^
^
ที่เป็นอย่างนี้เพราะคลองต่างๆที่ตัดเชื่อมคลองแสนแสบไปออกคลองประเวศ และตรงไปออกทะเลแถบสมุทรปราการ เช่นคลองชวดลากข้าว คลองพระองค์เจ้าไชยนุชิต ฯลฯ ที่เคยระบายน้ำฝน ก็น้ำตื้นเขินเพราะมิได้ทำนุบำรุง ผักตบชวาอยู่เต็ม นอกจากนั้นแล้วถนนบางนาตราด ถนนบางปูคลองด่าน ล้วนเป็นกำแพงกันน้ำ คือตอนสร้างถนนเหล่านี้เขาต้องการกันน้ำเค็มไม่ให้เอ่อขึ้นมาทำลายนาข้าว แต่ในทำนองกลับกัน มันก็ป้องกันน้ำหลากไม่ให้ลงทะเลด้วย
หลังน้ำลด พระเจ้าอยู่หัวทรงเรียกผู้รับผิดชอบทั้งหมดทุกกรมกองไปถวายงานที่พระตำหนักอยู่นานนับปี หนึ่งในหลายๆโครงการที่ออกมาแก้ไขปัญหาสำหรับอนาคต มีการขุดลอกคลองและสร้างประตูน้ำในคลองชื่อต่างๆที่ผมกล่าวมา รู้สึกว่าแก้มลิงก็ทรงแนะนำให้ทำในช่วงนั้นด้วย น้ำท่วมใหญ่อีกครั้งในปี๒๕๓๘ หัวหมากน้ำท่วมไม่มากและไม่นานก็ลด ปีนั้นพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งให้ทหารเรือนำเรือยกพลขึ้นบกไปจอดเรียงเป็นตับในคลองที่ผมเอ่ยชื่อไปแล้วเพื่อใช้ใบพัดดันน้ำลงทะเลช่วงน้ำลง
ทำมั้ย ข้าราชการรุ่นนั้นที่อยู่มาถึงสมัยนี้จึงลืมเสียแล้ว ปล่อยให้คลองอยู่ในสภาพเดิมๆ นี่มาสั่งผู้ว่าสมุทรปราการให้ไปขุดลอกคลองเหล่านั้นให้เสร็จภายใน๑๐วัน มันจะเล่นแบบเผาเครื่องมากไปหน่อย
มีเพิ่มอีกข่าวนึงครับ
ผู้ว่าปากน้ำ ตรวจความคืบหน้าขุดคลอง 3 สาย รับมือน้ำท่วมตามบัญชานายกรัฐมนตรี มั่นใจเสร็จทันกำหนด ก่อนที่ กทม. จะผันน้ำลงมา...เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 ตุลาคม 2554 นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายวรณัฏฐ์ หนูรอด นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย นางอนุสรา ยังตรง นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) พรรคเพื่อไทยจังหวัดสมุทรปราการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ องค์การบริหารส่วนตำบลศรีษะจระเข้ใหญ่ ชลประทานจังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจการขุดคลองระบายน้ำ 3 สายหลักเพื่อเป็นท่อระบายน้ำขนาดใหญ่รองรับน้ำที่เตรียมผันน้ำมาจากทางเหนือและกรุงเทพมหานคร ลงสู่ทะเลโดยเร็ว บริเวณคลองจระเข้ใหญ่ อ.บางบ่อ คลองบางเสาธงและคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังประชุมร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการบริหารจัดการอุทกภัยและความคืบหน้าในการขุดคลองสายหลักทั้ง 3 คลองโดยนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงกลัวประชาชน จะได้รับผลกระทบจึงสั่งการให้เร่งขุดคลองให้เรียบร้อยภายใน 3 วันหลังจากนี้ ซึ่งจากตรวจสอบและรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ พบว่ามีความคืบหน้าไปมากทั้ง 3 คลองประมาณกว่าร้อยละ 50 แล้ว
และวันนี้ ตนก็ได้สั่งให้นำเครื่องจักรกลหนักมาลงเพิ่ม เพื่อขุดให้ทันตามกำหนด ก่อนที่จะมีการระบายน้ำจากทางเหนือและกรุงเทพฯ ลงมาสู่ทะเลในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม หลักจากการลงเรือตรวจระดับน้ำในลำคลองเสาธง พบว่าระดับได้สูงเกือบถึงคันกั้นน้ำ และในบางแห่ง น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำบางครัวเรือนแล้ว ซึ่งจากการพูดคุยกับชาวบ้าน พบว่าการเอ่อล้นของน้ำเป็นไปตามปกติของฤดูน้ำหลากแต่ในปีนี้น้ำขึ้นเร็วกว่าปกติ บางบ้านก็ได้เตรียมเก็บของเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้บนชั้น 2 แล้ว ส่วนผักตบชวาต่างๆที่ลอยอยู่ตามลำคลองเป็นสิ่งขวางทางน้ำไหลนั้น ทางอำเภอทั้ง 2 แห่งได้เตรียมเรือตัดผักตบชวา และเรือเก็บผักตบชวา ล่องไปตามลำน้ำเพื่อทยอยเก็บขึ้นให้หมดแล้ว คาดว่าเมื่อมีการระบายน้ำลงมาในทุ่งฝั่งตะวันออก ก็จะทำให้การไหลของน้ำเร็วขึ้นและสามารถไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้นด้วย
จากนั้นเวลา 11.30 น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วย นายชลิต ได้เดินทางไปยังฝายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 4 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลหารพิจิตร ของกรมชลประทาน ซึ่งเป็นโครงการระบายน้ำของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หารือกับนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผวจ.สมุทรปราการ และพล.อ.อดุลย์ รักษ์เผ่า ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย เพื่อสั่งการและติดตามสถานการณ์การระบายน้ำฝั่งตะวันออกของกทม. โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า
ขอให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินการขุดลอกคูคลองใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นคลองที่ใหญ่และมีความสำคัญอยู่จำนวน 5 คลอง ดังนั้นควรขุดลอกคลองขนาดใหญ่ให้สำเร็จภายใน 7 วัน และคลองที่เหลือให้สำเร็จภายใน10 วัน และถ้าทางจังหวัดต้องการความช่วยเหลือ จากทางภาครัฐหรือเอกชน สามารถร้องขอไปทางตนได้ทันที ซึ่งตนก็พร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน