เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
อ่าน: 18869 ภาษาอเมริกันวันละคำ Woke
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 08:50

ผลงานล่าสุดของ Woke ในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิคส์ ที่กลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก    แทบจะกลบความเด่นของกีฬาก็ว่าได้
เมื่อมีเสียงวิจารณ์กันหนาหูว่า ภาพนี้ล้อเลียนภาพศาสนาสำคัญ The Last Supper ของลัโอนาร์โด ดาวินชี


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 08:50

บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 219


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 01 ส.ค. 24, 20:37

ผมเองเห็นว่าพีธีนี้ประหลาดยิ่งนัก ไม่ทราบว่าผู้จัดคิดอะไรอยู่เหมือนกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 08:03

 เหตุผลที่คณะกรรมการโอลิมปิกอนุญาตให้ Imane Khelif (ออกเสียงไม่เหมือนกัน อิเมนบ้าง อิมานีบ้าง)  ชาวอัลจีเรีย ชกกับ Angela Carini ชาวอิตาเลียน ในฐานะมวยหญิงกับมวยหญิง  ข่าวมีหลากหลายหลายกระแส   พอจับใจความได้ว่า  Imene ไม่ได้อ้างเหตุผลว่าเป็นผู้หญิงข้ามเพศ แต่ในพาสปอร์ตระบุว่าเป็นหญิงโดยกำเนิด   ทางฝ่ายอัลจีเรียบอกว่า เขา(หรือนาง) เกิดมามีโครโมโซมผิดชายหญิงทั่วไป คือมีโครโมโซม XXY    และมีโครโมโซม 47 ตัว ซึ่งแตกต่างจากบุคคลทั่วไป ที่มีโครโมโซม 46 ตัว คือไม่เป็นหญิง (XX) ก็เป็นชาย (XY) 
แต่นางถูกเลี้ยงมาอย่างหญิง  และในพาสปอร์ตก็ใช้ว่าเพศหญิง
  เรื่องโครโมโซมนี่รู้เพียงเล็กน้อยค่ะ ต้องถามรายละเอียดจากคุณหมอเพ็ญชมพูหรือคุณหมอ SILA  หรือท่านอื่นๆที่แวะเข้ามาอ่าน  เท่าที่รู้ คือใครเกิดเป็นหญิงมีโครโมโซม xx  ใครเกิดเป็นชายมีโครโมโซม xy  ต่อให้สรีระภายนอกเช่นหน้าตารูปร่างเป็นเพศตรงข้ามขนาดไหนก็ตาม  โครโมโซมของเขาก็ยังบ่งบอกเพศตอนคลอดออกมาอยู่นั่นเอง ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามหน้าตา
  ส่วนโครโมโซม XXY รูแต่ว่าเป็นอาการ Klinefelter syndrome ของเด็กผู้ชายที่เกิดมามีโครโมโซม X เกินมา 1 ตัว แต่ก็ยังเป็นเด็กผู้ชายอยู่ดี
   ส่วนคุณ Imane นั้นข่าวยังสับสน  ว่าเป็นผู้หญิงข้ามเพศ หรือว่าเป็น Klinefelter syndrome กันแน่เพราะเขา(หรือนาง) ไม่ยอมให้กรรมการตรวจเพศสภาพ   แต่ถ้าบอกว่าถูกเลี้ยงมาอย่างเด็กผู้หญิงนี่ สงสัยมากๆว่าเลี้ยงยังไงกำยำล่ำสันขนาดนั้น  หน้าตาก็เข้มสุดๆ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8463


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 10:07

               ผ่านตาประเด็น gender verification ของนักกีฬา(ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว) ไม่ได้เจาะลึกต่อ ครับ
เท่าที่ทราบ หญิงข้ามเพศ(เดิมเป็นชาย) ให้แข่งในประเภทกีฬาหญิงได้ โดยให้ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย
(Testosterone) ว่ามีระดับลดลงมาแล้ว ไม่ได้สูงเกินเพศสภาพหญิงที่จะมีผลให้มีความได้เปรียบ
               เร็วๆ นี้ก็มีประเด็น นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเวียดนาม นาม(เรียก)ว่า ตู้เย็น (เรียกจากชื่อ Tuyen)
ที่รูปร่าง,ฝีมือเก่งเกินหญิง ถามคนที่ได้เห็นตัวเป็นๆ ก็เห็นว่าเป็นชาย ไม่ใช่หญิง แต่ว่าใบเกิดระบุเป็นเพศหญิง
และการจะเรียกร้องให้ตรวจเพศ เป็นประเด็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งยังอาจเป็นการล่วงละเมิดได้
               เห็นนานาชาติกดดันกัน ไม่ได้ตามว่าไปถึงไหนแล้ว

เหงียน ทิ บิค เตวียน นักตบหญิงเวียดนาม


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 10:16

ถามคุณหมอ
เด็กที่เกิดมา มีโครโมโซม XXY  ถือว่าเป็นชายหรือหญิงคะ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8463


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 11:20

          เรื่อง โครโมโซมผิดปกติ, อวัยวะเพศกำกวม ฯ คืนอ. ไปแทบหมดแล้ว ครับ
          กรณี XXY, เจ้า Y นี้ทำให้มีความปรากฏอวัยวะเป็นเพศชาย แต่จะมีขนาด "ย่อมเยาว์" กว่าชายปกติ
ระดับ Testosterone ก็จะต่ำกว่าชายปกติ แรกคลอดควรจะระบุจากอวัยวะได้ว่าเพศชาย
          ส่วน อวัยวะเพศกำกวม นี้ชวนมึนตามชื่อคือเป็นปัญหาเพราะดูเพศสภาพภายนอกกำกวมแยกยาก

          ในเคสนี้ อาจจะเป็น หญิงที่มีสรีระร่างออกแมน (อวัยวะเพศภายนอกเป็นหญิง แต่ภายในไม่มีรังไข่ มดลูก และ
แต่มีอัณฑะหลบในท้องหรือขาหนีบ) 
          เรียกว่า androgen insensitivity syndrome (เดิมเรียกว่า testicular feminization) คือ มี XY มีอัณฑะ
สร้างฮอร์โมนเพศชาย แต่อวัยวะเป้าหมายไม่ตอบสนอง
          ว่าว่าดาราต่างประเทศ, นักกีฬาหญิงเก่งๆ หลายคนที่ชนะการแข่งขันกีฬาหญิงด้วยกัน เป็นภาวะนี้             
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1417


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 13:21

คนที่เป็น  androgen insensitivity syndrome นี่ผมก็นึกไม่ออกว่าต้องแข่งแบบไหนถึงจะยุติธรรมเหมือนกัน

ไปแข่งกับชายแท้ ก็อ้อนแอ้นเกินกว่าจะสู้ได้
จะแข่งกับหญิงแท้ ก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะเป็นการต่อสู้อย่างยุติธรรม

ต่อไปกีฬาต่าง ๆ คงต้องจัดแบบหลายเพศไปหมด เพื่อความยุติธรรม เพื่อตอบกระแส woke
ชาย 
หญิง
ทรานชาย
ทรานหญิง
กระเทยแท้ชาย
กระเทยแท้หญิง
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 13:36

  เมื่อก่อนนี้  ความหลากหลายทางเพศยังเป็นประตูที่ปิดตายกันอยู่   นักกีฬาที่ไม่ใช่ชายจริงหญิงแท้มีโอกาสจะถูกจัดเข้าประเภทชาย/หญิง ได้ง่ายเพราะมีให้เลือก 2 เพศเท่านั้นเหมือนในบัตรประจำตัวประชาชน   แต่ตอนนี้ประตูเปิดออกมาหมดแล้ว    ก็คงต้องมาจัดระเบียบกันใหม่ค่ะ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8463


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 03 ส.ค. 24, 10:32

https://www.bbc.com/thai/articles/cv2g2r2lk98o

IBA และ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล มองต่างกันอย่างไร กรณีนักชกแอลจีเรีย

2 สิงหาคม 2024

             แองเจลา คารินี นักชกชาวอิตาเลียน ขอยอมแพ้ในการชกมวยโอลิมปิกกับ อิมาน เคลิฟ นักชกชาวแอลจีเรีย
             ส่วนเคลิฟ เป็นหนึ่งในนักกีฬาสองคน ที่ถูกตัดสิทธิจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2023 แต่ได้สิทธิในการเข้าแข่งขันในโอลิมปิกครั้งนี้
             คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Commitee - IOC) ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันมวยสากลในโอลิมปิกปีนี้ แต่ไม่ได้
เป็นผู้จัดการแข่งขันมวยชิงแชมป์โลก บอกว่า เคลิฟถูกตัดสิทธิการแข่งขันในอินเดีย เนื่องจากเธอมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่สูงเกินเกณฑ์
             ส่วน หลิน ยู่ติง จากไต้หวันซึ่งถูกริบเหรียญทองแดงจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกเมื่อปีก่อน เนื่องจากไม่ผ่านการตรวจเพศ จะขึ้นชกในวันศุกร์นี้

             คณะกรรมการโอลิมปิกสากลยืนยันว่า ทุกการแข่งขันชกมวยในปารีสโอลิมปิก "เป็นไปตามกฎการคัดเลือกและเข้าร่วมของการแข่งขัน"
             มาร์ก อดัมส์ โฆษกของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล กล่าวว่า "นักกีฬาเหล่านี้เคยแข่งขันมาแล้วหลายครั้งในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา
พวกเขาเคยแข่งขันในโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว"

             พุธที่ผ่านมา IBA ชี้แจงว่านักชกทั้งสองคนถูกตัดสิทธิจากการแข่งขันชิงแชมป์โลก "เพื่อรักษาระดับความยุติธรรม และความซื่อสัตย์
เที่ยงตรงของการแข่งขัน"
             พวกเขา "ไม่ได้ใช้การตรวจวัดระดับเทสโทสเตอโรน แต่ใช้การตรวจอีกแบบที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งเกณฑ์การตรวจดังกล่าวเป็นข้อมูลลับ"
             "การตรวจชี้ชัดว่า นักกีฬาทั้งสองคนไม่ผ่านเกณฑ์ที่จำเป็น และพบว่าทั้งสองมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขันหญิงคนอื่น ๆ"
             เมื่อบีบีซีถามต่อว่า การทดสอบของ IBA ถือได้ว่าเป็น "การทดสอบเพศ" หรือไม่ โรเบิร์ตส์บอกว่า "ในทางปฏิบัติ ก็ใช่"
            
             คณะกรรมการโอลิมปิกสากลวิจารณ์ IBA พร้อมระบุว่า คาลิฟและหลิน "เป็นเหยื่อของการตัดสินใจอย่างกะทันหันและตามอำเภอใจโดย IBA"
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8463


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 03 ส.ค. 24, 10:46

           ประเด็นเรื่องเพศ ประเภทของกีฬา น่าสนใจ เหมือนบีบีซี รู้ใจ นำมาเสนอ

           กีฬาแบบไหนที่ผู้หญิงครองแชมป์ เล่นได้ดีเหนือชายจนชนะขาดลอย

             ปี 1978 ดีนต้องฝึกหนักเพื่อเตรียมตัวลงแข่งว่ายน้ำระยะไกลข้ามช่องแคบอังกฤษ ซึ่งเธอมีเป้าหมายจะทำลายสถิติ
ในการแข่งขันที่มีทั้งนักว่ายน้ำชายและหญิงเข้าร่วมโดยไม่จำกัดเพศ
             ความสามารถในการทนทานต่อความเย็นระดับสุดขั้วของเพศหญิง ถือเป็นข้อได้เปรียบที่เธอมีเหนือเพศชายในการแข่งกีฬาประเภทนี้
การกระจายตัวของมวลไขมันในร่างกายผู้หญิง ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิในส่วนแกนกลางของร่างกายเอาไว้ได้ดีกว่า ดีนยังเชื่อว่าผู้หญิงสามารถทน
ต่อภาวะที่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวได้ดีกว่าชายด้วย
             ทีมวิจัยมหาวิทยาลัย UiT The Artic University of Norway และโรงเรียนกีฬาชั้นนำแห่งนอร์เวย์ (NTG) ค้นพบว่า
             ความแตกต่างระหว่างสมรรถภาพโดยเฉลี่ยของนักกีฬาชั้นนำระดับโลกทั้งเพศหญิงและเพศชาย ตกอยู่ในช่วงราว 8-12%
โดยนักกีฬาชายเจ้าของสถิติโลกมีแนวโน้มจะทำได้ดีกว่านักกีฬาหญิงชั้นนำระดับเดียวกัน

             ความแตกต่างระหว่างเพศที่ว่านี้จะลดลงอย่างมากในการแข่งว่ายน้ำอึดระยะไกล และจะลดต่ำลงไปอีกในกีฬาประเภทที่ต้องใช้ความแข็งแกร่ง
ของร่างกายส่วนบนมากเป็นพิเศษ


อ่านต่อที่  https://www.bbc.com/thai/articles/cj7d7zk8l4lo
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 10:48

ล่าสุด คุณตาโดนัลด์ ทรัมป์  มิได้ว่างเว้นที่จะเข้ามาออกความเห็นเรื่องที่กำลังดังสะท้านโลก



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 13:03

สงสัยว่าจะไม่ใช่ woke เสียแล้ว แต่เป็นนักมวยชายจริงชกหญิงแท้

จาก FB ของ Rhythm&Poetry  ·
István Kovács รองประธานยุโรปขององค์กรมวยโลก WBO และอดีตเลขาธิการสมาคมมวยสากลบอกกับสื่อฮังการีว่า Imane Khelif ไม่ใช่ผู้หญิง เธอมีเพศชายโดยกำเนิด และเขาได้เตือนคณะกรรมการโอลิมปิกไปตั้งแต่ปี 2022 แล้ว แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ
เมื่อวานนี้ Kovács ยืนยันว่ามีการตรวจเพศของ Khelif และพบว่าเขาเป็นชายโดยกำเนิด
“ปัญหาไม่ใช่ระดับเทสโทสเตอโรนของ Khelif เพราะสามารถปรับได้ในปัจจุบัน แต่ผลการทดสอบเพศเผยให้เห็นชัดเจนว่านักมวยชาวแอลจีเรียเป็นชายโดยกำเนิด” โดยเขาเสริมว่ามีนักมวยรวมทั้งหมดห้าคน รวมถึง Khelif ที่ได้รับการตรวจจากสมาคมมวยสากล และทั้งหมดเป็นผู้ชายแท้ 100 เปอร์เซ็นต์
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 26 ส.ค. 24, 10:11

จาก FB  The Structure

เบียร์ยี่ห้อ “บัดไวเซอร์ (Budweiser)” เคยเป็นเบียร์ที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐมาตลอด 20 ปีต่อเนื่อง จนเคยมีฉายาว่า ราชาแห่งเบียร์ จนกระทั่งในปี 2566 บัดไวเซอร์ได้สร้างความผิดพลาดด้านการตลาดอย่างร้ายแรง ในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่มีภาพลักษณ์เบียร์ของผู้ชาย ให้กลายเป็นเบียร์ของคนข้ามเพศ เป็นราชาแห่งโว้คเบียร์ (King of Woke Beer)

ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากฐานลูกค้าเดิม จนยอดขายของบัดไวเซอร์ตกลงอย่างมาก ถูกเบียร์ยี่ห้อ “โมเดโล่ (Modelo)” จากเม็กซิโกแย่งตำแหน่งเบียร์ที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐแทน

ความผิดพลาดของบัดไวเซอร์เริ่มต้นจากการว่าจ้าง อลิสสา ไฮเนอร์ไชด์ (Alissa Heinerscheid) มาเป็นรองประธานบริษัทด้านการตลาดในปลายปี 2565 และอลิสสามองว่า ภาพลักษณ์ของแบรนด์เบียร์บัดไลท์ (Bud Light) นั้นมีความเป็นผู้ชายสูงและไม่มีอารมณ์ขันเลย

เธอจึงปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นเบียร์ของทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ โดยในเดือนมีนาคม 2566 เธอได้ว่าจ้างให้ดีแลนด์ มัลเวย์นี (Dylan Mulvaney) อินฟลูเอ็นเซอร์หญิงข้ามเพศมาโปรโมทเบียร์บัดไลท์ให้ ซึ่งดีแลนด์ได้โปรโมทว่าบัดนั้นเป็นเบียร์ของคนข้ามเพศ เป็นราชาแห่งโว้คเบียร์ (King of Woke Beer)

การโปรโมทดังกล่าวได้ทำลายภาพลักษณ์เดิมของบัดไวเซอร์ ซึ่งเป็นเบียร์ของผู้ชายมาดแมน ที่นิยมจิบเบียร์ไปพร้อม ๆ กับการเชียร์กีฬา จิบเบียร์หลังเลิกงาน หรือนั่งดื่มล้อมวงคุยกันที่ปาร์ตี้หลังบ้านอย่างยับเยิน จนทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักจากฐานลูกค้าของบัดไวเซอร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายแท้ ๆ

แฟนคลับของบัดไวเซอร์ทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะนักร้องนักดนตรี ต่างออกมาประกาศแบนสินค้าของบัดไวเซอร์และประกาศจะไม่ร่วมงานด้วย และเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่ดีแลนด์เผยแพร่โพสต์ดังกล่าว ยอดขายของบัดไวเซอร์ตกลงทันที 17%

และในเดือนพฤษภาคมปีนั้น โมเดโล่ขึ้นมาแย่งตำแหน่งเบียร์ที่ขายดีที่สุดในสหรัฐ หยุดตำนานอันดับ 1 ตลอด 20 ปีของบัดไวเซอร์ลง

ถึงแม้ว่าประธานบริษัทจะพยายามออกมาแก้ไขสถานการณ์ด้วยการกล่าวว่า “เราอยากทำให้บัดเป็นเบียร์ของทุกคน” แต่สถานการณ์ของบัดไวเซอร์ไม่ได้ดีขึ้นเลย

ซ้ำร้าย แบรด์ยังคงพยายามผลักดันแนวคิดโว้คต่อไป โดยในช่วงกลางปี 2565 ซึ่งกระแสการต่อต้านยังคงระอุอยู่ ด้วยการออกสินค้าเวอร์ชั่นพิเศษ มีการตีพิมพ์ภาพของดีแลนด์ลงบนกระป๋องเบียร์ เนื่องในโอกาสที่ดีแลนด์เปลี่ยนเพศมาเป็นผู้หญิงครบหนึ่งปี

ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เบียร์สำหรับผู้ชายมาดเข้มถูกฉีกทิ้งเสียยับเยิน กลายมาเป็นเบียร์สำหรับชาวโว้ค ผู้หญิงข้ามเพศไปทันที และนั่นทำให้ในเดือนกันยายน 2565 ยอดขายของบัดไวเซอร์ตกลง 27% เมื่อเทียบกับยอดขายในปีก่อนหน้า

กรณีศึกษาข้างต้นนี้ เป็นเรื่องของการตลาด ซึ่งเป็นวิชาว่าด้วยการทำความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้คนที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า และถึงแม้ว่าแนวความคิดเรื่องความหลากหลายทางเพศจะเป็นที่ยอมรับในสังคมไปแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะนำความหลากหลายเข้ามาใช้ในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ดีเสมอไป

ผู้ชายแท้ ๆ หลายคนให้การยอมรับในตัวกลุ่ม LGBTQ+ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะเปลี่ยนเพศไปเป็น LGBTQ+ และการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์บัดไวเซอร์ จากเบียร์สำหรับผู้ชาย ให้กลายเป็นเบียร์สำหรับผู้หญิงข้ามเพศนั้น ได้ทำให้ผู้บริโภคที่เป็นผู้ชายแท้ ๆ รู้สึกเหมือนได้กลายเป็นผู้หญิงข้ามเพศ หากตนเองดื่มบัดไวเซอร์ลงไป

สร้างความรู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังถูกยัดเยียดให้เป็นในสิ่งที่ตนเองไม่ได้เป็น จนทำให้เกิดความคิดต่อต้าน และหันไปดื่มเบียร์ยี่ห้อที่มีภาพลักษณ์ว่าใช่ในสิ่งทีตนเองเป็นแทน

นักการตลาดควรจึงระวังในภาพลักษณ์ของแบรนด์ตัวเองอย่างมาก ในประเทศไทย เคยมีดาราหญิงผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศของไทยท่านหนึ่ง พึงพอใจในรถยนต์รุ่นหนึ่งจากค่ายรถญี่ปุ่นอย่างมาก จึงเดินทางไปเสนอตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้รถรุ่นดังกล่าวให้ โดยไม่คิดค่าตัว ทั้ง ๆ ที่ค่าตัวของเธอในเวลานั้น อยู่ที่หลักสิบล้านบาท

แต่บริษัทกลับปฏิเสธข้อเสนอของเธอไป ด้วยเหตุผลว่าภาพลักษณ์ของรถรุ่นดังกล่าวนั้น เป็นรถยนต์สำหรับผู้ชาย และเสนอให้เป็นพรีเซ็นเตอร์รถรุ่นอื่นที่เป็นรถยนต์สำหรับผู้หญิงแทน

-- ทางออกสำหรับแบรนด์ที่ต้องการโปรโมท LGBTQ+ --

เช่นกัน กรณีนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างสินค้าสำหรับ LGBTQ+ ไม่ได้ เพียงแต่นักการตลาดต้องเข้าใจในลูกค้าของตนเองด้วยว่ามีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร มีรสนิยม ความชอบแบบไหน เพื่อตอบสนองต่อควาต้องการของผู้บริโภคได้อย่างถูกต้อง

บัดไวเซอร์นั้น มีภาพลักษณ์ของผู้ชายมาตลอด 20 ปี จึงไม่แปลกที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่เมื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ถูกเปลี่ยน ลูกค้าเดิมจึงมีความรู้สึกว่ากำลังถูกยัดเยียดในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง ออกมาต่อต้าน และหันไปหาคู่แข่งที่ใช่มากกว่าแทน

นอกจากนี้ แนวความคิดของอลิสสา รองประธานบริษัทด้านการตลาดนั้น ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าเพียงต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปเป็นสิ่งที่ตนเองต้องการ โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกนึกคิดของลูกค้าเลย

ในอดีตโคลาโคล่า หรือโค้ก ได้ทำการเปลี่ยนรสชาติของโค้ก เนื่องจากเห็นว่ารสเดิมที่ขายมานานนั้นเก่าเกินไป ต้องการจะเปลี่ยนรสชาติใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด และเปลี่ยนชื่อแบรนด์ไปเป็น นิวโค้ก (New Coke)

แต่นั้นกลับทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักในกลุ่มแฟนคลับของโค้ก ที่ยังคงรักในรสชาติแบบดั้งเดิม จนในที่สุดโค้กต้องยอมนำเอารสดั้งเดิมกลับมา จึงดับกระแสการต่อต้านดังกล่าวลงไปได้

ในเวลาต่อมา ท่ามกลางกระแสไม่เอาน้ำตาล เนื่องจากการตระหนักรู้ในปัญหาโรคเบาหวานที่มีมากขึ้นในสหรัฐ ทำให้โค้กพัฒนาสูตรแบบไม่มีน้ำตาลออกมาหลายสูตร ไม่ว่าจะเป็น โค้กซีโร่ (Coke Zero) และโค้กไลท์ (Coke Lite) ขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในตลาดที่เปลี่ยนไป

อีกทั้งพัฒนาสูตรให้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโค้กราสเบอร์รี่ โค้กไลม์ และโค้กวนิลา เพื่อตอบสนองต่อรสนิยม และความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้นด้วย

ถึงแม้ว่าจะมองเจตนาของอลิสสาในแง่ดีว่า เธอเพียงต้องการขยายตลาด ขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มชายแท้ ไปยังผู้บริโภคเพศอื่น แต่บัดไวเซอร์ไม่มีงานวิจัยทางการตลาดว่า ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่ม LGBTQ+ นั้นมีรสนิยมในการดื่มเบียร์อย่างไร และไม่มีการพัฒนาสินค้าเพื่อการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเฉพาะ

หายนะทางการตลาดของบัดไวเซอร์ จึงถือเป็นบทเรียนที่ดีของนักการตลาด ไม่ให้ทำการตลาดแบบฉาบฉวย เพียงยัดเยียดสิ่งที่ตนเองคิดลงไป โดยไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคในตลาดของตน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41493

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 14 ม.ค. 25, 12:59

  หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์คัมแบ๊ค    ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมหลายๆอย่างก็ก่อตัวขึ้นจากนโยบายของคุณปู่แกนี่เอง
   อย่างหนึ่งคือทรัมป์ไม่เอาด้วยกับวัฒนธรรม   Woke  ถึงขั้นจงเกลียดจงชังเอาเลยทีเดียว
   ในเมื่อท่านผู้นำว่าอย่างนี้    ยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจของอเมริกาจะไปว่าอย่างอื่นได้อย่างไร  เดี๋ยวก็เจ๊งกันหมด   ต่างก็ทยอยกันออกมาเปลี่ยนสีเปลี่ยนหน้ากัน   เช่นเมตา แพลตฟอร์มส์ เจ้าของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมและ WhatsApp ออกมาแถลงว่าต่อไปนี้จะเลิกตรวจสอบข้อเท็จจริง fact-checking หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทรัมป์ และพรรครีพับลิกัน
    เมตาทำข้อแถลงแจ้งพนักงาน  มีผลครอบคลุมทั้งการจ้างงาน ซัปพลายเออร์และการฝึกอบรม อ้างถ้อยคำอ้อมค้อมน้ำท่วมทุ่งหลายอย่าง   แล้วเข้าสู่เป้าหมายว่า
   "เงื่อนไขของ DEI เปลี่ยนไปเพราะตระหนักแล้วว่า มันให้สิทธิพิเศษแก่คนบางกลุ่มเหนือคนอื่นๆ" (ก็คือกลุ่ม Woke) 
    พร้อมปลอบว่า "ในแง่การจ้างงาน เราจะยังคงเดินหน้าหาผู้สมัครจากภูมิหลังที่หลากหลาย แต่หยุดใช้แนวทาง Diverse Slate Approach (การพิจารณาผู้สมัครจากกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติหรือเพศสำหรับตำแหน่งงานว่าง)"
    ส่วนโปรแกรมฝึกอบรมด้านความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วมที่เคยทำมา ก็ยกเลิก   เปลี่ยนเป็นโปรแกรมสร้างแนวทางที่เที่ยงตรง ไร้อคติ  ไม่ยึดตามภูมิหลังเฉพาะของบุคคล

     กระแส Woke คือการเรียกร้องให้ปฏิบัติต่อผู้คนโดยไม่มีอคติต่อเชื้อชาติ  สีผิว   และเพศที่นอกเหนือจากชายหญิง  กระแสก็ฮือขึ้นมาอย่างรวดเร็วในยุคของรัฐบาลโจ ไบเดน   แต่ตอนนี้พอทรัมป์แสดงชัดเจนว่าไม่เอาด้วย  กระแสก็ตีกลับกลายเป็นว่า  ถ้าทุ่มเทกับ Woke มากไป ก็จะเป็นว่า woke กลายเป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ชนในสังคม    ดังนั้นต้องกลับไปถือวา่ไม่ว่าเพศไหนผิวไหน เท่ากันหมด       คือย้อนกลับไปในยุคก่อนนั่นเอง

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.103 วินาที กับ 16 คำสั่ง