แต่ถ้าทั้งสองเถียงกันไม่ยอมแพ้กันทั้งสองฝ่าย ตกลงกันยังไงก็ไม่เอา จะต้องเอาอีกฝ่ายเข้าคุกให้ได้ อนุญาโตตุลาการไม่มีหน้าที่จะมาชี้ขาดว่าจะต้องเอาฝ่ายไหนเข้าคุก หรือฝ่ายไหนไม่ผิด ถูกปล่อยไป เรื่องก็ต้องถูกส่งเข้ากระบวนการยุติธรรม คือไปที่ศาล
คดีความที่ไปสู้ศาลอนุญาโตตุลาการ ต้องเป็นคดีแพ่งเท่านั้นนะครับ ส่วนคดีอาญา อนุญาโตตุลาการไม่มีอำนาจพิจาณาความ ส่วนอนุญาโตตุลาการที่ไม่ได้อยู่ในองค์คณะที่พิจารณาคดี อาจจะทำหน้าที่แค่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย หรือบางครั้งเรียกว่า “ผู้ประนีประนอม”
เช่นเดียวกับผู้พิพากษาในศาลต่างๆ ซึ่งมิใช่ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน รวมทั้งบุคคลหรือคณะบุคคลที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการไกล่เกลี่ยและแต่งตั้งให้เป็นผู้ประนีประนอมประจำศาล มีหน้าที่ในการช่วยให้คู่ความทั้งสองฝ่ายตกลงยอมความกัน เพื่อลดคดีรกตีนโรงตีนศาล แต่ไม่มีหน้าที่ตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทหรือคดีระหว่างความแต่อย่างใด
ในกรณีย์ของคดีในศาลอนุญาโตตุลาการ ถ้าไม่สามารถจบในขั้นประนีประนอมได้ ก็ต้องเข้าสูกกระบวนการพิจารณาจริง ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องเลือกผู้ทรงคุณวุฒิในทะเบียนอนุญาโตตุลาการ ฝ่ายละ ๑ คน และทั้งสองจะต้องเลือกคนที่สาม ให้เป็นประธาน
การพิจารณาคดีนี้จะคล้ายศาลแพ่ง สุดท้ายองค์คณะอนุญาโตตุลาการจะวินิจฉัยความผิด และจำนวนเงินที่มีการเรียกร้อง