น่าคิดว่าเรื่องนี้ยาวนานหลายปี ผ่านอธิบดีกรมศิลปากรหลายท่าน (และหลายรัฐบาลหลายขั้วการเมือง) แต่ท่าทีของกรมศิลป์ก็ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างน่าสนใจนะครับ
นอกจากนี้ปัญหานี้กลายเป็นปัญหาซับซ้อนเรื่องความสัมพันธ์ระดับชาติ และความขัดแย้งภายในระหว่างกลุ่มชนต่างศาสนาในพม่าเข้าไปอีก เรื่องก็เลยวุ่นวายยืดเยื้อ
แต่ที่ผมแปลกใจที่สุดคือ ในขณะที่มีข่าวออกสื่อให้ฮือฮากันเป็นระยะๆ แต่ในวงวิชาการเรื่องนี้กลับเงียบ เหมือนจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เท่าที่หาได้ (อย่างจำกัด) พบว่ามีความเห็นของนักประวัติศาสตร์แตกต่างกันไป อย่าง อ.พิเศษ เจียจันทร์พงศ์เคยให้ข่าวเมื่อท่านนั่งรักษาการอธิบดีกรมศิลป์เมื่อหลายปีที่แล้ว (ไม่ทราบว่าถึงปัจจุบันท่านจะมีทัศนะต่อเรื่องนี้เปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไร) อ.สุเนตร ชุตินธรานนท์ เคยไปออกรายการวิทยุคุยยาวเหยียด (ในเชิงสนับสนุนอย่างมาก หาฟังได้ใน youtube ครับ) และ อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เคยโพสต์ใน facebook (ทัศนะไม่ชัดเจน แต่ดูเหมือนจะตามข่าวอยู่ไกลมาก ทั้งรายละเอียดและเชิงเวลา) ส่วนนักโบราณคดีที่อยู่วงในโครงการนี้อย่างคุณปฏิพัฒน์ พุ่มพงศ์แพทย์ ถ้าดูจากในคลิปท่านก็ให้ความเห็นว่าไม่สามารถยืนยันถึงขั้นว่านี่คือพระบรมอัฐิของพระเจ้าอุทุมพร
เรื่องนี้ผมว่าถ้ามีการอภิปรายในวงกว้าง เรื่องนี้น่าจะมีความก้าวหน้ามากกว่านี้ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย จะได้ข้อสรุปหรือไม่ได้ผมว่าไม่ใช่สาระสำคัญ และที่สำคัญคือผมไม่เห็นว่ากรมศิลป์จะสามารถชี้ถูกชี้ผิดอะไรในเชิงวิชาการได้ครับ แต่เมื่อความคาดหวังของโครงการนี้คือต้องการบทสรุปอย่างเป็นรูปธรรม (อนุสรณ์สถาน) เลยต้องไปพึ่งท่าทีของทางราชการ กลายเป็นเรื่องปวดใจ น่าเห็นใจคณะทำงานอยู่ครับ
ป.ล. ผมสงสัยเรื่องมาตรฐานการบูรณะโบราณสถาน เพราะโดยความเข้าใจของผม การต่อเติมโดยไม่ทราบรูปแบบเดิมไม่น่าจะทำได้ไม่ใช่หรือครับ หรือว่ามีข้อยกเว้นอย่างไรบ้าง (แต่เรื่องนี้อย่าไปถามกรมศิลป์นะครับ
)