู่เยื้องฝั่งตรงข้าม บางแหล่งข้อมูลกล่าวว่าป้อมนี้เป็นป้อมปืนที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 892 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 11:09
|
|
ส่วนกำแพงด้านแผ่นดินที่ทอดยาวจากป้อม Revelin ทางตะวันออกไปสู่ป้อม Bokar ทางตะวันตกนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเมือง กำแพงมีความหนา 4 - 6 ม. และบางช่วงสูงถึง 25 ม.ตัวกำแพงเสริมด้วยกำแพงลาดเอียง กันกระสุนปืนใหญ่แล้วยังรายเรียงด้วยป้อมขนาดใหญ่และย่อม ตีนกำแพงขุดคูเมืองเป็นแนวขวางกั้น ส่วนบนกำแพงก็ติดตั้งปืนใหญ่มากกว่า 120 กระบอกช่วยปกป้องคุ้มครองเมือง เมื่อคราวพวกเซิร์บโจมตี ป้อมนี้และป้อม Minceta ได้รับความเสียหายไม่น้อย
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 893 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 11:16
|
|
นับโดยรวม แนวกำแพงได้ถูกเสริมเติมรายทางระหว่างจุดยุทธศาสตร์ด้วย 3 หอโค้ง, 14 หอสี่เหลี่ยม, 5 ป้อมปราการ 2 ป้อมมุม และที่กำแพงช่วงล่างยังมีปราการรูปโค้งครึ่งวงกลม ขนาดใหญ่ 1 + 9 ขนาดย่อมล้อมอยู่ด้วย (จำนวนนี้มีความแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละแหล่งข้อมูล) (ภาพจากเน็ท)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 894 เมื่อ 24 ม.ค. 14, 11:20
|
|
เหนือโขดหินริมอ่าวฝั่งตรงข้ามเยื้องป้อม Bokar เป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งป้อมแยก
ป้อม St. Lawrence Fortress
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 895 เมื่อ 27 ม.ค. 14, 09:47
|
|
ตั้งป้อมอยู่นอกเมืองทางด้านตะวันตกปกปักการรุกรานทั้งทางบกและทะเล มักเรียก กันว่า Dubrovnik's Gibraltar ตัวป้อมแยกตั้งอยู่นอกกำแพงบนหินผารูปสามเหลี่ยม สูงจากระดับน้ำทะเล 37 ม. ตรงปากอ่าว Kalarinja
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 896 เมื่อ 27 ม.ค. 14, 09:50
|
|
ป้อมล้อมรอบด้วยกำแพงแข็งแรง ภายในเป็นลานสี่เหลี่ยมและโค้งอาร์เคดขนาดใหญ่ ระเบียงป้อมมีสามขั้นเนื่องจากพื้นที่ตั้งต่างระดับ ระเบียงขั้นที่กว้างสุดหันสู่ทิศใต้ด้านที่เป็นทะเล ส่วนด้านที่แคบที่สุดสูงที่สุดหันเข้าหาชุมชนด้านตะวันตก และกำแพงด้านที่ยาวสุดหันสู่ป้อม Bokar อาวุธเสริมพลังพิทักษ์ป้อมคือปืนใหญ่ 10 กระบอกแต่ไม่เคยได้ใช้ยิงแม้แต่ครั้งเดียว
(สองภาพจากเน็ท)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 897 เมื่อ 27 ม.ค. 14, 09:53
|
|
กำแพงด้านศัตรูจักจู่โจมหนา 4 - 12 ม. ทนไฟแผดเผา ในขณะที่ด้านหันหาเมือง หนาไม่เกิน 60 ซม. เพื่อที่ว่าถ้าหากนายทหารบังคับการป้อมคิดก่อกบฏก็จะถูกกระสุนปืนใหญ่ โจมตียิงด้านนี้แตกได้โดยไม่ยาก ทางเข้าสู่ป้อมเป็นสะพานคนเดินที่เหนือประตูเข้าสลักประโยคว่า
"Non Bene Pro Toto Libertas Venditur Auro" – "Freedom is not to be sold for all the treasures in the world." เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความจงรักภักดี จึงกำหนดให้มีการผลัดเปลี่ยนกองกำลังรักษาป้อม ทุก 30 วัน และเพื่อให้แน่ยิ่งขึ้นจึงจัดเสบียงให้มีเพียงพอสำหรับ 30 วันเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 898 เมื่อ 27 ม.ค. 14, 09:55
|
|
ตำนานของแรกูซาเล่าว่าในศตวรรษที่ 11 พวกเวนิสได้พยายามสร้างป้อมขึ้นตรงตำแหน่งนี้ ที่จะทำให้สามารถสยบดูบรอฟนิคได้แต่ไม่สำเร็จ ชาวเมืองชิงสร้างป้อมนี้สำเร็จได้ในเวลาเพียงสามเดือน เมื่อเรือจากเวนิสที่บรรทุกวัสดุก่อสร้างล่องมาถึงจึงต้องเก้อกลับไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 899 เมื่อ 27 ม.ค. 14, 10:00
|
|
แต่จากหลักฐานที่น่าเชื่อถือบ่งชี้ว่าป้อมนี้ได้ถูกก่อสร้างมีรูปร่างเช่นนี้ในศตวรรษที่ 14 จากนั้นก็ได้รับการสร้างเสริมใหม่ในศตวรรษต่อๆ มา โดยเป็นสองครั้งใหญ่ในศตวรรษที่ 15, 16 พร้อมกับป้อมอื่นๆ และในศตวรรษที่ 17 หลังได้รับความเสัยหายจากแผ่นดินไหว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|