เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 61838 Yesterday Once More...
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 135  เมื่อ 16 ก.ย. 24, 17:52

นี่คือควันหลงที่ว่าไว้วันโน้นนน...

เพลงนี้ของ Art Garfunkel แต่งโดย Albert Hammond (แต่งร่วม)



AH เป็นทั้งนักร้องและนักแต่งเพลง  ชื่อนี้นักฟังเพลงฯ ชาวไทยทำท่า งง ๆ (ตามเคย)  ต้องฟังเพลงนี้  แล้วจะอ๋อ



เธอเริ่มต้นได้สวยมาก  แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถรักษาความสวยไว้ได้นาน  เธอจึงเข้าข่ายนักร้อง one hit wonder   อย่างไรก็ตาม บ้านเรายังเปิดเพลงของเธออีกประปรายเช่น

(ผมว่าเพลงนี้ฟังแรก ๆ รู้สึกหนักหู  แต่ฟังไป ๆ  เพราะจัง)


เพลงนี้เปิดบ่อยกว่าคำว่า ประปราย



และเพลงนี้ที่ผมว่าเพราะกว่าฉบับของ AG





อย่างไรก็ตาม  แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทางการร้องเพลง  ฝีมือการแต่งเพลงของเธอไม่เป็นรองใคร  มีลูกค้านำเพลงที่เธอแต่งและร่วมแต่งไปร้อง  บางเพลงก็ดังสุด ๆ

มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 136  เมื่อ 17 ก.ย. 24, 18:28

ลูกค้าที่ซื้อเพลงที่แต่งและร่วมแต่งโดย Albert Hammond  เอาไปร้องแล้วโด่งดังมีหลายคน  แต่ที่โด่งดังในยุคของผมที่จะเอ่ยถึงคือ Leo Sayer  แหม... ไม่อยากเหน็บเลย ว่านักฟังเพลงฯ บ้านเราคงสั่นหัวกับชื่อนี้เช่นเคย  มาฟังเพลงนี้และจะเปลี่ยนจากสั่นหัวเป็นพยักหน้า

นี่เป็นเพลงดังที่สุดจากการ (ร่วม) แต่งของ AH  บ้านเราเปิดบ่อยน้อยกว่าเปิดเพลงชาตินิดหน่อย  ผมละเลี่ยนไปเลยยยย... จนบัดนี้


LS เป็นอีกนักร้องที่โด่งดังในยุคผมคือ 70s  บ้านเราเปิดเพลงของเธอมาก่อนหน้าเพลงที่เอ่ยไป

(ผมจำ ‘ลุ้ค’ ของเธอได้แม่น (จากภาพนิ่งตามหนังสือ Starpics และหนังสือเพลง 3 หัว) หัวฟู  บางครั้งก็แอ็คท่าเหมือนตัวตลก)



(ก่อนหน้าเพลง Whenฯ เพลงนี้ดังในบ้านเรามาก)



(หลังจากเพลง Whenฯ ก็เพลงนี้แหละ  ดังประมาณกัน  ‘โหว... โว... เย... เย...’ กลับมาดังอีกครั้ง  จากต้นฉบับของ Bobby Vee ที่เคยครองใจรุ่นน้า ๆ อา ๆ ในยุค 60s)


ช่วงระหว่างเพลงเหล่านั้นก็เพลงเหล่านี้  ใครจำไม่ได้  ไม่ว่ากัน



(อีกเพลงที่ AH ร่วมแต่ง)


มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 137  เมื่อ 18 ก.ย. 24, 18:55

แทรกรายการด้วยข่าวสูญเสีย

สำหรับนักฟังเพลงฝรั่งประเภทขึ้นหม้อ  ชื่อ J.D. Souther (1945 – 17 Sept. 2024) ไม่ใช่ชื่อแปลกหู  ผมว่า  แค่เป็นคนชอบฟังเพลงฝรั่งก็น่าจะคุ้นหูเพลงของเธอ  ชื่อเธอโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำบ้านเราในปลายยุค 70s  กับเพลงนี้



เป็นเพลงที่มีจังหวะโดดเด่นมาก  วิทยุเปิดกันตะบี้ตะบัน  เสียดายที่เธอไม่สามารถทำเพลงที่เตะหูแบบนี้ได้อีก  เธอจึงอยู่ในข่าย one hit wonder  เพราะมีเพลงนี้เพลงเดียวที่ดังเข้า top 10

ผมซื้อ album ที่บรรจุเพลงนี้ของเธอซึ่งหาได้ง่ายมาก  เพราะเพลงดังนำร่องมาก่อน  เพลงที่ถูกหูมีตั้งครึ่งหนึ่ง  นับว่าคุ้มเงิน  เคยอ่านมาว่าการซื้อ album เพลงสักแผ่นถ้าฟังแล้วถูกใจแค่ 3-4 เพลง (จากมาตรฐาน 10 เพลง) ก็นับว่าคุ้มเงินแล้ว

นี่คือ single ที่ 2 ที่ไม่ดังเอามาก ๆ เพราะไม่เข้าแม้แต่ top 100 ฟังแล้วก็เพราะดี



ต่อยอดด้วย...







ก่อนยุค อตน. ผมแค่รู้มานิดหน่อยจากการอ่านว่า JDS เป็นหนึ่งในแก่นของกลุ่มศิลปินที่เรียกว่า West Coast  อันหมายถึงกลุ่มศิลปินที่มีฐานอยู่ฝั่งตะวันตกของอเมริกาคือรัฐ California (East Coast คือ New York) ในยุค 70s กลุ่มนี้มีความสัมพันธ์เหนียวแน่นมาก  เมื่อใครเข้าห้องอัดเพื่อทำ album  จะต้องมีสมาชิกกลุ่มยื่นมือเข้ามาร่วมในสาขาต่าง ๆ เช่นร่วมเล่นดนตรี หรือ ร้อง backup ฯลฯ  สมาชิกกลุ่มนอกจาก JDS แล้วก็มีเช่น Linda Ronstadt (รอคิว), James Taylor (รอคิว), The Eagles (นำเสนอไปบ้างแล้ว), Rita Coolidge (นำเสนอไปแล้ว), Nicolette Larson (นำเสนอไปแล้ว), Jackson Browne (รอคิว) ฯลฯ  นั่นเป็นตัวอย่างของรายชื่อนักร้อง  แล้วยังมีนักดนตรีอีกมากมาย

ยุค 70s เป็นยุคที่ผีเพลงฝรั่งเข้าสิงผมอย่างอยู่หมัด  ผมชอบแนวเพลงของกลุ่ม west coast มาก  ซื้อ album เพลงของพวกเขา  นักร้องคนโปรดคือ LR  พอรู้ข่าวว่าเธอออกแผ่นทีไร  ผมต้องเตรียมเก็บเงินไว้ซื้อ album ของเธอ  แต่ละ album จะแจงรายชื่อศิลปินสาขาต่าง ๆ ที่มาช่วยผลิตแผ่น  ล้วนเป็นศิลปินชุดเดียวกันทุกครั้ง  มากบ้าง  น้อยมาก  ไล่อ่านแล้วสนุกดี  ตื่นเต้นอย่างกับเป็นเรื่องของตัวเอง  เอ้า... คนนี้ก็มา  อุ๊ย... คนนั้นก็มา  เลยทำให้จำชื่อแต่ละคนได้แม่นยำ  อย่างเพลง You’reฯ ของ JDS นี้  ศิลปินที่มาช่วยดัง ๆ ทั้งนั้น สมาชิกวง The Eagles, Jackson Browne, Waddy Wachtel, Rick Marotta, Mike Botts, Kenny Edwards และอื่น ๆ อีกมากมาย


ข่าวแทรกยังมีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 138  เมื่อ 19 ก.ย. 24, 18:53

ตอนที่เพลง You’re only lonely ของ J.D. Souther ดัง  ผมคิดว่า เธอเพิ่งออกแผ่นร้องเพลงของตัวเอง  คือชื่อเธอที่เห็นในรายชื่อศิลปินที่มาช่วยผลิต album ของคนโน้นคนนี้มาก่อน  มีแต่เล่นดนตรี หรือ ร้อง backup หรือ แต่งเพลงให้  เรื่องแต่งเพลงนี่เป็นความถนัดที่ใคร ๆ ในวงการเพลงให้ความยกย่อง  ถึงขนาดได้รับเลือกเข้า Songwriters Hall of Fame (คนไทยแปลว่า หอเกียรติยศ) เลยนึกว่าเธอถนัดแต่งานพวกนี้  มารู้ตอน อตน. ว่าเธออยู่ในวงการเพลงมาตั้งแต่ปลาย 60s โน่น และร้องเพลงมาตั้งแต่ต้น 70s  เพิ่งมาแจ้งเกิดกับเพลงที่ว่าในปลาย 70s  จากเพลงดังนี้  ผมนึกว่าเธอจะสามารถต่อยอดกับ album ต่อมาได้  แต่ปรากฏว่าทำไม่สำเร็จ  

ผมคอย album แผ่นต่อมา  ซึ่งใช้เวลาคอยอยู่ 2-3 ปี  นับว่าผิดปกติเพราะปกติแล้วศิลปินจะออกแผ่นปีละครั้ง อย่างไรก็ตาม  พอได้ album ใหม่มาฟังปรากฏว่าถูกหูน้อยมาก  มีแค่ 2 เพลงนี้  เพลงแรกเป็น single ที่ไม่ผ่าน top 100 ด้วยซ้ำ  มันก็ไม่ได้ขี้ริ้วอะไรเลยนะผมว่า



ส่วนเพลงนี้ละมัน   เป็นร่องแรกของแผ่นเลย



ข้อมูลจาก Wikiฯ ทำให้ผมรู้ว่าเธอเคยคั่วกับ Linda Ronstadt อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง  มิน่า albums ของเธอที่ออกในช่วงเวลานั้นจะต้องมีสักเพลงที่แต่งโดย JDS เป็นขาประจำในทุกแผ่น

2 คนนี้เคยออก single ร้องคู่ในปี 1982  เพลงอยู่ในแผ่นของ LR  มันไปเข้าอันดับของตารางเพลง country ความที่ซื้อแผ่นเสียง  ผมเลยไม่รู้ว่าวิทยุเปิดเพลงนี้บ้างรึเปล่า



ส่วนนี่เป็นเพลงสุดท้ายที่ได้ยินทางวิทยุ  กระหึ่มไม่น้อย

(หนุ่มผมฟู ๆ ในเสื้อกล้ามคือ Waddy Wachtel,  กลองคือ Rick Marotta,  keyboards คือ Don Grolnick นี่คือ นักดนตรีกลุ่ม west coast แท้ ๆ  มือกลองชั้นเซียนชาว west coast ยังมีอีก 3 คือ Steve Gadd กับ Russ Kunkel แล้วก็ Mike Botts เธอเคยอยู่วง Bread (ทำไมรู้มากอย่างนี้... โถ... ถ้าใครเล่นแผ่นศิลปิน west coast ละก็  ชื่อพวกนี้ (และอีกมากมาย) เข้าไปอยู่ในสมองได้เองแหละ  แล้วทำไมถึงจำหน้าได้  ก็บางแผ่นก็มีรูปพวกเขา  มองบ่อย ๆ ก็จำได้ไปเอง  จำง่ายกว่าจำตำราเรียน) ส่วนเสื้อแดงนึกไม่ออก)


นี่คือเพลงในยุคแรก ๆ ของ JDS  ต้น 70s  มีกลิ่นอายแนว country





พรุ่งนี้เป็นควันหลงจากข่าวแทรก...

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 139  เมื่อ 20 ก.ย. 24, 19:01

ควันหลงจากข่าวแทรก...

ใน MV ชุดนี้ที่ลงเมื่อวันก่อน (กรุณาชมใหม่) สังเกตที่นักร้อง backup ฝ่ายหญิง  ผมว่าน่าจะคือ Karla Bonoff  เพื่อความแน่ใจเลยลองค้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ J.D. Souther  พบว่าคู่นี้ร่วมงานกันบ่อยมานมนาน  ใน clip นี้เลยค่อนข้างแน่ใจ...



ในยุคบ้า Linda Ronstadt  จากการชอบอ่านรายละเอียดบนซองใส่แผ่นเสียง  ผมพบว่ายังมีอีกชื่อหนึ่งที่เขียนเพลงให้ LR ร้องเป็นประจำ  ทุกแผ่นเสียงของเธอจะต้องมีชื่อ Karla Bonoff เขียนเพลงให้อย่างน้อยก็เพลงหนึ่ง (หมายถึง LR เลือกเพลงที่เขียนโดย KB มาร้อง) อีกงานหนึ่งที่ KB ทำใน album ต่าง ๆ ของ LR คือร้อง backup

แล้ววันหนึ่งในปลายยุค 70s  วิทยุก็เปิดเพลงของเธอคือเพลงนี้  ที่รู้ว่าเป็นเสียงร้องของ KB เพราะดีเจแจ้งไว้



มันไม่ใช่เพลงดังเลย  ทำไมวิทยุถึงเปิดก็ไม่รู้  อย่างไรก็ตามผมก็ได้ความรู้ใหม่ว่า  ตอนนี้เธอออก album เดี่ยวในนามของตัวเองแล้ว  แล้วก็เคยเห็นแผ่นเสียงวางขายในบ้านเราด้วย  ในปีต่อมาเธอก็ออก album แผ่นที่ 2  พร้อม single นำร่อง

(Don Grolnick, Kenny Edwards, Russ Kunkel, Waddy Wachtel เล่นดนตรี  ร้อง backup)


คราวนี้เพลงเตะหูผม  ผมแล่นออกไปหาซื้อแผ่นเสียงของเธอ  เพลงใน album นี้เพราะเรียกได้ว่า 100%  เลย  credit ศิลปินที่มาช่วยงานของเธอ  อ่านแล้วขนลุก กลุ่ม west coast ยกโขยงกันมาเลย

(Andrew Gold, Kenny Edwards, Rick Marotta เล่นดนตรี  และร้อง backup)



(Andrew Gold, Waddy Wachtel เล่นดนตรี)



(Andrew Gold, Kenny Edwards, Rick Marotta เล่นดนตรี  ร้อง backup โดย J.D. Souther และ Don Henley แก่นของคณะ Eagles)



(J.D. Souther กับ James Taylor และ Kenny Edwards ร้อง backup และเล่น guitar)


แต่เป็นที่น่าเสียดาย  หูส่วนใหญ่ไม่ชอบ  album ของเธอเลยไปได้ไม่ไกล  แม้ศิลปินที่มาร่วมงานจะระดับพระกาฬทั้งนั้น

ว่าจะลงทีเดียวจบ  ดูแล้วยาวไป  เกรงจะไปยัดเยียด  ภาค 2 เป็นพรุ่งนี้ละกัน


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 140  เมื่อ 21 ก.ย. 24, 17:37

ควันหลงภาค 2 ...

อีก 2 ปีต่อมา  Karla Bonoff ก็กลับมาใหม่พร้อมเพลงนี้  ที่แทบทุกหูรวมถึงหูจากเมืองไทย ต่าง ‘กระดิก’ กับความเพราะของมัน

(มือ guitar เสื้อขาวคือ Kenny Edwards  อีกคนที่มีหนวดเคราร้องคู่กับ KB ดูเหมือน JDS แต่ไม่ใช่... นึกออกแล้ว Andrew Gold นั่นเอง  ส่วนมือกลองคือ Mike Botts เธอเป็นสมาชิกวง Bread  ถ้าจะเขียนถึงวงนี้ตรงนี้  ของเดิมไม่จบแน่  เก็บไว้ก่อน)

KB ดังสมใจ  แม้จะดังแค่เพลงเดียว  single ที่ 2 นี่ผมว่าเพราะถูกใจ  แต่คนอื่นเห็นต่าง  มันเป็นเพลงสุดท้ายที่วิทยุบ้านเราให้ความสนใจในเพลงของเธอ



ปิดท้ายด้วยการแสดงสดเพลง The Water is Wide

(อีกคนคือ Kenny Edwards นักดนตรีชาว west coast  เธอตายไปแล้ว  มีอีกหลายคนที่อยู่ไม่ถึงวันนี้  Waddy Wachtel, Andrew Gold, Mike Botts ... เท่าที่นึกออก)


ควันหลงของควันหลง...

ชื่อ Andrew Gold เข้ามาผ่านหูนักฟังเพลงฯ บ้านเราในปลายยุค 70s  เพลงแรกนี้ดังไม่เบาละ  ส่วนเพลงที่ 2 แค่ติดกระแสความดังจากเพลงแรก  เธอจึงเป็นศิลปิน one hit wonder เหมือนกับเพื่อน ๆ J.D. Souther และ Karla Bonoff



(ในแผ่นเสียงของเธอก็อุดมไปด้วยเพื่อนฝูง west coast  แต่เห็นใน MV ไม่ใช่)


จบเกลี้ยงแล้วทั้งข่าวแทรกและควันหลงนานา
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 141  เมื่อ 22 ก.ย. 24, 18:17

คั่นรายการซะหน่อยน้า ...

Danny & the Juniors



The Dream Weavers



The Duprees



The Four Esquires



The Four Preps



The Elegants



The Fireflies



Gino & Gina



The Impalas

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 142  เมื่อ 23 ก.ย. 24, 18:17

Frank Sinatra ร้องเพลงลงแผ่นเสียงเยอะมาก  ออกมาตั้งแต่ก่อนรายการ golden oldies เกิดเสียอีก  แต่เท่าที่จำได้  ไม่เคยได้ยินเพลงของเธอทางรายการนี้เลย  มาได้ยินเอาในยุค late 60s กับเพลงนี้



และ 2 เพลงอันดับ 1 ที่ดังโลกแตก



(ร้องคู่กับลูกสาว Nancy Sinatra – รอคิว)


ยุค 70s กับเพลงนี้  ทั้งคู่เป็นเพลงเก่า  แต่ดีเจเพิ่งนำมาเปิด



(เพลงนี้ทำนองเพราะมากนะผมว่า  พริ้วเบาสบาย  ฟังทีไร  รู้สึกมีความสุข)


และปลาย 70s กับเพลงนี้



เสริมนิดนึงว่า  FS เป็นทั้งนักร้องและนักแสดง  เธอทำได้ดีทั้งคู่  ร้องเพลงได้แผ่นเสียงทองคำรวมถึงรางวัลต่าง ๆ ทางด้านดนตรี  ส่วนการแสดงของเธอก็สามารถคว้า Oscar มาได้จากหนังเรื่องนี้ในปี 1953  หนังดังมาก  นักแสดงนำและประกอบระดับแม่เหล็กของวงการการแสดง  ทุกคนได้ชิงรางวัลกันหมดแต่ได้มาแค่ 2 คนรวมถึง FS  ในตอนนั้นเธอยังไม่ยิ่งใหญ่  ความใหญ่เป็นรองนักแสดงนำทั้ง 3 คน (Burt Lancaster, Montgomery Clift, Deborah Kerr)



ตัวร้ายคือ Ernest Borgnine  ผมรู้จักเธอเป็นอย่างดีจากบทตลกในหนังทีวีเรื่อง ทหารเรือมาแล้ว  ดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ  พอมาดูเรื่อง FHTE นี้ในตอนเป็นผู้ใหญ่  เลยรับไม่ได้กับความเป็นนักเลงหัวไม้ของเธอ



ในปี 1956  FS เล่นหนังดังที่คราวนี้เป็นหนังเพลง  เลยได้โอกาสแสดงความสามารถทั้ง 2 ด้าน



นักแสดงอีกคนคือ Bing Crosby  คนนี้ก็ยิ่งใหญ่จนจุก  มีความสามารถทั้ง 2 ด้านและได้รางวัลแบบเดียวกับ FS (รวมถึง Oscar)  เธอร้องเพลงดังที่ทุกคนในโลกที่รักเสียงเพลงต้องรู้จัก  มันเป็นเพลงอมตะของโลกก็ว่าได้

The version sung by Bing Crosby is the world's best-selling single (in terms of sales of physical media), with estimated sales in excess of 50 million physical copies worldwide. When the figures for other versions of the song are added to Crosby's, sales of the song exceed 100 million.
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 143  เมื่อ 24 ก.ย. 24, 18:24

กลับมาสู่เรื่องหลัก...

นี่เป็นอีกเพลงจากฝีมือของ Albert Hammond  คราวนี้เธอแต่งทำนอง  มันเคยเป็นเพลงเก่าของเธอ  ในปี 1984  2 หนุ่ม 2 วัยเอามาร้องใหม่และดังคับโลกดนตรี (เพลงฝรั่ง)  ความดังแพร่มาถึงบ้านเราด้วย



หนุ่มแรกในวัยดึกคือ Willie Nelson เป็นนักร้องสาขา country ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของวงการ  ในปัจจุบันด้วยวัย 91 เธอยังไม่เกษียณจากวงการเพลงเลย 

เพลง country, soul, jazz จะมีอันดับเพลงเป็นของตัวเอง  เพราะต่างก็มีแนวเพลงต่างกัน  แต่ถ้าใครสามารถนำเพลงสาขาเหล่านี้ข้ามมาโด่งดังบนอันดับเพลง pop (เรียกว่า crossover) ได้ถือว่าเก่ง  วงการเพลงฝรั่งบ้านเราอิงกับอันดับเพลง pop   ต่อให้เป็นถึงเจ้าแม่เจ้าพ่อเพลงสาขาอื่น  เราก็ไม่มีทางได้ยิน  แต่ถ้าเพลงสาขาเหล่านี้ crossover ได้  เราก็ได้ฟัง

WN มีเพลง crossover อยู่จำนวนหนึ่ง  ที่ดีเจบ้านเราชอบเปิดเช่นเพลงนี้



แต่ที่ดังที่สุดขนาดได้แผ่นเสียงทองคำคือเพลงนี้  บ้านเราได้ยินบ่อยมาก



หนุ่มที่ 2 ในเพลง To allฯ คือ Julio Iglesias  เธอเป็นนักร้องชาวสเปน  และโด่งดังในบ้านของเธอ  ในปี 1984 เธอตัดสินใจข้ามมาสร้างชื่อเสียงในอเมริกาและทำได้สำเร็จกับ album เพลงภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่แผ่นแรกชื่อ 1100 Bel Air Place  เพลงที่เป็นภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ได้ Albert Hammond มาร่วมงาน  album นี้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ  มันขึ้นถึง top 10  ใน album นี้มี single ดัง 2 เพลง  เพลงแรกคือ To allฯ  เพลงที่ 2 คือ All of you เธอร้องคู่กับ Diana Ross  บ้านเราให้การต้องรับเพลงทั้งคู่อย่างอบอุ่น  ส่วนผมก็กระเป๋าแหกกับความดังของ album ไปตามปกติ



ต่อยอดด้วย





หมายเหตุ – JI เป็นพ่อของ Enrique I   พ่อหนุ่มหล่อคนนี้เคยเอาเพลงของตัวเองข้ามมาดังที่อเมริกาและขึ้นถึงอันดับ 1 ได้  มันเลยยุคผมไปแล้วแต่เพลงดังมากกกกก



จำได้ว่าปีนั้น (1999) เป็นปี ‘hot’ ของนักร้องเพลงลาติน  Ricky Martin อีกหนึ่งหนุ่มหล่อที่เคยมาเปิด concert ในบ้านเราตั้งแต่เธอยังไม่ดังในระดับสากล  ก็เคยนำเพลงของตัวเองขึ้นอันดับ 1 ได้เช่นกัน  ผมขี้เกียจค้นว่าใครมาก่อน  เอาเป็นว่าปีนั้น 2 เพลงนี้ครองคลื่นวิทยุ





บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 144  เมื่อ 25 ก.ย. 24, 18:11

ย้อนกลับขึ้นไป ๆ ๆ ที่วง Simon & Garfunkel… กับสมาชิกอีกคนหนึ่ง

ในฐานะศิลปินเดี่ยว Paul Simon สร้างชื่อเสียงได้ขจรไกลกว่าและยืนยาวกว่า Art Garfunkel (เท่าที่สังเกต  ผมว่า AG เล่นเครื่องดนตรีไม่เป็นนะ  ผมไม่เคยเห็นเธอจับเครื่องดนตรีอะไรสักชิ้น  อาจเล่นเป็นบ้างแต่ไม่เก่ง) จนบัดนี้ในวัย 80 กว่า เธอก็ยังสนุกกับงานที่ตัวเองถนัด  ไม่ยอมวางมือ  แต่ที่ผมจะพูดคุยถึงเพลงของเธอนั้น  หยุดตรงที่ผีเพลงสละจากร่างผมเท่านั้น

เท่าที่เช็คดู  งานของเธอพิถีพิถัน  เธอจึงไม่ออกผลงานบ่อยเหมือนศิลปินอื่น  ตั้งแต่ออกมาเป็นศิลปินเดี่ยวในปี 1970 จนถึงปี 1980  เธอออกผลงาน album มาแค่ 4 ชุด  แต่แต่ละชุดดังสนั่น  ดีเจบ้านเราคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่แล้ว  จึงให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอมา

นี่เป็นเพลงแรกที่ดีเจส่งออกมาให้ผมฟัง



ตอกย้ำความดังต่อด้วยเพลงเหล่านี้











ในช่วง 5 ปีแรก  Paul Simon ออกงานแค่ 3 album  single ที่เอามาลงให้ฟังนี้ล่องลอยออกมาจากลำโพงตลอดช่วงเวลานั้น  ผมเคยบอกแล้วว่าช่วงเวลาก่อน อตน.  โลกหมุนช้า  ทุกอย่างเมื่อเข้ามาแล้วจะอ้อยอิ่งอยู่นาน  แบบนี้แหละผมถึงจำอะไร ๆ ได้แม่น  ไม่ใช่ว่าความจำผมดีเลิศหรอก

มาปี 1977 PS ออกแผ่นรวมเพลงฮิต  พร้อมแนะนำ single นี้  ซึ่งดีเจก็เอามาปล่อยให้ฟัง (ไม่ชอบเลยอ้ะ)



เพลงต่อไปออกตลาดในปี 1980  เหล่าดีเจวิทยุตื่นเต้นกับความแหวกแนว 

(มีฉบับแสดงสดใน youtube  แต่ฉบับอัดใน studio มันกว่า)


นี่เป็นเพลงของเธอเพลงสุดท้ายที่ผมสนใจ

(คนตัวสูงคือนักแสดง Chevy Chase)


เพลงนี้เธอร้องคู่กับ Phoebe Snow



PS เป็นนักร้องที่เริ่มต้นได้ดังทีเดียว  แต่เธอไม่สามารถรักษามันไว้ได้นาน  เธอจึงเป็นนักร้องประเภท one hit wonder  เธอมีชีวิตที่น่าสงสารมาก  ใครที่ลืมเรื่องที่ผมเล่าไปแล้ว  ผมนำ link มาปล่อยให้อ่านใหม่  การตามหา album ดังของเธอเป็นหนึ่งในประสบการณ์สุด ๆ ของชีวิตที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ของผม

ความคิดเห็นที่ 278 และ 279
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=7342.msg185683;topicseen#msg185683


เอาละหมดไปแล้ว 1 ยำเละจานยักษ์จานแรก  ใช้เวลาไปกี่วันละหนอ  ใครจำได้บ้างว่า  หัวเชื้อของยำจานนี้อยู่ที่ไหน

คำตอบคือ Jimi Hendrix ไง  ผมเอาหัวเชื้อของ JH มาทำยำเละจานแรกจบไปแล้ว  ต่อไปก็จะเอาหัวเชื้อของ JH มาทำยำเละจานที่ 2  แต่พรุ่งนี้  คั่นรายการกันก่อนนะ

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 145  เมื่อ 26 ก.ย. 24, 18:27

Dino, Desi & Billy (Dino (ตายไปแล้ว) เป็นลูกของ Dean Martin ส่วน Desi เป็นลูกของ Desi Arnaz กับ Lucille Ball)



Fireballs



Gentrys



แล้วต้องต่อด้วยเพลงของวงนี้ The Hondells



Happenings



J. Frank Wilson & the Cavaliers



Joey Dee & the Starlighters – มารู้เมื่อมีข้อมูลว่าวิทยุเปิดแค่ครึ่งเดียว (part 1)


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 146  เมื่อ 27 ก.ย. 24, 18:53

Doris Day นี่จำได้ 3 เพลงที่เปิดในรายการ golden oldies







เอ่ยชื่อ DD ไปแล้ว  ทำให้นึกถึง Debbie Reynolds ในความรู้สึกส่วนตัว  ทั้ง 2 คนนี้มีส่วนคล้ายกันในด้านเป็นทั้งนักร้องและนักแสดง  เคยมีผลงานเพลงขึ้นถึงอันดับ 1 billboard ทั้งคู่  ผลงานทางการแสดงก็เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar มาแล้วทั้งคู่  ต่างกันนิดตรงที่ DD แก่กว่าและเข้าวงการมาก่อน

Georgia Gibbs นี่ก็มีเพลงเปิดในรายการ golden oldies หลายเพลง







และเพลงดังสนั่นในบ้านเรา  ถึงกับเอามาแปลงเป็นเพลงไทย


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 147  เมื่อ 28 ก.ย. 24, 18:32

ผมเอาหัวเชื้อของ Jimi Hendrix มาทำยำเละจานแรกจบไปแล้ว  ตานี้ก็เอาหัวเชื้อของ JH มาทำยำเละจานที่ 2 ต่อ  ความจริงเรื่องนี้เขียนไปแล้ว  แต่เอามาลงใหม่เพื่อจะได้มีจุดเริ่มต้นสำหรับไปต่อ

อีกหนึ่งตำนานที่โด่งดังด้วยผลของยาเสพติดคือ Jim Morrison หัวหน้าวง The Doors

วง TD นี้เป็นวงดังในช่วงหลังของยุค 60s   ความดังไม่ได้อยู่ที่ผลงานอย่างเดียว  แต่อยู่ที่ตัวบุคคลด้วย... They were among the most influential and controversial rock acts of the 1960s, partly due to Morrison's lyrics and voice, along with his erratic stage persona. The group is widely regarded as an important figure of the era's counterculture.

The Doors were the first American band to accumulate eight consecutive gold LPs. According to the RIAA, they have sold 34 million albums in the United States and over 100 million records worldwide, making them one of the best-selling bands of all time. The Doors have been listed as one of the greatest artists of all time by many music magazines including Rolling Stone.

แกนนำที่สำคัญของวงคือนักร้องนำ Jim Morrison  ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่มแน่นคือ 27 ขวบ (รู้ข่าวจาก นส. Starpics เช่นเคย  ข่าวการตายของเธอดังนะ) สาเหตุของการตายคือ หัวใจล้มเหลว  ข่าวบอกว่าไม่มีการชันสูตรศพ แต่ทั้งวงการฯ รู้ดีว่าตัวกระตุ้นคือยาเสพติด

นักวิจารณ์ยิ่งใหญ่ในวงการเพลงคนหนึ่งกล่าวถึงการตายของ JM ว่า ... Morrison's passing stamped the Doors with a seal of legend and immortality. There was no opportunity for the band to go into the seventies intact. Perhaps that's a good thing. I can't imagine the Doors in the era of disco.

วงที่มีสมาชิกครบสมบูณ์อยู่ในวงการเพียงไม่นาน  จึงมีผลงานออกมาไม่มาก  ที่บ้านเรา  ผมได้ยิน single ของวงอยู่ 2 เพลง  เพลงแรกนั้นเปิดบ่อยกว่ามาก





ผลงานของวงนี้ขึ้นอันดับ 1 จำนวน 2 เพลงคือ 2 เพลงที่นำเสนอ  แต่ได้แผ่นเสียงทองคำ 3 แผ่น  แผ่นฯ ที่ 3 ได้จากเพลงนี้ซึ่งผมไม่เคยได้ยินทางวิทยุ (แต่พี่ ๆ บอกว่าได้ยินเพียงแต่ไม่บ่อย)



นำเสนอ



เมื่อยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย



เหตุการณ์ที่อื้อฉาวที่สุดของวงนี้  ผมรู้ข่าว (แค่ข่าวจากตัวหนังสือ  แม้แต่ภาพขาวดำก็ยังไม่เคยเห็น เหมือนตอนได้ข่าว JH ‘ขย่ม’ ตู้แอมป์นั่นแหละ) จากหนังสือ SP ตั้งแต่ยังเด็ก  เพิ่งได้มาเห็น clip เมื่อ youtube ถือกำเนิด  คนสมัยนี้โชคดีจังไม่ต้องคอยอะไรนาน  ความจริง  ไม่ต้องคอยเลย 



During a concert on March 1, 1969, at the Dinner Key Auditorium in Miami, Morrison attempted to spark a riot in the audience, in part by screaming, "You wanna see my cock?" and other obscenities. Three days later, six warrants for his arrest were issued by the Dade County Public Safety Department for indecent exposure, among other accusations. Consequently, many of the Doors' scheduled concerts were canceled.

On September 20, 1970, Morrison was convicted of indecent exposure and profanity by a six-person jury in Miami after a sixteen-day trial. Morrison, who attended the October 30 sentencing "in a wool jacket adorned with Indian designs", silently listened as he was sentenced to six months in prison and had to pay a $500 fine. Morrison remained free on a $50,000 bond.

ในปี 1991 ชีวิตของ JM และวงของเขานำมาสร้างเป็นหนัง



พรุ่งนี้เริ่มยำละ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 148  เมื่อ 29 ก.ย. 24, 18:31

เพลง Light my fire นี้  ต้นฉบับเป็นของวง The Doors  ออกอากาศในปี 1967  ในปีต่อมา ก็มีคนนำเพลงนี้มาร้องใหม่  คือ Jose Feliciano  ทั้ง 2 ฉบับดังทั้งคู่  และดังนานในบ้านเราจนกระทั่งถึงยุคผม  ก็ยังได้ยินทั้ง 2 ฉบับ  จากประสบการณ์ของผม วิทยุเปิดฉบับของ Jose Feliciano มากกว่า  เพราะได้ยินบ่อยกว่า



ฉบับของ TD ไปได้ดีกว่าบนอันดับเพลง  คือขึ้นถึงอันดับ 1 และยอดขายแตะแผ่นเสียงทองคำ  ฉบับของ JF ก็ไปได้ดีบนอันดับเพลง  แต่ขึ้นได้ถึงอันดับ 3  แต่เพลงนี้ทำให้เธอได้รางวัล Grammy อันเปรียบเสมือนรางวัล Oscar ของวงการเพลง

JF เป็นนักร้องจากเปอร์โตริโก  ครอบครัวย้ายมาอเมริกาตอนอายุได้ 5 ขวบ  เธอตาบอดมาตั้งแต่กำเนิด  ผลงานเพลงส่วนใหญ่เป็นแนวละติน  มีที่ดังข้ามมาฝั่ง pop ก็เพลง LMF นี้  บ้านเราได้ฟังเสียงของเธอไม่กี่เพลง  เพลง LMF นี้ไม่ถือว่าเป็นเพลงดังในบ้านเรา  ในต้น 70s  หนัง ‘ขุมทองแมคเคนน่า’ (1969) เข้ามาฉายในโรงอินทรา

โรงหนังอินทราเปิดให้บริการเมื่อไหร่ผมขี้เกียจค้น  แต่จำได้แม่นว่ามันเป็นโรงหนังที่มีจอกว้างใหญ่กว่าโรงอื่น ๆ (เรียก cinemascope ใช่ปะ) แรก ๆ จะมีคณะนาฏศิลป์ชื่ออะไรหนอ อินทรดารา รึเปล่า  ออกมาโชว์ในรอบพิเศษอยู่ชั่วขณะ  ส่วนหนังที่เข้ามาฉายในช่วงแรก ๆ จะเป็นหนังสำหรับฉายทางจอกว้างเสียส่วนใหญ่ เช่น มนตร์รักเพลงสวรรค์, The Great Waltz, ขุมทองแมคเคนนา (ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อโรงหนังใหม่ที่คอสะพานหัวช้าง) ฯลฯ  จำได้ว่าถ้าเป็นหนังจอกว้าง ก่อนหนังฉายจะมีเสียงมอเตอร์ทำงานขณะลากจอให้ถ่างออกไปทางซ้ายและขวา  เสียงมอเตอร์นี่ติดหูมาจนเดี๋ยวนี้

ใครที่ได้ดูหนัง ขุมทองแมคเคนนา จะจำฉากเปิดเรื่องได้  วิวทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาล  ตามด้วยเสียงเพลงเปิดเรื่อง 



นั่นคือเสียงของ JF เพลงชื่อ Old turkey buzzard  นี่แหละเป็นเพลงของเธอที่ดังที่สุดในบ้านเรา  เปิดมันทุกวัน



ในช่วงเวลาเดียวกัน วิทยุเปิดอีกเพลงของเธอ  มันเป็นเพลงที่ไม่ดังบนอันดับเพลง  แต่ดังสนั่นในบ้านเราไม่แพ้เพลง Oldฯ  เพลง 2 เพลงดังติดต่อกันนานจนทำให้นักฟังเพลงฯ ในยุคนั้นจำชื่อ JF ได้ไม่ลืม



ในยุค youtube ผมบังเอิญหาเพลง Rain ในฉบับ rock ได้  เพราะไม่แพ้กัน



JF เคยแต่งเพลงสำหรับเทศกาล Christmas  ตอนออกขายมันไม่ติดบนอันดับเพลง  แต่ในกาลเวลาต่อมา  ผู้คนเริ่มนิยมมากขึ้นและมากขึ้น  จนในที่สุดมันกลายเป็นเพลง classic เพลงหนึ่งสำหรับเทศกาลฯ



นี่เป็นเพลงสุดท้ายของ JF ที่ผมได้ยินทางวิทยุ



ต่อยอดด้วย...





มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 149  เมื่อ 30 ก.ย. 24, 18:21

เอ่ยถึง Jose Feliciano ว่าตาบอดมาตั้งแต่กำเนิด  ทำให้หวนคิดไปว่าในยุคที่ผมบ้าเพลงมีนักร้องตาบอดดัง ๆ หลายคน  รู้สึกจะมีทุกสาขา   อ้อ... ไม่มีสาขา pop นะ  เอาที่ไกลตัวก่อน

สาขา Jazz มี Diane Schurr



สาขา Opera มี Andrea Bocelli



ใครสนใจ  ต่อยอดเอาเองครับ

สำหรับสาขา Country มี 2 คน  ผู้หญิงคน  ผู้ชายคน

ผู้หญิงชื่อ Terri Gibbs  เธอมีเพลงดังทั้งที่บ้านเราและที่บ้านเธอเพลงเดียว  อย่างที่เคยบอกว่า  สมัยก่อนโลกหมุนช้า  อะไรเข้ามาแล้วจะอ้อยอิ่งอยู่นาน  เพลงที่ว่าเป็นเพลง crossover  รู้สึกจะดังในบ้านเรานานกว่า  ที่เมืองนอกแค่เข้า top 10 ก็หมดแรงแล้ว  คนก็ไปนิยมเพลงดังหน้าใหม่กันต่อ  แต่บ้านเรายังคงเปิดเพลงนี้ต่อไป



จังหวะติดหูมาก  ผมถึงขนาดโกยสี่ตีนไปหาซื้อ album ของเธอ  มีอีก 2 เพลงในแผ่นที่เพราะมาก



อีกเพลงคือ Wishing Well



ผมเจอ clip นี้โดยบังเอิญ  ตลกมาก  เขาบรรยายไว้ว่า...

Chubby Checker missed his ride to the awards show and the Guild board of directors sent country music legend Terri Gibbs to pick him up. The Guild made one mistake.. Terri who was born without sight also did not have a valid driver’s license. This is a hilarious look at what took place. The Guild would also like to thank the Monroe Police Department for their help in the filming of this piece.



สำหรับ Chubby Checker เป็นนักร้องดังในยุคต้น 60s  นี่คือเพลงดังทั้งในบ้านเราและบ้านเขา





มีต่อ...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.094 วินาที กับ 19 คำสั่ง