Wandee
|
ตำราอาหาร ของ ม.ร.ว. เตื้อง สนิทวงศ์
มีตำราไข่หลายรายการที่น่าสนใจ แต่ "ไข่จ่อม" ดูน่ารับประทานมาก
จึงขอนำมาเสนอ "เรือนไทย" ไว้ก่อน
จะนำประวัติของ ม.ร.ว. เตื้องมาเล่าในรายการต่อไป เพราะท่านผู้เขียนหลายท่านเป็นบุคคลสำคัญที่น่าสนใจยิ่ง เช่น
ม.ล. มณีรัตน์ บุนนาค(ยศในเวลานั้น) หม่อมเจ้าปิยะรังสิต และ หม่อมหลวงบัว กิติยากร เป็นต้น
และเรื่องที่เล่ามานั้นเป็นประวัติศาตร์ส่วนเล็กๆที่ไม่น่าจะปล่อยให้สูญไปกับเวลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 28 ม.ค. 12, 17:23
|
|
เครื่องปรุง ไข่จืดต้มแข็ง ๒ ฟอง ข้าวคั่ว ๑ ช้อนโต๊ะ ข่าป่น ๑/๒ ช้อนชา น้ำเกลือต้ม (เกลือ ๔ ช้อนโต๊ะ น้ำ ๑๒ ช้อนโต๊ะ) น้ำครั่งตามควร หัวหอมซอย ๑ ช้อนโต๊ะพูน ขิงหั่นฝอย ๑ ช้อนโต๊ะ พริกสด ผักชี มะนาว น้ำตาลพอควร
วิธีทำ
ปอกไข่ใส่ขวด (น่าจะปากกว้างหน่อยเผื่อมีคนสงสัย) ใส่น้ำเกลือที่ต้มไว้ให้ท่วมไข่ ใส่ข่า
ข้าวคั่ว น้ำครั่ง คนให้เข้ากันพอสีแดงระเรื่อ เก็บไว้ ๓ วันถึง ๗ วันใช้ได้
เมื่อจะรับประทาน ตักไข่ใส่ภาชนะ หั่นไข่เป็นแว่นบางๆ โรยหอมซอย ขิงหั่นฝอย
ตักน้ำที่ดองไข่นั้นใส่ด้วย
บีบมะนาว ใส่น้ำตาล ชิมตามชอบ (แต่อย่าคนให้มากนักจะไม่น่ารับประทาน)
หั่นพริกสด ผักชีโรย
รับประทานกับปลาย่าง ผักดิบตามชอบ
หน้า ๑๐๐ หนังสืออนุสรณ์ ม.ร.ว. หญิงเตื้อง สนิทวงศ์ ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๑
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 28 ม.ค. 12, 17:34
|
|
รายการต่อ ๆ ไป มี
ไข่สวรรค์ รายการนี้ไม่มีไข่เลยค่ะ
ท่านสับกุ้งปนกับหมู ปรุงรส น้ำปลาและแป้งพอควร
ยัดไส้ด้วยเนื้อปู
นำมาคลุกกับผงขนมปังป่นหยาบๆ ทอดน้ำมันมากๆ ด้วยไฟอ่อน จนสุกเหลือง
ผ่าออกจึงเห็นไส้ปู จิ้มซอสพริก หรือน้ำบ๊วยเจี่ย
ยังมีแปลกๆ อีกหลายรายการ เช่นไข่กระจัง ไข่เค็มชั้น ไข่ดาวหน้ากุ้ง ไข่ซ่อนรูป ไข่ม้วน ไข่จักรนารายณ์ ยำไข่ดาว
อ้อ มีตำราข้าวชวาด้วยค่ะ ใครไม่ทราบเคยถามไว้นานแล้ว
(มีเสียงแว่วมาว่าลงเรื่องที่ คุณท่าน เขียนเร็ว ค่ะ ๆ เรื่องของท่านปิยะรังสิตไว้ทีหลังนะคะ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 30 ม.ค. 12, 11:15
|
|
ตำราของม.ร.ว. หญิงเตื้อง สนิทวงศ์ เรื่องไข่ ยังมีแปลก ๆ อีกหลายรายการค่ะ
นำมาฝากมิตรผู้ชอบทำอาหาร สำหรับคุณฮั่น ปิงนั้น คงมีแรงลุกขึ้นทำได้สารพัด
ห่อหมกไข่
เครื่องปรุง ไข่ต้ม ๒ ฟอง ไข่จืด ๒ ฟอง แป้งข้าวเจ้าแห้ง ๑ ชต. มะพร้าวขูด ๑ ๑/๒ ถ้วยชา ปลีกล้วย ๒ ปลี ใบยอ ๑๕ ใบ กระทงใส่ห่อหมก ๖ ใบ เย็บแบบ ๕ มุม เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๐ ซม.
พริกแห้ง ๕ เม็ด หัวหอม ๑๐ หัว กระเทียม ๕ กลีบ
ตะไคร้หั่น ๒ ชต. ข่า ๕แว่น รากผักขี ๗ ราก ผิวมะกรูด ๔ ซม. กระชาย ๓ ราก หัวเปราะ ๓ แว่น
พริกไทย ๕เม็ด น้ำปลาดี ๗ ชช. ใบมะกรูด ๓ ใบ ผักชี ๒ ต้น ใบหอม ๒ ต้น
วิธีทำ ฉีกพริกแห้งล้าง หั่นตะไคร้ ปอกหอมกระเทียม ขูดกระชาย ล้างหั่น รวมเครื่องใส่ครก โชลกจนละเอียด
ตักน้ำใส่หม้อตั้งไฟจนเดือดพล่าน ปอกและผ่าปลีกล้วยใส่ลง ปิดฝาพอสุกใช้ได้ ตักขึ้นผ่าเป็น ๔ เสี้ยว แล้วหั่นตามขวางขนาด ๒ ซม.
คั้นกะทิข้น ๆ ตักใส่ภาชนะเล็ก ๆ สัก ๔ ชต. ตั้งไฟคอยคนให้เดือด เก็บไว้หยอดหน้า ช้อนหัวกะทิที่เหลืออยู่ใส่อ่างกวนห่อหมก หัวปลีที่หั่นไว้ บีบน้ำออกใส่ในอ่างกะทิ คนให้หัวปลีดูดน้ำกะทิ
ใส่น้ำพริกลงกวนจนเข้ากันดี
ต่อยไข่เค็มลงชาม แยกไข่ขาวไข่แดง ผ่าไข่แดงเป็นลูกละ ๘ ชิ้น ส่วนไข่ขาวมานวดกับแป้งข้าวเจ้าจนเข้ากันดี ใส่ลงคนกับหัวปลีพร้อมทั้งไข่แดงและไข่จืด
คนเบาๆมือพอเข้ากันได้เท่านั้น ระวังอย่างมากถ้าไข่ขึ้นนึ่งจะไม่สวย
ปรุงรสตามชอบ
หั่นใบยอให้ค่อนข้างเล็ก(เลื่อยกระดูกกลางออกก่อนจึงหั่น) ใส่ก้นกระทง ตักห่อหมกใส่ให้เต็ม ราดหัวกะทิ
หั่นใบมะกรูด ต้นหอมผักชี โดยตามใจชอบ
รายการไข่ที่น่าสนใจและน่ารับประทานมีอีก เช่น ไข่สามชั้น คือไข่กับเนื้อสับ ใส่แอ๊บเปิลหั่นสี่เหล่ี่ยม ผงลูกจันทน์เทศ บบรจุลงในเป็ดอ่อนถอดกระดูก แล้วอบ หรือใส่กะทะใส่น้ำมันเล็กน้อย
อ่านแล้วไม่สามารถจะถอดกระดูกเป็ดได้ จึงไม่นำมาฝาก
ยังมีเปรี้ยวหวานไข่ ทีี่ทาไข่กรอกจากกะทะด้วยเนื้อสับ ม้วนเป็นแท่ง นึ่งให้สุก เนื้อสับที่นึ่งนั้นท่านใส่น้ำมะนาวค่ะ หั่นไข่ม้วน ราดด้วยแตงกวา มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่หั่นผัดรวมกันค่ะ
ว่างๆ จะนำตำราอาหารโบราณมาฝากท่านผู้สนใจค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 31 ม.ค. 12, 11:06
|
|
ตำรานี้มีรายการอาหารไข่หลายรายการ จึงกลับไปอ่านกระทู่ไข่เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ซ้ำกัน มีรายละเอียดที่ท่านผู้อยู่ใกล้ชิดเล่า เมื่อเรียนรู้การปรุงอาหารจาก "คุณ"
ไข่ม้วน(หน้า ๔๔ - ๔๕)
เครื่องปรุง
ไข่เป็ด ๕ ฟอง คึ้นไช่ ๕ ต้น กุ้งตะเข็บ ๑/๔ กิโล เนื้อหมู ๑/๒ กิโล กุนเชียง ๕ คู่ ต้นหอม ๑๐ ต้น เกลือ น้ำปลา ผงชูรส พริกไทย
วิธีทำ
คนไข่ขาวไข่แดงให้เข้ากันดี ทำไข่กลอกแผ่นโตประมาณ ๑ คืบ กลอกให้ได้ ๑๐ แผ่น
ปิ้งกุนเชียงแต่พอสุก ลวกต้นหอมกับคื่นไช่ในน้ำร้อนจัดพอตายนึ่ง ตัดยาวเท่ากุนเชียง
สับหมูกับกุ้งปนกันปรุงรส ตักละเลงบนแผ่นไข่ วางต้นหอมและคื่นไช่ วางกุนเชียงตรงกลาง ม้วนแผ่นไข่แล้วพับหัวท้ายให้แน่น นึ่งประมาณ ๑๒ นาที เสร็จละลายแป้งสาลีข้นๆ ชุบทอดให้กรอบ หั่นเป็นแว่น จัดลงจานให้วางพิงกัน
น้ำจิ้ม ซ๊อสมะเขือเทศ ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู โรยพริกแดง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 31 ม.ค. 12, 11:27
|
|
ไข่ม้วนจักรนารายณ์
เครื่องปรุง ไข่ ๓ ฟอง เนื้อหมูสับละเอียด ๑ ถ้วยชา มันฝรั่งต้มสุกหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ๑/๔ ถ้วยชา หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมเล็กเท่ามันฝรั่ง ๑/๔ ถ้วยชา ถั่วกระป๋อง ๑/๔ ถ้วยชา
น้ำตาล น้ำปลา น้ำมันหมู รากผักชี พริกไทยกระเทียมโชลก ๑ ช้อนชา
วิธีทำ ตีไข่ให้พอเข้ากัน ทำไข่กรอกให้เป็นแผ่นใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑ ฟุต ผัดไส้โดยผัดกระเทียมพริกไทยรากผักชีก่อน ใส่หมูสับ หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง ถั่วกระป๋อง อย่าให้แห้ง
พอไส้หายร้อนจัด ตักใส่ในไข่กรอก เกลี่ยให้สมอกัน หนาประมาณ ๑ ซ.ม. ม้วนให้แน่น ใส่ลงในชามรูปกลม
ใช้กรรไกรตัดให้เป็นแว่นแฉลบ อย่าให้ขาดจากกัน ให้ด้านในติดอยู่ ระยะห่างกัน ๑ ๑/๒ นิ้ว
วงด้านปลายพับเข้าด้านใน ประดับด้วยผักชี พริกแดงเหลืองแต่งเป็นดอกไม้
(อาหารจานนี้ดูแล้วก็จะเป็นรูปจักร ท่านผู้อ่านของเรือนไทยที่ทำกับข้างเองบ้างก็จะทราบดีว่า การกรอกไข่แผ่นโตนั้น ใช้ฝีมือทีเดียว/วันดี)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 31 ม.ค. 12, 11:48
|
|
แกงจืดไข่ทอง
ทำลูกชิ้นไข่ขนาดไข่นกกระจาบ จากไข่ต้มแข็งกับเนื้ออกไก่ ใส่เกลือพริกไทยนวดให้เหนียว
เกลือกแป้งถ้่วแล้วต้มพอสุก
ใช้มักกะโรนีเส้นเล็กหรือหมี่ซั่ว ผักกวางตุ้ง ๑ ต้น น้ำกระดูก ๔ ถ้วย
ลูกชิ้นไข่นั้นเมื่อจะรับประทานจึงใส่
แกงจืดต้นคะน้า
รายการนี้น่ารับประทาน ท่านใช้ไข่เค็ม ๑ ฟอง ต้นคะน้า ๓ ต้น แป้งข้าวเจ้า๒ ชต. กระเทียม น้ำมันหมู
หั่นคะน้า ถ้าใบใหญ่ กรีดกลางใบ ทุบต้นก่อนหั่น
ไข่เค็มแยกไข่ขาวไข่แดง บี้ไข่แดงนวดกับแป้งจนเข้ากันดี ใส่ไข่ขาว เติมน้ำ ๑ ชต. ทอดไข่ให้เหลืองทั้งสองด้าน
ต้มน้ำให้เดือด ใส่ผัก ใส่ไข่เจียว ปรุงรส
(โชคดีที่นักอ่านที่มาใช้ห้องสมุดและแลกเปลี่ยนหนังสือที่ชมรมหนังสือเก่า ไม่อ่านตำรากับข้าว ถ้าคิดสั่งเมนูก็จะผิดหวังอย่างแน่นอน/วันดี)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 28 ก.พ. 12, 22:21
|
|
ข้าพเจ้าพลาดกระทู้นี้ไปได้อย่างไร
ไม่น่าเชื่อ
โธ่...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|