น้ำตาประเทศ
พุทธศักราชสองพันห้าร้อยห้าสิบสาม
๑
ประเทศร่ำไห้
น้ำตาไหลเป็นสายโลหิต
เจ็ดสีรุ้งระเหยจากซากชีวิต
ระเหิดซาก...ศักดิ์สิทธิ์...วิจิตรตระการ
๒
มาตุภูมิคร่ำครวญ
ผ่านมวลมารดามหาศาล
เลี้ยงดูชีวิตจิตวิญญาณ
ช้านาน...มิสิ้นสุด...บุตรธิดา
๓
ปิตุภูมิโศกศัลย์
ลูกหลานทั้งนั้นพลันแปลกหน้า
อบอุ่นคุ้นเคยเคยมีมา
แตกซ้าย...ระแหงขวา...หน้าหลังร้าว
๔
ดินดาวร้าวลึก
อารมณ์รู้สึกเกรียมกร้าว
สาปน้องแช่งพี่ทีละคราว
แม้ยาม...กินข้าว...หม้อเดียวกัน
๕
ธรรมชาติป่วยไข้
สายใยสายญาติขาดสะบั้น
แสงแดดแปดเปื้อนเลือนตะวัน
ลาฝัน...ลับฟ้า...ลาที
๖
พยากรณ์ชีวิตวิกฤติประหลาด
พยากรณ์ดินฟ้าอากาศวิบัติบัดสี
พยากรณ์วันวานประหารพรุ่งนี้
พยากรณ์...มิคสัญญี....กลียุค
๗
ประเทศชาติอันเป็นที่รักของข้า
ป้ายปาดหยาดน้ำตาสันติสุข
หยดเลือดลูกหลานสะท้านทุกข์
รานรุก...ไล่ล่า...ฆ่ากันเอง
๘
มนุษยธรรมชำรุด
ที่สุดแห่งที่สุดคือข่มเหง
ที่สุดแห่งสายเลือดคือหลั่งละเลง
มิเกรง...ฟ้าดิน...อินทร์พรหม
๙
แผ่นดินอันเป็นที่รักของเรา
ชิงเผาแตกระแหงแล้งล่ม
ยิ่งการเมืองการมารการโสมม
ยิ่งสันติภาพ...ร่ำระงม...กลางสงคราม
๑๐
สงครามกลางเมืองมิใช่น้อย
พุทธศักราชสองพันห้าร้อยห้าสิบสาม
กลางบ้านกลางใจไฟลาม
พระสยามเทวาธิราช...อาจร้อนนัก
๑๑
เอย...พระสยามเทวาธิราชเจ้า
ลูกหลานร้อนเร่าหน่วงหนัก
เอย...วิถีทางเย็นอันเป็นที่รัก
พึงพอ...พำนัก...ศักดิ์สิทธิ์ใด
๑๒
เอย...อาดูรพูนเทวษ
เอย...ประเทศร่ำไห้
ต่างสะอื้นภาวนาบูชาใจ
ขณะไฟ...ลามไหม้...ใกล้เข้ามา!
ไพวรินทร์ ขาวงาม
อาทิตย์ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๓