วันนี้ได้อ่านข่าว ค่ายกล้าวรรณกรรม
http://www.komchadluek.net/2007/10/16/e001_162461.php?news_id=162461ทำให้เกิดจินตนาการต่อว่า เมื่อปลูกฝังแต่ครั้งยังเล็ก พอเติบโตเป็นเยาวชนแล้วเขาอาจได้ไปเข้าค่ายนี้ และอาจก้าวต่อไปสู่
การเป็นนักเขียนในวันข้างหน้า
ตัดทอน เรียบเรียง จาก >> เพาะกล้า...วรรณกรรม เติบโตรู้ค่าภาษาไทย << พวงชมพู ประเสริฐ
กล้าวรรณกรรมเปรียบเด็กและเยาวชนดั่งต้นกล้าที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นเมล็ดพืชให้คนอื่นได้อิ่ม อย่างไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ แต่
ต้องมีคนบ่มเพาะ ดูแล ทุบตี ไถคราด เพื่อให้ต้นกล้าเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพและกล้าหาญที่จะสรรค์สร้างวรรณกรรมดีๆ ให้คนได้อ่านต่อๆ ไป
เจตนารมณ์ค่ายกล้าวรรณกรรมถ่ายทอดผ่านคำบอกเล่าของ ผศ.อำนาจ เย็นสบาย คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)
ค่ายกล้าวรรณกรรมจัดขึ้นเป็นรุ่นที่4 ระหว่างวันที่2-5 ตุลาคมที่โรงแรมริเวอร์แคววิลเลจ จ.กาญจนบุรีมีนักเรียนและครูจากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 200 คน
ภายใต้การสนับสนุนจากบริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนที่มีทักษะด้านการเขียนได้พัฒนาตนเองในเชิงคุณภาพ
ผ่านการเคี่ยวเข้มข้นจากนักเขียนชั้นแนวหน้า เช่น ชมัยภร แสงกระจ่าง, วัฒน์ วรรลยางกูร, กิ่งฉัตร, กนกวลี พจนปกรณ์
อาจารย์เนาวรัตน์พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ เปิดฉากสะกดคนฟังด้วยเสียงขลุ่ยคลอเบาๆ พอให้แว่วเสียง ตามด้วยการร่ายบทกลอนประกอบ
แล้วให้เคล็ดวิชามาฝึกปรืองานเขียน เพราะอาจารย์เนาวรัตน์ชี้ว่า
ก่อนที่จะเริ่มจรดปากกาเขียน ต้องตระหนักว่าภาษาไทย ไม่ได้มีไว้พูดอ่านเขียนเท่านั้น แต่นำมาใช้ในการคิดด้วย
ถ้ารู้ภาษามากก็คิดได้มาก ยิ่งถ้ามีความสามารถในการลำดับภาษา ยิ่งช่วยให้คิดได้มากขึ้น และ
มนุษย์มีความรู้สึกทั้งรัก เหงา เศร้าที่ไปไกลมากกว่าภาษา ตรงนี้คือปัญหา จะทำอย่างไรที่จะใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์ที่มีอยู่มากมาย
ออกมาให้ได้ หากทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จในงานเขียนนั้นๆ และ นี่คือความสำคัญของภาษา
จุดเริ่มของการจะเป็นนักเขียนที่ดีขอให้รักการอ่านหนังสือ โลกของคนไม่เหงา คือ โลกของคนอ่านหนังสือ
โทรศัพท์มือถืออย่าให้ความสำคัญมาก หากใช้เป็นก็ดีไป ถ้าใช้ไม่เป็นจะตกเป็นทาสรัก โกรธกันง่าย สร้างอารมณ์ไว ร้อน
แต่สิ่งที่ซื่อสัตย์เสมอคือ หนังสือ อ่านหนังสือวิเศษสุด ช่วยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ทำให้มีสติ สมาธิ อ่านเรื่องดีๆ 1 เล่มช่วยเปลี่ยนคนได้
อาจารย์เนาวรัตน์ให้แง่คิด
4 วัน 3 คืน ในค่ายกล้าวรรณกรรมทำให้เด็กๆ ได้พัฒนาตนเอง ปลูกฝังให้รัก รู้คุณค่า และใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ที่สำคัญยังช่วยให้นักเรียนได้ค้นพบตัวเองอย่างเช่น นักเรียนที่เข้าร่วมค่ายเป็นปีที่ 2 ได้รับคัดเลือกจากสำนักพิมพ์สำนักหนึ่ง
ให้รวมเรื่องสั้นออกจำหน่าย รวมถึงนักเรียนกลับมาตั้งชมรมนัก (อยาก) เขียนในโรงเรียน อบรมต่อให้แก่รุ่นน้องหลังกลับจากเข้าค่าย
ถือว่าเป็นการช่วยครูในการปลูกฝังการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง
เด็กนักเรียนคนหนึ่งกล่าวว่า พ่อแม่ควร ปลูกฝังให้เด็กรู้คุณค่าและใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง สอนให้รักการอ่าน ทำตัวเป็นแบบอย่าง
จากนั้นนำความรู้ที่ได้มาจับกลุ่มพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนกันในครอบครัว จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกค้นคว้าหาความรู้มาแลกเปลี่ยนกับคนอื่น
เมื่ออ่านหนังสือมาก เด็กก็จะซึมซับการใช้ภาษาที่ถูกต้องอย่างอัตโนมัติ
จะว่าไปแล้วภาษาไทยจัดเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ชาติไทย หากคนในชาติยังไม่เห็นค่าและความสำคัญ และ
ใช้ภาษาอย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ช้าไม่นานภาษาไทยอาจเป็นเช่นดั่งภาษาอาเรม, บูซินหัว และเรดเกเลา ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่เหลือคนพูดได้เพียงแค่ 40, 200 และ20 คน ตามลำดับและอีกหลายภาษาทั่วโลกที่กำลังรอวันสูญหายก็เป็นได้