ในเมื่อเรื่องยังไม่ได้ยุติ แม้มีการชี้แจงไปยังหนังสือพิมพ์ผู้จัดการแล้ว ลูกหลานทางฝ่ายพระพิจิตรราชสาส์น ผู้ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องนี้ จึงทำจดหมายเปิดผนึกถึงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของและผู้จัดการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ตามนี้อีกครั้ง
ชี้แจง
เรื่องการซื้อขายที่ดิน
ระหว่างพระคลังข้างที่ กับพระพิจิตรราชสาส์น (สอน วินิจฉัยกุล)
ตามที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้พูดในรายการ Sondhitalk EP.61 ของสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งสตรีมสดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ในนาทีที่ 2.09.49 อ้างถึง “พระพิจิตรราชสาส์น”(สอน วินิจฉัยกุล)ว่าเป็นผู้ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 4243 อำเภอบางซื่อ ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ด้วยราคา 5,945 บาท
ข้อความที่พาดพิงถึงพระพิจิตรราชสาส์นเป็นเรื่องคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และยังไม่มีการแก้ไขให้ถูกต้องจนบัดนี้ นำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่พระพิจิตรราชสาส์น (สอน วินิจฉัยกุล) ตลอดจนบุตรหลานของท่านในตระกูลวินิจฉัยกุล ด้วยทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดว่า พระพิจิตรราชสาส์นคือหนึ่งในผู้ก่อการหรือผู้สนับสนุนคณะราษฎร์ ล้มล้างระบอบการปกครองแต่เดิมของสยาม ด้วยเหตุนี้จึงได้ผลประโยชน์ร่วมกันกับคณะราษฎร์ ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ข้อเท็จจริงคือพระพิจิตรราชสาส์นได้เช่าที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นของพระคลังข้างที่ (ต่อมาคือสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์) ด้วยค่าเช่าเดือนละ 6 บาท เพื่อเป็นที่พำนักอาศัยของครอบครัว ท่านไม่ได้มีฐานะดีพอจะซื้อที่ดินของตนเองได้ เมื่อท่านสิ้นชีวิตในพ.ศ. 2498 ภรรยาและบุตรประสบความลำบาก ต้องหาที่อยู่ใหม่ จึงได้โอนสิทธิ์การเช่าที่ดินให้ผู้อื่น ปัจจุบันนางสมบูรณ์ ศรีวิหค เจ้าของวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการสามเสน (เลขที่ 1-2 ซอยสามเสน 22 ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพ ) เป็นผู้จ่ายค่าเช่าที่ดินให้กับทางสำนักงานทรัพย์สินฯ
นายปเรตร์ อรรถวิภัชน์ ญาติของพระพิจิตรราชสาส์นได้ติดต่อไปยังสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร ถนนพิพิธ แขวงพระราชวัง เขตพระนคร แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานว่า ไม่สามารถนำโฉนดของสำนักงานทรัพย์สินมาให้ดูหรือให้ถ่ายเอกสารยืนยันได้ เพราะผู้ติดต่อสอบถามเป็นบุคคลภายนอก ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนี้ แต่เจ้าพนักงานสามารถตอบคำถามได้ว่า ที่ดินแปลงนี้ไม่เคยเปลี่ยนมือเจ้าของ ไม่มีชื่อผู้อื่นอยู่ในโฉนดนอกจากสำนักงานทรัพย์สินฯ หากว่าคุณสนธิประสงค์จะพิสูจน์ ก็สามารถขอให้ตัวแทนหนังสือพิมพ์ผู้จัดการไปที่สำนักงานที่ดิน โดยนัดหมายกับญาติของพระพิจิตรราชสาส์น เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วยกัน ให้สิ้นสงสัย