จากนสพ.มติชน (ตัดทอนบางส่วน)
ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแน่ รศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล เปิดฉากทัศน์ ‘ถ้าศรีสุดาจันทร์ไม่ใช่ผู้แพ้’วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.matichon.co.th/prachachuen/news_4890256 “ผู้ที่บอกว่า แม่หยัว มาจากคำว่า แม่อยู่หัว คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ แต่เดิม
มีพ่อเมือง ส่วนนางเมือง คือ ชายาเจ้าเมือง เพราะฉะนั้น เมื่อพ่ออยู่หัว คือพระเจ้าอยู่หัว แม่อยู่หัว ก็คือ พระเทวี อัครมเหสี”
มุมมองของนักประวัติศาสตร์ ที่ย้ำว่า “พระราชพงศาวดาร คือวรรณคดียอพระเกียรติ ประวัติศาสตร์ คือวรรณกรรมที่แต่งโดยผู้ชนะ”
ในละคร แม่หยัว ออกนาม ‘อโยธยา’ โดยสื่อความถึงอยุธยา ตามประวัติศาสตร์คือยังมีการตกค้างมาของชื่อนี้ในความทรงจำ?
คือจริงๆ แล้ว ชื่ออโยธยาในกรุงมันเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว แต่เอกสารที่อยู่นอกกรุง เช่นพวกจารึกที่พบในเขตนครสวรรค์ขึ้นไป
ยังคุ้นชินกับการเรียกชื่อเก่า คือ อโยธยา หรือแม้กระทั่งตำนานที่แต่งขึ้นในแถบลำน้ำปิง ก็ยังเรียกอโยธยาอยู่ หรือในตำนานอุรังคธาตุ
เรียกอโยธยา แต่ชื่อในกรุง เรียกอยุธยาแล้ว อย่างไรก็ตาม นักวิชาการกลุ่มกระแสหลัก ยังเชื่อว่า คำว่าอโยธยา ถูกใช้มาจนถึงช่วง
เสียกรุงครั้งที่ 1 เพราะฉะนั้น เมื่อแม่หยัวในซีรีส์ ออกนาม อโยธยา ก็ถือว่าไม่ผิด
ตัวเมืองอโยธยาเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อย่างน้อยปรากฏในพระไอยการลักษณะเบ็ดเสร็จ ราวปี 1776 ซึ่งระบุถึงพระราชาที่ทรงนามว่า
รามาธิบดีแล้ว แม้ว่าหลักฐานในพระราชพงศาวดารเองไม่พูดถึงอโยธยา แต่มีหลักฐานในพระอัยการทั้งหลายที่พูดถึงการบริหารบ้านเมือง
ก่อน พ.ศ.1893 ซึ่งเป็นปีที่ถูกระบุว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สถาปนากรุงศรีอยุธยา
สำหรับผู้ที่ชี้ว่าอโยธยาเป็นเมืองก่อนการสถาปนาอยุธยา และสมเด็จพระรามาธิบดีเสด็จมาจากที่นั่น คือรัชกาลที่ 5 และ
พระยาโบราณราชธานินทร์ แต่หลังจากที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเชื่อเรื่องสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 มาจากเมืองอู่ทอง
การศึกษาเรื่องราวของอโยธยาก็เงียบหายไปเกือบ 30 ปี จนกระทั่งธนิต อยู่โพธิ์ อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้นฟื้นเรื่องอโยธยาขึ้น
แล้วตามมาด้วยงานของอาจารย์มานิต วัลลิโภดม และจิตร ภูมิศักดิ์ ที่เป็นตัวปลุกว่าเมืองอโยธยาอยู่ฝั่งตะวันออกของลำน้ำป่าสัก
คือบริเวณสถานีรถไฟอยุธยาในปัจจุบัน
สำหรับ อโยธยา กับ อยุธยาคือ สำนวนกวี ความหมายสื่อถึงเมืองของพระราม ผู้ครองเมืองจึงมีพระนามว่าสมเด็จพระรามาธิบดี
ชื่ออโยธยาที่หายไป เดิมศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ตีความว่าอโยธยาเป็นชื่อที่หลังจากเสียกรุงครั้งที่ 1 ไปแล้ว
กลายเป็นชื่อไม่มงคล เพราะฉะนั้นพอสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช จากเมืองพระพิษณุโลกมาครองอยุธยา เลยเปลี่ยนชื่อจากอโยธยา
เป็นอยุธยา แต่ประเด็นนี้มีข้อสงสัยว่าจริงๆ แล้ว เปลี่ยนเมื่อครั้งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ย้ายศูนย์กลางจากฝั่งตะวันออก
ของลำน้ำป่าสักมาตั้งวังใหม่บริเวณหนองโสนหรือเปล่า เพราะในอัยการกฎหมายโบราณเรียกอยุธยาหมดเลย ที่สำคัญคือ ถ้าเปลี่ยนใน
รัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชจริง สำเนียงที่เรียกกรุงศรีอยุธยาที่ปรากฏในหมิงสือลู่ในเอกสารก่อนหน้าเสียกรุงครั้งที่ 1 และ
เอกสารจีนหลังเสียกรุง การออกชื่ออยุธยาต้องเปลี่ยนไปด้วย แต่ปรากฏว่าไม่เปลี่ยน
เพราะฉะนั้น ส่วนตัวจึงเชื่อว่าอโยธยาเปลี่ยนตอนย้ายศูนย์กลางมาที่หนองโสน ดังนั้น อโยธยาจบไปตั้งแต่ตอนที่เกิดโรคระบาดแล้ว
ย้ายเมือง
แม่หยัวที่วัดแร้ง