เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 19 20 [21] 22 23
  พิมพ์  
อ่าน: 58655 มิอาจห้ามใจ มิอาจไม่แชร์
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16061



ความคิดเห็นที่ 300  เมื่อ 08 ธ.ค. 24, 10:35

    นรชาติวางวาย         ไม่มลายสิ้นทั้งอินทรีย์

อัฐิ*แจ้งความดี             ประกอบเป็นอาจารย์ใหญ่



    นรชาติวางวาย          ไม่มลายทั้งอินทรีย์
โครงกระดูกยังคงมี         สถิตเด่นเป็นอาจารย์

* อัฐิ  =  กระดูกคนที่เผาแล้ว (หนอ)
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 301  เมื่อ 08 ธ.ค. 24, 10:55

          เพื่อให้"สอดคล้อย" รับกับคำก่อนๆ หน้า(โท ทนต์ เสน่ง) และ นรชาติ

{นรชาติ(นอ-ระ-ชาด-ติ)วางวาย     มลายสิ้นทั้งอินทรีย์  

บทวิทยุรายการ “รู้ รัก ภาษาไทย”  ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.}

         จึงใช้อภิสิทธิ์ Dramatic License ใช้ อัฐิ หนอ

ปล. แรกก็เขียนว่า อัฐิยังคงมี แต่เปลี่ยนแปลงเพื่อเลี่ยงคำซ้ำ - มี ที่ได้ปรากฏในท้ายบทก่อน
      เป็น ความดี ตามที่โลกออนไลน์ใช้กัน(ความดียังประจักษ์)


บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 2055



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 302  เมื่อ 08 ธ.ค. 24, 11:43

อัฐิมาจากคำบาลีว่า อัฏฺฐิ แปลว่ากระดูก มาไทยเราลดรูป ตัด ฏ เพราะไม่มีผลกับการออกเสียง

มีคำลักษณะนี้อยู่หลายคำเช่น อิฐ บาลีว่า อิฏฺฐกา หรือ อูฐ บาลีว่า โอฏฺฐ ไทยเราตัด ฏ ทิ้งเรียบครับ

อัฏฺฐิ เป็นคำอินโด-ยูโรเปียน ร่วมรากกับ ortho ในภาษากรีกครับ ความหมายเดิมคือกระดูก ไม่ใช่เถ้ากระดูก ไทยเราใช้ไปใข้มาความหมายกลายเป็นเถ้ากระดูก

ถ้าใช้โดยนัยของศัพท์ดั้งเดิมว่ากระดูก ผมว่าไม่ผิดเลยครับ ไม่จำเป็นต้องใช้ dramatic license แต่อย่างใด



บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 303  เมื่อ 08 ธ.ค. 24, 12:10

Wiki,  The human skeleton is the internal framework of the human body.
         It is composed of around 270 bones at birth...

         บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ โครงกระดูก - skeleton ในขณะที่  อัฐิ - bone
จึงมีการใช้ license อภิสิทธิ์บิดคำอยู่บ้าง
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 304  เมื่อ 09 ธ.ค. 24, 11:19

       พฤษภกาสร           อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง             สำคัญหมายในกายมี
       นรชาติวางวาย       มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี             ประดับไว้ในโลกา


          แตกประเด็นที่คงมีบางคนไม่น้อยก็มากสังเกตสงกาว่าร้อยกรองนี้ ที่มาจากกฤษณาสอนน้องคำฉันท์
พระนิพนธ์สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโณรส เป็น กาพย์ หรือ ฉันท์

          ด้วยรูปแบบ ๑๑ พยางค์ สัมผัสเหมือนกันทั้ง กาพย์ยานี ๑๑ และ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
          ต่างตรงบังคับเสียง ครุ ลหุ

ผังกาพย์บน ฉันท์ล่าง


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 305  เมื่อ 09 ธ.ค. 24, 11:22

ย่นจากฟบ. ภาษาและวรรณกรรมไทย https://www.facebook.com/share/p/pXXy5oCrary6DqbK/

              ฝ่ายที่ว่าเป็นกาพย์เพราะมีกำหนดบังคับเหมือนกาพย์ทุกอย่าง ไม่มีครุลหุ

              ยกบทมาเทียบก็จะได้  - พฤษ ษภ ภ กา สร       อีก กุญ ชร อัน ปลด ปลง
                                      วรรคหน้าตรงตามครุลหุ       แต่วรรคหลังมีคำว่า อีก กุญ อัน ไม่ตรงลหุ
ถ้าเทียบทุกวรรคก็จะพบว่ามีอีกหลายคำที่ไม่ตรงลหุ ได้แก่ สำ คัญ ใน (ม)ลาย ทั้ง แต่ (ประ)ดับ ใน
และ
              ดูจากชื่อเรื่องอย่างเดียวไม่ได้ เพราะโบราณนิยมเอากาพย์ไปใส่ในคำฉันท์ อย่างกาพย์ฉบัง ๑๖ ในคำฉันท์หลายเรื่อง

              ส่วนฝ่ายที่ว่าเป็นฉันท์ก็ว่า โบราณท่านไม่ยึดครุลหุเคร่งครัด ชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็นฉันท์
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 306  เมื่อ 09 ธ.ค. 24, 11:26

         ย้อนคำจำกัดความ ครุ ลหุ ตามพจนานุกรม ๒๕๕๔

         ครุ หมายถึง พยางค์ที่มีเสียงหนัก ได้แก่ พยางค์ที่ประกอบด้วยสระเสียงยาวและสระเกินทั้ง ๔ คือ สระอำ ใอ ไอ เอา
(สระอำถือเป็น ครุ ก็ได้ ลหุ ก็ได้) และพยางค์ที่มีตัวสะกดทั้งสิ้น เช่น หัด เรียน
        ลหุ หมายถึง พยางค์ที่มีเสียงเบา ได้แก่ พยางค์ที่ประกอบด้วยสระเสียงสั้นที่ไม่มีตัวสะกด เช่น จะ มิ ดุ  สอดคล้องตามที่

        พระยาอุปกิตศิลปสาร  พระวรเวทย์พิสิฐ (ภาษาไทยนิยมใช้สระเอาะ และสระอำเป็นลหุด้วย) และ อ. กำชัย ทองหล่อ
ว่าไว้ในหลักภาษาไทย ทำให้เห็นได้ว่า บทที่ยกมาก็ยังไม่เข้าข้างฉันท์ (รวมทั้ง จินดามณีของพระโหราธิบดี)

แต่
        พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ทรงอธิบายเรื่อง ครุ ลหุ ไว้ในวรรณคดีสาร ว่า

        ตามที่อธิบายไว้สำหรับภาษาบาลีนั้น ก็เป็นการถูกต้องแล้ว แต่ภาษาสันสกฤตมี วิสรรคะ ซึ่งคล้ายกับวิสรรชนีย์ของเรา
และคำที่มีวิสรรคะในภาษาสันสกฤต แม้จะมีสระสั้นก็ถือว่าเป็นครุ ไม่ใช่ลหุ
        ฉะนั้นจะวางหลักในภาษาไทยลงไปว่า อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ โอะ เอาะ อัวะ เอียะ เอือะ เออะ เป็นลหุหาได้ไม่ แต่
ต้องพิจารณาดูเป็นรายกรณีไปว่าออกเสียงหนักหรือเบา
        การเอาหลักของภาษาบาลีสันสกฤตในเรื่องครุลหุมาใช้ จะเอามาใช้โดยตรงไม่ได้ แต่ต้องเอามาโดยอนุโลม
เพื่อให้เหมาะสมแก่ลักษณะของภาษาไทย
        หลักครุลหุในภาษาไทยจึงจะยึดตัวสะกดไม่ได้ แต่ต้องยึดหลักวิธีออกเสียงหนักหรือเบา ในเมื่อร้อยกรองเป็นประโยคขึ้นแล้ว
        บางท่านอาจแย้งว่า ถ้าเช่นนั้นจะเป็นหลักหรือ
        ฉันขอตอบว่าเป็นหลัก เพราะคนไทยอ่านออกเสียงหนักและเบาอยู่แล้วตามกรณี
และ
        พระยาอุปกิตศิลปสาร ว่าไว้ใน ภาษาไทยกับคำประพันธ์ ว่า

        ข้อบังคับครุลหุนั้น สังเกตดูฉันท์เก่า ๆ เช่น สมุทโฆษ กฤษณาสอนน้อง เป็นต้น ดูท่านไม่ใคร่จะกวดขันนัก
        ท่านเล็งเอาความไพเราะเป็นใหญ่ พึงมากวดขันเรื่องครุลหุกันขึ้นในสมัยปรัตยุบันนี้
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 307  เมื่อ 09 ธ.ค. 24, 11:31

        รศ. ดร.สุภาพร มากแจ้ง กล่าวไว้ในหนังสือ กวีนิพนธ์ไทย ๑ ว่า

       ในสมัยโบราณกวีกำหนดครุ-ลหุด้วยการเปล่งเสียงหนัก-เบา ไม่ได้กำหนดตามลักษณะทางไวยากรณ์
เวลาอ่านจะเปล่งพยางค์ที่กำหนดให้เป็นลหุด้วยเสียงเบา และเปล่งพยางค์ที่กำหนดให้เป็นพยางค์ครุด้วยเสียงหนัก

       รศ.เอมอร ชิตตะโสภณ เมื่อครั้งทำวิทยาพนธ์เรื่อง พระนิพนธ์ประเภทฉันท์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
ได้กล่าวไว้ในวิทยาพนธ์ว่า

       กวีไทยในสมัยแรกใช้หลักในการออกเสียงภาษาไทยเป็นการกำหนดลหุ ครุ มากกว่าที่จะถือกฎเกณฑ์ของภาษาบาลี
นับได้ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง
       ฉะนั้นในการกำหนดคำลหุ ครุ ควรจะอนุโลมให้เข้ากับลักษณะการออกเสียงของภาษาไทย
       แต่กวีไทยในชั้นหลังต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์จะถือกฎเกณฑ์ทางภาษาบาลีในเรื่องการกำหนดคำลหุ ครุ อย่างเคร่งครัด
       ถ้าจะคิดว่า จินดามณีของพระโหราธิบดี และตำราฉันท์วรรณพฤติและมาตราพฤติของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระปรมานุชิตชิโนรส มีอิทธิพลในความนิยมเสียงคำลหุ ครุ ไซร้ ก็หมายความว่า กวีรุ่นหลังได้ศึกษาคณะและตำแหน่ง
คำลหุ ครุ จากจินดามณี และจากแบบวรรณพฤติมาตราพฤติ และถือเป็นหลักในการแต่งโดยเคร่งครัด
      ถึงแม้ว่าสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส จะทรงรักษาระเบียบคณะ และคำลหุ ครุ ตำราฉันท์วรรณพฤติ
และมาตราพฤติ เพื่อถือเป็นแบบลักษณะของฉันท์ต่าง ๆ ในภาษาบาลี จนเป็นหลักเป็นตัวอย่างแก่กวีในชั้นหลังแล้วก็ตาม
ในส่วนพระองค์แล้วเมื่อทรงพระนิพนธ์เรื่องอื่น ๆ มิได้ทรงถือกฎเกณฑ์ตามตำราภาษาบาลีจนเคร่งครัด
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 308  เมื่อ 09 ธ.ค. 24, 11:35

          ศ. ดร.อุดม วโรตม์สิกขดิตถ์ เขียนเรื่อง ครุ-ลหุในมุมมองทางภาษาศาสตร์ ไว้ในหนังสือ มุมต่างทางภาษาตามวิถีภาษาศาสตร์ ว่า

          โปรดอย่ามองว่า พระมหาราชครูก็ดี ศรีปราชญ์ก็ดี ไม่เคร่งครัดเรื่องครุ-ลหุ หรือใช้ครุ-ลหุไม่เป็น
หารู้ไม่ว่า ทั้งพระมหาราชครูและศรีปราชญ์ ใช้ครุ-ลหุอย่างเคร่งครัด และถูกต้องทุกประการตามแนวธรรมชาติของภาษาไทย
ทั้งยังเข้าใจระบบครุ-ลหุตามแบบของสันสกฤตอย่างดีเยี่ยม

          ในหนังสืออ่านกวีนิพนธ์ คำฉันท์ กฤษณาสอนน้อง ซึ่งใช้เป็นแบบเรียนภาษาไทยของกรมตำรา พ.ศ. ๒๔๖๘ ได้ให้คำชี้แจงไว้ว่า
     
          ครูควรอธิบายให้นักเรียนเข้าใจเสียแต่ต้นด้วยว่า วิธีแต่งฉันท์ในสมัยนั้นท่านไม่ใคร่จะนิยมครุ ลหุ มากนัก
          นิยมใช้ถ้อยคำสัมผัสและสำนวนโวหารให้ไพเราะเป็นประมาณ ซึ่งผิดกับที่ได้เล่าเรียนในตำราฉันทลักษณ์ และ
          ควรจะแนะนำให้นักเรียนอ่านให้ถูกต้องลักษณะฉันท์ เป็นต้นว่า ที่ใดเป็นลหุถึงแม้ที่นั้นจะมีคำครุก็ต้องอ่านให้สำเนียงสั้นเข้า
และที่ใดมีคำเกินก็รวบรัดอ่านให้ได้ทำนอง

          จากข้อมูลพอจะสรุปได้ว่า บทที่นำมาเป็นฉันท์ที่ยึดเสียงหนักเบาแทนครุลหุ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 309  เมื่อ 09 ธ.ค. 24, 13:32

      อ่านที่วิศวะ 1   แพทย์ 1  นายสัตวแพทย์ 1  เขาแจกแจงกันเรื่องความรู้ทางหลักภาษาและกวีนิพนธ์ไทยแล้ว   คนเรียนอักษรรู้สึกน้อยหน้ายังไงก็ไม่รู้ค่ะ


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 310  เมื่อ 09 ธ.ค. 24, 14:23

         แค่หิ่งห้อยพย(าย)ามเบ่งเปล่งแสง          ฤๅจะแรงสว่างส่องถ่องเวหา

มิอาจเปรียบเทียบเหมือนเดือนดารา                  รู้ตัวว่ายังต้องเพียรเรียนไปนานนน


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 311  เมื่อ 11 ธ.ค. 24, 13:52

BBC รายงานชื่อเด็กเกิดใหม่ในอิงแลนด์แอนด์เวลซ์ ของปีที่แล้ว 2023
       ชื่อ 10 อันดับยอดนิยม มีการเปลี่ยนแปลง
       เมื่อชื่อ Muhammad จากเดิมที่สองแซงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทนชื่อ Noah (แชมป์เก่า)
       ด้วยจำนวนกว่า 4,600 ราย

       ส่วนชื่อเด็กหญิงยังคงสามตำแหน่งเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง นำโดยOlivia  Amelia และ Isla ตามลำดับ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 312  เมื่อ 11 ธ.ค. 24, 14:50

    แปลกใจที่ชื่อ Muhammad ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษและเวลส์    เพราะเป็นช่ื่อภาษาอาหรับ   เราจะไม่พบชื่อนี้ในพระคัมภีร์ไบเบิลซึ่งเป็นที่มาของชื่อคริสตศาสนิกชนทั้งหลาย  มูฮัมหมัดเป็นชื่อของศาสดาของศาสนาอิสลาม   หนังสือไทยเก่าๆสะกดว่า "มะหะหมัด"
    เอาชื่อที่หมดความนิยมของพ่อแม่ชาวอังกฤษที่จะตั้งชื่อลูกตามนี้ มาประชันบ้างค่ะ
    เกอร์ทรูด (Gertrude)
    เบอร์ธา  (Bertha)
    วิลลี่   ( Willie)   ส่วนวิลเลียม ยังมีอยู่
     ซะซิล หรือเซซิล หรือซีซิล (Cecil) 
     (โรแลนด์) Rowland
     นอกจากนี้ ชื่ออย่าง Sue  Debby  Vickie  Terry Staci  Geri/Gerri  Cyndi/Cindi ก็ไม่เป็นที่นิยมอีกแล้วเช่นกัน
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16061



ความคิดเห็นที่ 313  เมื่อ 11 ธ.ค. 24, 15:35

นอกจากชื่อ มูฮัมหมัด (Muhammad) ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งแล้ว ชื่อภาษาอาหรับ เช่น อัยมาน (Ayman) และ ฮัสซัน (Hasan) ก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นถึง ๔๗% และ ๔๓% ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของชุมชนชาวเอเชียใต้และชาวมุสลิมในสหราชอาณาจักร  

ปัจจุบัน ชาวเอเชียใต้จากประเทศอินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศ คิดเป็น ๔.๓% ของประชากรทั้งหมดในอังกฤษ โดยชาวอินเดียถือเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษและเวลส์ มีจำนวนประชากรมากกว่า ๑.๕ ล้านคน หรือ ๒.๕% ของประชากรอังกฤษทั้งหมด

จาก THE STATES TIMES
บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 314  เมื่อ 12 ธ.ค. 24, 10:11

    แปลกใจที่ชื่อ Muhammad ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษและเวลส์    เพราะเป็นช่ื่อภาษาอาหรับ   เราจะไม่พบชื่อนี้ในพระคัมภีร์ไบเบิลซึ่งเป็นที่มาของชื่อคริสตศาสนิกชนทั้งหลาย  มูฮัมหมัดเป็นชื่อของศาสดาของศาสนาอิสลาม   หนังสือไทยเก่าๆสะกดว่า "มะหะหมัด"
    เอาชื่อที่หมดความนิยมของพ่อแม่ชาวอังกฤษที่จะตั้งชื่อลูกตามนี้ มาประชันบ้างค่ะ
    เกอร์ทรูด (Gertrude)
    เบอร์ธา  (Bertha)
    วิลลี่   ( Willie)   ส่วนวิลเลียม ยังมีอยู่
     ซะซิล หรือเซซิล หรือซีซิล (Cecil) 
     (โรแลนด์) Rowland
     นอกจากนี้ ชื่ออย่าง Sue  Debby  Vickie  Terry Staci  Geri/Gerri  Cyndi/Cindi ก็ไม่เป็นที่นิยมอีกแล้วเช่นกัน

ชื่ออย่าง Margaret, Marjorie, lettice, eleanor, ก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้วเหมือนกัน
ชื่อชายอย่าง Rufus, Reginald, Nigel, ก็แทบจะหายไปแล้วในคนรุ่นใหม่ ที่เห็นจะมีแต่ชื่อจำพวก Justin, Ethan, Zach, กัน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 19 20 [21] 22 23
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 16 คำสั่ง